เค้กแต่งงานสีขาวก้อนโต ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้น้ำตาลหลากสีสรร ตุ๊กตาคู่บ่าวสาวตัวน้อยจับมือยืนยิ้มร่าอยู่ใต้ซุ้มรูปหัวใจสีแดงสดใสซึ่งทำจากน้ำตาล แขกเหลื่อในงานพูดคุยทักทายปราศรัยกันอย่างออกอรรถรส เสียงไชโยโฮ่ร้องแสดงความยินดีให้คู่บ่าวสาว ของขวัญแต่งงานกองโตซึ่งถูกจัดรองไว้อย่างเป็นระเบียบบนโต๊ะยาวสีขวาตัวใหญ่หน้าประตูทางเข้างาน....ทุกสิ่งทุอย่างยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของฉันตลอดมา ภาพความสุขในวันนั้นเหมือนกับมันพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง
" ทราย " เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งดังขึ้นปลุกหญิงสาวให้ตื่นจากภวังค์
" นภัทร์ " วาลุกาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นยินดี พร้อมกับหันหน้ากลับไปมองยังต้นเสียง แต่แล้วเธอก็ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าเขาไม่ใช่คนที่เธอเฝ้าคิดถึง รอยยิ้มหวานบนใบหน้านวลจากหายไป คงเหลือไว้แต่ความเศร้าโสกเข้ามาแทนที่
" ทรายยังคิดถึงไอ้ภัทร์อยู่อีกหรอ " เจ้าของเสียงทุ้มถามหญิงสาวที่นั่งอยู่บนโขดหนตรงหน้า พร้อมกับเดินเข้าไปหาหล่อนช้าๆ วาลุกาไม่ตอบคำถามนั้น เธอหันหน้ากลับไปและเหม่อมองออกไปยังท้องทะเลที่อยู่เบื้องหน้า ปริทัศน์จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าแล้วเขารู้สึกสงสัยเธอจับใจ ตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้น วันที่นภัทร์สามีของเธอประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำและไหลไปชนยังแฟงกั้นทางจนตกลงไปในทะเล ซึ่งคืนนั้นเป็นคืนวันครบรอบแต่งงานของเขากับหล่อน ถึงแม้ทีมนักประดาน้ำจะช่วยกันงมหาเพียงไร ก็มาไม่พบ พวกเขาค้นหากันตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน จนในที่สุดพวกเขาก้ตกลงยุติการค้นหาเมื่อเข้าสู่วันที่สาม จากวันนั้นจนกระทั่งวันนี้เหตุการณ์ทุกอย่างก็ล่วงเลยมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว 3ปีที่วาลุกาจมอยู่กับความทุกข์ ความโศกเศร้าเสียใจ เขายังจำได้ดีเมื่อวินาทีแรกที่หญิงสาวทราบข่าวว่าสามีของตนประสบอุบัติเหตุ และคาดว่าน่าจะเสียชีวิต เธอพยายามที่จะฆ่าตัวตายตามเขาไป และถ้าหากในวันนั้นปริทัศน์ไม่ได้อยู่ด้วยกับเธอแล้ว เขาก้คงจะสูญเสียหญิงสาวไปตลอดชีวิต เขายับยั้งวาลุกาไม่ให้ฆ่าตัวตาย เขาพูดเกลี่ยกล่อมจนหญิงสาวได้สติ และมีกำลังใจที่จะมีชีวิตต่อไป แต่หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ทุกๆปีในวันครบรอบแต่งงาน หญิงสาวจะมายังสถานที่แห่งนั้และนั่งบนก้อนหินก้อนนี้ ตั้งแต่เช้าจดเย็นและเหม่อมองออกไปยังท้องทะเลกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเพื่อรอคอยความหวังที่จะได้พบกับสามีสุดที่รักอีกครั้ง
" ทัศน์ พาทรายกลับบ้านทีเถอะ ทรายอยากพักผ่อน " อยู่ๆหญิงสาวตรงหน้าก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาหลังจากที่เจ้าหล่อนนิ่งเงียบไปอยู่นาน
" ทัศน์ว่าก็ดีเหมือนกันนะ จะค่ำแล้วด้วย แต่ว่าเราน่าจะแวะทานอาหารกันก่อนกลับนะ เพราะกว่าจะถึงกรุงเทพก็คงอีกนาน ทัศน์กลัวทรายจะหิวน่ะ " ปริทัศน์พูดขึ้นพร้อมกับหันไปขอความเห็นจากหญิงสาว
" แล้วแต่ทัศน์เถอะ ทรายยังไงก็ได้ "
