CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    อกหัก แต่ลักยิ้ม.....(ช่วยอ่านให้ด้วยนะคะ มือใหม่ค่ะ)

    ตอนนั้นเราอายุสัก 14-15 ผู้ใหญ่ที่อ่านเรื่องนี้อาจจะคิดว่า “อะไรยะ แค่ 14-15 ก็ริมีแฟนแล้ว”
    เราก็อยากจะบอกลุง ๆ ป้า ๆ ทั้งหลายว่า ลองมองดูตัวเองตอนอายุเท่านั้นสิ ก็มีเหมือนกัน แต่พอเด็ก ๆ มีบ้าง โอ้โฮ ทำอย่างเราไปฆ่าใครตายอย่างนั้นแหละ (ไม่เอา…ไม่นอกเรื่อง) แบบว่าประมาณเป็นพวกเก็บกด น่ะค่ะ

    เอาล่ะ เล่าต่อ ก็แบบว่าเป็นเด็กพาณิชย์ใช่มั้ยละ ก็ต้องสานสัมพันธ์กับเด็กช่างสิคะ จนเดี๋ยวนี้เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กพาณิชย์จำเพาะเจาะจงจะต้องคู่กับเด็กช่างด้วย แต่ก็มีเพื่อนหลายคนเหมือนกันนะที่คบกับเด็กสามัญ หรือเด็กมหา’ ลัย (แต่ก็ไม่ค่อยมีใครพูดถึง)

    เราสมมติว่าเขาชื่อ พี่ตูนล่ะกัน (เดี๋ยวบอกชื่อจริง ๆ เกิดเขาอ่านขึ้นมา ดิชั้นจะโดนเมียเขาฆ่าเอา) เราบอกชื่อเราไปหรือยังเนี่ย อ๋อ ยัง เราสมมติว่าเราชื่อ น้ำแข็งดี (ฟังแล้ว เป็นพวกชอบปั้นน้ำเป็นตัวดี)

    พี่ตูนเนี่ย เป็นเด็กช่างไฟฟ้า เรียน ปวส. แล้วล่ะ ที่สถาบันแห่งหนึ่ง ที่ขึ้นชื่อว่าสอบเข้ายากมาก ๆ แถว ๆ สะพานพระราม 7 แล้วเราก็เรียนอยู่แถว ๆ ศรีย่าน ประมาณว่า เช้า ๆ เราต้องผ่านสถาบันเขาทุกวัน แบบมองทุกวัน ประมาณว่าถ้าชั้นได้เป็นแฟนกับใครสักคนที่เรียนที่นี่ก็คงจะดี เหมือนนรกจะได้ยินเสียงวิงวอนของฉัน จึงได้ส่งผู้ชายคนนี้มาให้ (โอ้ จอร์จ มันยอดมาก)

    เราเจอกันด้วยความบังเอิญ (ไม่บอกหรอกว่าเจอยังไง เดี๋ยวจะมีคนไปทำตาม ไม่ดี) เราก็โทรคุยกันตลอด เขาเป็นหนุ่มตี๋ ตาหยี ใส่แว่น ตัวขาว เรียนเก่งมาก ทุกอย่างเพอร์เฟคมากสำหรับเราตอนนั้น เขาเช่าบ้านอยู่กับเพื่อน แต่เราจะหาโอกาสอยู่ด้วยกัน หรือไปเที่ยวด้วยกัน ยากมาก เพราะเราเรียนเช้า ส่วนเขาเรียนบ่าย ส่วนเสาร์-อาทิตย์ ไม่ต้องห่วง แม่เราคุมแจ แต่เราก็มีเวลาอยู่ด้วยกันอาทิตย์ละหลายวันเหมือนกัน งงไหม อาทิตย์ละหลายวัน อาทิตย์มันก็วันเดียว จะหลายวันได้ไงเนอะ เอาเป็นว่าเรามีโอกาสเจอกันสัปดาห์ละหลายวัน ก็ตอนที่เราเลิกเรียน เราเลิกเรียนเที่ยงใช่มั้ยล่ะ (จะรู้ดีมั้ยเนี่ย)

