CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    อักษรซ่อนรัก ตอนที่ 6

    ระยะเวลาสามเดือนน่าจะทำให้น้ำนวลเลือนหายไปจากความทรงจำของศิลา แต่ชายหนุ่มกลับพบว่าเขายังคงเฝ้ามองหาเธอในทุกหนแห่ง ทั้งตามร้านอาหาร งานสังคม หรือแม้แต่สโมสรกีฬา ด้วยความเชื่อมั่นลึกๆ ว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องได้พบกับเธออีก

    แล้ววันนั้นก็มาถึง…ในรูปแบบที่ศิลาไม่คาดคิด

    “แม่นั่งด้วยคนนะ ศิลา” คุณฤดีเกริ่นนำพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับลูกชายของเธอ โดยมีโต๊ะไม้คั่นกลาง

    “ครับ” ศิลายิ้มรับ “ผมให้เขาจัดน้ำชาในสวน เพราะวันนี้อากาศดี” สวนด้านหลังคฤหาสน์งดงามด้วยต้นตาเบบูญ่าซึ่งให้ทั้งร่มเงาและความพลิ้วไหวของกลีบดอกสีระเรื่อที่ทิ้งตัวปลิวตามสายลมลงสู่พื้นหญ้าเรียบนุ่มราวกับพรม มุมหนึ่งของสนามมีน้ำพุและศาลาสีขาว ตั้งชุดโต๊ะเก้าอี้ไม้ไว้นั่งเล่น

    “เอางานออกมาทำอีกแล้วหรือ? วันอาทิตย์อย่างนี้น่าจะหยุดพักเสียบ้าง” คุณฤดีบ่น

    “ผมแค่เตรียมการสอนน่ะครับ จะต้องไปบรรยายพิเศษให้นิสิตฟัง คุณแม่มีอะไรจะคุยกับผมหรือครับ?” ชายหนุ่มวางตำราเล่มหนาลง

    “ไม่มีอะไรมากหรอกจ้ะ แค่อยากให้ศิลาดูนี่หน่อย” คุณฤดีหมายถึงนิตยสารพธูฉบับใหม่ล่าสุดที่เธอถือติดมือมาด้วย และศิลาก็รับไปพลิกดูอย่างเอาใจ

    “ดูหน้าปกซีจ๊ะ”

    “หน้าปก…อ้อ…น้องแพรวน่ะเอง” ศิลาพึมพำ พอจะนึกออกแล้วว่าทำไมคุณแม่เดินออกมาหาเขา

    “แพรวเขาได้รับเลือกเป็นนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่ไฟแรงแห่งปี ก็เลยมีทั้งบทสัมภาษณ์แล้วก็ถ่ายแบบลงปกด้วย เด็กคนนี้ทั้งสวย ทั้งเก่ง ชาติตระกูลฐานะก็เพียบพร้อม” คุณฤดีบรรยายสรรพคุณ

    “ครับ” ศิลายิ้ม

    “ศิลาไม่คิดจะ…คบหากับน้องให้สนิทกว่านี้หรือจ๊ะ”

    “ตอนนี้ก็คุยกันบ่อยครับ เรื่องสินค้าที่เขาจะอิมพอร์ตเข้ามา” ศิลาตอบเลี่ยงๆ และคุณฤดีก็พอใจจนไม่คิดจะซักต่อ เธอจิบชารับประทานของว่าง ชวนลูกชายคุยเรื่องทั่วๆไปอีกพักหนึ่งก็กลับเข้าบ้าน แต่ถึงตอนนั้น ศิลาก็หมดสมาธิที่จะเตรียมการสอนเสียแล้ว เขาจึงหยิบพธูขึ้นมาพลิกดูเล่นไปเรื่อยๆ ก่อนจะชะงัก ขยับตัวตรง และเพ่งมองซ้ำ

