ฉันไม่รู้หรอกว่า ตัวเองเป็นโรคเบื่อผู้คนไปตั้งแต่เมื่อไร รู้ก็แค่ว่าไม่อยากเจอหน้าใคร ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้อง เรียกว่าไม่ว่าใครก็ไม่อยากเจอ อาการนี้ค่อย ๆ เป็นและเป็นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งเรียกว่าเข้าขั้น โคม่า
ยิปโซ เป็นชื่อของฉัน มันเป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งลักษณะเป็นดอกเล็ก ๆ มีทั้งสีขาว ชมพู และม่วงอ่อน ๆ เคยมีคนบอกว่ามันเป็นไม้ประดับช่อดอกไม้ที่มีราคาแพงอยู่พอสมควร แต่ทำไมบรรดาเพื่อน ๆ ฉันมันมักจะเรียกชั้นว่า ยัยผอมโซ ก็ไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่ตัวฉันเองก็คิดว่าฉันไม่น่าจะผอมถึงขนาดนั้นนะ...ฉันว่าตัวเองกินเก่งจะตายไปแต่ไม่ยอมอ้วนเสียที ไหน ๆ ตอนนี้ก็เป็นโรคเบื่อผู้คนแล้ว น่าจะลองเป็นโรคเบื่ออาหารประกอบกันไปด้วยถ้าจะดี (คราวนี้คงกลายเป็นไม่เสียบลูกชิ้นแน่ ๆ )
เลยไปเสียไกลจากเรื่องเบื่อผู้คน กลับมาก่อนที่จะไปไกลกว่านี้ ฉันมีเพื่อนสนิทอยู่หลายคน และเพื่อนสนิทเหล่านั้นก็เป็นเพื่อนผู้ชายเสียส่วนใหญ่ และในบรรดาเพื่อนสนิทก็มีใครอีกคนที่ฉันคิดว่าฉันสนิทกับเขาเป็นพิเศษ
เขาคนนั้นเขาชื่อเสียเพราะว่า ฆนาการ ถ้าจะให้แปลความหมาย ๆ ถึง ที่รวมของหมู่เมฆ (อันนี้ฉันแอบเปิดหาเอาเองในหนังสือเพราะถามเขาแล้วเขาไม่ยอมบอก) ซึ่งก็เป็นความหมายเดียวกันกับชื่อเล่นของเขา นายฟ้า...
ฟ้าเป็นคนยิ้มง่าย ชอบเล่นบาสเก็ตบอลเป็นชีวิตจิตใจ แถมเรียนคณะจิตรกรรม อ่ะนะอย่าคิดไปว่า นายฟ้าจะมีผมยาวสลวยอย่างที่เขาฮิต ๆ กัน นายคนนี้ก็มีผมที่ยาวเหมือนกันแต่เป็นทรงที่ชาวบ้านเค้าเรียกกันว่าทรงเดลร็อค (ฉันแอบลองดมอยู่เรื่อยเพราะไม่รู้ว่าเจ้าตัวสระบ้างหรือเปล่า) และถ้าใครว่าเด็กศิลป์ส่วนมาก สกมก ล่ะก้อ...เหอ...เหอ..ฉันยกมือเถียงใจขาด นายฟ้าเพื่อนซี้สุด ๆ ของฉันเนี่ย สะอาดเอี่ยมเรี่ยมเร้เรไรเชียวละ ไม่เคยมีครั้งใดเลยที่ฉันและผองเพื่อนจะเห็นนายคนนี้สกมก
อันด้วยเหตุผลหลายประการนี้ นายคนนี้เลยเป็นที่ดึงดูดใจของบรรดาสาว ๆ ในมหาลัยโดยปริยาย และฉันก็แอบเป็นคนหนึ่งในกลุ่มนั้นด้วย ฉันเองก็ไม่รู้หรอกว่านายฟ้าคิดกับฉันอย่างไร แต่ฉันรู้ แค่ว่า ฉันเป็นหนึ่งในสี่คนของเพื่อนที่สนิทที่สุดของนายฟ้า และก็เป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มนั้นเสียอีก
ยัยยิปโซ ยิปซี ยิปซ่า... เสียงคุ้นหูตะโกนเรียกผ่านสนามบาสมายังฉันที่เดินตัวลีบอยู่ข้างอัศจรรย์ขนาดใหญ่ ไม่รู้ว่าทำไมยังอุตส่าห์เห็นฉันได้อีก (เฮ้ออออ..) ทำไมไม่ค่อยเห็นหน้ากันเลยพักนี้ หายไปไหนมา
ก็ไม่ได้ไปไหน แค่ไม่มีอารมณ์อยากจะเจอใคร แล้วนายมีอะไรหรือไง แล้วไอ้พวกนั้นไปไหน พวกนั้นที่ว่า ก็คือ นายฟ้า นายโทนี่ นายเช่ แล้วไอ้ที่ยืนค้ำหัวชั้นด้วยความสูงเกินมาตรฐานชายไทย 187 cm เนี่ยก็คือนายพันกร หรือ นายกร หรือ ไอ้กร ตามที่พวกเพื่อน ๆ เรียก
