CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    โลกของผมมีเธอเพียงผู้เดียว

    เธอ…  เปรียบเสมือนดั่งชีวิต  ดั่งดวงใจ  ดั่งความฝัน

    เธอ...   เปรียบเสมือนแสงสว่าง  ส่องนำทางชีวิต

    เธอ...   เปรียบเสมือนดวงตะวัน  ส่องประกายความอบอุ่น  ให้หัวใจรอดพ้นจากความเหน็บหนาว

    เธอ...   คนที่เปรียบดั่งลมหายใจ  หากชีวิตต้องขาดเธอไป  ลมหายใจของผมก็คงจะหยุด

    “คุณนริศ !  คุณนริศคะ  คุณผู้ชายรออยู่นานแล้วนะคะ”    

    ผมไม่สนใจเสียงเรียกของยายแก่คนครัวที่ยืนเคาะประตูอยู่ข้างนอก    ผมรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเสมอเมื่ออยู่ในโลกของผม   โลกภายนอกดูวุ่นวายมีแต่คนคอยกลั่นแกล้งอวดดี  ชิงดีชิงเด่น  ผมยอมเผยตัวออกไปบ้างเวลาที่จำเป็น  แต่เวลารู้สึกกลัวขึ้นมาเมื่อไหร่  ผมก็จะหลบเข้ามาอยู่ในโลกของผม

    โลกของผมที่เคยสงบอบอุ่นและปลอดภัย  บางครั้งก็เงียบเหงา  แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ก้าวเข้ามาแต่งแต้มสีสันให้โลกใบนี้กลายเป็นโลกอันแสนหวาน

    ใบหน้าเธอหวานซึ้งจับจิต  ดวงตาหยาดเยิ้ม  ริมฝีปากบางเฉียบแดงเรืองได้รูป  น่าหลงใหล

    ผิวเนื้อเธอดูขาวผ่อง  นุ่มนิ่ม  เต่งตึง   น่าสัมผัสลูบคลำ

    เวลาคิดถึงเธอทีไร  เลือดหนุ่มในกายของผมมักจะเดือดพล่าน  พลังของการให้กำเนิดชีวิตตื่นตัว   อยากจะมอบความเป็นชาย  ปลดปล่อยความรักอันรุ่มร้อนของผมกับเธอแต่เพียงผู้เดียว

    ผมอยากจะพบตัวจริง ๆ ของเธอสักครั้ง  อยากบอกกับเธอเหลือเกินว่าผมหลงรักเธอจับจิตมากสักเพียงใด   อยากจะบอกเธอว่าโลกของผมมีเธอเพียงผู้เดียว

    Angel says: “วันนี้เข้ามาสายจังเลยนะคะ นริศ”  

    ตัวอักษรนั้นทำให้ผมสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงอันแสนหวานของเธอ

    Naris says: “ครับ  เมื่อคืนเราคุยกันดึกไปหน่อย  ผมเลยตื่นสาย  ต้องขอโทษที”  

    Angel says: “ฟ้าก็เพิ่งตื่นเหมือนกันคะ  นี่ก็เพิ่งอาบน้ำเสร็จยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยเลย  ขอโทษนะคะขอไปใส่เสื้อผ้าก่อน”

    อ่านประโยคนั้นของเธอ    ทำให้เลือดในกายของผมร้อนระอุขึ้นมา     เดือดพล่านไปด้วยพลังหนุ่ม  มโนภาพของเธอค่อย ๆ ปรากฏชัดขึ้นตรงหน้า   ร่างเพรียวบาง ขาวผ่อง นวลเนื้อนุ่มละมุนกำลังห่อหุ้มไปด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก ๆ  ปกปิดเพียงกลางลำตัว  เผยท่อนบนอันเปลือยเปล่า  โคนขาขาวนวลเนียน  แล้วมือขาว ๆ ของเธอก็ค่อย ๆ ปลดผ้าผืนนั้นร่วงหล่นลงมากองที่ข้อเท้า  

    โอ..ทรวงอกเธอช่างตูบขาว  น่าสัมผัส   เม็ดประทุมสีชมพูชูชันเด่นชัด   เบื้องล่างอุดมไปด้วย....

    “ไอ้นริศ !  ไอ้นริศ !”   เสียงนั้นพร้อมกับเสียงประตูที่ถูกผลักออกอย่างแรง

    เกลียดนักเชียว  ไอ้พวกที่ชอบมาทำให้มโนภาพของเธอตรงหน้าหายไป   หากผมฆ่ามันได้  ผมจะฆ่ามันให้หมด  ไอ้คนที่มาพรากเอาเธอไปจากผม

    “พ่อเรียกตั้งนานสองนาน  ทำไมไม่ลงไป   วัน ๆ เอาแต่นั่งดูรูปโป๊ในเนต”

    มันตรงเข้ามาตะโกนใส่หน้าผม    แล้วกระชากลากผมไปที่ประตู

    “ไป !  ไป !   ไปหาพ่อ”

    ผมสุดจะทน  กระชากมือสกปรกของมันออกจากคอเสื้อผมอย่างแรง

    “ไอ้นริศ  มืงอย่าชั่วนักเลยวะ  เกิดมาก็นอกคอก  มีแม่เป็นกระหรี่   ยังเสือกทำตัวนอกคอก  วันหนึ่งพ่อจะหมดความอดทน  แล้วไสหัวมืงไปอยู่ข้างถนน”  มันชี้หน้าด่ากราดผม

    นรินทร์มันเป็นพี่ชายของผม   แต่ก็แค่พี่ชายที่ผูกพันกันทางสายเลือดพ่อเท่านั้น  เพราะพฤติกรรมกับวาจาที่มันแสดงกับผม  ไม่ต่างอะไรไปจากแสดงกับหมาตัวหนึ่ง

    “คุณนริศคะ  เชื่อคุณนรินทร์เถิดคะ  ตอนนี้คุณผู้ชายไม่สบายใจมากนะคะที่วัน ๆ คุณก็เอาแต่หลบตัวอยู่แต่ในห้อง  ไม่ยอมไปเรียนหนังสือ”

    ยายแก่คนครัวชอบทำปากดีเที่ยวมาสั่งสอนผม  ที่แท้แล้วมันก็เหมือนคนอื่น ๆ คอยด่าคอยซ้ำเติมผมอยู่ตลอดเวลา

    ไอ้นรินทร์มันยังคงพยายามเข้ามาลากตัวผมออกไป   ในขณะที่ผมดิ้นรนสุดกำลัง

    “พอ ๆ นรินทร์ปล่อยลูก”   แล้วพ่อก็เดินขึ้นมาตามผมด้วยตัวเอง   คงมาบ่นด่าอีกตามเคย

    มันปล่อยผมเหมือนโยนลูกหมาตัวหนึ่ง   ผมรีบเอาแขนยันกำแพงไม่ให้เสียหลักล้มลง  

    พ่อเดินเข้มาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด   จ้องผมเขม็ง

    “นริศ  ฉันมานี่จะมาบอกกับแกว่า  ฉันกำลังจะหมดความอดทนกับแก  การที่ฉันซื้อคอมพิวเตอร์ไว้ให้แกไว้ใช้ส่วนตัว  ก็หวังว่าจะเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในการเรียนของแก  ไม่ใช่ให้แกนั่งหมกมุ่นกับมันทั้งวันแบบนี้   ฉันจะให้เวลาแกอีกปีเดียว  ถ้าปีหน้าแกยังเรียนไม่จบ   ก็ไม่ต้องไปเรียนมันแล้ว  ฉันจะไล่แกไปอยู่ข้างถนน  ไปเป็นไอ้พวกสะถุนเหมือนแม่ของแก”

    ผมไม่เถียง   พ่อไม่ชอบให้ผมเถียง   ตอนเด็ก ๆ ผมเคยเผลอไปเถียง   เลยถูกตีด้วยด้ามไม้กวาดตีเสียเกือบตาย

    “แม่มืงมันชั่วถึงได้หนีตามผู้ชายไป  แล้วก็ทิ้งไอ้เลือดชั่ว ๆ อย่างมืงที่ไม่รู้ว่าใช่ลูกกุหรือเปล่าไว้ให้กุเลี้ยง”

    พ่อมักจะตะโกนประโยคนี้ใส่หน้าผมทุกครั้งที่โกรธจัด    ก็แม่ผมมันเป็นแค่คนรับใช้ในบ้านนี่ครับ  ไม่ได้มีศักดิ์เป็นคุณนายเหมือนกับแม่ของไอ้นรินทร์กับนังนงนาฎ    ถูกไอ้คนสูงศักดิ์พวกนี้กดขี่สับโขกก็คงจะหนีไปเป็นธรรมดา  เหมือนความรู้สึกของผมในเวลานี้

    ชีวิตที่ผ่านมา  ผมเติบโตขึ้นท่ามกลางความรู้สึกต่ำต้อยน้อยวาสนา  เหมือนกับขอความเมตตาและเศษทานที่มีคนในบ้านแบ่งปันให้   คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อเจอหน้ากันทีไรก็เป็นอันต้องดุต้องว่า   ขณะที่ผมไม่เคยได้อะไรเท่าเทียมกับพี่น้องคนอื่น ๆ    ไอ้นรินทร์กับนังนงนาฏมีทุกอย่าง  ได้ทุกอย่างที่อยากได้  ได้ทุกอย่างที่ขอ  นอกจากคอมพิวเตอร์แล้ว   พวกมันก็ยังมีโน๊ตบุ๊คติดตัวอีกคนละเครื่อง  ส่วนผมกว่าจะได้คอมฯ เก่า ๆ เครื่องนี้มาก็ต้องกราบกรานขอร้องพ่อเสียเกือบตาย

