CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    เรื่องเล่าชาวสืบสวนฯ : ออกจากนิติเวช…ไปหล่อรอยเท้าภาคสนามกันดีกว่า(1)

    link ของตอนดึกดำบรรพ์ค่ะ  ^ ^'
    *  เรื่องเล่าชาวสืบสวนฯ : นิติเวชทัศนาจร ตอน เจษฎาพลิกศพ
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2939702/W2939702.html

    *  เรื่องเล่าชาวสืบสวนฯ : นิติเวชทัศนาจร#2 ตอน ดวงตากับหน้าต่าง
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2952665/W2952665.html

    -------------------------------------------------------
    เรื่องเล่าชาวสืบสวนฯ : ออกจากนิติเวช…ไปหล่อรอยเท้าภาคสนามกันดีกว่า(1)
    บอกกล่าว : กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับการไปดูงานนิติเวชซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในวิชาสืบสวนสอบสวนฯกันมาสองหน ไม่รู้มีใครยังจำเมย์กับเจษได้บ้างไหม… แล้วตอนท้ายของเรื่องของเมย์ก็บอกเสียดิบดีว่าอาจจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับนิติเวชต่ออีกสักตอน แต่เพราะแต่ละเรื่องมีลักษณะเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของคนนั้นบ้างคนนี้บ้าง เลยขออนุญาตยกไปเล่าในเก็บตกท้ายเรื่องอื่นๆ ก็แล้วกันนะคะ

    การทำตามสิ่งที่พูดเอาไว้ไม่ได้เป็นความผิดใหญ่หลวงนัก ต้องขออภัยสำหรับคนที่อยากอ่านเรื่องเกี่ยวกับนิติเวชอย่างไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น จึงขออนุญาตไถ่โทษด้วยการพาไปเที่ยวดูกิจกรรมภาคปฏิบัติของนักศึกษานิติศาสตร์ที่ลงเรียนวิชานี้แทนนะคะ  

    ในการสืบสวนสอบสวนภาคปฏิบัติที่จะเล่าต่อไปนี้ ถ้าอาจารย์ทราบเข้ามีหวังถูกเรียกเกรดคืนแน่นอน เพราะที่ทำลงไปแต่ละอย่าง… ถ้าไม่ผิดสูตร ก็แต่งตำราใหม่… ดูไม่จืดพอฟัดพอเหวี่ยงกับกิจกรรมนิติเวช แต่คราวนี้ต่างกันนิดหน่อยตรงที่เป็นผลงานของกลุ่มตัวเองด้วยค่ะ (คืองานนี้เผาตัวเองด้วย คนอื่นด้วย…  - -‘)

    เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขออนุญาตพาออกจากบรรยากาศสยองไปสูดอากาศบริสุทธิ์นอกห้องชันสูตรศพ ท่ามกลางไอดิน กลิ่นหญ้า และ ผงปูนปลาสเตอร์  ในงานหล่อรอยเหยียบย่ำกันเลยนะคะ

    ------------------------------------------------------------
    ก่อนเข้าเรื่องขออนุญาตทบทวนความหลังกันสักนิด…

    วิชา ”สืบสวนสอบสวน” มาจากชื่อเต็มของวิชา 157494 สืบสวนสอบสวนและการพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ของนักศึกษานิติศาสตร์ชั้นปีที่ 4 นอกจากการเรียนภาคทฤษฎี เช่น เวลาจะเข้าสถานที่เกิดเหตุต้องทำอย่างไร หลักในการสะกดรอยตามผู้ต้องสงสัย อาวุธปืนและวิถีกระสุน ฯลฯ และการไปดูงานนอกสถานที่อย่างการชันสูตรพลิกศพที่เคยเล่ามาแล้ว วิชานี้ยังมีส่วนของภาคปฏิบัติ หรือ “แล็บ” ซึ่งเป็นการเอาหลักการที่เรียนไปมาใช้ มีการทำงานกลุ่มคือ การสะกดรอยติดต่อกัน 72 ชั่วโมงกับหล่อรอยเหยียบย่ำ และงานเดี่ยวคือ การพิมพ์ลายนิ้วมือ กับการปัดฝุ่นหารอยลายแฝงบนวัตถุ  

    เรื่องในแล็บที่จะเล่าเป็นลำดับแรกก็คือ “การหล่อภาพรอยเหยียบย่ำ” …

    ขึ้นต้นมาอย่างนี้ แล้วไอ้ภาพรอยเหยียบย่ำที่ว่าคืออะไรล่ะ ?

