CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ดอกไม้เหนือผาชัน(ตอนที่3)

    ตะวันลับขอบฟ้า..ดวงดาวนับล้านดวงเเข่งกันฉายเเสงของตัวเอง..ล่องลอยอยู่รอบกายของดวงจันทร์สีนวลนั้น..มันเป็นภาพที่งดงามของใครหลายๆคน..เเต่ไม่ใช่เธอเเน่นอน เมื่อใดที่มองภาพนี้ ความอ้างว้างกลับเกาะกินหัวใจไปทีละนิด อย่างไม่รู้ตัว เธอไม่เคยที่จะพิศวาส การออกมาชมเเสงจันทร์เลยสักครั้ง เเต่วันนี้มันเเตกต่างออกไป เธอนั่งมองมันอย่างไม่ละสายตา..จากปลายเตียง..มุมใดมุมหนึ่งของห้องบรรทมเเห่งนี้..พระหัตถ์ทั้งสองต้องคอยเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาอยู่เรื่อยๆ…เธอเฝ้าคิดกับตัวเองเสมอ..มันเป็นธรรมดาไปเเล้วหรือเปล่า ที่ทุกๆคืนต้องนอนร้องไห้ เธอตกอยู่ในภวังค์ชั่วครู่จนใครบางคนเปิดประตูเข้ามาภายในเเล้วปลุกเธอให้ตื่นขึ้นจากภังค์นั้น
    “เฟียส เจ้า หยุดร้องไห้เถิด” เขาสกิด มือใหญ่ลูบหัวเธอเบาๆ ทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครมอบให้เธอ เข้าใจในหลายๆเรื่องที่เธอคิดไม่ถึง เธอรีบปาดน้ำตาออกทันที....
    “ใครว่า ข้า ร้องไห้กัน” หันหน้ากลับไปเผชิญหน้าคนที่นั่งอยู่เคียงใกล้
    ดวงเนตรของผู้ที่กำลังจะกลายเป็น สวามี จับจ้องตัวของเธอไว้ เป็นดั่งโซ่ตรวนที่พาดพันตัวไม่ให้หลุดไปไหน
    “เเน่ใจหรือ เจ้าไม่ได้ปิดบังสิ่งนั้นไว้หรอกหรือ”
    “ไม่..” เธอตอบเบาๆไม่กล้าสบตาเเม้เเต่น้อย
    “เจ้าโกหก” เขาลุกขึ้นเดินไปปิดม่าน ทุกๆสิ่งในห้องนี้มืดมนในทันที สีนวลของเเสงจันทร์สาดส่องเข้ามาไม่ถึงภายใน ณ. ที่นี้มีเพียงความมืดมิด
    “เจ้าอยากจะปิดกั้นตัวเองตลอดไปงั้นหรือ ทำไมมิรับรู้ถึงความสุขที่มีในโลก ทั้งที่มีคนหยิบยื่นสิ่งนั้นให้เจ้ามากมาย!!!” เขาตวาดใส่ ร่างบางนั้นสะดุ้งทันที ก้มหน้าลง น้ำใสๆไหลลงมา เธอพยายามปิดบัง
    “ไม่!!ความสุขของข้ามิใช่สิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนหยิบยื่นให้ ทุกคนไม่ได้รักข้าจากใจจริง เขาเห็นข้าเป็นเพียงตุ๊กตาตัวหนึ่งเท่านั้น!!!”
    เธอก้มลงมือทั้งสองกำผ้าปูเตียงเเน่น..ร้องไห้อย่างไม่อายใคร
    “เจ้า อย่าร้องไห้เลย ประชาชนไม่รักเจ้างั้นหรือ เเต่เจ้าก็ยังมีพระบิดา”
    เขาพยายามปลอบโยนเเต่ไม่มันกลับทำให้น้ำตาเธอหลากไหลยิ่งขึ้น
    “ท่านพ่อ ไม่เคยรักข้า ที่ ข้าทนอยู่ได้ ก็เพื่อประชาชน เท่านั้น” เธอพยายามหยุดเสียงสะอื้นเอาไว้ ปาดน้ำตาอยู่ตลอด
    “อืม ข้าขอโทษ ข้าไม่เข้าใจเจ้าเอง” เขาก้มลง โอบกอดร่างนั้นไว้ในอ้อมเเขน
    “....” เธอถึงกับพูดไม่ออก ไม่เคยรับรู้เลยว่าเวลากอดกับใครสักคนเเล้วมันให้ความรู้สึกที่ดีอย่างนี้ เเม้ตอนกอดกับ เเคร์ สาวใช้คนสนิท ก็ไม่เท่ากับครั้งนี้
    “นอนเถิด อย่าเศร้าไปเลยนะ เเล้วพรุ่งนี้เจอกัน” เขาลูบศรีษะนั้น ให้เธอนอนลงบนเตียงนุ่ม เเล้ว ห่มผ้า ก่อนจะไปก็ไม่ลืมที่จะยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เธอ..
    ..................................................................................................................
    ตะวันฉายเเสงอีกครั้ง เช้าวันเเรกสำหรับเมืองใหม่นี้ มีเเต่ความวุ่นวาย ภายนอกมีเเต่เสียงโหวกเหวก การจัดงานจะถูกจัดขึ้นอย่างเอิกเกริก ในไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ เธอ ดึงผ้าห่มที่พันตัวออก เเล้วเดินไปเปิดม่าน เเสงของพระอาทิตย์สาดส่องเข้ามาได้ดีเหลือเกิน พระเนตรมองออกไปภายนอกอย่างไร้จุดหมาย จนมีสาวใช้คนหนึ่งขัดจังหวะเปิดประตูเข้ามาภายในห้องบรรทม
