คุณแม่ขา....บ่ายนี้ฟ้าไปบ้านพี่ตะวันนะคะ ...... ฉันสวมกอดสาวสูงวัยที่ยืนปอกผลไม้ พร้อมกับพูดประโยคติดปาก ที่ฉันพูดเสมอเมื่อถึงวันหยุด
ไปบ่อยจังนะเรา พี่เขาอยากให้เราไปรึเปล่า หรือว่าหนูไปรบเร้าพี่เขา ! ดวงตาโต สวยได้รูป จ้องมองมาที่ฉัน อย่างใคร่รู้คำตอบ
ฟ้าไม่ได้รบเร้านะคะคุณแม่ พี่ตะวันให้ฟ้าไปหาจริงๆค่ะ ฉันมองหญิงสูงวัยตรงหน้าด้วยดวงตา ออดอ้อน เธอยื่นมือมาลูบหัวฉันเบาๆ ก่อนที่จะพยักหน้าเป็นเชิงให้รู้ว่าเธอไม่ขัดข้องอันใด
อย่ากลับเย็นนักนะจ๊ะ วันนี้แม่จะทำสุกี้ฉลองให้หนู ชวนพี่ตะวันเขามาทานด้วยก็ได้นะจ๊ะ บอกว่าแม่ชวน
ค่ะแม่ ฉันรีบออกจากบ้านไปทันที ราวกับผู้ที่ฉันจะไปหาจะจากฉันไป หากฉันไปช้าเพียงนิดเดียว
........................................................................................................
พี่ตะวัน....เย็นนี้พี่ตะวันว่างไหมคะ ฉันพลิกหน้านิตยสารไปมา อย่างไม่ใส่ใจในคำตอบมากนัก แต่ถ้าหากคนตรงหน้าฉันมีหูทิพย์ ล่ะก็ เขาคงจะได้ยินเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจฉัน ที่กำลังลุ้น คำตอบของเขาอยู่เป็นแน่
ทำไมเหรอ ฟ้า ? .... เขาถามฉันอย่างไม่ใส่ใจ .....
พี่ตะวันง่ะ ฟ้าถามพี่ตะวันนะไม่ใช่ให้พี่ตะวันมาย้อนถามฟ้า ฉันเผลอขึ้นเสียงไปอย่างเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่
ฟ้าเป็นอะไรไป พี่ถามฟ้าดีดีนะ............คืองี้ เย็นนี้พี่มีนัดไง พี่เลยถามว่าฟ้ามีอะไรรึเปล่า ถึงถามว่า เย็นนี้พี่ว่างไหม
ฟ้าขอโทษค่ะ ...เย็นนี้ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฟ้าลองถามพี่ตะวันเล่นๆ พี่ตะวันนัดกับแฟนสินะคะ ฉันก้มหน้าต่ำลง เพื่อไม่ให้คนตรงหน้ามองเห็นหยาดน้ำตาที่กำลังจะเอ่อล้น จนแทบจะไหลทะลัก ออกมา
ขอไปห้องน้ำก่อนนะคะ..... ฉันรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหายไปทางประตูอย่างรวดเร็ว
.......นี่ฉันเป็นอะไรไปนะ......ทำไมหัวใจฉันถึงเต้นแรงแบบนี้ ทำไมฉันถึงต้องโมโหที่พี่ตะวันไม่ตอบ คำถามฉัน แล้วทำไม ฉันถึงต้องร้องไห้เมื่อพี่ตะวันบอกว่า ไม่ว่าง ทำไมกันนะ ฉันทำใจได้แล้วนี่นา
.....นภา....รำพันกับตัวเองพร้อมกับซับน้ำตาที่ไหลรินอาบสองแก้มอย่างนุ่มนวล ก่อนที่จะปิดฝาชักโครก ลงแล้วนั่งทบทวนความรู้สึกตัวเองที่แปรปรวนอย่างหาคำตอบไม่ได้....นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เธอใช้เวลากับ ตัวเองอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ นี้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก.....ฟ้าท้องเสียเหรอ เสียงทุ้มๆที่ฉันคุ้นเคย ตะโกนเบาๆ ผ่านประตูพลาสติกสีขาว
