CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    คนข้าง(ใน)ใจ ตอนที่4 จ้าๆๆ

    สามอาทิตย์ผ่านไป…ดูเหมือนเธอกับนายพีรนาทจะสนิทสนมกันมากขึ้น ขนาดนั่งดูดาวตอนค่ำด้วยกันแทบทุกวัน นายพีรนาทของเราก็สรรหาเพลงต่างๆมาร้องให้นิชาฟังตลอด(จะว่าไปเขาก็ร้องเพลงเพราะนะ : นิชา)
    ส่วนนิชานางเอกของเราก็หาขนมต่างๆมาแบ่งปันกับเขาตลอด…

    อย่างนี้เข้าข่าย..รักแท้แพ้ใกล้ชิด…หรือเปล่าน้า???

    วันนี้ก็เหมือนกันก่อนเขาและหล่อนก็นั่งดูดาวด้วยกันเหมือนเดิม นิชาที่นั่งเท้าคางมองเขาเล่นกีตาร์อย่างเคลิบเคลิ้มสลับกับเหม่อมองหมู่ดวงดาวที่เปล่งแสงอวดโฉมอยู่บนท้องฟ้า และมีขนมคุกกี้ใส่จานที่นิชานำถาดใบใหญ่วางปิดช่องว่างของระเบียงสองฝั่งให้เชื่อมกัน เพื่อแบ่งให้คนฝั่งข้างๆทานด้วยเลยกลายเป็นDinner(คุกกี้)ท่ามกลางแสงจันทร์…

    เห้อ….ช่างมีความสุขเสียนี่กระไร

    “นี่….ว่าแต่พีทำงานอะไรเหรอ? เรายังไม่รู้เลย” นิชาเปลี่ยนสรรพนามชายหนุ่มที่นั่งอยู่ระเบียงข้างๆติดกันเสียใหม่จาก ’นาย’ เป็นชื่อเล่นของเขาด้วยความสนิทสนม

    “เป็นนักดนตรีในผับ…เล่นกับเพื่อนๆวงเดียวกันน่ะ”

    “เหรอ…มิน่าเห็นเล่นกีตาร์ทุกวันเลย” นิชาว่าพลางหยิบคุกกี้ชิ้นใหม่ใส่ปากเคี้ยวจนแก้มตุ่ย

    พระเอกของเราคงเหงามือหน้าดูจึงเริ่มบรรเลงบทเพลงอีกครั้ง…


    ทุกข์…ทรมาน อยู่กับความเหงาความเดียวดาย…

    คืนและวันที่ผ่าน…เจอะทั้งร้ายดี…

    แต่หัวใจดวงนี้เฝ้าแต่รอ…

    และเมื่อฉันได้พบเธอ ก็เหมือนโลกหยุดหมุน

    ทุกสิ่งพลัน สวยงามเมื่อเจอะเธอ

    อาจจะเป็นแค่ครั้งเดียวที่ฟ้ากำหนดมา จนทำให้ฉันได้เจอ…

    ขอ…ให้รักต่อจากนี้…

    ให้รักเขาเราผลิบาน..ให้ฟ้าช่วยประทานพร…

    ดลบันดาลต่อจากนี้..ให้สองเราผูกพันเกิดเป็นความทรงจำที่ดี….*


    _____________________________
    * เพลง ขอ ของ Paradox


    พีรนาทร้องเพลงไปก็ปรายตามองใบหน้าขาวนวลของนิชาไป สายตาเว้าวอนคล้ายจะเอื้อนเอ่ยผ่านนัยน์ตาดำขลับคู่นั้น

    ส่วนตัวของนิชาเองเมื่อได้โดนสายตาคู่นั้นก็รู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แรกๆก็กล้าสบตาเขาอยู่หรอก แต่นานๆไปชักจะต้านท้านพลังพิเศษที่แฝงมาจากสายตาคู่นั้นไม่ไหวจึงต้องยอมหลบไปโดยการ…คว้าคุกกี้ในจานหมับเหลือบมองชายหนุ่มแวบนึงก่อนจะนำใส่เข้าปากเคี้ยวตุ่ยๆ แกล้งหลบสายตามองไปยังท้องฟ้าสีดำที่มีพระจันทร์ลอยเด่นอยู่เพียงดวงเดียว…

    หนุ่มสาวสองคนยังคงนั่งอยู่เนิ่นนาน…ความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจล้นปริ่มอยู่เต็มหัวใจที่สามารถสื่อสารได้เพียงคนสองคนเท่านั้นที่รับรู้ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับเข้าห้องไปด้วยรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของคนทั้งสอง และยังคงติดอยู่นานแม้ร่างกายจะหลับไหลอยู่ในห้วงของนิทราแล้วก็ตาม…


    กริ๊ง….กริ๊ง….กริ๊ง…

    เสียงนาฬิกาปลุกส่งเสียงร้องลั่นห้อง หญิงสาวที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียงเอื้อมมือปิดตัวก่อเสียงนั้นซะ ก่อนจะหลับตาต่ออีกครั้ง

    เห้อ…ขออีกสักสิบนาทีน้าๆ…แล้วค่อยตื่น…

    เวลาผ่านไปเลยสิบห้านาทีเป็นครึ่งชั่วโมงแล้ว นิชาก็ยังไม่ลุกขึ้นตื่นเสียที จนเวลาผ่านเลยไปเยอะเกือบชั่วโมง สาวร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงก็สะดุ้งเฮือก ผงกหัวขึ้นมามองนาฬิกาที่วางอยู่บนหัวเตียงทันที


    “เก้าโมงเช้า..” หล่อนเอ่ยบอกเสียงเบา ก่อนจะเบิกตากว้าง โวยวายลั่นห้อง

    “ตายแล้วววววววววววว…ตายแน่ๆ” ว่าแล้วก็รีบกระวีกระวาดเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันให้เร็วที่สุดในประวัติกาล

    วันนี้ไม่ใช่วันเสาร์แล้วก็ไม่ใช่วันอาทิตย์ แต่มันเป็นวันจันทร์ที่หล่อนต้องไปสอน

    ตาย…ตายแน่…พี่เก่งฆ่าตายแน่ๆ…

    หลังจากแต่งตัวเสร็จหล่อนก็รีบออกจากห้องปิดประตูทันที ระหว่างที่พยายามล็อคประตูห้องอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงคนกำลังทะเลาะอยู่ข้างๆ

    “ผู้ชายใจร้าย…เฮงซวยที่สุด!!!” หญิงสาวตัวน้อยหน้าตาเข้าขั้นคำว่าสวยเลยทีเดียว เว้นเสียตอนนี้มีน้ำตาไหลเปื้อนเต็มใบหน้าไปหมด เปล่งเสียงร้องไห้โฮอย่างไม่อายใคร กำมือทั้งสองข้างทุบตามร่ายกายของชายหนุ่มคนหนึ่ง

    ใคร…เป็นอะไรเหรอ? นิชาได้ถามตัวเองอยู่ในใจ (นี่ยังมีเวลาดูคนอื่นเขาทะเลาะกันอีกเหรอเนี่ย!!)

    นิชาละสายตาจากใบหน้านวลของเจ้าของใบหน้าสวยๆนั่น ปรายตามองมาทางฝ่ายชายและก็ไม่ใช่ใคร

    “พีรนาท!!!!!” นิชาตะเบ็งเสียงเรียกเขา ชายหนุ่มต้นเหตุหันมามองนิชา ทำหน้างุนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าตะลึงตกใจ

    สาวน้อยแปลกหน้าที่กำลังมองมาทางนิชาหยุดร้องไห้ทันที ก่อนจะเริ่มร้องไห้ใหม่พร้อมกับโผกอด
    พีราทแน่น เปล่งเสียงร้องไห้จ้าใหญ่เลยคราวนี้

    “นิชาเดี๋ยว…ฟังผมก่อน…” พีรนาทร้องเรียกนิชาที่กำลังหลับเดินจากไป แต่จะวิ่งไปอธิบายก็ไม่ได้
    น้องคนนี้ก็กอดแน่นตามติแจ

    ผู้ชายใจร้าย…ผู้ชายเฮงซวย…

    นิชานึกว่าพีรนาทอยู่ในใจ หล่อนไม่คิดเลยจริงๆว่านายพีรนาทจะเป็นคนแบบนี้ เจ็บใจนักเชียวบังอาจมากที่มาหลอกหล่อนแบบนี้ เกลียดๆๆๆๆๆๆๆๆ


    “ไงไอ้ชา…มาสายแล้วยังจะหน้าบูดใส่ข้าอีก” พี่เก่งเดินเข้ามาตบบ่า ด้วยท่าทีเดิมๆ หล่อนเองก็เบื่อหน่ายที่จะต่อล้อต่อเถียงกับแกแล้ววันนี้

    “เศร้า” นิชาหลุดปากบอกออกมาแค่นั้น ก็หย่อนก้นลงนั่งเท้าคางเหม่อลอย

    “อุบ๊ะ!! คนอย่างเอ็งเศร้าเป็นด้วยเราะ? “

    “พี่…ชาเป็นคนนะ..ไม่ใช่ตุ๊กตาหุ่นขี้ผึ้งถึงจะได้ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย” หล่อนว่าพลางทำหน้าตาค้อนใส่อย่างเหลืออด

    “เออๆๆ แล้วมานั่งเศร้าเรื่องอะไร”

    “เรื่อง…เอ่อ…เรื่อง..ไม่บอกวุ้ย!!” เรื่องแบบนี้ใครจะบอกได้ล่ะ ขืนบอกไปหล่อนไม่โดยพี่เก่งปากสุนัขล้อเอาเหรอ?…ไม่ๆๆๆ “ไม่บอก…เอ่อ..ไม่มีอะไรน่ะ”

    “ไม่มีอะไรแล้วเอ็งจะเศร้าทำไม” พี่เก่งยังไม่เลิกถาม แกหัดทำตัวเป็นทนายตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย อยากจะถามอยากจะรู้มันซะทุกอย่าง

    “ไม่มีแล้ว ไปๆๆอยากอยู่คนเดียว”

    จากคุณ : DaisY - [ 11 ต.ค. 47 18:59:53 A:203.113.39.11 X:203.150.217.118 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป