CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    บันทึกจากใจ...ของใครหลายคน

    14 พ.ย. 46
    21.00 น. : สวัสดี...สมุดบันทึกเล่นแรกในชีวิต มันจะเป็นเล่มสุดท้ายของฉันหรือเปล่านะ คงตอบไม่ได้แฮะ ก็แกไม่มีชีวิตนี่นา จะพูดได้ไง!!! ดูเหมือนว่าแกจะเป็นของขวัญวันเกิดชิ้นแรกจากพ่อกับแม่ที่ฉันรู้สึกว่าพอจะทำใจรับได้บ้าง (แม้รูปลักษณ์ภายนอกของแกออกจะน่าเกลียดอยู่สักหน่อย) ตั้งแต่ฉันมุดออกมาจากช่องคลอดของแม่ ฉันมักจะได้รับแต่สิ่งที่ฉันไม่เคยพอใจอยู่ตลอด แม่จะรู้บ้างไหมนะ ว่าฉันขยะแขยงสารานุกรมฉบับสมบูรณ์ (ของขวัญวันเกิดตอนฉันอายุได้ 8 ขวบ) มากแค่ไหน แล้วพ่อจะรู้ไหมนะ ว่าฉันออกจะเอียนเต็มกลืน กับรองเท้าบัลเล่ต์อย่างดีจากฝรั่งเศสที่พ่อซื้อให้ในวันเกิดปีที่ 13 ช่างเถอะ อย่างน้อยแกก็คงจะภูมิใจได้หน่อยล่ะว่า แกเป็นของขวัญวันเกิดชิ้นแรกที่ฉันเต็มใจจะหยิบขึ้นมาใช้
    ปล. ปีนี้ฉันอายุ 15 แล้ว (เป็นสาวแล้วด้วยล่ะจะบอกให้)

    23 พ.ย. 46
    18.00 น. : ไดอารี่…ฉันมีอะไรจะบอกแกด้วยล่ะ วันนี้พี่เป๊กมาสารภาพรักกับฉัน ตื่นเต้นเป็นบ้าเลย ก็แหม!!! เขาออกจะเพอร์เฟ็คขนาดนั้น เป็นฮีโร่ที่ฉันใฝ่ฝันถึงมานานแล้ว นักกีฬาของโรงเรียนที่สาวๆ กรี๊ด แต่ฉันก็คว้าหัวใจเขาเอาไว้ได้ เจ๋งไหมล่ะ...แต่ก็ต้องเซ็งสุดจะเซ็งตอนกลับมาเจอหน้าแม่ แม่ช่าง...เป็นอะไรที่ไม่สามารถสรรหาคำมาอธิบายได้ ฉันมักจะเจอกับประโยคคำถามซ้ำๆ ซากๆ หิวไหม? วันนี้เรียนเป็นไงบ้าง? ไม่มีเรียนพิเศษทำไมกลับช้าจัง? เรียนเปียโนไปถึงไหนแล้ว? แล้วบัลเล่ต์ล่ะ? แม่ลงคอร์สดนตรีไทยให้แล้วนะ เริ่มเรียนวันเสาร์นี้? ฯลฯ ฉันได้แต่แอบงงอยู่ในใจ ว่าวันเสาร์นี้ฉันต้องเรียนพิเศษตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น (รวมถึงวันอาทิตย์ด้วย) แล้วฉันจะเอาเวลาที่ไหนไปเรียนดนตรีไทยอีก แต่ก็งงได้ไม่นานเท่าไร เพราะคิดได้ว่า แม่มักจะจัดตารางเวลาเรียนให้ฉันได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง (ยังมีอะไรที่ฉันยังไม่ได้เรียนอีกไหมเนี่ย...) เออ...ใช่ ฉันมีอะไรจะสารภาพกับแกอีกอย่างด้วยล่ะ พี่เป๊กเขาแอบหอมแก้มฉันด้วย (ตอนเขากระซิบข้างๆ หูว่า...)

