จำได้ว่าตอนออกเรือครั้งแรกฉันเมาเรือ
น่าขายหน้าชะมัด ถึงตอนนั้นอายุ... เท่าไหร่หว่า ยังไม่ถึง 4 ขวบได้เลยละมั้ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ขายขี้หน้าตัวเอง เป็นลูกโจรสลัด ลูกทะเลแท้ ๆ แต่ดันกลับเมาเรือเสียได้
ตอน 7 ขวบละมั้ง ที่เริ่มตกปลาเป็นครั้งแรก
วันนั้นเซ็งจัดมากจนไม่รู้จะทำอะไร เลยตกปลาเล่นแบบเด็กทั่ว ๆ ไป พายเรือออกมากลางทะเลคนเดียว กลับไปถูกต่อว่าหนำซ้ำปลาที่ตกมาได้ยังกินไม่ได้เลยสักตัว
ตอน 9 ขวบ ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นได้เจอกับเจ้าครี้ดเป็นครั้งแรก
ถึงตอนนั้นมันก็บ้าสุดขีด ไม่เคยเห็นคนบ้าแบบมันมาก่อน
ตอนอายุได้ 10 ปี ก็เริ่มออกเรือเป็นโจรสลัดแบบเขาบ้างเป็นครั้งแรก
ความจริงทางบ้านค้ายสุดขีดไม่ให้ทำอันตรายแบบพ่อเขา แต่ก็ยังแอบไปจนได้ แน่นอนว่าสุดท้ายสิ่งได้รับคือคำต่อว่า
การเป็นโจรสลัดมันอันตราย ขนาดพ่อที่เอาตัวรอดได้ทุกวันนี้ก็เพราะประสบการณ์มาหลายสิบปี
ความจริงแม่ไม่ห่วงพ่อแล้วเพราะหากว่าคนอย่างพ่อเป็นอะไรไป คนในเรือทั้งหมดคงตายกันทุกคน
ช่วงเจอพายุกลางคันระหว่างออกเรือจะเป็นเวลาที่พ่อชอบมากเพราะจะมีเรือหลายลำน่ามืดตามัวมาขอความช่วยเหลือ หรือ มาติดต่อ
ถึงตอนนั้นก็เรียบวุธ... ข้าวของกลับบ้านได้มาเพียบ
พ่อบอกเสมอว่าการเป็นโจรสลัดมันก็เป็นเหมือนวิถีของลูกผู้ชายอีกอย่างหนึ่ง เราจะเผชิญหน้ากับเขาตรง ๆ อย่างอาจหาญแย่งชิงมาอย่างภาคภูมิใจ
บางครั้งพ่อก็ถูกเรียกไปช่วยคุ้มครองเรือสินค้าจากโจรสลัดเสียเอง
ความจริงก่อนหน้านั้นฉันก็ถูกจับให้เรียนหนังสือกับเขาแล้ว หากพอถึงวันหยุดนั้นแล้วพ่อออกไปทำงานพอดีฉันก็จะออกตามไปด้วย แต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้งไป
ก็เพราะพ่อเวลาออกไปทำงานก็เป็นเวลานานมาก หากฉันตามไปด้วยพ่อก็จะต้องนั่งเรือเล็กวกกลับมาเพื่อส่งฉันกลับทุกครั้งไป
ฉันชอบชะมัดเลยทะเล ลึกลับ ยิ่งใหญ่ ท้าทาย และ ลึกลับ ก็เคยคิดเหมือนกันว่าถึงตายก็ขอตายที่ทะเลนี่แหละ
แต่ก็ไม่เคยหรอกนะที่จะคิดว่าตัวเองจะถูกจับแล้วถูกมัดไว้ในเรือของคนอื่นอย่างนี้
เจค สวอน อายุ 15 ปี
มือสองข้างและเท้าทั้งคู่ถูกเชือกรัดแน่นยากเกินกว่าจะแกะออกด้วยนิ้ว อีกทั้งร่างกายยังถูกผูกไว้เป็นหนึ่งกับเสาในห้องด้วยเชือกอันใหญ่
ถูกพันธนาการโดยมิอาจจะเคลื่อนไหวได้
ถึงยังไงพ่อก็คงมาช่วยเจ้าลูกบ้าคนนี้แหง แต่ก็คงอีกนาน
อีกอย่างถูกมัดแล้วนั่งทำหน้าเซ่อแบบนี้รอให้คนมาช่วยแบบนี้มันอุบาวท์สิ้นดี
แต่ก็คิดไม่ออกว่าจะหนีออกไปยังไงดี
จะขอมันเข้าไปห้องน้ำมันก็บอกว่าให้ปล่อยไว้ตรงนั้น จะชวนคุยมันก็ไม่ยอมคุยด้วย เรียกมัน มันก็ไม่สน
อยากจะเข้าตั้นหน้ามันเสียตอนนี้จริง ๆ โดยเฉพาะเมื่อเห็นความโทร เดอะ นัวร์ ไวน์สุดเยี่ยมและรสชาติล้ำลึกหายากอย่างนั้นที่ต้องตกอยู่ในปากของไอ้หนวดที่หน้าตาไร้
รสนิยมที่อยู่ข้างหน้าแบบนี้
เจคถอนหายในความจริงอยากจะยืดเส้นยืดสายเสียหน่อยมากกว่าจะต้องทำอะไรที่เมื่อยตัวแบบนี้
เมื่อทำใจได้แล้วเจคก็พยายามก้มลงไปกัดเชือกเส้นใหญ่ที่ผูกมัดเอาไว้ตรงบริเวณท้องอย่างเงียบ ๆ
เจ้าลูกชายเฮงซวย
ฮิวจ์ สวอน รำพึงอยู่ในใจ ในขณะที่กำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ในเรือลำเล็กโดยมีเพียงกระแสน้ำที่คาดการณ์ไว้แล้วเท่านั้นที่นำพาเรือที่โดยสารอยู่เคลื่อนตัวไปหาเรือ
สำเภาลำใหญ่ที่อยู่ตรงเบื้อหน้าไม่ไกลสายตานัก ที่ลูกชายของตนถูกจับไว้อยู่ข้างในนั้น โดยมีเพียงผู้ติดตามอีก 3-4 คนที่นั่งอยู่ในเรือตามมาอยู่ข้างหลัง สิ่งของที่ติดตัวมามีพียงอย่างเดียวคือดาบ อาวุธคู่ใจเท่านั้น
"จะให้พวกมันชดใช้ให้คุ้มเลยคอยดู" แววตาสีน้ำตาลประกาศอย่างแข็งกร้าว
กัดยากชะมัด...
เด็กหนุ่มบ่นในใจอย่างอดเสียไม่ได้ การก้มลงไปกัดเชือกที่พันอยู่บนเอวของตัวเองนี่มันยากกว่าที่คิด
จะกัดเชือกที่ผูกอยู่ตรงเท้าก็กัดไม่ถึงอีก
เมื่อนั้นก็มีแขกผมสีแดงผู้มาเยือนเดินเข้ามาโดยไม่ยอมเคาะประตู
พร้อมกับดาบเล่มใหญ่อีกหนึ่งเล่ม
เจ้าหนวดที่นั่งชดไวน์อยู่ลุกขึ้นไปหา พร้อมกับเอ่ยคำถาม
"จะพามันไปเลยใช่ไหม"
"ถ้าตัดเชือกเดี๋ยวมันจะหนี" ชายผมแดงพูด ดาบที่ถืออยู่สะท้อนแสงเป็นประกาย
"หัวหน้าบอกว่าให้ฆ่ามันเลยแล้วค่อยพาไป"
เจคกลืนน้ำลาย
หลังจากพูดจบไอ้หนวดก็เดินเข้ามาโดยเจ้าผมแดงยืนอยู่เบื้องหลัง
"โทษทีนะเจ้าหนู เผอิญเสบียงมันหมดพอดีเลยต้องใช้แกเป็นตัวประทังชีพแทนชั่วคราว"
แววตาเยาว์สีน้ำตาลมองอย่างไม่ไว้ใจ
"พวกแกเป็นพวกกินคนหรือยังไง"
"ไม่ใช่พวกข้าหรอก" ไอ้หนวดเฉลย
"ไอ้ที่มันอยู่ข้างล่างตางหาก"
ในที่สุดเรือลำเล็กของฮิวจ์ก็เข้ามาประชิด แต่ไม่สามารถที่จะขึ้นไปบนเรือได้เพราะมีเขตเวทย์มนต์ครอบคลุมอยู่
"จะเอายังไงครับ" คนที่ติดตามคนหนึ่งถาม ฮิวจ์พิจารณาสัญลักษณ์ที่ปรากฏอยู่ในเขตเวทย์มนต์ หลังจากนั้นปากของผู้เป็นพ่อก็ขยับราวกับร่ายเวทย์อะไรบางอย่าง เมื่อนั้นเองที่เขตเวทย์มนต์ได้แตกสลาย โดมสีเขียวที่ครอบเรือเอาไว้เหมือนกับเป็นการคุ้มครองอยู่ได้ปรากฏขึ้นมาชั่วครู่แล้วเมื่อนั้นมันก็ได้แตกเป็นเสี่ยง ๆ
ลูกเรือข้างในลุกฮือ เมื่อนั้นเองการบุกรุกก็ได้เปิดฉากขึ้น
"อธิบายมาหน่อยสิ ว่าอะไร" เจคพยายามถ่วงเวลา แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเมื่อดาบเล่มใหญ่ข้างหน้าฟาดเข้ามาเป็นการหมายชีวิต
เจคใช้แรงที่ยังคงเหลืออยู่ยกเท้าขึ้นมากันเอาไว้ ด้วยควาแม่นยำ คมดาบได้โดนเชือกจนขาด รองเท้าหนังขาดวิ่น ขากางเกงถูกตัดเป็นริ้ว เมื่อขาเป็นอิสระก็ใช้งานมันทันทีโดยใช้มันถีบเจ้าผมแดงที่อยู่ข้างหน้าจนกระเด็น ไอ้หนวดหลบฉากออกมาอย่างรู้ทัน
เมื่อนั้นเจ้าหนวดก็เดินไปที่ลิ้นชักที่อยู่ข้างหลัง แล้วหยิบอาวุธมีดสีเงินออกมา
"เจ็บหน่อยนะไอ้หนู ใกล้เวลาอาหารแล้วเลยต้องรีบหน่อย"
เมื่อสะบัดมือมีดสั้นก็หลุดออกจากมือ จุดหมายคือตรงอกซ้ายของเจค
บริเวณที่หัวใจกำลังเต้นอยู่
แต่เด็กหนุ่มกลับเอาเท้าปัดมีดทิ้งอย่างง่ายดาย
มีดกระเด็นไปปักที่ผนังไม้ของห้อง แต่เนื่องด้วยโดยคมมีดเท้าของเจคเป็นบาดแผลยาวเลือดสีแดงเริ่มไหลออกมา
ตอนนั้นเองที่เจ้าผมแดงได้สติอีกครั้งแล้วเอื้อมมือไปหยิบดาบขึ้นมาหมายจะเอาชีวิต
เสียงอีกทึกดังขึ้นจากข้างบน คาดว่ามาจากดาดฟ้าเรือเจคหวังไว้ในใจว่าจะเป็นพ่อของเขา
เลือดมนุษย์สีแดงไหลผ่านช่องพื้นไม้
แล้วหยดลงกระทบกับกรงเหล็กที่จับสนิม
เมื่อ มัน ที่ถูกกักขังอยู่เบื้องล่างได้กลิ่น เมื่อนั้นเองที่มันเริ่มลิ้มรสอย่างกระหาย
หมดสิ้นความอดทนแล้ว มันต้องการอาหาร
เพื่อน ๆ ของมันต่างก็ต้องการเช่นเดียวกัน
กรงเหล็กที่กักขังไว้ถูกทำลายแล้วพวกมันต่างก็ขึ้นไปข้างบนหาอาหาร
พื้นไม้ถูกทำลาย
สัตว์ประหลาดสีแดงเหมือนเปลวไฟ เหมือนเป็นมนุษย์สัตว์ร่างใหญ่ปรากฏขึ้นมาข้างหน้าของเจค
เสียงพื้นไม้พังดังลั่นไปทั่ว พวกมันที่อยู่เบื้องล่างต่างก็ทำลายเพดานไม้เพื่อขึ้นมาข้างบน
แขนข้างซ้ายของเจ้าผมแดงอยู่ดี ๆ ก็หายไป แล้วถูกแทนที่ด้วยเลือดสีแดงที่พุ่งออกมา
ไอ้หนวดก็ถูกมือผีจากที่ไหนไม่รู้เข้ามาตะบบจนร่างกายตรงกลางหายไป
ภาพสยดสยองเกิดขึ้นข้างหน้า เจคถึงกับอาเจียนออกมา
แล้วเจ้าสองตัวนั้นก็จากไป มันไม่ทำอะไรเขา
เคยได้ยินมาเหมือนกันเจ้าสัตว์ประหลาดพวกนี้ จำชื่อมันไม่ได้ แต่เห็นบอกว่าถูกซื้อขายบ่อยในตลาดมืดเพื่อการทำลายล้างโดยเฉพาะ
นิสัยของพวกมันคือบ้าคลั่ง และ กระหายเลือด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่แย่งเหยื่อกับพวกเดียวกัน
หากมันได้รับรสชาติของใครแล้วทั้งกลุ่มมันจะไม่สนใจคนนั้นอีก
เจ้าผมแดงนอนดิ้นอยู่บนกองเลือด ส่วนไอ้หนวด.. อย่าพูดถึงดีกว่า
"นักเวทย์อยู่ไหนว้อย นักเวทย์ !" เสียงเรียกร้องตะโกนดังลั่นจากข้างบนดังลอดเข้ามาถึงข้างล่าง
นอกจากจะต้องรับมือจากเจ้าปีศาจที่เป็นสินค้าแล้วยังต้องรับมือจากฮิวจ์ พ่อของเจคอีกต่างหาก
ต้องสร้างอนาเขตให้พวกมันหลับใหลเท่านั้น เพราะการทำลายสินค้าของตนเองเป็นการกระทำที่บ้าที่สุด
ไม่ต้องเรียกนานมากนักเวทย์ก็ปรากฏออกมาพร้อมกับไม้เท้าสีน้ำตาล สัญลักษณ์เวทย์มนต์เริ่มปรากฏออกมาเมื่อการร่ายเวทย์เริ่มขึ้น
เมื่อนั้นเองที่ร่างของนักเวทย์ชุ่มไปด้วยเลือด เล็บสีแดงของเจ้าสัตว์ประหลาดแทงทะลุอกของนักเวทย์ผมสีเทา ร่างกายถูกตัดขาดเป็นชิ้นด้วยปีศาจที่อยู่เบื้องหลัง
สัญลักษณ์เวทย์มนต์ก็สลายไป
เมื่อนั้นเองสัญชาตญานของทุกคนก็บ่งบอกว่าต้องฆ่าเจ้าปีศาจที่อยู่เบื้องหน้าให้หมดเท่านั้นถึงจะมีชีวิตรอด
เด็กหนุ่มนั่งนิ่ง พยายามคิดหาทางหนีออกจากห้องแห่งนี้ให้ได้
เลือดจากแผลที่เท้าออกมาเรื่อย ๆ เสียงกรีดร้อง และ ต่อสู้ยังคงดังก้องอยู่ภายนอก
หัวสมองเริ่มตื้อตันคิดอะไรไม่ค่อยออก ความจริงเจคเองก็ไม่ค่อยถนัดในการคิดเรื่องแบบนี้เท่าไหร่นัก
เมื่อนั้นเองที่พื้นเพดานไม้เริ่มแตกแล้วพังลงมา
พื้นไม้ สิ่งของ และ ผู้คนร่วงลงมาพร้อมกันจากด้านบน
กลิ่นคาวเลือดเหม็นไปหมด...
เจค เจค
เสียงเรียกดังมาจากไหนซักแห่ง ก่อนที่ภาพข้างหน้าจะเลือนลาง
ยังไม่ทันจะได้ขานรับ สติก็ขาดหายไป
จากคุณ :
Meroko
- [
20 ต.ค. 47 15:05:44
]