CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    คนข้าง(ใน)ใจ ตอนที่ 3 จ้าๆๆๆ

    อาหารมื้อเช้าของนิชาผ่านไปด้วยความเอร็ดอร่อย หล่อนนั่งๆนอนๆอยู่ในห้องด้วยความเบื่อหน่าย กดรีโมตเปลี่ยนดูโทรทันศ์ช่องโน่นช่องนี่ไปมาจนรู้ว่าไม่มีอะไรน่าดูจึงตัดสินใจปิดมันซะ เครื่องปรับอากาศในห้องยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง จนเวลาผ่านไปนิชาเริ่มหาวเป็นรอบที่ห้า และพริ้มตาหลับลง

    หล่อนหลับไปนานเท่าไร? ไม่ทราบแน่ชัด เว้นเสียแต่หล่อนคงได้นอนหลับอย่างสงบสบายหากไม่มีเจ้าสิ่งนี้เข้ามาก่อกวนเสียก่อน

    กริ๊งงงงงงงงงงง…..กริ๊งงงงงงงงงงงงง….

    เสียงโทรศัพท์ที่ดังมาจากหัวเตียงติดต่อกันถึงสองครั้ง เป็นเหตุให้นิชาที่กำลังนอนหลับอย่างผาสุขต้องพลุนผลันรีบลุกขึ้นจากเตียงเดินไปรับโทรศัพท์

    “ฮัลโหล ใครน่ะ? “ เสียงอู้อี้ถามอย่างแปลกใจ

    “นิชาหรอ? “ ปลายสายเป็นเสียงนุ่มทุ้มที่ไม่คุ้นหูเอาเสียเลย

    “ใช่ แล้วนี่ใครพูดล่ะ? “

    “ผมพีรนาทเองครับ”

    ตาย…นี่นายพีรนาทจะตามราวีหล่อนไปถึงไหนเนี่ย? ยอมสงบศึกก็แล้ว…แล้วนี่จะเอาอะไรอีกเนี่ย?

    “นาย!…นายได้เบอร์โทรศัพท์ห้องฉันได้ยังไง” นิชาถามเสียงสูง

    “นี่คุณ….ลืมแล้วหรือไงครับ ว่าเราอยู่อพาร์ตเม้นท์เดียวกัน มันก็เบอร์เดียวกันทั้งตึกแหละครับอยู่ที่ว่าจะต่อเข้าห้องไหนเท่านั้นเอง แล้วคุณก็อยู่ห้องข้างๆผม” เขาพูดอธิบายเสียยืดยาว สงสัยกลัวหล่อนจะไม่เข้าใจกระมัง

    “แล้วมีธุระอะไร ถึงโทร.มาเนี่ย ฉันไม่ใช่ศูนย์บำบัดสุขภาพจิตนะ ที่จะได้โทร.เอาๆแล้วก็มาระบายอารมณ์น่ะ”

    “ผมทราบครับ แค่…” อยู่ดีๆก็รู้สึกเขินกับคำพูดที่จะพูดออกไป

    ..เขาก็แค่อยากจะขอโทษหล่อนเรื่องเมื่อวานเท่านั้นเอง…แต่ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะขอคบเพื่อนด้วยซ้ำ มันบอกไม่ถูก รู้สึกว่าเขาคงจะถูกใจแม่สาวน้อยที่ชื่อ ”นิชา” แล้วสิ

    “แค่อะไรเล่า? “ นิชาถามอย่างไม่พอใจ หล่อนมันประเภทความอดทนน้อยนี่นา รออะไรนานๆไม่ได้หรอก

    “แค่อยากจะขอโทษน่ะครับ”

    “หา…อะไรนะ นี่น้อยไปหน่อยมั้ง?” หล่อนย้อนถามเสียงสูงอีกครั้ง

    จะว่าไป..มันก็แปลกๆนะ นายนี่เป็นอะไร กินยาลืมเขย่าขวดหรือยังไงนี่ ถึงได้โทร.มาขอโทษหล่อน

    “แล้วจะเอาอะไรอีกล่ะครับ อย่าลืมสิคุณก็ผิดเหมือนกันนะครับ” พีรนาทว่าคล้ายจะเตือนสติหล่อน

    “ก็ได้ๆ หายกัน พอใจมั้ย? “

    “ครับ”

    “ดี งั้นแค่นี้ใช่ไหม? “

    “เดี๋ยวๆๆสิครับ” เสียงชายหนุ่มพยายามเว้าวอนอย่างน่าสงสาร แต่สำหรับหล่อนแล้วมันไม่มีความน่าสงสารเลยสักนิดเดียว

    “จะเอาอะไรอีกล่ะค่ะ คุณชายพีรนาท หม่อมฉันจะได้ถวายให้..” หล่อนว่าอย่างประชดประชัน

    “คืนนี้อย่าลืมออกมาดูดาวอีกนะครับ” เขาพูดเย้าแย่ ก่อนจะรีบวางสายไป ขณะหล่อนกำลังจะขยับปากตอบ

    “เฮ้ย เดี๋ยวๆๆนายพินาศ เดี๋ยวๆ” แต่ไม่ทัน เขาวางสายไปแล้ว

    นิชาวางกระบอกโทรศัพท์ลงแป้นดังเดิม
    ….อะไรของเขานะ นายคนนี้…

    ท้องฟ้ายามราตรีของค่ำคืนนี้ดูเคว้งคว้างเงียบเหงายังไงๆไม่รู้ แสงดาวห่างหายไปไหนจากฟากฟ้า เหลือเพียงแค่พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่ลอยเด่นอ้างว้างอยู่กลางนภาอย่างเดียวดาย เศร้าจริงๆ

    ไม่ใช่เพราะตานั่นหรอกนะ ที่ทำให้หล่อนต้องออกมายืนดูท้องฟ้ายามค่ำคืนแบบนี้ แต่เป็นเพราะความเหงาต่างหาก ที่มักจะกัดกร่อนหัวใจเวลาอยู่คนเดียวแบบนี้เสมอ ถึงแม้จะอยู่คนเดียวมาตั้งนาน…แต่ไม่เคยสักครั้งที่หล่อนจะทำใจเคยชินกับมันได้เลย…

    นิชายืนเกาะขอบระเบียงเหม่อมองออกไปข้างนอกเหมือนเคย ฉับพลันก็ได้ยินคล้ายเสียงเลื่อนประตูเปิดจากห้องข้างๆ นิชารีบหลุบหลบลงกับพื้นพิงกำแพงพยายามทำตัวให้ลีบเล็กที่สุด จะหลบเข้าห้องก็ไม่ได้เผลอปิดประตูไป ถึงจะก้มเปิดได้ก็เถอะยังไงๆนายนั่นก็ต้องรู้แน่ๆเลยว่าหล่อนต้องแอบหลบเขา สู้เอาความนิ่งสยบความเคลื่อนไหวดีกว่า

    เอ…แล้วทำไมหล่อนต้องหลบด้วยเนี่ย…

    ชายหนุ่มยืนอมยิ้มอยู่ริมระเบียงพลางชะโงกดู เห็นเงาตะคุมๆก็คงพอจะรู้หรอกนะว่าเป็นใคร พีรนาทยกเก้าอี้ตัวสูงที่ใช้นั่งเล่นรับลมอยู่ริมระเบียงเป็นประจำ หยิบกีตาร์คู่ใจขึ้นมาเกาเล่นๆ ก่อนจะบรรเลงเป็นเพลงที่คนเล่นก็เปล่งเสียงร้องตามไปด้วยความเมามัน

    โอ๊ย….ตาบ้านี่เป็นอะไรเนี่ย…แหกปากร้องเพลงไม่ได้เรื่องเล้ยยยยยยย

    หลังจากเล่นจนจบเพลง ชายหนุ่มก็หัวเราะร่วนออกมา สร้างความฉงนแก่นิชาอย่างมากๆๆ

    ประสาทหรือเปล่านี่? อยู่ๆก็หัวเราะ เอ…สงสัยต้องพาไปโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาแล้วมั้งเนี่ย!!!

    ขณะที่หล่อนกำลังนั่งคิดอยู่เพลินๆนั้น ก็มีวัตถุปริศนาหล่นมาใส่ศรีษะ แม้จะไม่แรงนักแต่สำหรับคนที่กำลังพยายามหลบๆซ่อนๆอยู่นั้นถึงกับสะดุ้งเฮือกจนร้อง เฮ้ย!!