    15 ธ.ค. 46
    22.00 น. : โว้ยยยยย...อะไรกันนักกันหนาเนี่ย!!! พ่อทะเลาะกับแม่อีกแล้ว เบื่อ..ๆๆๆๆๆๆๆๆ เมื่อไรจะหยุดตะโกนใส่กันสักทีนะ คนจะหลับจะนอน เขาสองคนจะรู้บ้างไหมเนี่ย ว่าวันนี้ฉันเหนื่อยกับการเรียน (ที่แม่พยายามยัดใส่มาในตารางเวลาของฉัน) มากแค่ไหน ฉันรู้...ว่าความเหนื่อยของฉันแค่นี้คงไม่เท่ากับที่พ่อทำงานมาเหนื่อยๆ หรอก แต่แหม...คนกำลังหลับฝันดี...จะอะไรซะอีกล่ะ...จุ๊จุ๊ ...อย่าไปบอกใครนะ...ฉันแอบฝันถึงพี่เป๊กด้วยล่ะ เฮ้อ...เสียงแม่ผ่านกำแพงมาอีกแล้ว...ถ้าฉันเป็นพ่อนะ ก็คงเปลี่ยนเมียน้อยได้บ่อยกว่าพ่อแน่ๆ ถ้าได้คนอย่างแม่เป็นศรีภรรยาน่ะ...เพราะอะไรน่ะเหรอ...ไม่บอกหรอก (สำลีอยู่ไหนหว่า...)

    23 ธ.ค. 46
    23.00 น. : วันนี้มีเรื่องให้ตื่นเต้นอีกแล้ว...ฉันกับพี่เป๊กแอบจูบกันที่ห้องเก็บอุปกรณ์ในโรงยิม โว้ววว...วิเศษอะไรอย่างนี้นะ มันตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก ถ้ากรรมการนักเรียนมาเห็นฉันในสภาพตอนนั้น พวกเขาคงปลดฉันออกจากนักเรียนดีเด่น ช่าง...ฉันไม่สนหรอก ก็ฉันรักพี่เป๊กนี่...คนรักกัน สมัยนี้ก็ต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เพื่อนๆ ฉันก็ทำออกกันเยอะแยะ (เท่าที่พวกมันแง้มๆ ให้ฟังนะ) แต่ฉันยังสงสัยอยู่อย่าง เหมือนพวกนั้นมีอะไรปิดบังฉันอยู่นะ...พูดเรื่องแฟนไม่ได้ ต้องหัวเราะกันคิกคัก พอถามก็ไม่มีใครบอก...พูดแต่ว่า เดี๋ยวพี่เป๊กก็บอกเอง...ก็ฉันอยากรู้นี่นา 5ทุ่มแล้ว ทำไมพ่อยังไม่กลับนะ วันนี้แม่หงุดหงิดอารมณ์เสียอีกตามเคย ไล่เบี้ยกับฉันตั้งแต่หัวค่ำ แม่มักจะพิถีพิถันกับฉันเสมอ ทั้งเรื่องการแต่งตัว ดูแลผิวพรรณทุกสัดส่วน กินอาหารยังไงถึงจะบำรุงผิว ทาครีมหลังอาบน้ำและก่อนนอน ที่สำคัญฉันต้องเป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้วในสายตาของแม่ แม่จะรู้บ้างไหมนะ...ว่าฉันเบื่อเต็มทน

    14 ก.พ. 47
    23.58 น. : ไดอารี่จ๋า...วันนี้เป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุดเลย วันวาเลนไทน์วันนี้ ฉันแอบโดดเรียนพิเศษไปเที่ยวกับพี่เป๊กทั้งวัน แถมตอนเย็นพี่เป๊กยังแอบเซอร์ไพรส์ เลี้ยงอาหารในบรรยากาศใต้แสงเทียนที่บ้านของเขา เราอยู่กันในบ้านเพียงแค่สองคนเท่านั้น เพราะพ่อแม่ของพี่เป๊กไปต่างจังหวัด อะแฮ่ม ในที่สุดฉันก็รู้แล้วล่ะว่า ที่เพื่อนๆ มันแอบหัวเราะกันคิกคักคิกคัก น่ะ เรื่องอะไร อิอิ เฮ้อ มีความสุขจริงๆ เขาคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉันจริงๆ นะ ฉันรักพี่เป๊กจังเลย...