    น้อยครั้งที่พ่อจะตีผม   แต่พ่อก็แทบจะไม่เคยห้ามเวลานังคุณนายมันเฆี่ยนตีผม  

    ผมรู้อยู่เต็มอกว่า  พ่อไม่เคยรักผมเลย

    ทุกครั้งที่คุณนายโกรธ  มันก็จะเฆี่ยนผม   ตอนเด็ก ๆ ผมเคยกลัวมาก  ไม่กล้าทำอะไรขัดใจมันเลย   แต่ตอนนี้ผมโตแล้ว  ผมดิ้นรนไม่ยอมให้มันมารังแกอีก   มันเคยบอกให้ไอ้มิ่งกับไอ้ชิตคนงานสวนมารุมกระทืบผมถึงขั้นเลือดตกยางออก   เรื่องมันก็เลยแดงไปถึงพ่อ  โอโห ทะเลาะกันบ้านเกือบแตก   มันก็เลยเข็ดไม่กล้าทำแบบนั้นกับผมอีก

    ชีวิตที่ต้องยืนอยู่บนความปวดร้าวแสนสาหัส   แต่แล้ววันหนึ่งความสดใสก็เริ่มโปรยปรายลงมา  เมื่อพ่อซื้อคอมพิวเตอร์เก่าเครื่องนี้มาให้ผม   ทำให้ผมได้พบกับเธอ

    “คอมฯ เครื่องนี้  เป็นของเจ้าของรีสอร์ทที่ระยอง   พอภรรยาเขาตายไปเขาก็อยากจะขาย  ไม่อยากจะเก็บไว้ให้คิดถึงเธอ”

    ผมจำได้ว่า  ไอ้คนที่มันมาเสนอขายให้พ่อผมมันพูดแบบนี้   รุ่นเครื่องก็ยังไม่ล้าหลังมากนัก  ราคามันถูกกว่าท้องตลาดกว่าครึ่ง  พ่อเลยยอมซื้อให้ผม  คงซื้อให้ด้วยความรำคาญแหละครับ  เพราะผมต้องไปขอยืมใช้ของนังนงนาฎมันบ่อย ๆ

    พวกนั้นออกจากห้องไปกันหมดแล้ว  ผมละความสนใจจากพวกมันทันที    เวลานี้เป็นเวลาของผมกับนางฟ้าสุดที่รัก  เราจะพูดคุยกันตลอดวันตลอดคืนอย่างไม่รู้จักเบื่อ   เธอน่ารักเหลือเกิน

    Angel says: “นริศคะ  ทำไมเงียบไปนานจัง”  

    เธอส่งข้อความนี้มานานแล้ว  ผมไม่น่าจะไปเสียเวลากับคนพวกนั้นเลย

    Naris says: “ขอโทษนะครับฟ้า   ก็แค่พวกไร้สาระมันมาหาเรื่อง”  

    เธอหัวเราะ  เสียงหัวเราะของเธอคงเหมือนเสียงสวรรค์  เสียงดนตรีอันไพเราะเพราะพริ้ง

    ผมพบกับเธอครั้งแรก  ในจอสี่เหลี่ยมนี้  ในเว็บบอร์ดหาเพื่อน  โลกอินเตอร์เนตการสื่อสารที่ไร้พรมแดน  การสื่อสารที่นำพาให้ผมได้มาพบกับเธอ

    “ชื่อฟ้าคะ  อายุ 22  ฟ้าเหงาจัง  อยากมีเพื่อนชายคุยด้วยสักคน”

    ผมอ่านแล้วรีบแอดเข้าไปหาเธอทันที  เธอรอผมอยู่จริง ๆ ด้วย  เธอมักจะ Online อยู่เกือบตลอดทั้งวันทั้งคืน

    ตอนแรกเธอยังลังเล  ไม่กล้าโชว์รูปให้ผมดู   แต่ช่วงหลัง ๆ เธอคงหลงในคารมของผม  จึงยินยอม   แล้วผมก็ใช้ไหวพริบส่วนตัวกด Print Sceen  แล้ว Save รูปมาเก็บไว้

    คุณเชื่อไหมครับ  เธอช่างสวยเหลือเกิน

    ใบหน้าเรียวยาวรูปไข่  ผิวพรรณขาวผ่อง  พวงแก้มเปล่งปลั่ง   ดวงตาคม  จมูกโด่งเป็นสัน  ริมฝีปากบางแดงเรือง  น่าจูบ

