ความคิดเห็นที่ 1 เจ้าชายแห่งภูเขาขยะ          เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นในคืนหนึ่ง เมื่อ ด.ช. บุญเหลือ กำลังคุ้ยเขี่ยหาสิ่งมีค่าจากภูเขาขยะ ท้องฟ้าค่ำคืนเริ่มแปรปรวน ลมกรรโชกแรง ด.ช.บุญเหลือ เห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้แต่ไม่ได้กลัวมากไปกว่าการอดตาย เขายังคงคุ้ยกองขยะต่อไป จวบจนเสียงท้องฟ้าคำรามคล้ายขู่กรรโชก ดังขึ้นและดังขึ้นเรื่อย ๆ ด.ช. บุญเหลือจึงได้คิดว่า อดข้าวอีกสักมื้อคงจะดีกว่าจะต้องมาตายเสียทั้ง ๆ ที่ท้องหิว แทบจะพร้อมกันกับที่ ด.ช. บุญเหลือ ตัดสินใจลงจากภูเขาขยะ ฟ้าก็ผ่าเข้าที่ตัวเขาอย่างจัง           แน่นอนว่าหากเขาตายไป เขาก็จะเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่ถูกฟ้าผ่าตายบนภูเขาขยะแห่งนี้ แต่เพราะเขาไม่ตายเรื่องทั้งหมดจึงเกิดขึ้น เรื่องราวของผู้มีชีวิตเป็นอมตะ          นับจากวันที่ ด.ช. บุญเหลือ ได้ถูกกำหนดให้ไม่ตาย ถัดมาอีก 10 ปี ด้วยอายุเพียง 19 เขาได้กลายเป็นตำนานที่มีชีวิตของภูเขาขยะแห่งนี้ เขาคือผู้ที่ทรงอิทธิพลที่สุด เขาอาศัยความสามารถในการไม่ตายของเขาต่อสู้กับความอยุติธรรม เขาต่อสู้กับทุกแก็งค์อิทธิพลเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของชุมชนภูเขาขยะ แรกทีเดียวผู้มีอิทธิพลเดิมไม่มีใครหวั่นเกรงบุญเหลือแม้แต่น้อยหน่ำซ้ำยังหัวเราะเยาะเสียด้วยซ้ำ แต่หลังจากที่เขาผ่านการลอบสังหารได้ทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นการกราดกระสุนลงบนตัวเขาจนทั่วร่าง หรือแม้กระทั่งการที่เขาถูกระเบิดสงครามอย่างจัง บุญเหลือรอดมาได้ทุกครั้ง ด้วยประจักษ์พยานทั่วภูเขาขยะ จนถึงวันสงกรานต์มหาโหด (เรื่องนี้ถูกบันทึกไว้ในแบบเรียนวิชาสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตชั้นประถมปีที่ 4) ที่ทุกแก็งค์ล้อมหุบเขาขยะไว้แล้วขนอาวุธสงครามมากเท่าที่จะหาได้มาถล่มชุมชนภูเขาขยะ จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตยังถูกปิดเป็นความลับจากรัฐบาลจนทุกวันนี้ แต่แน่นอนว่าอาวุธสงครามพวกนั้นไม่ได้ระคายผิวกร้าน ๆ ของเขาเลย          ที่สุดแล้ว ทุกแก็งค์ต่างก็ต้องยอมทำต้องทำตามสนธิสัญญาที่เขาร่างขึ้น นั่นคือ สนธิสัญญาที่ถูกที่ควร(สามารถหารายละเอียดของสนธิสัญญาได้จาก ประมวลกฎหมายแรงงานฉบับประชาชนผู้เดือดร้อน) โดยรวมแล้วสนธิสัญญาฉบับนี้ได้ระบุถึงสิ่งที่ธุรกิจผิดกฎหมายต้องกระทำ อาทิเช่น          ข้อ 1.  10% ของรายได้ผิดกฎหมายต้องนำไปต้องเสียภาษีให้รัฐ          ข้อ 2.  20 % ของรายได้ผิดกฎหมายต้องนำไปบำรุงศาสนา          ข้อ 3.  30% ของรายได้ผิดกฎหมายต้องนำไปบริจาคให้กับกองทุนผู้สูงอายุและคนพิการในอัตราส่วนที่เท่ากัน          ข้อ 4.  