อ๋อ...ค่ะ
เห็นหายมานาน เลยเป็นห่วง.....งั้นพี่ไปรอที่สวนนะ
ค่ะ เดี่ยวฟ้าตามไปนะคะ พี่ตะวันสั่งอาหารไว้ได้เลยนะคะ ฉันพยายามพูดให้น้ำเสียงเป็นปกติมากที่ สุดเท่าที่จะทำได้....ฟ้านะฟ้า เป็นบ้าอะไรไปเนี่ย....ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอแอบหลงรักพี่ตะวัน..... ฉันทำหน้าหมุ่ยบ่นกับ ภาพหญิงที่เพิ่งจะแตกเนื้อสาว ที่ปรากฏบนกระจกอย่างไม่พอใจนัก
พี่ตะวันเป็นเพื่อนชายคนแรกของฉัน เราสองคนอยู่บ้านถัดกันไปไม่กี่หลัง ฉันยังจำได้ดีถึงวันแรกที่เราสองคนรู้จักกัน
วันนั้นฉันนึกอยากเล่นแบตมินตันขึ้นมา จึงไปคะยั้นคะยอ น้าสาวของฉันให้มาเล่นเป็นเพื่อน ทันทีที่ฉันก้าวออกมาพ้นประตูบ้าน ฉันก็เห็นเด็กผู้ชาย 2 คน ออกมายืนตีแบตมินตันด้วยกัน....เท่านั้นแหละ น้าสาวของฉันก็เกิดไอเดียขึ้นมา ... เธอเข้าไปขอเด็กผู้ชาย 2 คนให้ฉันเล่นด้วยอีกคน............วันนั้นฉันสนุกมาก...........
หรืออาจเป็นเพราะ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันสร้างปฏิสัมพันธ์อย่างขัดไม่ได้กับเด็กผู้ชายแปลกหน้าก็เป็นได้
หลังจากนั้น ฉันก็มักจะไปเล่นกับ เขา 2 คนบ่อยๆ ..แน่นอน คนที่ฉันสนิทมากที่สุดก็คือพี่ตะวัน พี่ตะวันเป็นลูกชายคนโตของบ้านที่ฉันเรียกว่าบ้านขนมหวาน ที่เรียกเช่นนี้ก็เพราะว่าบ้านของพี่ตะวัน เป็นบ้านหลังเดียวในหมู่บ้านที่มีสีสันสดใสสะดุดตาผู้ที่ผ่านไปมา....พี่ตะวันอายุมากกว่าฉัน 6 ปี เขาเป็นคนที่หน้าตาดี
คนหนึ่ง ใบหน้าคมคายได้รูป ริมฝีปากบางน่าจูบ ผนวกกับคิ้วเข้มพาดตรงราวกับภาพวาด ตัดกับสีผิวที่ค่อนข้างขาวของเขา ทำให้เขาดูเด่นเมื่ออยู่กับน้องชายจอมเฮี้ยวอย่างพี่ภูผา.....พี่ภูผาอายุน้อยกว่าพี่ตะวัน 2 ปี แต่ด้วยความที่พี่ภูผาเป็นคนที่ค่อนข้างเกเร เขาจึงถูกส่งไปเรียนอยู่ต่างประเทศ นี่คงเป็นเหตุผลหนึ่งที่
ทำให้ฉันไม่สนิทกับพี่ภูผามากนัก...เราสองคนไม่ค่อยจะมีโอกาสได้เจอกันหรอก
....................................................................................................
เป็นไงเรา พี่ตะวันเขาไม่มาด้วยเหรอ เสียงหวานๆดังมาจากเก้าอี้รับแขกกลางห้อง
อ้าว! แม่มานั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ฟ้าไม่ยักกะเห็น
แม่นั่งอยู่ตรงนี้ก่อนที่เราจะกลับมาสัก ครึ่งชั่วโมงแล้วจ้ะ ว่าแต่เรายังไม่ได้ตอบแม่เลยนะว่าพี่ตะวันของ เราเค้าไม่มาด้วยเหรอ
วันนี้พี่ตะวันไม่ว่างค่ะ เห็นว่ามีนัด ฟ้าก็เลยไม่ได้ชวน ฉันทรุดตัวลงนั่ง พร้อมกับทิ้งตัวลงหนุนตักนุ่มๆ ของคนที่นั่งอยู่ก่อนหน้าอย่างสบายใจ
แม่ขา.....พ่อเป็นแฟนคนที่เท่าไหร่ของแม่คะ ฉันมองจ้องหน้าอย่างใคร่รู้คำตอบ.....
มืออวบๆ ลูบหัวฉันอย่างเเผ่วเบา พร้อมกับยิ้มให้ฉันอย่างเอ็นดู.....เอ...ทำไมถึงถามแม่แบบนี้หละ อย่าบอกนะว่าลูกสาวแม่กำลังจะมีความรัก
เปล่าค่ะแม่....ฟ้าจะเอาเวลาไปมีความรักกับใครที่ไหนละคะ
ก็ลูกชายบ้านขนมหวาน นั่นไงล่ะ
พี่ตะวันน่ะเหรอคะแม่..........ไม่หรอกค่ะแม่ ฟ้ากับพี่ตะวันเราสองคนเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆ ไปแล้วค่ะแม่
แต่แม่ว่าลูกสาวแม่ รู้สึกกับตะวันมากกว่าพี่ชายนะ
แม่ !........แม่ดูออกเหรอคะว่าฟ้า เอ่อ ฟ้า....
จ้ะ...แม่รู้ว่าหนูชอบตะวัน
ฟ้าทำผิดใช่ไหมคะแม่ ....ฉันหลบสายตาผู้ที่เป็นแม่ เพื่อซ่อนรอยความปวดร้าวของความรักที่ไม่มีทางเป็นไปได้
ไม่หรอกลูก ทำไมลูกถึงคิดแบบนั้นหละ........เธอเอามือลูบหัวฉันไปมาเบาๆ
ฟ้า
ฟังแม่นะลูก ความรักเป็นเรื่องที่สวยงามแล้วก็ละเอียดอ่อนนะลูก การที่เรารักใครสักคน นั่นเป็นสิ่งที่ดี เพราะมันทำให้เรารู้จักที่จะเเบ่งปันสิ่งดีดีที่เรามี ไปให้เขา ฟ้าเอง อาจจะไม่ได้รักตะวันก็ได้นะลูก ระหว่างลูกกับตะวันมันเป็นความใกล้ชิด ตะวันอาจจะทำให้ลูกประทับใจ เป็นปลื้ม แล้วลูกก็คิดว่าความรู้สึกนั้นเป็นความรักก็ได้ จำไว้นะลูก อย่าทำให้ความรักมาทำร้ายให้เราต้องเสียน้ำตา หากฟ้าคิดที่จะรักใครสักคน ลูกต้องเรียนรู้ที่จะให้เขาคนนั้นอย่างที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน นั่นแหละที่จะบอกให้ลูกรู้ว่า ลูกรักคนคนนั้น........
ยังไม่ทันที่แม่ของฉันจะพูดจบ หยดน้ำใสๆก็ไหลลงอาบแก้มฉันอย่างยั้งไม่อยู่เสียแล้ว
ฟ้าจะจำที่แม่บอกค่ะ ฉันเอื้อมมือไปโอบกอดร่างท้วม พร้อมกับกระชับแขนให้แน่นขึ้น เงียบสงัดเหลือเกินเวลานี้....
ฉันปาดน้ำตาและลุกขึ้นนั่ง แม่คะ ฟ้าไปอาบน้ำก่อนนะคะ ชักหิวแล้วล่ะค่ะแม่....ฉันยืดตัวขึ้นอีกนิดก่อนที่จะประทับรอยจูบลงที่แก้มนวลของผู้ที่นั่งอยู่ข้างๆ
..............................................................................................