    ส่วนพี่ตูนบางวันก็เรียนตอนบ่าย 2 บางวันก็บ่าย 3 เราก็เจอกันช่วงนี้แหละ วันละ 2-3 ชั่วโมง ก็โอเคแล้วล่ะ ตอนนั้น ยางรักกำลังเข้าตาเราคบกันเกือบปี แต่เราไม่มีอะไรกันนะ (จริง ๆ ไม่โม้) อย่าทำหน้าไม่เชื่อสิ แบบว่าตอนนั้น มันยังไม่มีซีดีน้องแนทอ่ะ ถ้าตอนนี้ก็ไม่แน่..อิอิ ก็แบบว่าคบกันเรื่อย ๆ

    ลืมเล่าฉากสำคัญ เชื่อมั้ย พี่เขาพาเราไปเดทที่ไหน ไปบ้านหม้อ กะคลองถม โอ้ มายก็อด โรแมนติกมาก ๆ แต่จะเอาอะไรกับเด็กช่างเนอะ ตอนนั้นเจ๊เข้าข้างเขาสุดชีวิต

    เราคบกันจนเกือบปี อีกแค่ 3 วัน ก็จะคบปีอยู่แล้ว เผอิญเราไปรู้จักกับพี่คนหนึ่ง ที่เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนพี่ตูน งงไหม เอออธิบายนะ เราก็งงเหมือนกัน พี่คนนี้เขาชื่อเชษฐ์ เขาเป็นเพื่อนกับพี่ สมมติว่าชื่อ จี ล่ะกัน พี่เชษฐ์เป็นเพื่อนกับพี่จี แล้วพี่จีเนี่ย เป็นเพื่อนกับพี่ตูนอีกที ตอนนั้นพี่ตูนไปเรียนต่อปริญญาตรีที่สถาบันแห่งหนึ่ง แถวสาทรแล้ว และพี่จีก็รู้จักกับพี่ตูนที่นั่น แต่พี่จีเป็นเพื่อนกับพี่เชษฐ์ที่สถาบันเก่า โอ้ย งงจัง แค่ลำดับญาติทำไมมันยากจังเลย เราก็ถามพี่ตูนว่ารู้จักกับพี่จีใช่มั้ย

    พี่ตูนถามเราว่า “ทำไม มันเล่าอะไรให้ฟัง” เราก็บอกว่าเปล่าถามดูเฉย ๆ เป็นเรื่องเลย วันนั้น พี่เชษฐ์โทรมาเล่าให้เราฟังว่าพี่จีบอกว่าพี่ตูนบอกไม่ให้พี่จีกับพี่เชษฐ์ยุ่งกับเรา เรามีอะไรกับเขาแล้ว อะไรว้า…….งง มั่ก…มาก ก็แค่รู้จักคุยกันเฉย ๆ

    หลังจากที่คบกันไปได้ 5-6 เดือน เราก็เริ่มเข้าใจโลกมากขึ้น แบบว่าตอนนั้นมันหลายเดือนแล้ว ยางรักมันก็จาง ๆ แล้ว เริ่มจะตาสว่าง เราก็เริ่มสังเกตว่าทำไมผู้ชายคนนี้ อยู่กับเราเป็นแบบนี้ แต่อยู่กับเพื่อนเป็นอีกแบบ เราชมเพื่อนเขาว่าเรียนเก่งเนอะ เขาก็บอกว่าไม่เห็นจะเก่งเลย มีแต่ลอกคนอื่น ๆ ทั้งนั้น พอบอกว่า คนนั้นน่ารักดีเนอะ ใจดีจัง พี่ตูนก็บอกว่ากับผู้หญิงเป็นอย่างนั้นแหละ สรุปแล้วโลกนี้มีข้าดีคนเดียว

    พอเรารู้อย่างนั้นเราก็พยายามเตือนเขา แต่เขาก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี เราก็เอาไงดี แต่เขาก็เป็นแฟนเรา เราก็ไม่อยากให้ใครมองแฟนเราไม่ดี เราก็พยายามให้เขามองโลกในแง่ดี ให้เข้าใจคนอื่นบ้าง แต่ก็เหมือนคุยกับตัวอะไรที่ต้องสีซอให้ฟัง เราก็พยายามประคับประคองความรักเอาไว้ จนวันหนึ่ง วันนั้นแหละ วันไหนอย่ารู้เลย

    (ถ้าอยากอ่านต่อช่วย comment เยอะ ๆ หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจเขียนต่อ)

    จากคุณ : iambben - [ 24 ก.ย. 47 10:23:49 A:61.90.29.41 X: ]