    “ภาพรอยเหยียบย่ำ” (Foot Print) ที่ว่าก็คือ รอยฝ่าเท้าหรือรอยพื้นรองเท้าที่ปรากฏอยู่บนพื้นผิวที่ได้เหยียบย่ำลงไป เป็นร่องรอยชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ในที่เกิดเหตุนอกจากพวกรอยนิ้วมือ หรือร่องรอยของวัตถุที่คนร้ายใช้ในการกระทำความผิด เช่น รอยกระสุนบนผนังห้อง หรือ รอยงัดของชะแลงบนวงกบหน้าต่าง ฯลฯ

    เมื่อพูดถึงภาพรอยเหยียบย่ำโดยหลักแล้ว จะเป็นการมุ่งประเด็นความสนใจไปที่รูปรอยของพื้นรองเท้าหรือฝ่าเท้าที่เหยียบแล้วปรากฏเป็นรอยขึ้นมาอันนั้น  ส่วนรอยเท้าที่ปรากฏเป็นแนวการเดินที่เห็นทั้งหมดไม่เฉพาะรอยใดรอยหนึ่งเราจะเรียกกันว่า “ภาพรอยเดิน” (Walking Picture)

    แล้วทำไมต้องหล่อรอยพวกนี้ด้วย ?

    ที่ต้องหล่อภาพรอยเหล่านี้ไว้ก็เพราะภาพรอยเหยียบย่ำที่เกิดขึ้นนี้สามารถบอกอะไรเกี่ยวกับคนร้ายได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างโดยดูจากขนาด ของเท้า น้ำหนักที่ลง ลักษณะการเดิน ทิศทางที่คนร้ายมุ่งไปและสามารถนำมาพิสูจน์ถึงตัวเจ้าของรอยนั้นว่าเป็นใครได้ด้วยโดยดูจากยี่ห้อ รอยสึกของรองเท้า

    ภาพรอยเหยียบย่ำที่เกิดขึ้นเป็นรอยสามมิติมีความกว้าง ยาว ลึก แต่เราจะงัดดินที่มีรอยทั้งผืนไปตรวจพิสูจน์มันก็คงกระไรอยู่ วิธีการที่จะเก็บไปตรวจพิสูจน์ที่ดีที่สุดก็คือ วัดรอยเท้า ถ่ายรูปเก็บภาพรอยไว้แล้วทำการหล่อ (Casting…ไม่ใช่หาดารามาทำหล่อหน้ากล้องนะ… ต้องมีคนอยากซื้อไปทิ้งแน่เลย มุขนี้ ^^”) รอยเท้านั้นแล้วเอารูปหล่อส่งตรวจ สำหรับที่เราทำกันมีแค่ขั้นตอนการหล่อภาพรอยค่ะ

    วัสดุที่นำมาใช้หล่อรอยเหยียบย่ำนั้นอาจใช้ได้หลายอย่าง เช่น ขี้ผึ้ง กาว แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้Dental Plaster หรือปูนปลาสเตอร์ชนิดที่ทันตแพทย์ใช้หล่อแบบฟันซึ่งราคาถูกแต่คุณภาพดี หรือ จะใช้ Plaster of Paris หรือที่เรารู้จักกันในนามปูนปลาสเตอร์ ซึ่งมีคุณภาพรองลงมาก็ได้

    ในฐานะนักหล่อมือใหม่อย่างพวกเราก็ใช้ของชนิดหลังนี่แหละค่ะ เพราะมันหาง่ายแล้วก็ถูกดีด้วย ขายกันเป็นถุงละกิโล ถุงหนึ่งราคา 20 บาท ถึงอาจารย์จะแจกกลุ่มละ 2 ถุงสำหรับหล่อ 1 รอย ถ้าไม่พอก็ขออีกได้ แต่เนื่องจากว่ากว่าเราจะก็หล่อกันได้เรื่องก็เล่นเอาหมดปูนไปหลายถุง ทำบ่อยเข้าก็ซื้อใช้เองกันเลยดีกว่าเพราะเกรงใจอาจารย์ และเกรงใจคนที่เรียนอีก Section หนึ่งด้วยเดี๋ยวเขามาแล้วจะไม่มีใช้  

    ถึงตอนนี้ก็ได้ฤกษ์ตามมือสมัครเล่นไปหล่อรอยเท้ากันแล้วนะคะ… แต่ก่อนไป เรามาสำรวจอุปกรณ์กันสักหน่อยดีกว่า  