    8 มี.ค. 47
    20.19 น. : วันนี้เป็นวันมหาวิปโยคสำหรับฉัน หลังสอบเสร็จ พี่เป๊กนัดฉันไว้ที่หลังโรงเรียน เค้าบอกเลิกฉัน... เขาบอกว่าฉันน่าเบื่อ เขาไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว มันทำให้ฉันช็อกสุดจะช็อก เราคบกันได้ไม่กี่เดือนเอง ทำไมมันเร็วอย่างนี้ ไม่ได้นะ เค้าจะทิ้งฉันไม่ได้ ฉันไม่ยอมเด็ดขาด...โอยย...นั่นเสียงฟ้าแตกหรือไงนะ จะทะเลาะกันไปถึงไหน...

    12 มี.ค.47
    03.08 น. : ฉันเพิ่งกลับถึงบ้านล่ะ…แปลกใจล่ะสิ ก็วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันแอบหนีเที่ยว สะใจเป็นบ้า ที่ได้ทำอะไรหลุดโลกแบบนั้นบ้าง ฉันขี้เกียจเขียนแล้วล่ะ ไปนอนดีกว่า

    13 มี.ค.47
    04.49 น. : เคยปีนหน้าต่างบ้านตอนกำลังเมาไหม …ฉันเพิ่งปฏิบัติการแบบเย้ยฟ้าท้าดินเมื่อกี้นี้เอง...วันนี้ฉันเจอไอ้เป๊กกับเมียใหม่ของมันในเธคด้วย ฉันเอาเหล้าสาดหน้ามัน แล้วต่อยไปเปรี้ยงหนึ่ง เจ็บมือว่ะ

    20 มี.ค. 47
    05.15 น. : ฉันชักติดใจรสชาติของการแอบหนีเที่ยวซะแล้วสิ แม่ชักสงสัยแล้วด้วยว่าทำไมขอบตาฉันมันถึงดำมืดขนาดนั้น แม่นี่จุ้นจ้านไปหมดซะทุกเรื่องอยู่เรื่อย สาละวนกับการทาอายเจลให้ฉันเสียยกใหญ่ สูตรบำรุงผิวของที่โน่นที่นี่ถูกยกออกมาสาธยายให้ฉันทำตาม เขาเข้าใจว่าฉันอ่านหนังสือเรียนดึก ได้แต่ชมไม่ขาดปาก เฮ่อ เฮอะ อยากหัวเราะดังๆ

    27 มี.ค. 47
    16.00 น. : วันนี้แม่ไปอำเภอเพื่อหย่ากับพ่อแล้ว พ่อยกให้ฉันอยู่ในความดูแลของแม่ ฉันชักกลุ้มแฮะ ไม่ใช่อะไรหรอก ฉันไม่มีธนาคารเคลื่อนที่ให้กดเงินสำหรับไปเที่ยวแล้วน่ะสิ แต่ก็ดีไปอย่าง ที่ต่อไปนี้ฉันไม่ต้องมานั่งคอยหาสำลีอุดหูก่อนนอน (เฉพาะวันที่ฉันไม่ได้กินเหล้าจนเมาหลับไปเท่านั้นแหละ)

    30 มี.ค. 47
    05.45 น. : วันนี้ฉันรู้วิธีหาเงินมาเที่ยวแล้ว ออกจะขยะแขยงอยู่บ้าง แต่ก็สนุกไปอีกแบบ ฉันไม่แคร์อะไรอีกแล้ว เมื่อวานนี้แม่ก็เอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายพล่ามเรื่องพ่ออยู่คนเดียว น่ารำคาญจริงๆ

    14 เม.ย. 47
    03.56 น. : ขอนอนก่อนนะ วันนี้เพลียจัง...
    26 เม.ย. 47
    16.09 น. : ช่วงนี้ฉันหยุดเที่ยวไปหลายวันแล้ว มันเหนื่อยๆ เพลียๆ ยังไงไม่รู้ น่าโมโหจริงๆ ไม่รู้ฉันไปกินอะไรมา ท้องเสียอย่างรุนแรง น่าเบื่อที่สุด แม่ทำตัวน่ารำคาญอีกแล้ว วันนี้เอาแต่พร่ำรำพันให้ฉันฟังถึงวันเก่าๆ ที่แม่กับพ่อยังรักกัน ฉันได้แต่พยักหน้าหงึกๆ ไปตามเรื่อง แม่จะพาฉันไปโรงพยาบาล เพื่อไปตรวจว่าเป็นอะไรกันแน่ ขี้เกียจจริงๆ

