เห็นมีคนโพสต์เรื่องความรักกันเยอะ ... เลยอยากโพสต์
บ้าง เอาเวลานี้นี่แหละ คิดงานไม่ออก --''--
มาฟังเรื่องความรักของฉันกันบ้างนะ
รักที่ไม่ใช่นิยาย
รักที่ไม่ได้จบอย่างสวยหรู
ในเย็นวันหนึ่ง วันนั้นเป็นวันแรกที่ฉันเปิดเรียนเทอมแรกของม.6 เมื่อสามปีที่แล้วของฉัน
สยามสแควร์ แหล่งรวบรวมสถานที่กวดวิชามากมาย
ฉันก็เป็นหนึ่งในเด็กเตรียมเอนทรานซ์
ตอนนั้นก็กวดวิชากับเขาเหมือนกัน ก็มีเรียนหลายวิชาเลยล่ะ ทั้งเลข เคมี อังกฤษ หรือจะฟิสิกข์ก็ตาม
และวันนั้นเป็นคิววันที่ฉันต้องไปเรียนเลข ขณะที่ฉันกำลังเดินลงจากสถานีรถไฟฟ้า
จู่ๆเสียงดังเหมือนมีคนทำของตก
ภาพที่ฉันเห็นตอนหันกลับไปมองก็คือ ผู้ชายคนหนึ่ง
เขาสวมแว่นตา ผมสั้น ถือถุงกระดาษ
แต่โชคร้าย ท่าทางของในนั้นจะหนักเกินไป
สายเชือกหิ้วที่ร้อยไว้กับถุงจึงขาด
หนังสือจำนวนหนึ่งร่วงพรู บางส่วนก็กองอยู่ตรงขาเขา
แต่บางส่วนที่เป็นชีทนี่สิ ทั้งร่วงทั้งปลิวลงมาแทบจะทุกขั้นของบันไดทางลงเลยล่ะมั้ง
โชคยังดีที่บันไดเดินลงตรงนั้นมักจะไม่ค่อยมีคนสนใจ เพราะมันจะพาทะลุไปยังถนนฝั่งอังรีดูนังค์
เขาเลยไม่ต้องอายมาก (อายฉันคนเดียวก็พอ อิๆ) ฉันยืนดูอยู่สักครู่
มองแล้วน่าสงสาร
เพราะท่าทางเขาจะไม่มีถุงสำรองเลยสักใบ
เท้าเล็กๆห้อหุ้มด้วยถุงเท้านักเรียนและรองเท้าถูก
ระเบียบจึงพาฉันไปยืนอยู่ตรงหน้าเขา ยื่นชีทที่กองอยู่ตรงเท้าฉันเมื่อครู่ให้เขา พร้อมถุงที่ฉันเคย
ใส่หนังสือเรียนไปให้เขา
ช่วยเขาเก็บบางส่วน แล้วจึงบอกลาเพื่อไปเรียนพิเศษ
ตอนนั้นฉันแทบจะจำหน้าเขาไม่ได้เลย
ว่าเขามีใบหน้าลักษณะอย่างไร
หลังจากวันนั้นฉันแทบ
จะลืมเรื่องนี้ไปด้วยซ้ำ
แต่แล้ว อะไรบางอย่าง จู่ๆก็มีเหตุให้ฉันไปเจอเขาอีก
คราวนี้ ทุกอย่างมันเริ่ม ใช่! เรื่องรักของฉัน
มันจึงเริ่มต้น
ในวันนั้น ประมาณกลางเทอมแล้วล่ะ
ฉันไปหาพี่ติวที่คณะ พี่ติวของฉันกำลังนั่งคุยกับเพื่อนในกลุ่ม
ซึ่งส่วนใหญ่ฉันก็พอจะมักคุ้นอยู่ด้วย ทว่าคนหนึ่งในสมาชิกกลุ่มนั้น ฉันไม่รู้จัก
ด้วยความอัธยาศัยดี หรือเพราะความเป็นตัวฉันก็ไม่รู้ เลยพาให้คุยกับคนที่ไม่รู้จักคนนั้นสนุกปาก
จนสักพักพี่ติวก็ขอตัวไปเอาของบนตึก อีกสองคนในกลุ่มก็เดินไปซื้อน้ำ จึงเหลือเพียงฉันกับเขา
พี่ทีเรียนที่ไหนคะ ฉันถาม เพราะดูจากหน้าแล้ว ไม่ใช่เด็กแถวนั้นแน่ๆ เพราะถ้าเป็นเด็กแถวนั้น
ฉันต้องรู้จักสิ
ก็ไม่ว่าจะเพื่อนคนไหนของพี่ติว ฉันก็คุยทะลุปรุโปร่งมาหมดแล้ว
ธีร์ หรือพี่ที เขาก็แนะนำตัวว่าเขาเรียนอยู่ที่ไหน เราก็เลยรู้ว่าเขาอยู่ปี3 คณะสถาปัตยกรรมอีกที่หนึ่ง
พอเขาพูดจบ เราก็เผลอเงียบ
เงียบไปเกือบห้านาที
ในจังหวะที่เงียบๆไปนั้น ฉันก็พินิจใบหน้าและ
ท่าทีของเขา
หากยังจำนิยายเก่าฉันได้ พระเอกคนแรกที่ฉันวางไว้ คาแรคเตอร์ของ ภูไท เป็นเช่นไร ผู้ชายคนนี้ก็
เป็นเช่นนั้น ผมยาวประบ่า ไล้จากติ่งหูข้างใบหน้าลงมาจรดคอเสื้อ ร่างกายสูงดูแข็งแรง สีผิวน้ำตาลอ่อน
ดูดีในลักษณะผู้ชายคนหนึ่งเลย
จำได้ไหมว่าเราเคยเจอกันมาก่อน จู่ๆเขาก็พูดขึ้นมา น้ำเสียงขำขันสดใส
เมื่อเห็นฉันทำหน้างง คิ้วยาวๆของฉันขมวดมุ่นเข้าหากัน ตีหน้าเซ่อนั่นแหละ (เขาบอก)
เขาก็ยอมเฉลยหัวเราะๆ ก็พี่น่ะ คนทีทำหนังสือตกกลางรถไฟฟ้าไง
เท่านั้นแหละฉันก็ถึงบางอ้อ
คงเพราะตอนนั้นเขาผมสั้นกว่านี้ แล้วใส่แว่น
ฉันจึงไม่สังเกต
(ที่จริงแล้วฉันแทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำ)
หึหึหึ
ธีร์ เป็นผู้ชายที่คุยง่าย คุยสนุก ขี้แกล้งขี้อำ
มาดเซอร์ๆนิดหน่อย แต่ก็ดูเป็นผู้ใหญ่
กับฉันที่ยังเด็กอยู่มากๆ
ในตอนนั้น ก็ได้เขาเป็นที่พึ่งพา ยามเครียดเรื่องเรียน เรื่องงาน หรือเรื่องเพื่อน คนแรกที่ฉันจะคิดถึง ก็คือเขา
พี่ที คำนี้ติดปากฉันมากในเวลานั้น เบอร์โทรศัพท์เก้าหลักถูกบันทึกลงในสมองอย่างไม่ต้องท่อง เขาเริ่มเข้ามา
มีความสำคัญกับฉัน
มันมากจนไม่รู้เลยว่า ถ้าวันหนึ่งฉันขาดเขา ฉันจะเป็นอย่างไร
แล้วในวันที่ฝนตกพรำๆ วันหนึ่งของการปิดภาคเรียนที่หนึ่งของม.6 ฤดูฝนกำลังจะผ่านไป หน้าหนาวกำลังจะ
เดินทางมาถึง
ในตอนนั้นเรายังคงใช้คำว่า พี่น้อง ไม่ใช่แฟน
ฉันไม่รู้หรอกว่าเขาคิดอย่างไร แต่กับฉันใน
เวลานั้น ฉันรู้สึกสุขใจมากพอแล้วกับการมีเขา แต่ให้มากกว่านั้น ฉันก็ยินดี
(555)
ในร้านอาหารญี่ปุ่น
กับเทมปุระ และถ้อยคำบางอย่าง
คิดกับพี่ยังไง
แค่ก แค่ก
ว่าไงนะ เทมปุระแสนอร่อยทำท่าจะติดคอ
หูฉันฝาดไปหรือไง
มือหนาเลื่อนมาจับหัวของฉัน
ฉันเลยต้องเงยหน้าแล้วเห็นว่าเขากำลังใช้นิ้วมืออีกข้างชี้ไปปากตัวเอง
ดูนะ
คิดกับพี่ยังไง สี่ห้าคำ
ประโยคแปลกๆหลุดออกจากปากเขาช้าๆ
ฉันวางตะเกียบลง
จ้องหน้าเขา
ก่อนจะปั้นยิ้ม
ล้อเล่นอะไรอีก
.อย่ามาอำกันน่ะ ฉันว่า ใบหน้าเฉย
ขณะที่หัวใจพองโต
กับฟุบแฟบสลับกันไปเป็น
จังหวะ
เขาเบือนหน้าไปทางอื่น
สีหน้าจริงจัง แสงไฟจากร้านส่องกระทบแววตาที่เป็นประกายลึกของเขา ทำให้ฉันรู้สึก
ซีเรียสขึ้นมาทันที
ถามจริงเหรอเนี่ย
ไม่จริงมั้ง หน้าแบบเนี้ย เขาชี้หน้าตัวเองอีกที
ฉันรู้สึกเขินไปทั่วใบหน้า
ร้อนๆหนาวๆแปลกๆ
ใครจะไปนึกล่ะ ก็ชอบอำกันเล่นนี่ ฉันเถียงกลับ
คราวนี้ไม่ได้อำ
แต่ชอบจริงๆ เสียงเขาแผ่วกระซิบ แต่สีหน้าและแววตาหนักหน่วงจนใจฉันรู้สึกได้
ชอบตั้งแต่วันที่อยู่บนรถไฟฟ้าแล้ว
ผู้หญิงอะไรไม่รู้ ตัวเล็กอย่างกับแมว แต่โมโหทีดุอย่างกับ
อ๊ะ! อย่ามาว่าเราเป็นหมานะ ฉันใช้นิ้วชี้ไปทางเขา ที่กำลังยิ้มแป้น
น่ารักพิลึก เพิ่งรู้สึกว่าเขาน่ารักมากๆก็วัน
นั้น (วันเดียว อิๆ)
ใครว่าหมา หมาน่ะยังน้อย เสือเลยล่ะ เธอน่ะ ยัยตัวเล็ก มือหนาขยี้ลงบนผมฉัน
แรงจนฉันโวยกลับ หากรอย
ยิ้มน่ารักๆของเขาทำเอาฉันได้แต่ส่งตาเขียวๆไป ..
ว่าไง ตกลงเป็นแฟนพี่นะ
หา
ไหงเร็วงั้นล่ะ ฉันตาโต
เอาน่า
เป็นเหอะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงมื้อนี้เอง เขาว่าพลางหัวเราะ
ก็ได้ ฉันตอบง่ายๆ แล้วก็คีบอาหารกินต่อ
หากเป็นคนอื่นคงผิดหวังกับตัวฉัน
ที่เห็นแก่กินมาก แต่กับเขา
ตอนนี้ก็ยังเป็นเรื่องโจ๊กยามคุยกันอยู่ แล้วฉันก็
เป็นแฟนเขา
.นับจากวันนั้น


ต่อ >>
จากคุณ :
iNt_GaL
- [
27 ก.ย. 47 04:08:36
]