ส่วนที่เหลือทั้งหมดต้องนำมาบริจาค(เป็นเงินสด)ให้กับมูลนิธิของเขา มูลนิธิคุณธรรมสุดกู่          จากสนธิสัญญานี้ บุญเหลือเคยให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าจะทำให้ธุรกิจผิดกฎหมาย รายได้นอกระบบถูกกำจัดไปเพราะใครจะอยากทำผิดกฎหมายในเมื่อรายได้จากการกระทำผิดไม่ได้ส่งประโยชน์ให้กับตัวเอง          เพียงระยะเวลาไม่ถึงปี เขาสวมเสื้อผ้าชั้นดี  มีราชรถคันงาม รับประทานอาหารค่ำกับคณะรัฐมนตรีสัปดาห์ละ 2 ครั้ง รวมไปถึง คฤหาสน์ราคาแพง ชีวิตของบุญเหลือดูเหมือนจะผิดแผกจากตัวของเขาเองเมื่อครั้งยังเป็นเด็กชนิดที่ไม่มีใครเคยคาดถึง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังไม่เคยเปลี่ยนแปลง นั่นคือ ทุก ๆ คืนบุญเหลือจะขึ้นไปนอนบนยอดของภูเขากองขยะ เขาจะนอนอยู่ที่นั้นจนฟ้าสาง เหมือนรอคอยบางอย่าง บางอย่างที่ไม่มีใครเคยล่วงรู้ จากคุณ : CU. - [ 3 ต.ค. 47 11:02:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มูลนิธิคุณธรรมสุดกู่          สถานที่ตั้งของมูลนิธิอยู่บนถนนบางซื่อ บุญเหลือบอกเหตุผลถึงการเลือกที่ตั้งมูลนิธิที่ถนนสายนี้ เพราะว่ามันเหมาะกับการทำอะไรก็ตามที่โปร่งใส เหมือนกับสโลแกนของมูลนิธิที่ว่า “กู่ก้องคุณธรรม กำชัยความถูกต้อง”          ผู้คนเคารพนับถือในตัวบุญเหลือเต็มบ้านเต็มเมือง ผู้คนเหล่านั้นพร้อมที่จะตายแทนบุญเหลือ ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงพวกเขารู้อยู่เต็มอกว่าบุญเหลือไม่มีวันตาย ตอนนี้บุญเหลือมีอายุ 29 ปีแล้ว แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยจาก เหตุการณ์สงกรานต์มหาโหด ถึง 10 ปี แต่รูปร่างหน้าตาของเขาก็ยังดูเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อนไม่ผิดเพี้ยน สิ่งที่แตกต่างออกไปจาก 10 ปีก่อน ก็คงจะเป็นคนภายนอกมูลนิธิแทบจะไม่ได้ข่าวความเคลื่อนไหวของเขา          เกือบ 5 ปีแล้วที่บุญเหลือไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชน แม้แต่ผู้เลื่อมใสตัวเขาในมูลนิธิคุณธรรมสุดกู่ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศเองก็เช่นกัน น้อยคนนักที่เคยเห็นบุญเหลือชนิดที่เรียกว่าตัวเป็น ๆ กระทั่งเกิดข่าวลือไปต่าง ๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นข่าวที่ว่าบุญเหลือได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว หรือเขาไปใช้ชีวิตอย่างสงบในเกาะเล็ก ๆ ทางภาคตะวันออก หรือกระทั่งข่าวลือว่าบุญเหลือเสียชีวิตไปแล้ว จากข่าวลือมากมายหลายกระแสนี้เองที่เริ่มทำให้เกิดความระส่ำระสายในมูลนิธิฯ ความแคลงใจเริ่มเกิดขึ้นในใจของสาวกทั่วทุกภาค ช่วงนี้เองที่เกิดการวิบากกรรมต่าง ๆ นานา ของสาวกในมูลนิธิฯ บางคนโดยจากตึกใบหยก บ้างประกาศความตายของตนโดยการแขวนคอตายหน้ารัฐสภา บางรายถึงกับหนักข้อขนาดฝังร่างตัวเองและครอบครัวทั้งเป็น         แต่ยังมีอีกหลาย ๆ ต่อหลายคนที่ยังเฝ้ารอการปรากฏตัวของบุญเหลือ จากคุณ : CU. - [ 3 ต.