CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ศึกป่วนดาต้าฤทธาเจ้าแฮกเกอร์ ตอนที่ 6 แรกเจอในโลกจริง 1/2

    ร่างบางในชุดสูทสีดำล่องลอยสู่กลางนภาสีฟ้าครามดั่งเทพธิดา ภายในท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ที่เชื่อมระบบข้อมูลข่าวสารทั่วโลก “สกายเน็ต” ซึ่งระบบๆนี้ได้เข้ามาแทนที่ระบบอินเตอร์เน็ตที่เป็นระบบเชื่อมต่อข้อมูลข่าวสารแบบเก่าอย่างรวดเร็ว เหตุเพราะระบบสกายเน็ตเป็นระบบที่ผู้ใช้สามารถโอนถ่ายคลื่นกระแสจิตของตนเข้าสู่โลกเสมือนจริงหรือโลกแห่งไซเบอร์ได้นั้นเอง ทำให้ระบบแบบเก่าอย่างอินเตอร์เน็ตที่มองผลการทำงานได้เฉพาะบนหน้าจอถูกนำมาใช้เป็นเพียงระบบเสริมระบบหนึ่งของระบบสกายเน็ตแทน
    ภาพที่เห็นเบื่องหน้ามาอิ ผู้ดูแลระบบสาวแห่งควีนร๊อคคือท้องฟ้าอันกว้างใหญ่สุดสายตาที่ประกอบไปด้วยเกาะลอยฟ้ามากมายลอยเด่นอยู่ ซึ่งเป็นที่รู้ดีกันภายในระบบสกายเน็ตว่า หมู่เกาะทั้งหลายที่เห็นลอยเด่นอยู่ก็คือระบบเครือข่ายต่างๆรวมทั้งเว็บไซด์ต่างๆอันเป็นแหล่งชุมนุมชนแห่งโลกไซเบอร์ มาอิชอบที่จะล่องลอยไปบนท้องฟ้าแห่งสกายเน็ตเพื่อชมหมู่เกาะไซเบอร์ต่างๆเหมือนดั่งตนได้เหาะไปบนท้องฟ้าจริงๆมากกว่าจะรีบไปให้ถึงจุดหมายด้วยความเร็วเครื่องคอมพิวเตอร์ของตน ขณะเดียวกันกับที่ร่างบางเหาะทะยานไปตรงหน้า พลันท้องฟ้าสีครามรอบตัวกลับมืดลงทันใด

    “นี้มัน”

    ร่างบางกล่าวขึ้นด้วยความตกใจ ทันใดนั้นเองร่างในชุดสูทสีเงินก็ปรากฏขึ้นตรงเบื่องหน้า

    “เราเจอกันอีกแล้วนะคนสวย”

    หมดประโยคร่างในชุดสูทสีเงินก็ตวัดมือออกมาข้างหน้า หลังจากนั้นพลันปรากฏเงาร่างของงูตัวใหญ่สีขาวพุ่งทะยานเข้ารัดตัวร่างบางตรงหน้า

    “ออฟชั่นไอเทมโปรแกรม1 ดาบแสง..”

    ก่อนที่จะสิ้นประโยค งูใหญ่ตรงหน้าก็พุ่งเข้ามารัดตัวหญิงสาวนักดูแลระบบคนสวยอย่างไม่ให้ได้มีโอกาสตั้งตัว

    “ปล่อยนะ อย่าๆ..”
    ก่อนที่มาอิจะหมดเรี่ยวแรงดิ่นลนนั้นเองเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

    “มาอิๆเป็นอะไรลูกตื่นเถอะ”

    เสียงของคุณนายมาลีดังปลุกลูกสาวคนสวยให้ตื่นขึ้นจากหลับใหลในห้วงนินทา เพื่อพบตัวเองนั่งอยู่ภายในเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่นำพาเหล่านักเดินทางและนักท่องเที่ยวไปสู่แผ่นดินไทย แผ่นดินแห่งการท่องเที่ยวชั้นแนวหน้าติดอันดับ 1 ในสิบของโลก
    ..................
    “ฮิๆๆ พี่มาอิฝันเห็นงูเหรอค่ะ เอ๊ะฝันร้ายแบบนี้แสดงว่าม่เที่ยวเมืองไทยครั้งนี้อาจเจออะไรตื่นเต้นๆก็ได้”