    และสิ่งปริศนาที่หล่นลงมาก็คือ ไม้แขวนเสื้อที่แขวนอยู่กับราวตากผ้าเอนกประสงค์ที่เป็นเหล็กประกอบกัน เรียงซอยเป็นช่องๆสำหรับคล้องไม้แขวนเสื้อได้

    นิชาค่อยๆลุกขึ้นเก็บไม้แขวนเสื้อคล้องกับราวเอนกประสงค์ไปตามเดิม ก่อนจะหันหน้าไปทางระเบียงข้างๆอย่างลืมตัว จนตาประสานตากับนายพีรนาทเข้าอย่างจัง

    หญิงสาวเพิ่งนึกขึ้นได้เลยรีบผลุบตัวเองในนั่งกับพื้น พยายามขดตัวให้เล็กลงไป สร้างความงุนงงแก่พีรนาทเป็นอย่างมาก จนถึงกับหัวเราะออกมาถึงครั้ง

    “นี่คุณ ไม่ต้องหลบหรอก” เขาพูดกลั้วหัวเราะ

    อ้าว…เห็นแล้วเหรอ?

    “ใคร? ใครหลบย่ะ ฉันไม่ได้หลบสักหน่อย แค่ก้มเก็บของเฉยๆ” สาวน้อยนิชากอดอกแน่น เชิดหน้าลุกขึ้นเถียงทันที

    “เอ..หรือว่าคุณแอบฟังผมร้องเพลงกันแน่ครับ? “ พีรนาทนึกขันอยู่ในใจกับการแก้ตัวของนิชาที่ลื่นไหลไปด้วยน้ำขุ่นๆ

    “เปล่าซะหน่อย” นิชาตอบเสียงขึ้นจมูกเล็กน้อย พลางเชิดหน้าใส่ชายหนุ่มด้วยความหมั่นไส้

    หมั่นไส้….หรือ…ทนไม่ได้ ที่ชายหนุ่มรู้ทันกันแน่นะ

    “ก็ได้ๆครับ อย่างน้อยก็ยังดีที่คุณยังอุตส่าห์ออกมาดูดาวตามที่ผมขอร้อง….” พีรนาทพูดไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไป

    “จะร้องเพลงอะไรย่ะ” นิชาย้อนกลับไปอย่างหมั่นไส้

    “แหม..คุณนี่ ช่วยพูดดีๆกับผมสักครั้งไม่ได้เหรอครับ”

    นิชาไม่ตอบแต่เชิดหน้าไปทางอื่น ทำอย่างกับว่าไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไร

    “ก็ได้ๆๆๆ” พีรนาทพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

    นิชาเบื่อที่จะต่อปากต่อคำด้วยจึงผลุบหนีเข้าห้องไป

    “อ้าวคุณ…กลับมาก่อนสิครับ..คุณ!!! “ พีรนาทร้องเรียกแต่ก็ไม่เป็นสักนิดให้นิชาหันหลังกลับมามอง จึงได้แต่ดีดกีตาร์ร้องเพลงคล้ายจะอ้อนวอนใครบางคนอย่างเหงาหงอย

    “ …ช่วยกลับมาทำให้ใจฉันเป็นแผล...

    …ช่วยกลับมาทำใจฉันร้าวพอประมาณ…

    …ช่วยกลับมาทำให้ใจฉันเจ็บช้ำ…

    …อยากบอกให้เธอได้ฟังคิดถึงเธอจัง..

    …ยัยตัวร้าย…*”

    ถึงแม้ตัวจะอยู่ในห้องแต่ก็เอาหูแนบแอบฟังพีรนาทร้องอย่างเต็มที่ ก่อนจะรีบปิดประตูเดินอมยิ้มอยู่รอบๆห้อง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างลืมตัว ในใจของนิชาคิดถึงแต่ท่อนเพลงที่พีรนาทร้องอยู่ท่อนเดียวนั่นก็คือ…

    อยากบอกให้เธอได้ฟังคิดถึงเธอจัง…ยัยตัวร้าย… คิกๆๆ

    __________________________________________
    * เพลง Sassy Girl ของ potato

    จากคุณ : DaisY - [ 10 ต.ค. 47 17:52:36 A:203.113.38.10 X:203.150.217.111 ]