    ผมจูบเธอ  ผมจูบรูปของเธอที่ผมขยายแล้วปริ้นใส่ลงบนกระดาษเอสี่กันน้ำ  จูบทุกวันทุกคืน  แล้ววันหนึ่งผมคงจะได้ไปจูบตัวจริงของเธอ

    เธอยอมบอกผมแล้วครับ  ยอมบอกผมว่าเธออยู่ที่ไหน

    เธอเป็นคนจังหวัดระยองครับ  พักอยู่แถว ๆ ชายหาด   ดีแล้ว  ผมเคยไปหาดแถวนั้น   ตอนที่พวกคนในบ้านนี้สั่งให้ผมไปคอยรับใช้ตอนที่พวกมันไปเที่ยวที่นั่น

    ท้องมันร้องเหลือเกิน   ผมกำลังเปิดตู้เย็นคุ้ยหาอะไรมายัดใส่ท้อง

    “อ้อ... พอหิวก็รู้จักออกมาหาอะไรกิน   วัน ๆ ไม่คิดที่จะทำอะไร  คลุกอยู่แต่ในห้อง   เลี้ยงแล้วเสียข้าวสุก”   คนที่ผมต้องเรียกมันว่าแม่  มักจะคอยด่าทอเหน็บแนมผมเช่นนี้ทุกครั้งที่มีโอกาส

    “แกไปล้างรถให้ฉัน   เดี๋ยวฉันจะไปข้างนอก  หัดทำงานตอบแทนข้าวแดงแกงร้อนเสียบ้าง”  มันเริ่มออกคำสั่งใช้งานผม

    ผมหยิบซองมาม่ากับขวดน้ำ  แล้วเดินผ่านหน้ามันไปทันที

    “ไอ้นริศ ! ไอ้นริศ !  ที่ฉันสั่งแก  แกไม่ได้ยินเหรอ  เลี้ยงเสียข้าวสุก  ไอ้สันหลังยาว”   เสียงของมันตะโกนไล่หลัง

    ผมไม่สนใจเสียงด่าทอของมัน  ได้ยินบ่อย ๆ จนชินแล้ว  ตอนนี้ผมสนใจแต่นางฟ้ากำลังรอผมอยู่ในห้อง

    Angel says: “นริศคะ  ฟ้าเหงาจังเลยคะ  ที่นี่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าพอดี  แสงสีส้มสวยจัง  บรรยากาศโรแมนติกมากเลยคะ”

    ประโยคนั้นเชิญชวนให้ผมอยากจะเข้าไปสัมผัสแนบชิดกับเธอเสียเหลือเกิน  

    โอ.. ที่รัก

    Naris says: “ฟ้าเหงาหรือครับ  ถ้าผมจะไปหา  คุณจะยอมออกมาพบผมหรือเปล่าครับ”

    เธอเงียบไป  เธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ

    Angel says:  “ฟ้ากลัวแต่ว่านริศจะไม่กล้ามาหาฟ้า  ในที่ที่ฟ้าอยู่จริง ๆ น่ะสิคะ”

    โอ.. ที่รัก  ทำไมพูดแบบนั้น

    Naris says: “ผมพร้อมเสมอนะครับที่จะไปหาฟ้า  หากฟ้าต้องการ”

    เธอส่งสัญลักษณ์หัวเราะ  เธอหัวเราะอีกแล้ว  เสียงหัวเราะของเธอราวกับทำให้ความมัวหมองทั้งหมดในโลกใบนี้จางหายไป

    Angel says: “อย่าลำบากเลยคะ  ฟ้าไปหานริศเองดีกว่า”

    ประโยคนั้นทำให้ดวงตาของผมเบิกกว้าง  กดนิ้วขยับแป้นคีย์บอร์ดถามเธอแทบจะไม่ทัน

    Naris says:“จริงรือครั  ฟ้าจะมากรุงเท จริ ๆ หรือคับ  เมื่ไหร่  ที่ไหน ครับ”  

    ความตื่นเต้นดีใจทำให้ผมพิมพ์ผิด ๆ ถูก ๆ

    Angel says: “คืนนี้ค่ะ  คืนนี้  ฟ้าจะไปหาคุณ”  

    หัวใจผมเต้นระทึก  นี่เธอกำลังล้อผมเล่นงั้นหรือ

    Angel says: [i] “ในฝันคะนริศ  ในฝัน”  


    ผมอ่านประโยคนั้น  ก่อนที่จะถอนหายใจยาวด้วยความผิดหวัง

    Naris says: “โถ่..ฟ้า  หลอกให้ผมดีใจ”

    Angel says: “ไม่ได้หลอกค่ะ  ไม่ได้หลอกจริง ๆ”  

    แล้วเธอก็ส่งสัญลักษณ์หัวเราะ  เสียงหัวเราะของเธอคงน่าเอ็นดู

    จากคุณ : วังวน - [ 8 ต.ค. 47 00:01:12 ]