    30 เม.ย.47
    13.47 น. : วันนี้แม่โวยวายทะเลาะกับหมอลั่นโรงพยาบาล แม่ไม่เชื่อผลตรวจของหมอ ตอนแรกฉันก็งงๆ ว่าเสียงโวยวายอะไร แต่ก็จำเสียงแปร๋นๆ ของแม่ได้ในทันที (ก็เสียงนี้ฉันได้ยินอยู่ทุกคืนนี่ ตอนที่พ่อยังอยู่กับเราน่ะ) ตอนแรกฉันก็ตกใจนะ กับสิ่งที่ฉันได้ยิน แต่ตอนนี้เริ่มปลงๆ แล้วล่ะ คนมันจะตาย ต่อให้อยู่ในที่ปลอดภัยแค่ไหนมันก็ตาย ทำชีวิตตัวเองให้มีความสุขดีกว่า เดี๋ยวต้องโทรไปนัดเพื่อนตัวแสบอีกสองคน คืนนี้จะไปแรดที่ไหนดีนะ...

    อดีตภรรยาของผมนำสมุดบันทึกเล่มนี้มาคืนให้ หลังจากงานศพของลูกสาวผมผ่านไปได้ไม่กี่วัน เธอบอกว่า เธอเปิดอ่านไม่ได้เพราะไม่มีกุญแจ ผมเลยใช้ทักษะพิเศษเล็กๆ น้อยๆ ส่วนตัวจนสามารถเปิดมันออกอ่านได้ ระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนที่ลูกผมบรรยายความรู้สึกทั้งหมดของเธอไว้ในสมุดบันทึกเล่มนี้ ยังไม่ทำให้ผมรู้สึกตกใจเท่ากับเหตุการณ์ที่ผมเพิ่งพบเจอมาสดๆ ร้อนๆ ในคืนนี้ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมตัดสินใจเขียนบันทึกต่อจากลูก เพื่ออย่างน้อย มันก็คงพอจะเป็นเครื่องเตือนใจให้ผมได้คิดและคอยย้ำเตือนตัวเองในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่นี้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทั้งตัวผมเองและอดีตภรรยาได้กระทำลงไปนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ลูกสาวของผมจากไป...อย่างไม่มีวันกลับ...

    วันนี้ก็เป็นเหมือนอีกหลายๆ วันที่ผมใช้เวลาหลังเลิกงานในการหาความสุขใส่ตัว ผมขับรถออกจากที่ทำงานไปถึงยังสถานบันเทิงแห่งหนึ่งเมื่อเวลาประมาณ 4 ทุ่มเศษๆ ผมนั่งจิบเบียร์อยู่ตรงมุมหนึ่งของร้าน พลางสอดส่ายสายตามองหาเด็กสาวๆ ที่ผมหมายมาดว่าจะหิ้วไปนอนด้วยคืนนี้ เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ ผมก็ยังไม่เจอคนที่ถูกใจ ผมเลยตัดสินใจเดินออกจากร้านเพื่อขับรถกลับคอนโด แต่ขณะที่ผมกำลังควานหากุญแจรถในกระเป๋า ก็มีเด็กสาวคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหาผม รูปร่างหน้าตาของเธอดูแล้วอายุคงจะประมาณ 16-17 ปี เธอดูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นกับผมว่า “น้าๆ หนูขอพันหนึ่งได้ไหม แล้วเดี๋ยวหนูให้น้าจิ้มทีหนึ่ง”

    ผมออกจะตกใจเล็กน้อย เพราะถึงแม้จะเคยได้ยินข่าวคราวจากนักเที่ยวด้วยกันมาบ้างว่า มีเด็กสาวๆ หลายคน มักจะใช้วิธีแบบนี้เพื่อหาเงิน แต่ก็ยังไม่เคยเจอกับตัวเอง ผมดูรูปร่างหน้าตาและการแต่งตัวของเธอแล้วถูกสเป็คผมทุกอย่าง เลยตอบตกลง