    นอกจากอุปกรณ์หลักอย่างปูนพลาสเตอร์แล้วก็ต้องมี ถังน้ำสำหรับผสมปูน ไม้พายสำหรับกวนปูนกับน้ำ(ที่ใช้คือพายยางที่เขาไว้ทำเค้กกันน่ะค่ะ)  แผ่นไม้หรือโลหะหรืออื่นๆ สำหรับกั้นทำกรอบรอบรอยเหยียบย่ำ เศษกิ่งไม้ใบหญ้าหรือเศษมุ้งลวดสำหรับใช้เป็นวัสดุประสานจะได้ไม่เปราะเวลายก ส่วนน้ำที่ใช้ผสมปูนก็เบียดบังของหลวง(ของคณะ)มาใช้  

    สิ่งที่จะลืมไม่ได้เลย แต่ไม่มีในสถานการณ์จริงก็คือ… รองเท้าหนึ่งข้างที่พื้นรองเท้ามีลวดลายชัดเจนที่สุดเท่าที่จะหามาได้และควรเป็นรองเท้าที่เลิกใช้แล้วเพราะต้องส่งตรวจพร้อมกับภาพหล่อรอยเท้า  เพื่อให้ได้มาซึ่งรอยพื้นรองเท้าสวยๆ สำหรับส่งเอาคะแนน… ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์สำคัญที่สุดของงานนี้

    วิธีการหล่อรอยเท้าอย่างย่อๆ ทำโดยผสมปูนให้มีความหนืดพอประมาณ คล้ายๆ เวลาเราผสมแป้งสำเร็จรูปสำหรับทอดเทมปุระนั่นแหละค่ะ เวลาผสมต้องเทปูนลงในน้ำที่เตรียมไว้ ไม่ใช่เทปูนก่อนแล้วเทน้ำตามนะคะ แล้วก็ต้องคนเบาๆ เพื่อไม่ให้เกิดฟองอากาศ ไม่อย่างนั้นฟองอากาศพวกนี้จะไปผุดอยู่ในรอยเหยียบย่ำทำให้ภาพเสียหายหรือไม่ชัดเจนได้ ก่อนที่จะผสมปูนก็ควรตีกรอบรอยนั้นไว้ด้วยเพื่อเวลาปูนแห้งจะได้จับยกขอบได้ เพราะถ้าผสมปูนไว้แล้วมัวแต่มาตีกรอบทีหลัง ปูนจะแห้งเสียก่อน

    เวลาเทปูนต้องค่อยเทลงข้างๆ กรอบที่ทำไว้โดยเทให้ไหลผ่านไม้พายลงไป ปูนจะได้ไหลลงในรอยเท้าช้าๆ และไม่เกิดฟองอากาศ พอเทได้สักครึ่งหนึ่งก็โรยวัสดุประสานอย่างเศษหญ้า เศษมุ้งลวดลงไป แล้วเทปูนที่เหลือทับ เกลี่ยผิวให้เรียบ รอให้หมาดจวนแห้งก็ใช้ของแหลมๆ อย่างปลายมีด หรือ ไม้เสียบลูกชิ้น สลักวัน เดือน ปี ชื่อผู้ที่หล่อ คดีที่เกิด และ สถานที่ลงไป พอปูนแห้งก็ยกออก ตากลมไว้ประมาณหนึ่งคืนให้แห้งสนิท แล้วปล่อยน้ำเบาๆ ไหลผ่านเพื่อทำความสะอาดเอาเศษดินที่ติดอยู่ออก รอให้แห้งอีกที เป็นอันจบกระบวนการค่ะ

    ฟังดูเหมือนไม่ยาก แต่พอลองทำเข้าจริงๆ กว่ามือใหม่หัดทำอย่างเราๆ จะได้มาสักรอยหนึ่งต้องเสียเหงื่อไปคนละหลายกระป๋อง…  แถมบางคนยังต้องเสียเลือดด้วย  

    อาจารย์คงจะทราบดีอยู่แล้วว่างานนี้มันวิบากขนาดไหน อาจารย์เลยให้ทำเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน

    ตอนนี้เราลงสนามไปดูชาวสืบสวนฯ หล่อภาพรอยเหยียบย่ำกันดีกว่า… ว่าแต่จะเริ่มที่กลุ่มใครก่อนดีล่ะ เอาเป็นว่าดูจากกลุ่มของเจษ(เจ้าของเรื่องเจษฎาพลิกศพ)กับไนท์(จากตอนดวงตากับหน้าต่าง) ซึ่งลงมือทำก่อนเพื่อนก็แล้วกันนะคะ


    --->นี่คือ ฝีมือหล่อรอยเท้าของกลุ่มเจษกับไนท์ค่ะ ^ ^

     
     

    จากคุณ : ปิยะรักษ์ - [ 17 ต.ค. 47 14:09:09 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป