ค่ำคืนนี้แม้จะมีหมู่ดวงดาวน้อยใหญ่มากมายเปล่งประชันอวดแสงสว่างของตนเองให้มนุษย์บนโลกได้เห็นกันอย่างมากมาย แต่มันไม่ได้ทำให้อารมณ์ที่แสนจะขุ่นมัวได้กลับมามีชีวิตชีวาสดใสขึ้นมาเลย
นิชายืนกอดอกแนบแน่นเหม่อมองออกไปนอกระเบียง มองแสงไฟจากตึกราบ้านช่องสลับกับแสงจากดวงดาวอย่างเงียบเหงา น้ำตาแห่งความผิดหวังล้นเอ่ออยู่ริมขอบตาราวจะไหลออกมาซะให้ได้ หล่อนเม้มปากที่จะกำลังสั่นเครือแน่น กลั้นความรู้สึกอ่อนไหวในจิตใจของตนเองอย่างยากเย็น
อยู่ๆก็มีเสียงกีตาร์ที่ดีดเบาๆดังแว่วมากับสายลม เป็นเหตุให้หญิงสาวพยายามกวาดตามองรอบๆตัวเพื่อหาต้นเสียง และก็ไม่ผิดหวังเสียงกีตาร์ดังมาจากที่ไม่ใกล้ไม่ไกล มันดังมาจากระเบียงห้องข้างๆหล่อนนี่เอง
นิชาใช้มือขอบระเบียงคั่นระหว่างห้องที่สูงประมาณหนึ่งเมตรกว่าๆชะโงกดูคนห้องข้างๆ ที่กำลังดีดกีตาร์พร้อมกับร้องคลอเป็นเพลงเบาๆ แต่ดูเหมือนสัญชาติญาณของชายหนุ่มที่เล่นกีตาร์คงจะบอกเขาว่ามีคนพยายามมองมาทางเขาอยู่ จึงละสายตาจากกีตาร์มองมาทางบุคคลปริศนาที่กำลังชะโงกชะเง้อตามองมาทางระเบียงห้องข้างๆ
ไงคุณ เพลงผมเพราะถึงขนาดจนต้องชะโงกมองเลยเหรอ?
พีรนาทหยุดเล่นกีตาร์เงยหน้าขึ้นถามหญิงสาวจากระเบียงข้างๆใบหน้ายิ้มแย้ม ลืมไปเลยว่าหล่อนเคยทำอะไรกับเขาไว้เมื่อเช้านี่
นี่นายเองเหรอ? นิชาเพิ่งถึงบางอ้อ ที่ไหนได้
หล่อนลืมไปเลยจริงๆว่าตาบ้าที่มาโวยแตกเมื่อเช้านี่อยู่ห้องข้างๆหล่อนเอง
ยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะครับ พีรนาทย้อนถาม
เปล่านะ
ฉันก็แค่หาคนที่เล่นกีตาร์ฝีมือไม่ได้เรื่องอยู่ตั้งหาก เป็นนายนี่เอง นิชาสลัดความเศร้าทิ้งไปชั่วขณะ เพราะมีภารกิจอันใหญ่หลวงที่หล่อนต้องทำก่อนก็คือ
การแขวะตอบชายหนุ่มจากระเบียงข้างๆอย่างไม่ลดละ
นี่คุณเรามาคุยกันดีๆได้ไหม? ผมขอโทษเรื่องเมื่อเช้าที่ผมว่าคุณ ชายหนุ่มถามด้วยสีหน้าจริงจัง แต่มันก็ยังดูไม่จริงใจสำหรับนิชาอยู่ดี
เอ๊ะ?
จะมาไม้ไหนกันเนี่ย!!