ค. 47 11:04:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เหตุการณ์ประหลาดที่ซ่องสายรุ้ง          มุมสกปรกแห่งหนึ่งของเมืองบนถนนรัชดาภิเษก เป็นที่ตั้งของซ่องกะหรี่ที่จัดว่าติดอันดับ ท๊อปเท็นของมหานครแห่งนี้ ผู้หญิงที่นี่แทบทุกคนการศึกษาดีพร้อมและมารยาทดีกว่าคุณหญิงคุณนายบางคน สถานที่อันโสมมด้วยคราบโลกีย์แห่งนี้อุดมไปด้วยบุรุษผู้ทรงเกียรติและคุณวุฒิทางปัญญาอย่างคับคั่ง          ซ่องสายรุ้งดำเนินกิจการมาเป็นระยะเวลา 15 ปี 4 เดือน โดยนางรจนา นางเป็นสตรีร่างท้วมใหญ่ จะว่าไปชีวิตที่ผ่านมาของนางต่อสู้มามากมายตั้งแต่วัยเด็ก นางทำมามากมายหลายอาชีพไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพิทักษ์สิทธิสตรีหรือจะกะหรี่ข้างถนน นางสอนผู้หญิงทุกคนที่นี่ให้เรียกเธอว่า “แม่” ซึ่งพวกหล่อนเองก็เต็มใจที่จะเรียกนางอย่างนั้น ผู้หญิงที่นี่ไม่ได้มีใครถูกบังคับให้มาทำ แค่มองตานางก็รู้ว่าผู้หญิงคนไหนที่ต้องการทำงานเยี่ยงนี้ ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่แววตาของความทุกข์ยากกลับไม่เคยเปลี่ยน นางผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ชั่วชีวิตนี้มีหลายเรื่องที่นางไม่เคยเข้าใจและไม่พยายามเข้าใจ แต่ถ้าเป็นเรื่องภายในซ่องสายรุ้งแห่งนี้นางย่อมล่วงรู้แทบทุกเรื่อง ความจริงนางควรรู้ทุกเรื่อง แต่ก็มีบางเรื่องที่นางไม่เข้าใจเหตุผล          10 ปีมาแล้วที่ผู้ชายหน้าตาบ้านนอกกระเป๋าหนักคนนั้นเป็นแขกประจำของที่นี่ หากว่าเจ้าบ้านนอกนั่นเพียงแค่แต่งตัวดีธรรมดา นางคงให้เด็กไล่ตะเพิดออกไป แต่เจ้าบ้านนอกคนนี้ โดยสารมากับรถโรสลอยด์ของรัฐมนตรีผู้หนึ่ง นับจากคืนแรกเป็นเวลา 10 ปีเต็มที่เจ้าบ้านนอกคนนี้ไม่เคยออกจากซ่องสายรุ้งไปไหน เขาเสนอก้อนเงินจำนวนหนึ่งซึ่งนางไม่สามารถปฏิเสธมันได้ ต่อให้เขาต้องการฮุบกิจการของนาง นางก็พร้อมที่จะแลกกับเงินจำนวนนั้น แต่ข้อเสนอของเขาเพียงต้องการจะอยู่ที่นี่ตลอดไปตราบที่ต้องการเท่านั้น          ในซ่องสายรุ้งเขาคือสิ่งเดียวที่นางไม่เข้าใจและไม่อาจคาดเดาได้ ชายที่มีเงินล้นฟ้าอย่างนั้นทำไมจึงเลือกที่จะอาศัยในสถานที่เช่นนี้  นางเคยคาดเดาว่าเป็นเรื่องของความวิปริตของรสนิยมทางกามารมณ์ แต่จากการสอบถามจากสตรีทุกคนในซ่องสายรุ้ง ทำให้นางทราบว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ชายผู้นั้นไม่ได้วิปริตไปกว่าผู้ชายทั่วไปที่แวะเวียนมาในที่แห่งนี้เลย ออกจะสุภาพกว่ารัฐมนตรีที่พาเขามาเสียอีก นางจึงถือว่านี่เป็นเรื่องแปลกประหลาดที่นางไม่อาจเข้าใจ           มีเรื่องราวแปลกประหลาดกว่านี้อีกหลายอย่างบนโลก เมื่อไม่นานมานี้นางได้ยินว่าจะมีการสร้างอนุสาวรีย์ ให้กับผู้ชายที่ไม่มีวันตาย เป็นความคิดของแกนนำรัฐบาลร่วมกับมูลนิธิคุณธรรมสุดกู่ นับเป็นนโยบายล่าสุดในปีนี้ โดยธรรมเนียมแล้วอนุสาวรีย์มักจะถูกสร้างให้กับผู้ที่เสียชีวิตถ้าไอ้หมอนั่นมันไม่ตายจริง ก็จะเป็นคนเดียวบนโลกที่สามารถถ่ายรูปคู่กับอนุสาวรีย์ของตัวเองได้ตราบที่ต้องการโดยไม่ต้องกลัวเรื่องของอัปมงคลที่ว่า หากสร้างอนุสาวรีย์ขณะที่มีชีวิตอยู่แล้วชีวิตจะสั้น          เรื่องประหลาดอีกเรื่องหนึ่ง นางจอยที่ทำงานกับนางมา 7 ปีตั้งแต่อายุ 14 ขณะนี้ตั้งท้องกับเขา ทั้ง ๆ ที่ นางรู้ตารางการกินยาคุมกำเนิดของจอยเป็นอย่างดี  อย่างไรก็ตามนี่อาจถือเป็นความสะเพร่าได้ แต่เมื่อเขาคนนั้นทำให้ ปลาสุภาพสตรีหมายเลข 1 (แน่นอนว่าไม่ได้รวมนางเข้าไปด้วย) แห่งซ่องสายรุ้งท้องได้ย่อมนับเป็นเรื่องผิดปรกติอย่างยิ่ง เพราะปลาทำงานกับนางมาร่วม 10 ปี ตั้งแต่นางได้ตัวหล่อนมาเมื่ออายุ 12 และที่สำคัญ นางเป็นคนพาหล่อนไปทำคุมกำเนิดถาวรด้วยตัวเองตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว เรื่องทำนองนี้เริ่มทยอยเกิดขึ้นกับผู้หญิงของนางทีละคนสองคน          นางทนต่อไปไม่ได้จึงได้เข้าไปต่อว่าเขา (แต่ก็อย่างละมุนละม่อม) เขาไม่โต้ตอบอะไรนางแม้แต่น้อย ไม่ว่านางจะยกเหตุผลอะไรมาอ้าง เขามองด้วยสายตาที่เหมือนทารกมองแม่ของตน นางรับรู้ถึงสายตานั้น เพราะนางเคยมีลูก แม้จะแค่คนเดียวแต่ก็สามารถรู้ได้ว่าชีวิตนางไม่ควรค่าแก่การเป็นแม่ ผู้หญิงที่ทิ้งลูกของตัวเองจะมีค่าอะไรได้อีก หากลูกของนางยังอยู่คงแก่กว่าเขาสัก 10 -20  ปีได้          วันนั้นนางจากเขามาพร้อมกับความรู้สึกราวกับว่าก้อนน้ำแข็งที่ฝังในใจเริ่มละลาย จากคุณ : CU. - [ 3 ต.ค. 47 11:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 รายการมิดไนท์พาราไดซ์          “เที่ยงคืนของคุณจะไม่ง่วงงุดมุดเข้าแต่ผ้าห่มอีกต่อไป สรวงสวรรค์ที่จะทำให้คุณหลับยิ้มแก้มปลิ้นเพราะฝันดี มิดไนท์ พาราไดซ์” และนี่คือเสียงจากพิธิกรที่ดังที่สุดในประเทศขณะนี้ วิวัฒน์ สุจริตภักดี          “วันนี้ท่านจะได้พบกับเรื่องฮาเด็ด ๆ ในช่วง กรามกระตุก และสำหรับคนที่มีคู่ แต่ยังระแวงกัน พลาดไม่ได้กับ ช่วง คู่สร้างไม่เหมาะไม่สม...          ...วันนี้รวมสารพัดกลเม็ดกับวิธีสะกดรอยคู่รัก แล้วชะตาชีวิตของคุณต่อนี้ไปจะเป็นยังไง แม่มดยิบซีจะลิขิตชีวิตคุณให้เดินได้ดีไม่มีสะดุด พลาดไม่ได้กับไฮท์ ไลท์ ของคืนนี้ก่อนที่จะคุณจะเข้านอนพวกเราได้รับเกียรติที่จะได้พบกับเขา บุรุษผู้เปลี่ยนชีวิตคุณให้ดีขึ้น บุรุษที่มีชีวิตอยู่ในตำราเรียน และ บุรุษคนนี้ที่จะเปลี่ยนโลกของเราในวันนี้ คุณบุญเหลือ” วิวัฒน์ สุจริตภักดี พูดจบก็มีตัวอย่างรายการให้ชมกันหอมปากหอมคอ แต่ไม่มีภาพของบุญเหลือปรากฏแม้แต่น้อยจนเข้าโฆษณา          ก่อนหน้านี้รายการมิดไนท์ พาราไดซ์ เคยออกอากาศตอน 4 ทุ่มในชื่อ ยี่สิบสองทุ่ม เนื่องจากตกลงเรื่องผังออกอากาศไม่ลงตัวจึงต้องเลื่อนเวลามาเที่ยงคืนและนั่นก็เป็นที่มาของชื่อรายการ แต่ไม่ว่ารายการจะออกอากาศเวลาไหนด้วยชื่ออะไร รายการก็ยังครองความนิยมในใจผู้ชมมาโดยตลอด ด้วยเนื้อหาและรูปแบบของรายการที่เข้มข้นและเข้าถึงความต้องการของผู้ชมอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะการเปลื้องชีวิตบุคคลต่าง ๆ อย่างไม่เกรงใจ ครั้งหนึ่ง คุณวิวัฒน์ถึงกับเชิญนักแสดงเด็กที่เพิ่งสูญเสียครอบครัวจากอุบัติเหตุทางรถยนต์มาออกอากาศ คุณวิวัฒน์ถามถึงสาเหตุการตายอย่างละเอียด จนได้ภาพของนักแสดงเด็กคนนั้นน้ำตานองหน้า สนองความต้องการของผู้ชมอย่างชัดเจน แน่นอนว่ามีกลุ่มผู้ที่มือถือสากปากถือศีลออกมาโจมตีอย่างต่อเนื่อง คนกลุ่มนี้โจมตีทุกเรื่องที่ออกอากาศจนเป็นที่น่าสังเกตว่าต้องติดตามรายการเป็นอย่างดียิ่งกว่าแฟนรายการเสียอีก          เหมือนเช่นดังขณะนี้ ที่ทุกหลังคาเรือนทั้งในประเทศและประเทศใกล้เคียงตลอดจนถึงทุก ๆ ที่ ที่สามารถรับการส่งสัญญาณได้กำลังติดตามรายการมิดไนท์ พาราไดซ์อยู่อย่างใจจดใจจ่อ ทุกสายตารอและรอให้ผ่านช่วงแล้วช่วงเล่าไป รอที่จะเข้าถึงช่วงสุดท้ายของรายการ รอการปรากฏตัวของเขา บุรุษที่คนทั้งประเทศเดินทางมาสักการะอนุสาวรีย์ของเขา บุรุษอมตะที่หายตัวไปร่วม 20 ปี กำลังจะปรากฏตัวต่อสาธารณชนในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ จากคุณ : CU. - [ 3 ต.ค. 47 11:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรียงความวันพ่อของ ด.ญ. เดือนแรม นักเรียนชั้นประถมปีที่ 6          พ่อของฉันท่านเป็นคนดีมาก และเป็นคนพิเศษในสังคมด้วย ท่านเป็นสมาชิกกลุ่มสายรุ้ง กลุ่มที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อยของเด็ก ๆ อย่างพวกเรา แต่พ่อไม่ค่อยมีเวลาว่างมากนัก เพราะงานของพ่อยุ่งมาก พ่อบอกกับฉันว่าเมื่อฉันโตขึ้น ฉันก็จะได้อยู่ในกลุ่มสายรุ้งเพราะตระกูลของเราคือทายาทสายตรงของ ท่านบุญเหลือ ผู้นำประเทศของเรา ถึงฉันจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ฉันก็ดีใจมาก ๆ ถึงพ่อของฉันจะไม่มีเวลาว่างมากนัก แต่ท่านก็จะพาฉันไปไหว้อนุสาวรีย์ของ ท่านบุญเหลือทุกปี คืนก่อนวันงานบุญเหลือเกื้อประชาชน ฉันและพ่อ และแม่ จะนั่งร้อยดอกไม้และทำเสื้อผ้าของเราให้สะอาดที่สุด เพื่อที่จะไม่อายคนอื่น ๆ ที่ไปร่วมงาน พ่อจะพาแม่และฉันเดินรอบ ๆ งานและเล่นเครื่องเล่นต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายที่บริเวณอนุสาวรีย์ท่านบุญเหลือ ทุกคนที่เดินอยู่ในงานหน้าตามีความสุข พ่อบอกว่าประเทศของเราจะมีความสุขอย่างนี้ตลอดไปถ้าเชื่อในตัวท่านผู้นำ          ในวันพ่อที่จะถึงนี้ ฉันอยากจะบอกพ่อว่าฉันรักพ่อ และอยากให้พ่อทำหน้าที่ของพ่อให้ดีที่สุดเพื่อประเทศของเราและ เป็นการตอบแทน ท่านบุญเหลือ นายกรัฐมนตรีผู้เป็นอมตะของพวกเรา จากคุณ : CU. - [ 3 ต.ค. 47 11:08:51 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เชิญวิจารณ์ตามอัธยาศัยครับ จากคุณ : CU. - [ 3 ต.ค. 47 11:09:24 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดีจ้ะ  หายหน้าหายตาไปเชียวนะคะ  งานคงยุ่งอีกตามเคยสิคะ แวะมาทำ link งานเก่าให้อย่างเคย  ... เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะ ห้องน้ำหญิง http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3027884/W3027884.html วรรณกรรมขายตรง http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2992984/W2992984.html ลูกสาวบนชั้นสอง http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2951662/W2951662.html หนัง http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2919437/W2919437.html ห้องพักเบอร์ 28 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2907319/W2907319.html ค.ควายเป็นพยัญชนะตัวแรกของคำว่าคน ตอนที่ 5 มีดแรก http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2854836/W2854836.html ค.ควายเป็นพยัญชนะตัวแรกของคำว่าคน ตอนที่ 4 มิวสิควีดีโอในความทรงจำ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2842338/W2842338.html ค.ควายเป็นพยัญชนะตัวแรกของคำว่าคน ตอนที่ 3 บางคำไม่จำเป็นต้องพูด http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2833878/W2833878.html ค.ควายเป็นพยัญชนะตัวแรกของคำว่าคน ตอนที่ 2 ตอนที่ 2  รวมกันเราอยู่ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2829340/W2829340.html ค.ควายเป็นพยัญชนะตัวแรกของคำว่าคน ตอนที่ 1 ความจริงนอก มหา’ลัย http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2826899/W2826899.html จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 3 ต.ค. 47 11:31:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สงสัยจะฉลาดไม่พอค่ะ อ่านแล้วไม่เข้าใจ จากคุณ : scottie - [ 3 ต.ค. 47 14:45:37 ]

ความคิดเห็นที่ 9 absurd ชัดๆ....สื่อถึงความไร้สาระของสังคม เชื่อมั่นในสิ่งไร้สาระ...คนไร้สาระ....และเอามาเป็นสรณะ ก็เหมือนสังคมในทุกวันนี้ที่ยึดมั่นในสิ่งไร้สาระนั่นแหละ จากคุณ : มาเดินเล่น - [ 3 ต.ค. 47 22:24:35 A:203.113.67.68 X:203.150.217.111 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อืมมมมมมมม ขอไปนั่งอ่านอีกรอบนะคะ จากคุณ : ephi - [ 4 ต.ค. 47 04:35:22 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ดูคร่าวๆ แต่ประทับใจอย่างแรง น่าสนใจขออ่านหน่อยนะ จากคุณ : เมืองหนาว - [ 5 ต.ค. 47 00:57:21 A:203.113.44.84 X:203.150.217.114 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เหอ เหอ ไม่กล้าออกความเห็น จากคุณ : Canossa - [ 5 ต.ค. 47 05:34:34 ]

ความคิดเห็นที่ 13 บางทีได้เขียนเรื่องอย่างนี้บ้างก็ดีเหมือนกัน ยังดีใจที่เห็นว่ามีคนที่อ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้ ไม่ว่าจะรู้สึกกับมันอย่างไรก็ตาม ผมขอบคุณครับ จากคุณ : CU. - [ 6 ต.ค. 47 15:48:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แบบ...อยากบอกว่าประคับใจวิธีเขียนมากค่ะ แต่ไม่รู้จริงๆว่าเรื่องนี้สื่อถึงอะไร น่าจะชัดเจนกว่านี้หน่อยนะคะ แล้วเรื่องที่เขียนเนี้ยจะมีคุณค่ามากๆ จากคุณ : เมืองหนาว - [ 8 ต.ค. 47 01:19:42 A:203.113.44.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 ทุกคนคงสงสัยว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เรื่องทุกอย่างก็ต้องมีที่มาที่ไปมีเหตุมีผลในตัวมันเองเสมอ เรื่องนี้ก็เช่นกัน มันเริ่มต้นที่เหตุมหัศจรรย์ซึ่งเกิดขึ้นกับคนในหมู่บ้านคนหนึ่งชื่อเถียร ชายวัยกลางคนที่มีอาการป่วยกะเสาะกะแสะมานานรักษาไม่หายสักที จากคุณ : เมืองหนาว - [ 8 ต.ค. 47 01:32:12 A:203.113.44.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 ข้างบนนี้ผิดกระทู้ค่ะขอโทษนะคะ จากคุณ : เมืองหนาว - [ 8 ต.ค. 47 01:37:07 A:203.113.44.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผู้เขียนอาจจะรู้จักตัวตนจริงของนายบุญเหลือ จึงสามารถบรรยายประวัติของเขาได้ละเอียดเช่นนี้ แต่ถ้าจะเปรียบเทียบบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ แน่ใจได้อย่างไรว่า ประวัติที่เขียนเล่ากันสืบต่อมา เป็นประวัติที่ถูกต้องของเขาเหล่านั้นจริง คนที่นับถือเขา ก็ย่อมมีความศรัทธาเป็นธรรมดา หรือเขาเหล่านั้นอาจสร้างผลงาน อำนวยผลประโยชน์ให้แก่ปวงชนที่นับถือเขาก็เป็นได้ อันว่าใครจะนับถือใครนั้น เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล คงไปห้ามความคิดของใครเหล่านั้นไม่ได้ เพียงหวังว่าบุคคลเหล่านั้นได้ยังผลประโยชน์ ให้แก่บ้านเมืองจริง เป็นใช้ได้ เอ๊ะ หรือว่าเราเข้าใจผิด เป็นคนละคนกัน เนื่องจากผู้เขียนตอบกระทู้ค่อนข้างประหยัดคำ เลยไม่แน่ใจว่าที่ต้องการสื่อ ผู้อ่านคนนี้ อ่านแล้วปัญญาอาจจะไม่ถึงผู้เขียน เลยเข้าใจผิดไปคนละทางก็เป็นได้ จากคุณ : รสา รสา - [ 8 ต.ค. 47 02:59:47 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เรื่องนี้เป็น absurd บอกไปแล้วไง ว่าด้วยความยึดถือในสิ่งไร้สาระ ไม่จำเป็นต้องเอาแนวคิดแบบ realism มาจับ มันคนละเรื่อง... คนเขียน เขียนดีแล้วแหละ สารชัดเจน เพียงแต่คนอ่านหลายคนปรับความคิดไม่ทันเพราะชินกับเรื่องที่มันมีที่มาที่ไป พอมาเจอเรื่องนี้มันดูจะไร้เหตุผลก็เลยงง จากคุณ : มาแอบอ่าน - [ 9 ต.ค. 47 00:06:24 A:203.113.67.68 X:203.150.217.112 ]