ฉันทรุดตัวลง แล้วปล่อยเสียงโฮ ออกมาอย่างยั้งไม่อยู่ ทันที ที่ประตูไม้บานใหญ่ถูกปิด............. ฉันไม่อยากเป็นแบบนี้เลย ฉันพยายามที่จะไม่หลงไหลได้ปลื้มกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับพี่ตะวัน ฉันพยายามบอกกับตัวเองทุกครั้งว่า ฉันเป็นน้องสาวของพี่ตะวัน ฉันไม่อยากหลงรักพี่ตะวันแบบนี้เลย จะมีใครรู้บ้างไหว ว่าการหลงรักคนที่เขาไม่ได้รักเรามันเป็นความทรมานอย่างแสนสาหัส
จะมีใครรู้บ้างไหมว่าการที่เราไม่สามารถไขว่ขว้าสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมัน มันทรมานขนาดไหน จะมีใครรู้บ้างไหมว่าระหว่างฉันกับพี่ตะวันมันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลย
ฉันจำภาพในวันนั้นได้ดี ภาพที่พี่ตะวันคุกเขาสารภาพรักที่สนามหญ้าหลังบ้าน ภาพที่พี่ตะวัน สวมกอดคนคนนั้น ภาพที่เขาสองคนจูบกัน......ฉันแทบจะทรุดลงตรงนั้น ฉันเหมือนคนหัวใจแตกสลาย ฉันปฏิเสธตัวเองไม่ได้เลยว่า ฉันอยากเป็นคน
ที่ยืนอยู่ตรงนั้น
2 วันต่อมา พี่ตะวันตัดสินใจถามฉันเรื่องวันนั้น พี่ตะวันรู้ว่าฉันยืนอยู่ตรงนั้น เขารู้มาตลอดว่าฉันรู้สึกอย่างไรกับเขา ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เขาจงใจให้มันเป็นอย่างนั้น เพราะอย่างน้อยมันก็คงจะดีกว่าการที่เขาจะบอกปฏิเสธฉันตรงๆ พี่ตะวันขอให้ฉันเก็บเรื่องในวันนั้นเป็นความลับ เพราะเขาไม่อยากให้ใครรู้เรื่องที่เขามีแฟน เขารู้ว่าหากคนที่เขาพาเข้าบ้านไม่ใช่คนที่แม่ของเขาหามาให้จะเป็นอย่างไร...แน่นอน ฉันรับปากพี่ตะวัน ในตอนนั้นฉันคิดว่าอย่างน้อยฉันก็อยากให้พี่ตะวันหันมามองฉันบ้าง ตราบใดที่ยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ฉันก็ยังพอมีโอกาส แต่ฉันคิดผิด.......
จากวันนั้นถึงวันนี้ มันผ่านมาแล้ว 5 ปี ความสัมพันธ์ของเขาทั้ง 2 ยังเป็นไปด้วยดี ฉันพยายามตัดใจมาแล้วหลายครั้ง
คำพูดที่พี่ตะวันพูดกับฉันไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมายังคงดังก้องในหูของฉัน
ฟ้า...พี่รู้นะว่าวันนี้วันเกิดฟ้า พี่ขอโทษนะที่พี่อยู่ฉลองกับฟ้าไม่ได้ ฟ้าเข้าใจพี่นะ มือใหญ่ๆพยายามที่จะลูบหัวฉัน แต่ฉันกลับสะบัดตัวเป็นการปฏิเสธกริยาอาการนั้น
ฟ้าไม่เข้าใจค่ะ ...แล้วก็ไม่อยากเข้าใจด้วย ...อีกครั้งที่ฉันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
พี่ตะวันจับหัวไหล่ 2 ข้างของฉัน ก่อนที่จะใช้มือข้างหนึ่งจับปลายคางของฉัน เพื่อให้ฉันเงยหน้ามองเขา
ฟ้า วันนี้พี่อยู่กับฟ้าไม่ได้จริงๆ ดล...อื่ม แฟนพี่ เขาต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัด 2 อาทิตย์หากพี่ไม่ไปหาเขาคืนนี้ พี่กับดลก็จะ.....
พอเถอะค่ะพี่ตะวัน ฟ้าไม่อยากรับรู้แล้วค่ะ ฟ้าขอโทษนะคะ ที่ยังทำใจไม่ได้...........มันเป็นไปไม่ได้ใช่ไหมคะ ที่พี่ตะวันจะหันมาชอบผู้หญิง ฉันจ้องมองชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่กล้าที่จะคาดเดาคำตอบ
พี่ขอโทษ พี่ทำไม่ได้จริงๆ พี่ตะวันมองหน้าฉัน อย่างรู้สึกผิด
ขอโทษเรื่องวันนี้นะคะ ฟ้ากลับละค่ะ ฉันวิ่งกึ่งเดินออกมาจากบ้านขนมหวานสีสวยของฉัน โดยไม่ได้ร่ำลาผู้ใหญ่ในบ้านเลยสักคน......
...................................................................................
จริงหรือที่ฟ้ากับตะวันเป็นของคู่กัน ?
สำหรับฉัน........ฉันคงเป็นได้เพียงฟ้ายามค่ำคืน
ฟ้า
..ที่ไม่มีโอกาสจะได้เคียงคู่ดวงตะวันแม้สักวินาที
แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 47 17:02:59
จากคุณ :
รวยระรินกลิ่นชา
- [
5 ต.ค. 47 16:50:45
]