    “เจ้าหญิง เปลี่ยนฉลองพระองค์เถิดเพคะ เจ้าชายเรียกให้ไปหา” สาวใช้คนนั้นพูดอย่างรีบเร่ง
    “เเล้ว เเคร์ เล่า” เธอตรัสถามมองหาซ้ายขวาก็ไม่มี
    “ไปจัดเตรียมชุดสำหรับงานราตรีเพคะ”
    “อืม ออกไปเถิด” รับสั่ง ก่อนจะหันหลังไปเปลี่ยนฉลองพระองค์ที่ถูกจัดเตรียม อย่างดี ใกล้ๆ
    .................................................................................................................
    ไม่ถึง 30 นาที เจ้าหญิงผู้สง่างามก็มานั่งสนทนาอยู่กับเจ้าชายเสียเเล้ว
    ภาพในมุมที่เธอไม่เคยเห็น พื้นที่ปกคลุมด้วยหิมะ อากาศหนาวเย็น เเตกต่างจากบ้านเมืองที่จากมายิ่งนัก
    “เจ้าอยากจะใช้ชีวิตอย่างชาวบ้านใช่มั้ย” คนที่นั่งเป็นคู่สนทนาอยู่นั้นหันมาถาม
    “ ใช่” เธอตอบ
    “งั้น ไปกัน” เขาจูงมือ เธอที่กำลังงุนงงกับคำพูดนั้น
    “เอ้า ขึ้นรถม้าสิ” เขาพยุงให้เธอเดินขึ้นไป
    “เรา จะไปไหนกัน”
    “เอาเถิด เดี๋ยวก็รู้เอง” เขากระโดดขึ้นไปนั่งในที่คนบังคับม้าอย่างชำนาญ เเร้วรีบเร่ง ไปยังสถานที่เเสนไกลนั้น เพียงสองคนผ่านป่าไม้ไปไม่มาก ก็ถึงที่ๆหนึ่ง
    กระท่อม เล็กๆ ไม่ใหญ่เเต่ดูเเข็งเเรง ต้นไม้เมืองหนาวขึ้นอยู่เป็นจุดๆ ลำธาร ไหลรินอยู่ข้างๆ ภาพที่เธอใฝ่ฝัน
    “บ้าน” เธออุทานเบาๆ
    “อื้ม บ้านของเรา”
    “บ้านของเรา?? ท่านพูดอะไรน่ะ”
    “ก็ บ้านของเราสองคนเจ้าบอกว่าเจ้าอยากอยู่เเบบชาวบ้าน ไม่ใช่หรือ ถ้าผ่านฤดูหนาวไปเเล้ว ต้นไม้จะขึ้นสวยงาม เลี้ยงสัตว์ก็ได้” เขาหันมาสบตาเธอ
    “....ขอบคุณ” เธอพูดเบาๆหลบสายตา
    “เราจะอยู่กันสองคนนะ ในวันที่อยากมา เราจะมากัน” เขาโอบกอดเธออีกครั้ง
    “เสียมารยาท” เธอผลักเขาออก ก้มหน้าอย่างอายๆ
    “อ้าว ทีเมื่อคืนยังได้เลย”
    “เมื่อคืนอะไร!!ข้าเป็นหญิงนะ เดี๋ยวข้าก็เสียหมดพอดี”
    “ฮ่าๆ เสียยังไงวันนี้ก็ต้องเเต่งงานกันเเล้ว เจ้าเสียก็ไม่เห็นเป็นไรนี่” เขาพูดหยอกล้ออย่างสนิทสนม เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยชินเสียเหลือเกิน... อ้อมเเขนใหญ่โอบกอดร่างบางไว้ภายใน
    “เฮ่อ” เธอลอบถอนหายใจเบาๆ เหนื่อยกับพฤติกรรมเเบบนี้ของเขาเสียเหลือเกิน
    “อ้ะ รีบกลับกันเถิด ทางนั้นคงจะตามหากันให้ทั่ว” เขารีบละอ้อมกอดออก พาเธอขึ้นรถม้า เเล้วรีบออกเดินทางอย่างรวดเร็ว.....
    เธอมองทิวทัศน์ข้างทางเหมือนกับไม่เคยผ่านมาทั้งที่ตอนมาก็จ้องมองมันมาตลอด เธอเเอบอมยิ้มเล็กๆหันมามองเเผ่นหลังกว้างของคนๆนั้น ดูเหมือนกับเธอพบความสุขที่เธอตามหาที่เมืองนี้เสียเเล้วกระมัง
    .............................................................................................


    55 เเละเเล้วตอนที่3ก็เสร็จไป ขอบคุณมากค่ะ ที่ติกันมา
    ก็ยอมรับค่ะว่าจุดมันเยอะจริงๆล่ะเนอะ ตอนนี้ก็พยายามตัดมันออกค่ะ มันกลายเป็นความเคยชินไปเเล้วล่ะ เอ้อ
    ครั้งนี้ก็ช่วยติชมกันอีกนะคะ ดีใจมากเลย อิอิ เรารุสึกว่าตอนสามเเต่งได้ ห่วย กว่าตอนหนึ่ง กับ ตอนที่สองใช่หรือเปล่าคะ เอ...

    จากคุณ : ^^ - [ 5 ต.ค. 47 18:40:15 A:202.133.176.154 X: ]