CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    เรื่องเล่า.....ปลายสตั๊ด

    บันทึกเรื่องเล่า……ปลายสตั๊ด

    โดย มนุษย์หิน
    ตอนที่ 1


    เวลา 17.30 น.ของเย็นวันหนึ่งเมื่อประมาณปลายๆ ปี 2546 พนักงานเกือบ 90% ในบริษัทของผมต่างรีบเดินทยอยกันลงมาตอกบัตรลงเวลาอย่างเร่งรีบไม่ต่างจากฝูงผึ้งที่แตกรัง เป้าหมายของทุกคนมุ่งไปที่เครื่องตอกบัตรเสมือนหนึ่งเจ้าเครื่องนี้เป็นเครื่องพันธนาการระหว่างตัวพนักงานเองกับบริษัท และหลังจากบัตรลงเวลาถูกรูดออกพันธนาการที่ว่าก็ถูกปลดออก เวลาที่ให้กับการทำงานมาทั้งวันก็สิ้นสุดลง จะเหลือก็เพียงแต่เวลาของตนเองแต่ทว่าอาจจะเป็นไปได้เพียงน้อยนิด เพราะหลังจากรีบเร่งมาตอกบัตรแทบตายแต่สุดท้ายก็ต้องมาเจอกับสภาพรถติดบนท้องถนนอีกซึ่งต้องสละเวลาทั้งหมดไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อยในการแน่นิ่งอยู่บนรถ ผมเดินลงมาจากแผนกของผมอย่างไม่เร่งรีบและค่อนข้างจะเนือยๆ ด้วยซ้ำ เพราะว่าผมไม่มีนัดกับรถบนท้องถนน บริษัทของผมในตอนนี้มีสภาพเงียบเหงาเป็นอย่างมาก ไม่น่าเชื่อว่าก่อนหน้านี้แค่ 7-8 นาที บริษัทแห่งนี้ยังมีคนพลุกพล่านไม่ต่ำกว่า 50 คนเลยทีเดียว ผมเหลือบตามองไปที่ลานกว้างหน้าบริษัทแล้วก็ยิ้มให้กับตนเอง วันนี้ดีแฮะไม่มีรถลูกค้าซักคัน ผมเดินไปที่เครื่องตอกบัตรรูดบัตรพนักงานลงที่เครื่องช้าๆ เสียง “ปี๊ป..”ของเครื่องตอกบัตรดังกังวานอยู่ในความเงียบซึ่งบริเวณนั้นมีเพียงแค่ผมกับเจ้าหน้าที่ รปภ.อยู่ตรงนั้นสองคนเท่านั้น ผมยิ้มให้กับเค้านิดนึงก่อนที่จะเดินเลยประตูบริษัทไปและไปทางห้องพักพนักงาน เมื่อผมผลักประตูเข้าไปมีกลุ่มคนที่คุ้นเคยอยู่ในห้องนั้นแล้วประมาณ 5-6 คน กำลังผ่อนคลายในอิริยาบถที่แตกต่างกัน บางคนก็เปลี่ยนเสื้อผ้า บางคนก็จับกลุ่มนั่งคุยกัน และยังมีบางคนนั่งโซ้ยมาม่าเหงื่อแตกพลั่ก!
    “เฮ้ย….วันนี้มีเท่านี้เรอะ” ผมถามกับต้อม รุ่นน้องผมที่ห่างกับผมประมาณ 4-5 ปี
    “ใช่พี่..มีเท่านี้น่ะแหละ”
    “แล้วพี่ริส กับ พี่มาโนชล่ะ” ผมถามถึงรุ่นพี่ของผมอีกสองคน
    “พี่ริสไปout sideข้างนอกน่ะพี่ คงกลับมาประมาณทุ่มนึง ส่วนพี่มาโนชแกบอกว่าจะไปวิ่งที่บ้าน”
    “เฮ้ย ดีน ผมว่าคุณไปแต่งตัวเหอะ รอคุณอยู่คนเดียวน่ะ” เสียงของนุ้ยพนักงานธุรการกระเซ้าผมอยู่อีกด้านหนึ่งของห้อง ซึ่งเจ้าตัวแต่งกายในชุดกีฬาเรียบร้อยแล้ว ผมทำตามอย่างว่าง่ายเดินไปที่ราวแขวนเสื้อผ้ามองดูเสื้อกีฬาสองสามตัวที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองโดยชอบธรรม เอ…วันนี้ใส่ตัวไหนดีนะ ตัดสินใจหยิบชุดขาวเรียบๆ ตัวหนึ่งมีแถบสีดำเล็กๆ สีดำสามแถบคาดช่วงบ่าถึงปลายแขน เสื้อตัวนี้จัดเป็นเสื้อสีขาวเรียบๆ ตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ถ้าหากว่าตรงหน้าอกข้างซ้ายไม่มีตราสัญลักษณ์วงกลมรูปนกอินทรีสีดำทมึนกับข้อความรอบวงกลมที่เขียนไว้ว่า DEUTCHLUND FUSSBALL ใช่แล้วครับนี่คือเสื้อฟุตบอลของทีมชาติอินทรีเหล็กเยอรมัน ผมหยิบมันขึ้นมาสวมอย่างมั่นใจพร้อมทั้งอุปโลกน์ตนเองเป็น เกริด มุลเลอร์ ฉายา”ไอ้ลูกระเบิด”ที่สร้างชื่อให้ทีมชาติเยอรมันกระเดื่องเลืองนามในยุค’70 หลังจากแต่งกายเสร็จเรียบร้อย ผมเดินสวนมากับ โส เด็กรุ่นน้องผมอีกคนหนึ่งซึ่งเดินถือชามมาม่ามาทางผม
    “วันนี้ไม่เล่นหรือ โส”
    “ไม่ง่ะพี่ เมื่อวานยังปวดเข่าไม่หายเลย” โสตอบผมด้วยหน้าตาที่มีเม็ดเหงื่อพราวอยู่ตรงหน้าผาก และปลายจมูก แสดงให้เห็นว่ามาม่าชามนี้ของมันแซ่บใช่เล่น
    พวกเราทั้งหมดตรงไปที่บริเวณลานไม่กว้างไม่แคบตรงกลางบริษัท เพื่อที่จะเปลี่ยนจากอู่ซ่อมรถในตอนกลางวันเป็นสมรภูมิลูกหนังในยามค่ำคืน และนี่คือสนามฟุตบอลจำเป็นของพวกเรา กลุ่มคนที่ชอบและรักที่จะเล่นฟุตบอลและออกกำลังกาย และด้วยพื้นที่ตรงนี้ไม่ใช่สนามฟุตบอลโดยชอบธรรม การเล่นฟุตบอลของเราจึงมีการตั้งกฎกติกามาพอสมควรในการเล่นที่เวมบลีย์น้อยแห่งนี้ อาทิเช่น
    1. การแข่งขันฟุตบอลในสนามแห่งนี้ แบ่งเป็นข้างละ 3 คน โดยฝ่ายใดยิงประตูเข้าที่โกล์รังหนู(ตามภาษาชาวบ้าน)ได้ก่อนจะถือเป็นผู้ชนะ และจะมีสิทธิได้เจอกับทีมต่อไปโดยทีมแพ้ต้องเดินออกจากสนามไปโดยละม่อมแต่โดยดี ถ้าหากว่าภายในห้านาทียังไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำประตูได้จะตัดสินกันด้วยลูกโทษในแบบ Golden Goal คือตัดสินกันโดยลูกเดียว
    2. เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นอู่ซ่อมรถและศูนย์บริการ ฉะนั้นบางวันจึงมีรถจอดบริเวณสนาม เพราะฉะนั้นควรจะเตะกันด้วยความระมัดระวัง ถ้าหากใครเตะบอลไปโดนรถได้รับความเสียหาย มันผู้นั้นต้องจ่ายค่าเสียหาย 50 % ของราคาค่าเสียหายทั้งหมด ส่วนอีก 50% ที่เหลือสมาชิกทั้งหมดที่เล่นฟุตบอลกันในวันนั้นจะต้องหารกันรับผิดชอบในส่วนตรงนี้ด้วยถือว่านักฟุตบอลทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน
    3. ปลูกจิตสำนึกสำหรับพวกนิยมในเรื่องการเตะลูกเตะพลังช้าง หรือซัดเต็มข้อแบบ โรแบร์โต้ คาร์ลอส ถ้าหากเป็นสนามใหญ่คุณเตะไปเลยไม่มีใครว่า แต่สำหรับที่นี่ ห้าม! เพราะว่ารอบๆ บริเวณสนามนอกเหนือไปจากรถที่จอดเต็มแล้ว สนามเวมบลีย์น้อยแห่งนี้ยังรายล้อมไปด้วยกระจกใสๆ ของบรรดาออฟฟิศต่างๆ ภายในบริษัท บทลงโทษเหมือนเช่นกันกับข้อสอง แต่เข้าใจว่าจะรุนแรงกว่าหากว่าไปสอยเอากระจกห้องพักลูกค้า หรือห้องผู้บริหารเข้า มีสิทธิที่จะโดนแบนหรือถึงขั้นไล่ออกจากการเป็นพนักงานได้ในทันที! (อันนี้เรื่องจริง ขอบอก…)
    4. ลูกฟุตบอลที่นำมาเล่นไม่ควรที่จะนำลูกฟุตบอลแท้ๆ อย่างพวก โรเทโร่ หรือ รุ่นโนวา มาเล่น แต่ควรจะเป็นลูกบอลที่มีความซอฟท์สูง เช่นลูกวอลเลย์บอล หรือบอลยางเป็นต้น ส่วนพวก เปเล่ ไฟว์สตาร์ ไม่ต้องนำมาเลย เอากลับไปเล่นที่บ้านดีที่สุด (ก็บอกแล้วไงว่าที่นี่เป็นบริษัท ไม่ใช่สนามบอล ถ้าไม่เข้าใจย้อนไปอ่าน ข้อ 2 และ ข้อ.3 ใหม่อีกรอบหรือหลายๆ รอบก็ๆได้)
    5. หลังจากทำการแข่งขันหรือเล่นฟุตบอลกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรจะกระทำตนเป็นผู้ดีโดยการนำเอาสิ่งของหรืออุปกรณ์ต่างๆ เก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย เพื่อที่คนอื่นที่ไม่ได้เล่นจะได้ไม่ว่าเอาได้ว่าไอ้นักฟุตบอล…
    6. ขี้เกียจเขียนแล้วล่ะครับ เอาเป็นว่าที่ผมเขียนมาก็คงพอจะนึกออกใช่มั๊ยครับว่า หลังจากเลิกงานแล้วพวกเราทำอะไรกัน และสนามที่เราเล่นเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นพวกที่ตั้งก๊วนเล่นบอลกันส่วนใหญ่ก็คือพวกที่ชอบเล่นบอลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยถือโอกาสมายืดเส้นยืดสาย หรือไม่พวกที่ไม่รู้จะรีบกลับบ้านไปทำไมกลับเร็วรถก็ติดกลับดึกดีกว่ารถไม่ติดวิ่งเร็วดี(แต่ข้อนี้ก็ไม่แน่เสมอไปเหมือนกัน เพราะพวกเราบางคนกลับเช้าเลยก็มี) ส่วนผมเป็นพวกบ้าบอลครับ เริ่มจากชอบดูบอลต่างประเทศทางโทรทัศน์ แล้วก็สะเออะไปเล่นพนันบอลกับเค้าบ้าง จนในที่สุดก็หันมาเล่นบอลมันเองเลยดีกว่า ซึ่งบางคนบอกว่าผมมาสายเกินไป จะไม่ให้เค้าคิดยังงั้นได้อย่างไรเล่าครับ ก็แหมปีนี้ผมก็อายุปาเข้าไป 30 ปีแล้ว ไม่ได้ออกกำลังมาจะเกือบ 10 ปี แถมร่างกายของตนเองก็อ้วนกลมคล้ายกับลูกบอลยังกะอะไรดี เรียกว่าในสนามแยกไม่ออกเลยระหว่างผมกับลูกฟุตบอล แต่ผมถือว่าก็ยังดีกว่าไปเสียเงินแทงบอลล่ะว่ะ ประมาณว่า”ให้เหงื่อออกทางขุมขน ดีกว่าให้เหงื่อออกทางลูกตา”อะไรนั่นแหละครับ

    จากคุณ : มนุษย์หิน - [ 18 ต.ค. 47 16:31:05 A:203.107.168.150 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป