CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    จ้าวสมุทร ตอนที่ 53 เส้นทางแห่งโชคชะตา

    จ้าวสมุทร ตอนที่ 53 -เส้นทางแห่งโชคชะตา-

    “ไหวไหมอู” อารดาพูดขึ้นหลังจากจอดรถที่บริเวณหน้าโรงเรียนสมุทรวิทยา “หยุดต่อดีกว่าไหม”

    “ไหวครับพี่อ้อม หยุดเรียนมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว ขืนหยุดต่อมีหวังความรู้หดหายหมด” อูวดลพูดอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะใช้มือขวาซึ่งไม่ถนัดเปิดประตูรถยนต์ออกเพราะมือซ้ายใส่เฝือกอยู่

    “แล้วเย็นนี้ให้พี่มารับกี่โมง”

    “ไม่ต้องหรอกครับ กลับรถเมล์ก็ได้ สบายมาก”

    อูวดลค่อย ๆ เดินเข้าไปในโรงเรียนอย่างช้า ๆ อารดามองน้องชายอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะขับรถออกไป สภาพแวดล้อมของโรงเรียนทำให้อูวดลรู้สึกสดใสขึ้นอีกครั้ง หลังจากพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลและที่บ้านเกือบสองสัปดาห์

    “เฮ้ย.. อู ทางนี้” ต่อศักดิ์ตะโกนเรียกอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าอาคาร อูวดลอยากวิ่งเข้าไปหาใจจะขาด แต่ก็ต้องค่อย ๆ เดิน เพราะยังรู้สึกเจ็บที่ขาอยู่

    “ไงวะ.. นึกว่าวันนี้จะยังไม่มาซะอีก” ต่อศักดิ์ว่า “แล้วมาลาตีล่ะ ไม่ได้มาพร้อมกันเหรอ”

    “เปล่า” อูวดลส่ายหน้า “พี่อ้อมมาส่ง สงสัยเค้ากลัวว่าฉันจะพลัดตกรถเมล์มั้ง อืมม์ ช่วงที่ฉันหยุดไป โรงเรียนเป็นไงมั่ง”

    “ก็ไม่เป็นไรนี่ อาจารย์ปนัดดากับอาจารย์ธีรชัยสอบเก็บคะแนนไปแล้วนะ ตามไปสอบเองด้วยก็แล้วกัน ส่วนอาจารย์ธนัชชาก็สั่งงานเป็นบ้าเป็นหลังเลย” ต่อศักดิ์พูด

    “แล้วไม่มีอะไร ที่พิเศษกว่านี้แล้วใช่ไหม” อูวดลถามต่อ

    “พิเศษเหรอ” ต่อศักดิ์ทำท่าครุ่นคิด “อ่อ.. มาลาตีกับพีรยาไม่พูดด้วยกันแล้ว ต่างฝ่ายต่างก็เย็นชาใส่กัน”

    “ขนาดนั้นเลยเหรอ” อูวดลกลืนน้ำลายลงคอ ไม่แน่ใจว่าต่อศักดิ์รู้เรื่องหรือเปล่า “เป็นเพราะ.. เรื่องอาจารย์ธนัชชาหรือเปล่า”

    “อืม” ต่อศักดิ์พยักหน้า

    “แล้วนอกจากนายแล้ว มีใครรู้เรื่องนี้อีกไหม” อูวดลถาม

    “ก็มีนาฏฐาอีกคน แค่นี้แหละ มาลาตีไม่ให้บอกใคร เธอบอกว่าอายแทนพีรยา” ต่อศักดิ์ว่า “แต่ว่าก็ว่าเถอะ ฉันคิดว่าหลักฐานแค่นั้นมันไม่น่าจะเพียงพอที่จะไปว่าพีรยาเขาถึงขนาดนั้นเลย”

    “นายคิดว่ามันไม่เพียงพออีกเหรอ ก็อาจจะใช่นะ.. แต่ถ้าดูจากมุมมองของฉัน ดูยังไง ๆ สองคนนั้นก็ต้องมีความสัมพันธ์เกินเลยไปกว่าอาจารย์กับลูกศิษย์แน่ ๆ จะว่าฉันปรักปรำโดยปราศจากหลักฐานก็ได้นะ แต่ฉันรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ ”

    “ไอ้เรื่องนั้นก็คิดแบบนายน่ะแหละ” ต่อศักดิ์พูด “แต่ถึงอย่างไร เราจะไม่ลองคิดว่าอาจารย์ธนัชชาเป็นคนดีเสียหน่อยเหรอ จริงอยู่ทั้งคู่อาจจะมีความรู้สึกเกินไปเลยไปกว่าลูกศิษย์กับอาจารย์ แต่บางที พวกเขาก็อาจจะไม่ได้ทำอะไรที่มันเสียหายจริง ๆ ก็ได้”

    “ก็คงต้องดูกันต่อไป” อูวดลถอนใจ ในใจก็พยายามที่จะหวังให้เป็นอย่างที่ต่อศักดิ์ว่า


    …………………………………….


    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าที่การที่ขาดเรียนไปนาน ๆ แล้วกลับเข้ามาเรียนใหม่นั้น นับเป็นอุปสรรคทางจิตใจที่สำคัญเลยทีเดียว เป็นครั้งแรกที่อูวดลขาดเรียนไปนานแบบนี้ จึงเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าเรียนไม่รู้เรื่องอย่างไม่น่าให้อภัย นี่ยังไม่นับงานต่าง ๆ และการสอบที่เขาต้องวิ่งวุ่นตามเก็บให้หมด แค่คิดก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว

    การเรียนคาบเช้าหมดไปอย่างเนือย ๆ หลังจากทานอาหารกลางวันที่โรงอาหาร อูวดลก็แยกจากมาลาตี นาฏฐา และต่อศักดิ์ เพื่อไปสอบเก็บคะแนนที่ห้องพักอาจารย์ธีรชัย อูวดลทำข้อสอบอย่างรวดเร็วเพราะไม่ได้คิด บางทีถ้าทบทวนอ่านหนังสือขณะที่รักษาตัวตามอย่างที่อาจารย์รุจินาแนะนำก็คงดีหรอก

    หลังจากสอบเสร็จ ก็เหลือเวลาของพักกลางวันแค่ไม่ถึงยี่สิบนาที อูวดลขี้เกียจไปตามหาต่อศักดิ์ นาฏฐา และมาลาตีที่สนาม จึงเดินไปยังห้องเรียนที่จะเรียนในคาบต่อไป และนั่งรอเวลาอย่างสงบ แต่ก็ดูเหมือนจะสงบเพียงห้านาที เพราะหลังจากนั้น อูวดลก็รู้สึกว่ามีคนเดินเข้ามาหา

    “อู” เสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง อูวดลหันหน้าไปหาเสียงนั้น

    “พีรยา” อูวดลรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ เมื่อเห็นบุคคลที่เรียกเขา

    “ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม” พีรยาพูดด้วยน้ำเสียงวิงวอน

    “ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ” อูวดลตอบตะกุกตะกัก

    พีรยาหย่อนตัวนั่งลงที่เก้าอี้ข้าง ๆ อูวดลก่อนที่จะพูดขึ้น “นายยังเจ็บอยู่หรือเปล่า อู”

    “ก็นิดหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก”

    “หมอนัดเอาเฝือกออกเมื่อไหร่”

    “อาทิตย์หน้า”

    “อู” พีรยาก้มหน้าราวกับกลัวอะไรบางอย่าง “ฉันถามอะไรหน่อยได้ไหม”

    “ว่ามาสิ” ท่าทางของพีรยาสร้างความสงสัยให้กับอูวดลได้มากเลยทีเดียว

    “นาย.. นายให้อภัยคนง่ายหรือเปล่า ฉัน.. ฉันหมายถึง..” พีรยาไม่พูดต่อราวกับคิดไม่ออกว่าพูดอย่างไรดี

    “โอเค” อูวดลพูด “ฉันเข้าใจคำถาม ฉันไม่รู้หรอกนะว่าฉันให้อภัยคนง่ายหรือเปล่า แต่ถ้าคน ๆ นั้น รู้สึกตัวว่าทำอะไรลงไปภายหลัง และก็คิดที่จะแก้ไข ฉันก็คิดว่าคน ๆ นั้น คู่ควรแก่คำว่าอภัย เธอถามทำไมเหรอ”

    ความจริง อูวดลก็พอรู้อยู่เลา ๆ แล้วว่าพีรยาถามทำไม แต่ก็อยากจะได้ยินจากปากของเธอมากกว่า

    พีรยาถอนใจ เบือนหน้าหนีไปทางอื่น ก่อนที่จะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “อู.. ฉันมีอะไรจะบอกเธอ เธออย่าเดาเสียให้ยากว่าเรื่องอะไร ไม่ใช่เรื่องที่เธอคิด และก็เป็นเรื่องที่ฉันไม่อยากให้เธอคิดตลอดมา เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเธอทุกอย่าง ที่ฉันเกริ่นขึ้นมาแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่า จะให้เรื่องมันดูน่าสนใจหรือดูสนุก เพียงแต่.. ฉันอยากให้เธอทำใจเพื่อพร้อมที่จะฟัง ฟังในสิ่งที่ไม่คาดคิด เพราะหลังจากนั้น ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น”

    คำพูดของพีรยาทำให้ใจของอูวดลเต้นไม่เป็นจังหวะ ดูเหมือนว่า พีรยาจะไม่ได้มาพูดแก้ตัวเรื่องของตนกับอาจารย์ธนัชชาอย่างที่อูวดลคิดไว้

    “เรื่องอะไร.. เธอจะบอกฉันเรื่องอะไรพีรยา”

    “ฉันขอโทษ.. อู” จู่ ๆ พีรยาก็ร้องไห้ขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ “ฉันขอโทษที่ทำแบบนั้นกับนาย ฉันขอโทษที่….”

    “พีรยา” เสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะมิให้พีรยาพูดต่อไปได้ อาจารย์ธนัชชายืนจังก้าอยู่ที่หน้าห้อง พร้อมกับมองพีรยาและอูวดลด้วยสายตาแปลก ๆ “ไปพบฉันที่ห้องด้วยนะพีรยา เธอจำเป็นต้องสอบแก้ตัว เพราะเธอทำคะแนนได้น้อยเกินกว่าที่ฉันจะรับได้” อาจารย์ธนัชชากำลังเดินออกไป แต่ก็มิวายหันมากำชับ “เดี๋ยวนี้”

    จากคุณ : Waasuthep - [ 29 ก.ย. 47 14:28:08 A:203.113.81.9 X:203.150.217.111 ]