CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    GET HIM !! 2

    วันนั้นฉันขึ้น BTSกลับบ้าน ยื่นเหม่อๆมองออกไปทางวิวข้างนอก คิดนู่นนี้ใจลอยไปเรื่อย ตอนนี้ใจฉันดูเหมือนจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเสียแล้ว คิดถึงแต่เรื่องเจ้าหนอนน้อยที่ฉันเคยรู้จัก ก็ไอ้ปอน นะละ แหม..ถ้านึกย้อนกับไปก็เสียได้แทนตัวเองที่ถ้าตอนนั้นรับรักมันไปสะวันนี้คง happy ไปแล้ว.... ว่าถึงเรื่องปอนละก็จะทำให้นึกถึงหนังเรื่อง แฟนฉัน อิอิ แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่น่ารักเหมือนน้อยหน่านี้นะสิ
    ย้อนๆๆเวลากลับไปสัก 13-14 ปีเห็นจะได้ ตอนนั้นฉันอยู่ประถมปีที่3 มันเป็นช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ทุกๆครั้งที่ปิดเทอม คุณพ่อมักจะพาฉันกับน้องชายไปเข้าค่ายซัมเมอร์ของ Y.P.D.C เป็นประจำ ความจริงฉันว่ามันเป็นกิจกรรมที่น่าเบื่อมาก เค้าจะจับเด็กๆเป็นกลุ่มเพื่อไปทำกิจกรรมร่วมกัน แต่ปิดเทอมนั้นต่างจากทุกๆที คุณพ่อบอกว่าเราจะมีเพื่อนใหม่มาร่วมเข้าค่ายด้วยขอให้ฉันกับน้องดูแลเค้าให้ดี และ เค้าคนนั้นก็คือไอ้ปอน
    ตอนนั้นปอนดูเป็นเด็กคงแก่เรียน ท่าทางหงิมๆ ใส่แว่นตา และแต่งตัวเรียบร้อย ผิดกับฉันซึ่งออกจะดูทอมบอยและซ่าสุดๆ ที่แรกฉันไม่ค่อยชอบหน้าไอ้หนอนนี้ เท่าไหร่ก็ดูเอาสิคุณ ผู้ชายอะไรเรียบร้อยกว่าฉัน ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงเสียอีก แต่ก็นั้นละนะเด็ก พอเล่นๆกันไปก็เข้ากันได้เอง
    ทุกๆวันพ่อของปอนจะไปส่งปอนที่ค่าย และ มารับปอนที่บ้านของเราตอนดึกๆ คือ ปอนจะกลับจากค่ายมาอยู่ที่บ้านของฉัน ก่อนที่พ่อเค้าจะมารับกลับไปอีกที พ่อปอนเป็นนายธนาคารมีงานยุ่งมาก ดังนั้นปอนจึงมีเวลามากมายที่จะเล่นกับเรา2พี่น้องจนดึก
    เราเล่นกันตามภาษาเด็กผู้ชาย มันสนุกมาก บางครั้งเราก็วิ่งไล่จับเป็นตำรวจกับโจร บางครั้งก็เล่นแปลงร่างยอดมนุษย์ แต่เกมส์ที่มันส์ที่สุดเห็นจะเป็น รถเข็นท่องอวกาศ จริงๆเราก็ตั้งชื่อให้มันดูหรูไปงั้นแหละ จริงๆมันเป็นแค่รถเข็นส่งของที่มีล้อ4ล้อมีพื้นเรียบสูงจากพื้นล่างไม่มากนักไม่มีขอบกั้น และมีที่เข็น น้องชายฉันเป็นขนเข็นและบางที่เราก็พลัดกันเข็น เราจะอิมเมจิ้นว่ามีอุกาบาตพุ่งมาจะชนยานของเรา จะเราก็ก็เบี่ยงตัวหลบซ้ายทีขวาทีอย่างสนุกสนาน บางครั้งก็เบี่ยงจนตัวเองหล่นจากรถไปเลยก็มีเป็นอันได้แผลกันไป
    ความจริงเรื่องสมัยเด็กนั้นฉันจำได้ไม่มากนักเพราะมันออกจะเรือนร่าง แต่มีอยู่ตรงนึงที่ไม่เคยลืมเพราะฉันว่ามันออกจะเป็นความเชื่อที่ตลกๆของไอ้ปอนมัน
    วันนั้นจำได้ดีว่า เป็นวันที่ปอนจะได้ไปเที่ยวกับครอบครัวเราเป็นวันแรก วันนั้นคุณพ่อบอกว่าจะพาเราทุกคนไปทานอาหารทะเลที่ร้านประจำของครอบครัวตรงหาดบางแสน เราเลือกที่จะเอารถเชฟ โรเลต คันใหญ่ของคุณพ่อไป ซึ่งจะนั่งได้ประมาณ 10 คนพอดี คือ ด้านหน้าคู่คนขับ เป็นลุงหมาน (คนขับ) กับป้าศรี เมียแก(พี่เลี้ยง และแม่ครัวประจำบ้าน) ต่อมาเป็นที่นั่งใหญ่ 2ที่แยกกันเป็นของพ่อกับแม่ อีก 2ที่ถัดมาเป็นของพี่ ใบเต้ย ใบตอง 2ฝาแฝด และที่ท้ายสุดเบาะยาวของเรา 3ทหารเสือ ไอ้ปอนนั่งตรงกลาง ระหว่างฉันกับน้องชาย
    วันนั้นฉันเห็นมันนั่งไขว่ห้าง ราวกับผู้หญิง จึงเอ่ยปากถามมันว่า
    “ปอน ทำไมนายต้องนั่งท่าเหมือนกระเทยแบบนั้นด้วย ....ไม่อายตัวเองหรอไง นี้ๆ ผู้ชายเค้าต้องนั่งแบบนี้ถึงจะถูกต้อง” ฉันพูดพลางนั่งไขว่ห้างแบบผู้ชายที่เอาขาพลาดไว้บนหน้าขาให้มันดู
    “อะไร ทิมนายอะนั่งอย่างงั้นมันไม่เรียนร้อย เราควรนั่งให้เรียบร้อย การนั้งแบบเนี่ยมันทำให้เราดูเป็นผู้ดี มีชาติตระกลู”
    (คิดอะไรงี้เง่า ฉันคิดในใจด้วยอาการไม่สบอารมณ์นัก ยังไงสะผู้ชายก็ควรนั้งท่าแมนๆถึงจะถูก) ฉันเมินหน้ามองออกไปทางหน้าต่างแบบไม่สบอารมณ์ ก่อนที่น้องชายฉันจะเอ่ยพูดถึงบางสิ่งบางอย่าง
    “นินิ ปอนนายว่า ทำยังไงเราถึงจะได้ไปดาวอุนตร้าวะ”
    “อืมม.....ไม่รู้ดิ”
    “แล้วนายว่า เครื่องบินจะไปถึงดาวอุนตร้าไหม?”
    “ไม่ รู้ดิ แต่ว่า เครื่องบินอะบินขึ้นไปถึงบนฟ้า ไปถึงสวรรค์เลย”
    “จริงดิ โห...ยอดไปเลยวะ”
    ฉันแอบฟังอยู่เงียบๆด้วยท่าทีไม่สนใจ ในความเชื่อพลิลึก เครื่องบินมันบินไปถึงสวรรค์สะที่ไหนกัน ฉันอะไปมาแล้วเมื่อต้นเดือนก่อนที่คุณแม่พาไปฮ่องกง ฉันมองหานางฟ้าอยู่ตั้งนานไม่เห็นจะมีมีแต่เมฆว่างเปล่า แต่ฉันก็ยังฟังต่อไป สักพักใหญ่ก็ถึงที่ร้านอาหารพอดี
    วันนั้นพวกเราทานอาหารกันจนอิ่ม เล่นน้ำทะเลกันจนเหนื่อยล้า พอขึ้นรถเราเด็กๆก็พากันม่อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
    หลังจากหมดกิจกรรมค่าย YPDC เราก็ไม่ค่อยได้เจอปอนอีก จนกระทั้งวันหนึ่งที่พ่อของปอนต้องไปประชุมที่ต่างจังหวัดเลยต้องนำปอนมาฝากไว้กับบ้านของเรา (ปอนไม่มีแม่เพราะพ่อกับแม่เค้าหย่ากัน ) วันนั้นฉันกับน้องนั่งทานไอศกรีมกันอยู่ที่ร้าน ลุงซานต้า ที่ใกล้ๆกับบริษัทของคุณพ่อ ฉันนั่งอยู่บนเก้าอี้สูงตรงเคาท์เตอร์ที่ตรงหน้าร้านกับที่เลี้ยง ชื่อพี่เงาะ
    “น้องทิมคะ น้องปอนมาคะ” พี่เงาะเรียกฉันพลางชี้มือออกไปนอกร้าน ตรงที่พ่อของปอนกับ ปอนยื่นอยู่ ก่อนที่ปอนจะเดิมมาหาเราที่ร้าน
    ฉันเห็นมันทำท่าแปลกๆ ปอนเอามือ2ข้างแอบไว้ที่ข้างหลังเหมือนกับซ้อนบางอย่างไว้ และเดินมานั่งที่เก้าอี้สูงข้างๆฉัน มือยังคงแอบไว้ข้างหลัง
    “ทิม เรามีของขวัญจะให้”
    “อะไร เอามาดิ”
    “หลับตาก่อนสิ” ฉันก็หลับตาตามคำบอกก่อนที่จะรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างมากระทบถูกแก้มของฉัน และนั้น ไอ้ปอน! มันแอบหอมแก้มฉัน!!! ฉันตกใจมากรีบเอามือพลักตัวเองออกห่างจากมันทันที ทำให้เก้าอี้สูงสูญเสียการทรงตัวและฉันกับเก้าอี้ก็หล่นล้มลงไปพร้อมๆกัน หลังจากนั้นฉันจำอะไรไม่ได้อีก มารู้ตัวอีกที่ก็อยู่ที่คลินิกซะแล้ว เพราะว่าฉันหัวแตก ฉันเดินออกมาจากห้องเย็บแผล จริงๆก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรแค่แผลเล็กๆ ปอนนั่งรออยู่ข้างนอกกับพี่เงาะและน้องชาย
    ปอนมันไม่พูดอะไรอีก ดูมันเงียบผิดปกติ ฉันไม่ได้คุยอะไรกับปอนอีกเพราะฉันอายที่จะคุยแต่นั้นก็เป็นการพบกันครั้งสุดท้ายของวัยเด็ก ...
    หลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้เจอปอนอีกเลยแล้วชีวิตห้าวๆของฉันก็ผ่านพ้นมาเรื่อยๆ จนเข้าชั้นมัธยมปีที่หนึ่ง มันเป็นช่วงที่ความเป็นผู้หญิงของฉันมากขึ้นอีกหน่อยเพราะว่าไว้ผมยาว แต่ชีวิตก็ยังเป็นการเที่ยวเล่นไปวันๆ
    จนวันหนึ่งพ่อเดินมาบอกกับฉันว่า วันมะรืนเพื่อนพ่อจะพาลูกมาฝากอยู่กับเราสัก2-3วัน และเป็นคนที่ฉันรู้จัก แต่ฉันไม่ได้สนใจอะไรมากนักเนื่องด้วยไม่คิดว่าจะเป็นปอน ความจริงฉันไม่เคยลืมเรื่องสาเหตุของการหัวแตกในครั้งนั้น
    ปอนมาครั้งนี้เราคุยกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นปอนมันสูงขึ้นแต่ยังคงใส่แว่น เหมือนเดิม เราคุยกันหลายเรื่องและคุยกันถูกคอ จนก่อนที่ปอนจะกลับบ้านเราก็แลกเบอร์โทรศัพท์บ้านกัน ฉันกับปอนโทรคุยกันแถบทุกวันอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาหลายเดือนด้วยมิตรภาพแห่งความเป็นเพื่อนจนมีเหตุที่ทำให้ทุกอย่างต้องจบลง..
    “ ฮาโหล....เออ..มีไรก็พูดมาดิ” ฉันพูดหลังจากเริ่มรำคานกับเรื่องบางอย่าง
    “ทิม...คือ เรา..เออ...”
    “เออ..เออ...เออ อยู่ได้แกมีอะไรก็พูดมาจะถามไรก็รีบๆ”
    “ทิม มีใครมาจีบยัง”
    “5555 แกบ้าหรอไง อย่างฉันเนี่ยนะใครจะมาเอา”
    “งั้น ทิมคบกับเรานะ”
    “คบไร อย่ามาอำ กรูไม่ขำนะเนี่ย”
    “เออ..เป็นแฟนไง” ปอนพูดทำเอาฉันขำ เนื่องจากวัยเด็กน้อยที่ยังไม่ได้บัญญัติศัพท์คำว่า แฟน ฉันจึงตอบปฏิเสธไปโดยขอให้เป็นเพื่อนๆกันดีแล้ว แต่อยู่ๆไอ้ปอนก็ขำ แล้วบอกว่ามันล่อเล่น ฉันก็ไม่สนใจคิดว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่หลังจากนั้นไอ้ปอนก็เริ่มหายๆไปจากชีวิต แล้วก็หายไปเลย........
    มาถึงตอนนี้ฉันก็เสียดายจริงๆ ใครจะรู้ว่าเจ้าหนอนน้อยตัวนั้น บัดนี้มันได้กลายเป็นผีเสื้อแสนสวยไปซะแล้ว แล้วที่นี้ฉันจะทำยังไงให้จับผีเสื้อตัวนั้นมาเป็นของฉันได้นะ.......

    จากคุณ : ดอกไม้ลอย - [ วันเกิด PANTIP.COM 20:27:15 A:203.145.28.67 X: ]