ไม่ได้..ฉันไม่รับคำขอโทษ นิชาตอบอย่างรวดเร็ว
โถ่ๆๆคุณครับ อย่าทำเป็นใจจืดใจดำหน่อยเลย เราเองอยู่ห้องข้างๆกันแท้ๆผูกมิตรกันไว้จะได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันไงครับ เขาบอกพลางยักคิ้วแผล็บทั้งสองข้าง
นิชาเห็นดังนั้นจึงเบ้ปาก อาการคล้ายคนอยากอ้วก หมั่นไส้คนที่อยู่ห้องข้างๆจับใจ
ผมนายพีรนาท หรือจะเรียกว่าพีสั้นๆก็ได้นะครับ พีรนาทบอกด้วยท่าทางยิ้มแย้มด้วยความต้องการอยากผูกสัมพันธ์กับหญิงสาวห้องข้างๆนี่แล้วสิ คนอะไรไม่รู้
ถึงจะปากร้ายไปหน่อย
แต่ก็น่ารักดีแหะ
ฉันไม่ได้ถาม นิชาย้อนบอกเสียงเย็น ทำเอาชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้ากี้เกือบตกหัวคะมำเพราะความไม่ลดราวาศอกของหล่อนเลย
ผมทราบดีครับว่าคุณไม่ได้ถาม ว่าแต่คุณเถอะชื่อน้องลิ้นจี่ก็ไม่ยอมบอก ไม่เห็นต้องอายเลยนี่ครับ
พีรนาทยังกวนประสาทหล่อนไม่เลิกพลางตั้งชื่อหล่อนให้ใหม่เป็น น้องลิ้นจี่ คิดได้ยังไงเนี่ย
จะบ้าเหรอ ฉันชื่อนิชาตั้งหาก แหวะ นิชาบอกชื่อของตัวเองไปด้วยความไม่รู้เนื้อรู้ตัว จนชายหนุ่มที่พยายามจะผูกมิตรถึงกับหัวเราะลั่นยังกับผู้ชนะที่แข่งกีฬาโอลิมปิกได้เหรียญทองสำเร็จ
ชอบจริงๆเลยผู้หญิงคนนี้
ช่างต่อปากต่อคำถูกใจนักแล
ครับคุณนิชา ในที่สุดผมก็รู้ชื่อคุณ แหม..มุขนี้ใช้เมื่อไรได้ผลทุกทีเลยนะครับ พีรนาทเฉลยกลเมล็ดเคล็ดลับของเขาในที่สุด ทำเอานิชาถึงกับอ้าปากค้างด้วยความไม่พอใจอย่างยิ่งยวด
นาย
นาย
นายพินาศ หล่อนเอ่ยเรียกชื่อเขาเสียใหม่ ไม่รู้จะต่อว่ายังไงดีได้แต่ยืนโกรธชายหนุ่มที่นั่งอยู่ระเบียงข้างๆอย่างเดือดดาล
ว่าไงครับ น้องน้ำชา
ชายหนุ่มก็ตั้งชื่อใหม่ให้กับหล่อนเช่นกัน ลอยหน้าลอยตาถามนิชาอย่างกวนประสาท
หญิงสาวที่ยืนสั่นเทาด้วยความโกรธจึงยอมสงบศึกทางอ้อมโดยการพาตัวเองเข้าห้องเลื่อนประตูกระจกที่เคลือบฟิลม์สีดำปิดและล็อคทันที
บ้า
คนบ้าอะไรเถียงได้ทุกวรรคทุกคำ ให้ตายเถอะ
หล่อนเกลียดคนประเภทนี้จริงๆ
นิชานึกบ่นอยู่ในใจ ก่อนจะล้มตัวนอนบนเตียงด้วยเหน็ดเหนื่อย ดวงตาเหม่อลอยมองเพดานห้องที่เคว้งคว้าง อารมณ์ของหล่อนผสมปะปนกันมั่วไปหมด เหนื่อยจริงๆ และความเหนื่อยนี้เองกระมังที่ในไม่กี่นาทีต่อมานิชาก็นอนหลับลงได้อย่างง่ายดาย
แม้ความร้อนของแสงแดดจะพาตัวเองผ่านมาในห้องของนิชาไม่ได้ แต่แสงสว่างจากพระอาทิตย์ที่แผดแสงสว่างจ้าสาดส่องเข้ามาในห้องนั่นก็คงเพียงพอให้หล่อนลุกขึ้นตื่นจากที่นอนได้
วันนี้ก็เป็นเหมือนทุกๆวัน เว้นเสียแต่วันนี้เป็นวันเสาร์จึงไม่ต้องไปเป็นแม่ย่านางเฝ้าร้าน(แทนเฝ้าเรือ) เหมือนทุกๆวัน นอนตื่นสายเสียจนนาฬิกาแสดงเวลาว่าสิบโมงเช้าแล้วถึงค่อยๆลุกขึ้นจากเตียง เข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟัน และอาบน้ำอย่างเช่นๆทุกๆวัน
กว่าจะทำกิจวัตรประจำวันเสร็จเวลาปาเข้าไปสิบเอ็ดโมงเช้าพอดิบพอดี นิชาในชุดลำลองสบายๆเดินมาที่โซฟาคว้านหากระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในย่ามเพื่อลงไปซื้ออาหาร ได้กระเป๋าสตางค์มาแล้วก็หยิบกุญแจห้องพัก ออกจากห้องมาโดยไม่สนใจต่อสิ่งรอบข้างๆก้มหน้าก้มตาพยายามล็อคประตู ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปทางลิฟต์ เห็นคนกำลังยืนรอลิฟต์อยู่เหมือนกันจึงไม่จำเป็นที่ต้องไปกดปุ่มคำสั่งบนตัวลิฟต์เพื่อต้องการลงซ้ำอีกครั้ง
แค่เพียงอึดใจเดียวประตูลิฟต์ก็เปิดขึ้นตรงหน้า ภายในตัวลิฟต์ไม่มีใครเลย บุคคลที่ยืนหันหลังให้หล่อนเดินเข้าไปในลิฟต์ก่อน หล่อนจึงค่อยๆเดินตามเข้าไปเช่นกัน
เขากดลิฟต์ไปยังชั้นหนึ่งพร้อมกันกับหล่อน จนนิ้วชี้ของคนสองคนสัมผัสกัน
ขอโทษค่ะ นิชาบอกอุบอิบ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาบุคคลแปลกหน้าที่อยู่ในลิฟต์ตัวเดียวกับหล่อน แต่แล้วก็ต้องชะงัก
นายพินาศ! นิชาหลุดปากเรียกพี่เขาแบบใหม่โดยมิได้ตั้งใจ จึงทำให้ชายหนุ่มคิ้วขมวดกันเล็กน้อย
อ้าว
น้องน้ำชานี่เอง
ใครเป็นน้องเธอ? อ้อ
ฉันไม่ได้ชื่อน้ำชาด้วย นิชาตวัดเสียงย้อนถาม
อ้าว ทีคุณยังเรียกผมนายพินาศได้เลย ผมชื่อพีรนาทนะครับ พีรนาทว่ายิ้มๆ ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรน้า..เจอกันต้องทะเลาะกันทุกทีเลย แต่ก็นะ
มันรู้สึกแปลกยังๆไม่รู้เมื่อได้เจอเธอคนนี้
ก็ได้ๆ พีรนาท พอใจยัง
ก็ได้เหมือนกันครับ นิชา เขายอมสงบศึกเช่นเดียวกันกับหล่อน
เห้อ
ดีเหมือนกัน
หล่อนยิ่งไม่อยากมีเรื่องมีราวกับใคร ก็หล่อนเพิ่งเลิกลากับแฟนไปนี่นา ไม่มีอารมณ์ไปทะเลาะเบาะแว้งกับใครหรอก เปลื้องพลังงานเปล่าๆ
พีรนาททำท่าจะพูดอะไรต่อ แต่ลิฟต์ดันเคลื่อนตัวมาถึงชั้นหนึ่งเสียก่อน พอประตูเปิดก็มีคนเข้ามาแทรกแทนจึงไม่มีโอกาสได้พูดอะไร ปล่อยให้หญิงสาวข้างห้องเดินจากไปโดยไม่ได้เหนี่ยวรั้งอะไรทั้งสิ้น
จากคุณ :
DaisY
- [
9 ต.ค. 47 18:33:15
A:203.113.38.9 X:203.150.217.113
]