    มาเอะสาวน้อยสุดแสบกล่าวขึ้นหลังจากได้ฟังเรื่องราวความฝันของผู้เป็นพี่

    “มาเอะนี่พูดอะไรก็ไม่รู้ ฝันร้ายที่ไหนกันนะ คนไทยเขาถือว่าฝันเห็นงูนะ แปลว่าจะเจอเนื้อคู่ต่างหากละลูก”

    คุณนายมาลีผู้เป็นแม่เอ่ยออกมาเป็นคนต่อไปหลังจากได้ยินลูกสาวสุดแสบพูด

    “อ้าว แบบนี้ก็ยิ่งสนุกเขาไปใหญ่สิ คราวนี้นี้มาเอะจะได้เห็นว่าที่พี่เขยแล้ว”

    พูดเสียงแจ้วๆออกมาพร้อมกับชายตาไปมองพี่สาวคนสวยที่นั่งอยู่ข้างๆ

    “หนอย ยายตัวดีอยากเห็นว่าที่พี่เขยนักเหรอที่ตัวเองเมื่อคืนนี้ยังบอกว่าฝันเห็นงูด้วย ก่อนชาวบ้านเขาฝันเห็นอีก”

    “ก็ที่มาเอะฝันงูมันไม่ได้มาลัดมาเอะ แต่มาเอะเป็นฝ่ายกระโดดไปกอดมันเองต่างหาก ก็มาเอะชอบงูนี้นา มันน่ารักดีออก”

    มาอิกับมาลีผู้เป็นแม่ต่างฟังคนเล่าด้วยความรู้สึกพิกลพิกลทั้งคู่

    “โอตายแล้วน้องฉัน ชอบอะไรไม่ชอบดันชอบงู แบบนี้ท่าทางเนื้อคู่ของเรานี้เขาคงไม่เข้ามาหาเราเอง แต่เป็นเราที่จะกระโดดไปขย้ำหนุ่มๆหล่อมากกว่ามั้ง คุณแม่คิดแบบหนูไหมคะ”

    มาอิรีบถือโอกาสแหย่น้องกลับบ้างหลังจากโดนมาแล้วก่อนหน้า โดยไม่รู้เลยว่าคำพูดเล่นของสองพี่น้อง จะกลายมาเป็นความจริงในเวลาอันสั้นทั้งพี่ ทั้งน้อง

    “มาอิ..”

    คุณนายมาลีรีบห้ามทัพก่อนที่จะเกิดศึกสายเลือด จากนั้นครอบครัวยามางิต่างหัวเราะชอบใจ ไม่เว้นแม้แต่คุณโกโบริหัวหน้าครอบครัวและคุณนายมาลีผู้เป็นมารดา ดังลั่นเครื่องบินส่วนตัว ที่ถูกจัดให้เป็นพาหนะของแขกผู้มาเยือนประเทศไทย และแน่นอนว่าสายการบินขนาดเล็ก ผู้รับหน้าที่ดูแลเครื่องบินลำดังกล่าว ย่อมเป็น 1 ในกรรมสิทธิส่วนตัวของผู้อำนวยการใหญ่แห่งเพชรเทวากรุ๊ป นายวายุ เพชรเทวา

    ….......

