ณ ท้องทุ่งที่กว้างขวางจนสุดลูกหูลูกตาแห่งหนึ่ง มีปราสาทหินขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงใจกลางทุ่ง แม้จะเหลือเพียงตัวปราสาทที่เป็นก้อนหินศิลาแลงที่พุกร่อนไปตามกาลเวลา แต่กลิ่นอายของวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งโรจน์ในขณะนั้นกลับไม่ได้จางหายตามกาลเวลาไปด้วย
รอบๆ ตัวปราสาทนั้นมีต้นหญ้าดอกสีเหลืองอร่ามดอกเล็กๆ ขึ้นอยู่รายล้อมตัวปราสาทที่ยืนท้าลมฝนมาช้านาน นักท่องเที่ยวมากมายต่างมาที่นี่เพื่อชื่นชมความงาม และสัมผัสถึงความเจริญรุ่งเรืองของมัน หญ้ารุ่นแล้วรุ่นเล่าเติบโตดูความงดงามที่จะเพิ่มเป็นทวีคูณตามอายุของปราสาท แม้เวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม
วันหนึ่งหญ้ารุ่นหลานที่เพิ่งแตกยอดออกมาได้ 3 วันได้ถามหญ้ารุ่นย่าที่ดอกและต้นกำลังแห้งเหี่ยวตามอายุขัย
ทำไมคุณย่าภูมิใจนักหนาล่ะครับที่ได้อยู่เคียงข้างปราสาทเก่าหลังนี้ ทั้งๆ เขาไม่เคยให้ความสำคัญกับเราเลย เขาทำให้พวกเราต้องตายไปกับรอยเท้าของนักท่องเที่ยวที่แหงนหน้ามองดูแต่ปราสาทเก่าๆ หลังนี้ โดยไม่ก้มลงมามองพวกเราเลย
ทำไมน่ะหรือ หลานย่า? เพราะเรามีเขาเนี่ยแหละที่คอยป้องกันดูแลเราจากแดดจากลม หลานลองดูต้นหญ้าเหล่านั้นสิ หล่อนค่อยๆ เลื่อนใบสีเหลืองที่สั่นเทาไปทางกลุ่มหญ้ากลางแดดที่ปลายใบแห้งเป็นสีน้ำตาล แล้วพูดต่อ การเผชิญโลกโดยลำพังมันยากลำบากนักนะหลาน คนเราไม่สามารถที่จะอยู่คนเดียวได้ตลอดไปหรอกหลานย่า ทุกอย่างมันซับซ้อนเกินกว่าที่หนูจะคิดได้เสมอ จำไว้นะหลานย่า
แต่ย่าก็ยอมที่จะให้นักท่องเที่ยวพวกนี้เหยียบย่ำเราอย่างนั้นหรือครับ
อย่าคิดอย่างนั้นสิหลาน แม้พวกเราจะเป็นแค่วัชพืชในสายตาคนอื่น แต่เราเนี่ยแหละ ที่ทำให้ปราสาทคงอยู่ เราเนี่ยแหละที่ประดับประดาท้องทุ่งแห่งนี้ให้สวยงาม หล่อนยิ้มให้หลาน แม้เราจะพึ่งเขา แต่เขาก็พึ่งเราเช่นกัน ไม่มีใครเหยียบย่ำใคร หลานย่า
ถ้าเราทำให้ปราสาทสวยงามขึ้นจริง ทำไมพวกนักท่องเที่ยวถึงไม่มาเหลียวมอง หรือให้เกียรติเราบ้างล่ะครับ พวกเขาเห็นเราเป็นพืชไร้ค่ามากกว่านะครับ คุณย่า
คุณค่าของสิ่งต่างๆ ไม่ได้วัดจากขนาดหรอกนะ หลานย่า แม้เราจะเล็กกว่าปราสาทมากมายก็ตาม แต่คุณค่าที่เรามีก็พอๆ กับที่ปราสาทมีนั่นแหละ หลานย่า
หญ้ารุ่นย่าพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน จงจำคำของย่าไว้นะ จงภูมิใจกับเกียรติและคุณค่าของเรา หลานย่า อย่าเอาสิ่งอื่นมาตัดสินเราว่าเรามีคุณค่ามากหรือน้อยเพียงไร
หลังจากนั้นไม่นาน หญ้ารุ่นย่าก็ตายลง พร้อมกับการเกิดของหญ้ารุ่นใหม่ที่แตกยอดขึ้นรอบๆ กอนั้น หญ้ารุ่นหลานจดจำคำของย่าเขาไว้เสมอ และชูช่อแตกดอกสีเหลืองอร่ามด้วยความภาคภูมิใจ เขาไม่อายอีกแล้วที่จะชูช่อดอกสีเหลืองเล็กๆ ให้ปราสาทและนักท่องเที่ยวได้ยลโฉม เขาไม่อายอีกแล้วที่จะถูกพื้นรองเท้านักท่องเที่ยวกดทับลง เพราะเขารู้ว่า...พวกของเขาเนี่ยแหละที่ทำให้บริเวณนี้มีเสน่ห์มากขึ้น
แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 47 03:06:55
จากคุณ :
Due_n
- [
10 ต.ค. 47 03:04:33
]