ฟ้าไปชมรม โทนี่รับสาว ไอ้เช่ โดนพวกชมรมถ่ายรูปดึงตัวไปเป็นนายแบบ แล้วไงเรา กลายเป็นคนเบื่อมนุษย์ไปตั้งแต่เมื่อไร จะเปรียบไปก็เหมือนนายกรนี่เป็นสมุดนัดหมาย เพราะไม่ว่าใครต่อใครในกลุ่มจะไปไหนมาไหน นายกรจะเป็นคนที่รู้ดีที่สุด
ไม่รู้ดิ คำตอบสั้นง่าย ได้ใจความทำให้เขายืนส่ายหัวพร้อมกับหัวเราะขำ ๆ
แล้วจะไปไหนอ่ะ เขาย้อนถาม เสื้อก้ามสีแดงสดด้านหลังติดเบอร์ 1 ไว้หลาส่งกลิ่นไม่ค่อยโสภาเท่าไร ฉันย่นจมูกก่อนจะถามว่า
ไอ้เสื้อนี่ใส่มากี่วันแล้ว เหม็นฉิบ.... ทันทีที่คำไม่สุภาพหลุดปาก มือขาวยาวก็ตวัดมาตบปากฉันเบา ๆ ก่อนจะดุว่า
เป็นสาวเป็นนางใครให้พูดจาไม่สุภาพ อ้อ...ฉันลืมบอกไปนายนี่เป็นตัวจับคำผิดคำไม่สุภาพสำหรับฉันและพวกที่เหลือ ๆ อยู่ในกลุ่ม เอามาเลย ห้าบาท เขาแบบมือขอเงินดื้อ ๆ เพราะเคยตกลงกันว่าถ้าใครพูดไม่สุภาพล่ะก็ต้องเสียงเงินให้นายคนนี้คำละห้าบาท แล้วถ้าตัวเองเผลอเองก็จะต้องเสียให้เพื่อน ๆ สิบบาท (เวงไหมล่ะ) ฉันเลยต้องจำใจค้นหาเศษเหรียญในกระเป๋าส่งให้ เพราะถ้าส่งเป็นแบงก์มันก็หายไปทั้งใบนั่นเอง
แล้วตกลงจะไปไหน
จะไปกินข้าวหลังมหาลัย
ไปด้วย
อื้ออออ...ไม่เอาวววว อ่ะ เหม็นขนานนี้ นายนั่นเลยก้มลงดมตัวเองเป็นการใหญ่ก่อนส่ายหน้าว่า
ไม่เห็นได้กลิ่นเลย เอางี้แล้วกันถ้า เหม็นเดี๋ยวชั้นไปอาบน้ำก่อน รอตรงนี้นะ แล้วโดยที่ไม่ต้องฟังคำตอบรับหรือปฏิเสธเจ้าตัวก็วิ่งแร่ไปหยิบกระเป๋าพร้อมผ้าขนหนูหายวับไปทางห้องน้ำของสนามกีฬา
ฉันเลยมีเวลานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปตามประสา มันนานเท่าไรแล้วนะที่พวกเราทั้งห้าคนไม่ได้ไปไหนมาไหนพร้อม ๆ กันเหมือนเมื่อก่อน อาจเพราะต่างคนต่างมีภาระในการเรียนเพิ่มมาขึ้น และก็ต่างคนก็ต่างมีทางเดินที่ตัวเองเลือกเพิ่มมากขึ้นละมั้ง เลยทำให้เวลาในการเจอกันลดลงไปทุกทีทุกที
แล้วยิ่งพ่อสี่หนุ่มพวกนี้หน้าตาจัดว่าเข้าขั้นดึงดูดสายตาไปเสียเกือบทุกคน ทำให้เวลาอันมีค่าบางครั้งก็สูญเสียไปพร้อม ๆ กับสาว ๆ หน้าใหม่ ๆ ที่ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาให้เจ้าพวกนี้เลือกควง แต่....นายกร เป็นคนเดียวที่ไม่มีใคร และไม่เคยมีใครมาตลอด....น่าแปลก ฉันมักจะเจอเขาอยู่กับสนามบาส หรือไม่ก็อยู่กับหนังสือสักเล่มใต้เงาต้นจามจุรีใหญ่ ทั้ง ๆ ที่บุคลิกเขาก็ไม่น่าจะเป็นหนอนหนังสือเลยด้วยซ้ำ
นายฟ้า...ชื่อนี้ทำให้หัวใจฉันมันเริ่มเหงา ๆ ขึ้นมา ตั้งแต่เขามีแฟนและเริ่มห่างเหินออกจากลุ่ม ฉันว่ามิตรภาพระหว่างพวกเรามันแปลก ๆ หรือว่าฉันเองที่แปลกไปกันแน่ฉันก็ไม่แน่ใจ เพียงแค่รู้สึกว่า ถ้ามีนายคนนี้อยู่ในกลุ่มด้วย ไม่ว่าจะมองไปทางไหนมันก็ดูรื่นรมย์น่าสนุกสนานไปเสียทุกที หากแต่เมื่อเขาย่างเท้าเดินออกไปพร้อมกับสาวสักคน มันเหมือนกับว่า อยู่ ๆ ฟ้าที่สว่างแจ่มใสอยู่ ก็มีเมฆฝนมาบดบังทำให้ดูมัว ๆ หม่น ๆ ในความรู้สึกของฉัน...
จากคุณ :
เปียร์รุส
- [
8 ต.ค. 47 10:48:52
]