    ขณะเดียวกับที่เครื่องบินอันเป็นพาหนะของครอบครัว ยามางิ เข้าสู้น่านฟ้าไทยนั้นเอง บนถนนไฮ เวย์ กลางกรุงเทพมหานคร รถยนต์ ลีมูซีน คันใหญ่สีเงินวาวทั้งคันกำลังแล่นสู่เขตจังหวัดชลบุรีด้วยความเร็วสูง ชายหนุ่มหน้าเข้าผู้มีต่ำแหน่งถึงผู้การกำลังขับขี่รถคันดังกล่าวสู่เป้าหมาย พลางครุ่มคิดในใจ

    “พี่วาทีครับ ผมให้คนขับรถไปรอที่หน้าตึกที่ทำงานพี่แล้วนะครับ ยังไงถ้าเสร็จงานแล้วก็ให้รีบมาเลยแล้วกันครับ อ้อ แล้วไม่ต้องตกใจครับ ที่วันนี้รถที่ไปรับ เป็นลีมูซีนคันเก่งของเรา ทางผมให้นาย ขาว คนขับของเราเอารถไปส่งให้พี่ที่ที่ทำงาน เพราะระหว่างทางมาโรงแรมผมขอรบกวนให้พี่ช่วยแวะรับแขกที่สนามบินที่เป็นนักธุระกิจญี่ปุ่น พร้อมครอบครัว ที่จะมาพักผ่อนและคุยเรื่องธุระกิจกับผมที่โรงแรมของเรา พี่วาทีช่วยต้อนรับเขาแทนผมด้วยนะครับ อ้อส่วนนายขาวนะผมให้เขาเอารถไปส่งแล้วอนุญาติให้เขาลากลับไปบ้านเขาที่โคราชแล้วนะครับ เพราะงั้นยังไงวันนี้พี่ต้องไปรับคนด้วยตัวเองแล้วละ จะหนีกลับแล้วให้นาย ขาวไปรับคนเดียวไม่ได้แน่ ส่วนไฟร์เครื่องบินผมจดให้แล้วหลังข้อความนี้ แล้วเจอกันครับ
    วายุเพชรเทวา”

    ข้อความในเมล์ของน้องชายจบลง วาทีก็รู้ทันทีว่า แท้จริงแล้วน้องชายต้องการอะไร แม้ปกติจะแทบไม่มีใครตามความคิดของน้องชายตัวดีของตนได้เลย แต่ก็ยังมีอีกสามคนที่พอจะเดาใจน้องชายผู้นี้ออกบ้างในบางเรื่อง เพราะความที่สนิทสนมกัน คนแรกแน่นอนก็ต้องเป็นตัวเขาเองละ อีกหนึ่งคือคุณวารินี มารดาทั้งสอง อีกคนคือวารีคนสนิทของนายวายุซึ่งถ้าถามความเห็นเขาแล้วละก็ สองคนนี้น่าจะแต่งงานกันไปเลยดีกว่าเพราะแทบจะไม่เคยห่างกันเลย ซึ่งความจริงแล้ววารีก็เป็นหญิงสาวที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะคอยดูแลน้อยชายของเขา ในช่วงแรกๆที่ได้พบกันนั้นเขาเองก็รู้สึกนึกชอบหญิงสาวผู้นี้อยู่เหมือนกันและในความนึกชอบนั้น ก็มีความสงสารปนอยู่ด้วย เพราะอดีตของหญิงสาวนั้นต้องเผชิญกับสิ่งเลวร้ายนานับประการ กลิ่นคาวเลือดและควันปืน

    แต่ความสัมพันธุ์ของวาทีกับวารี ก็หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เพราะจากเวลาที่ผ่านมาหลายปีทำให้เขารู้ว่า วารีมีเพียงความเคารพนับถือและภักดีต่อเขาในฐานะเป็นพี่ชายของนายวายุเท่านั้น สำหรับวารีแล้ว คนผู้เดียวที่เป็นดังชีวิตของหล่อน ที่หล่อนยอมรับนับถือเป็นนายและทุ้มเททั้งใจกายคอยดูแลรับใช้มีเพียง “นายน้อย”ของหล่อน

    ถึงอย่างนั้นก็ตามเขาเองก็คิดว่าคงยอมรับได้ในทันทีถ้าหากวารีจะเลื่อนชั้นจากคนสนิทของน้องชายมาเป็นน้องสะใภ้ของเขา แต่ก็นั้นแหละ เหตุผลเดียวกับที่น้องชายของเขาอยากให้เขาไปต้อนรับนักธุระกิจจากญี่ปุ่นวันนี้ คือเวลาที่เหลืออยู่ของวายุนั้นเอง

    ถ้าเป็นในครอบครัวอื่นผู้ที่จะถือเป็นผู้นำของบ้านย่อมเป็นบิดาหรือลูกชายคนโตผู้จะขึ้นมาดูแลกิจการของบ้านต่อไป แต่สำหรับครอบครัวเพชรเทวาแล้ว ผู้เป็นคนสำคัญอันค้ำจุนบ้านนี้อยู่คือน้องชายของเขา “นายวายุ เพชรเทวา” ผู้อำนวยการใหญ่แห่งเพชรเทวากรุ๊ปนั้นเอง วาทีเห็นว่าก็แปลกไปอีกแบบที่ ถ้าเป็นในครอบครัวผู้ร้ำรวยคนอื่นอาจมีการแก่งแย่งชิงดีกันระหว่างพี่น้อง หรือแย่งมรดกทรัพย์สินกันระหว่างญาติๆซึ่งมีให้เห็นทุกยุคสมัย แต่สำหรับครอบครัวเขาแล้วผู้เป็นน้องชายต่างหากกลับเป็นผู้คอยแต่จะยัดเยียดสิ่งเหล่านั้นให้พี่ชายอย่างเขาแทน บ่อยครั้งที่เมื่อมีโอกาสน้องชายตัวดีจะต้องหาทางให้เขามามีส่วนร่วมในธุระกิจด้วยทุกครั้งสิน่า ทั้งๆที่สำหรับตัวเขาเองแล้ว ชอบที่จะรับราชการ เป็นผู้รักษาความสงบในประเทศมากกว่าจะใส่ใจในเรื่องธุระกิจและไม่แม้แต่จะเคยคิดอยากได้ครอบครองสมบัติใดอันเป็นของน้องชายเลย ด้วยที่รู้ดีว่าคุณวาทะบิดาผู้ร่วมลับไปนั้นหาได้ทิ้งสิ่งใดอันเป็นมรดกไว้แก่เขาและน้องชายเลย ในช่วงเวลาที่ครอบครัวตกสู่ภาวะเลวร้าย ส่วนตัวเขาเองก็พบกับอันตรายที่แทบจะเอาชีวิตไม่รอดในดินแดนที่ห่างไกล เพชรเทวากรุ๊ป ร่วมทั้งตัวเขาเองรอดมาได้เพราะสองมือของน้องชายคนนี้เอง

    ส่วนเหตุผลที่น้องชายของเขาอยากให้เขาออกจากราชการที่เสี่ยงต่อชีวิตและเข้ามาช่วยงานเขานักหนานะเหรอ

    “เวลาของผมหยุดเดินไปแล้วนะครับพี่วาที หยุดเดินเหมือนนาฟิกาที่หยุดนิ่ง แล้วกำลังนับถอยหลังเข้าใกล้เลขศูนย์ไปทุกที ผมรู้ตัวเองดี ร่างกายของผมไม่รู้ว่าจะทนได้อีกนานแค่ไหน เมื่อถึงวันใดที่มันนับถึงศูนย์เมื่อใด เมื่อนั้นพี่จะเป็นผู้เดียวที่จะต้องรับช่วงคอยดูแลทุกสิ่งที่เป็นของผม ดูแลคุณแม่และเทวากรุ๊ป ต่อไป”

    คำพูดนี้น้องชายของเขาเคยเอยกับเขามาแล้วหลายครั้ง ทำไมนะน้องชายคนเดียวของ นายวาทีผู้นี้จะต้องมาพบกับสิ่งเลวร้ายนี้ด้วย หรือสมองอันชาญฉลาดเกินคนของน้องชายเขาต้องแลกมาด้วยร่างกายที่อ่อนแอกับเวลาที่เหลืออยู่น้อยเต็มทีงั้นหรือ!

    .....

    ยังไม่จบตอน

    จากคุณ : Gameta - [ 5 ต.ค. 47 13:23:08 A:203.145.21.168 X: ]