" เอาเป็นว่าทรายโอเคนะ ระหว่างทางมาที่นี่น่ะ ทัศน์ผ่านร้านอาหารทะเลเล็กๆแห่งหนึ่ง บรรยากาศดีมากเลยล่ะ คนก็ไม่เยอะมากด้วย ทัศน์ว่าเราไปทานร้านนี้กันดีกว่า "
ทันทีที่วาลุกาพยักหน้าเขาก้เดินนำไปยังรถวอลโว่สีน้ำเงินคันหรูซึ่งจอดอยู่ใกล้ๆ และเปิดประตูให้หล่อน หลังจากที่หญิงสาวเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อยแล้วเขาก็จัดการปิดประตู และเดินออ้มไปเปิดประตูเข้าไปนั่งยังด้านคนขับ
หลังจากที่ทั้งสองจัดการกับต้มยำรวมมิตรทะเล กุ้งตัวใหญ่และข้าวผัดจานโตเรียบร้อยแล้ว อยู่ๆวาลุกาก้พูขึ้นมาลอยๆว่า " กุ้งเผาตัวใหญ่จังเลยเนอะทัศน์เนอะ เนื้อก็ซ๊ดสด นี่ถ้าหากภัทร์ได้มาทานด้วยกันคงจะดีไม่น้อยเนอะ ภัทร์น่ะชอบกินกุ้งเผาอย่างกะอะไรดี.......เฮ้อ...ภัทร์ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกำลังทำอะไรอยู่ เธอจะรู้ไม๊นะว่าทรายคิดถึงเธอมากแค่ไหน " หญิงสาวพูดพร้อมกับดวงตาคู่สวยเริ่มคลอไปด้วยหยาดน้ำตาเม็ดใส ปริทัศน์มองดูหญิงร่างเล็กตรงหน้าเขาแล้วก้รู้สึกปวดหัวใจยิ่งนัก เค้าอยากจะเป็นที่พึ่งให้เธอในยามที่เธอรู้สึกท้อแท้ อยากจะเป็นให้เธอยึดเกาะในยามที่เธอไม่มีใคร อยากจะเข้าไปโอบกอดและปลอบดยนในยามที่เธอโศกเศร้าเสียใจ เขาอยากจะเข้าไปอยุ่ในหัวใจของเธอ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ ในหัวใจของเธอมีแต่ชายที่ชื่อนภัทร์เพื่อนรักของเขา และไม่มีที่ว่างเหลือไว้สำหรับใคร ปริทัศน์จึงทำได้แค่เพียงคอยดุแลและช่วยเหลือหญิงสาวอยู่ห่างๆ และตอนนี้หญิงสาวตรงหน้ากำลังจะเริ่มร้องไห้อีกแล้ว เขาจะทำยังไงดีนะที่จะทำให้เธอคลายความโศกเศร้าลงได้บ้าง และอยู่ๆความหนึ่งก็แวบขึ้นมาในสมองของเขา ชายหน่มจึงรีบบอกเธอโดยไม่รีรอ
" ทราย ทรายอยากจะไปเที่ยวทะเลไหม ไปพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศ เราชวนยายอ้อมไปด้วยก็ได้นะ ไปเที่ยวกันหลายๆคนสนุกดี "ปริทัศน์ถามพร้อมกับจ้องมองใบหน้าของผุ้หญิงสาวตัวเล็กเพื่อรอคอยคำตอบ วาลุกานิ่งเงียบไปซักพักเธอคิดในใจว่า
ไปเที่ยวทะเลหรอ ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะตั้งแต่ที่ภัทร์หายตัวไปเราก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย เอาแต่จมอยุ่กับความเศร้า ได้ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาซักหน่อยก็ดี จะได้คลายความทุกขืในใจลงได้บ้าง
" ตกลงจ๊ะทัศน์ ทรายจะไป เออว่าแต่เราจะไปที่ไหนกันล่ะ " วาลุกาหันหน้ามายิ้มให้กับชายหนุ่มพร้อมกับตอบตงลง
" ทรายจำไอ้เมฆได้ไหม ไอเมฆเพื่อนสนิทเราไงตัวสูงๆผิวเข้มๆ ที่เป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของสปาร์หรูที่กระบี่น่ะ เราได้ข่าวว่าตอนนี้มันกำลังทำรีสอร์ทเล็กๆอยุ่บนเกาะส่วนตัวของพ่อมัน ชื่อเกาะอะไรน้า......." ชายหนุ่มพูดพร้อมกับทำหน้าตาครุ่นคิด " อ้อ เกาะดาหลา ทัศน์ว่าเราน่าจะไปพักที่นี่น่ะ ทรายว่าไงล่ะ "
" น่าสนใจดีนะทัศน์ อยู่บนเกาะส่วนตัวเงียบสงบดี เอาเป็นว่าทัศน์โทรจองห้องพักได้เลยนะเดี๋ยวเราจะดทรชวนยายอ้อมเอง.....เออ.. ว่าแต่เราจะไปเมื่อไหร่ล่ะ อาทิตย์หน้าเป็นไงทัศน์ติดงานอะไรรึป่าว " ปริทัศน์ตอบตกลงพร้อมกับแอบยิ้มในใจเมื่อเห็นท่าทางกระตือรือร้นของเพื่อนสาว
..........................................................................................
จากคุณ :
rainy_rain
- [
26 ก.ย. 47 20:56:47
A:10.30.2.90 X:202.28.27.5
]