    “แล้วจะไปที่ไหน โรงแรมเหรอ” ผมถาม
    “บนรถได้ไหมน้า หนูรีบ จะเอาเงินไปจ่ายค่าเหล้าน่ะ” ผมก็พยักหน้าตกลง เพราะในกระเป๋าสตางค์ผมมีถุงยางอนามัยติดตัวไว้อยู่แล้ว จึงไม่กังวลสักเท่าไร แถมในบริเวณนั้นก็ค่อนข้างมืดพอสมควร

    หลังเสร็จกามกิจ ขณะที่เด็กผู้หญิงคนนั้นกำลังแต่งตัว เธอก็เปรยขึ้นมาเบาๆ ว่า “น้านี่ดีนะ รู้จักป้องกันด้วย ลูกค้าบางคนไม่ยอมให้ใส่ถุงยางเลย หนูน่ะกลั๊วกลัว เพราะตั้งแต่เพื่อนหนูมันเป็นเอดส์ตายไปนะ โหย พวกหนูระวังตัวกันแจเลยล่ะ”

    ผมได้แต่หัวเราะ แล้วแซวหญิงสาวคราวลูกว่า “กลัวเอดส์เหมือนกันเหรอเรา”
    เธอหัวเราะ “มันไม่ได้กลัวตายหรอกนะน้า กลัวโทรมมากกว่า เดี๋ยวหาลูกค้าไม่ได้แล้วซวย ไม่มีเงินไปเที่ยว เพื่อนหนูที่มันเพิ่งเป็นเอดส์ตายไปน่ะ ขนาดมันรู้ทั้งรู้นะ ว่ามันติดโรคมา มันยังทำแบบเดียวกับหนูอยู่เลย จนมันตายไปนั่นแหละ”

    “พวกหนูนี่สวยๆ หน้าตาดีกันอย่างนี้ทุกคนหรือเปล่า” ผมถามขึ้นหลังจากที่เธอเปิดประตูลงจากรถ เพราะใส่เสื้อผ้าเสร็จพอดี “ทำไมเหรอน้า”
    “ก็เผื่อน้าจะมาขอใช้บริการอีกน่ะสิ ไม่อยากได้เหรอ ลูกค้าขาประจำน่ะ”

    “นี่ หนูมีรูปถ่ายกับเพื่อนๆ อยู่ด้วย พวกเราไม่ได้ทำเป็นอาชีพอะไรจริงจังหรอกน้า แค่หาเงินค่าเหล้า ค่ายา ไปวันๆ เท่านั้นล่ะ แล้วน้าไม่ต้องห่วงเรื่องสรรพคุณนะ พวกเพื่อนๆ หนูทุกคนขาวสวยหมวยเซ็กส์กันทั้งนั้นแหละ ลูกผู้ดีใจแตกแอบหนีพ่อแม่ออกมาเที่ยวเยอะแยะไป”

    เธอยื่นรูปขนาดพกพาติดกระเป๋าออกมาให้ผมดู ผมสอดส่ายสายตาเผื่อเจอคนที่ถูกใจจะได้เรียกมาใช้บริการ แต่แล้วผมก็สะดุดตากับเด็กสาวคนหนึ่งในรูป มันทำให้ผมตัวแข็งไปชั่วขณะ แล้วเธอก็เดินมาชี้ให้ดูรูปของเด็กสาวน่ารักผิวขาวคนนั้น เด็กสาวคนที่ผมเห็นเธอมาแต่เล็กแต่น้อย เด็กสาวคนที่ผมไม่มีโอกาสได้เลี้ยงดูเธออยู่หลายเดือน จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เด็กสาวที่เจ้าโรคร้ายได้พรากเธอไปจากอกผม

    “นี่ไงน้า เพื่อนหนูคนนี้ล่ะ ที่มันเป็นเอดส์ตาย ที่หนูเล่าให้ฟังเมื่อกี้ไง”
    ---------------------- จบ ----------------------

    เป็นเรื่องที่ 3 แล้ว ที่โพสท์ไว้ในห้องนี้ค่ะ ช่วยวิจารณ์กันหน่อยนะคะ จะได้เอากลับไปแก้ไขค่ะ ขอบคุณมั่กมาก

    จากคุณ : ^^น้องฟ้า^^ - [ 6 ต.ค. 47 22:43:46 ]