    ภาพที่สะดุดตาจนศิลาตะลึงงันนั้นอยู่ในหน้าข่าวสังคม เรื่องงานฉลองประจำปีของนิตยสารพธู ถึงแม้ว่าภาพจะเล็ก ศิลาก็แน่ใจว่ารอยยิ้มเขินๆ กับใบหน้าสวยหวานที่ดูเด่นด้วยดวงตาสีน้ำตาลใสบริสุทธิ์นั้นไม่ใช่ใครอื่น และคำบรรยายใต้ภาพก็บอกไว้ชัดเจนว่า “น้ำนวล นักเขียนน้องใหม่ไฟแรงเจ้าของเรื่องรอยรำลึกที่แฟนๆ ติดกันตั้งแต่บทแรก”

    หัวใจของศิลาเต้นแรงขึ้นจนเจ้าตัวรู้สึก…ในที่สุด เขาก็หาเธอพบจนได้! ชายหนุ่มรีบกวาดตาอ่านรายละเอียด แต่ก็ไม่มีข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวกับน้ำนวลอีก ศิลาจึงเปิดไปอ่านผลงานของเธอ ที่ลงพิมพ์เป็นบทสุดท้ายพอดี

    เรื่องราวจากปลายปากกาของน้ำนวลแตกต่างจากที่เขาคาดไว้มาก เธอไม่ได้เขียนถึงความรักหวานไหวอย่างเด็กสาว แต่เธอกลับเล่าถึงความผิดหวังรันทดของผู้หญิงที่ต้องสูญเสียชายอันเป็นที่รักไปด้วยทิฐิมานะที่ขวางกั้นระหว่างกัน และความรวดร้าวแสนสาหัสในบรรทัดสุดท้าย เมื่อเขายืนอยู่เพียงแค่เอื้อมโดยที่เธอไม่อาจสัมผัสหรือบอกเล่าความรักความคิดถึงที่มีอยู่ให้เขารับรู้ได้



    …นวลนารายืนนิ่งอยู่หลังม่านลูกไม้ซึ่งกั้นระหว่างห้องโถงกลางปราสาทกับคูหาด้านใน เสียงกรมวังรายงานแว่วมาว่านายทหารจากหัวเมืองฝ่ายโน้นเดินทางมาถึงแล้วเพื่อกระทำพันธสัญญายุติข้อพิพาทเกี่ยวกับชายแดน

    ชื่อของนายทหารผู้นั้นทำให้หัวใจของเธอเต้นรัว ปลายนิ้วที่ประดับด้วยแหวนพลอยสีม่วงเอื้อมไปแหวกม่านออก เพียงพอให้แลลอดได้ชัดขึ้น โดยที่คนภายนอกไม่อาจมองเข้ามา

    เขายังคงสูงสง่า เข้มคม แต่ผิวแก้มที่เคยเรียบเนียนปรากฏรอยแผลเป็นพาดยาว และดวงตาสีวิสกี้นั้นก็ฉายแววเคร่งขรึม ไร้รอยหัวเราะอย่างที่เธอคุ้นเคย น้ำเสียงหนักแน่นเจรจาความเมืองอย่างฉะฉาน คล่องแคล่ว หากก็ระมัดระวังไม่มีเพลี่ยงพล้ำ

    ความภูมิใจระคนเศร้าพลุ่งขึ้นมาในอก และน้ำตาก็หยาดลงโดยที่เธอไม่รู้ตัว หญิงสาวเคยคิดว่าความทุกข์ทนหวนหายามห่างไกลนั้นเป็นที่สุดแล้ว แต่ความใกล้ชิดที่มีม่านขวางกั้นกลับยิ่งทรมานกว่าเป็นหลายเท่า เธออยากจะละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วโถมตัวเข้าไปกอดเขาไว้ ทว่าศักดิ์ศรีและภาระหน้าที่ก็ทำให้ต้องกล้ำกลืนสะกดเสียงสะอื้น ซับน้ำตา หักใจ หันหลังจากไปโดยไม่หวนกลับมามอง

    ชาตินี้ นวลนาราขอมอบชีวิตให้แก่แผ่นดิน แล้วหล่อเลี้ยงหัวใจด้วยความหวังว่าจะได้พบกันใหม่ในห้วงเวลาอื่น…ที่ซึ่งอุปสรรคใดๆ ไม่อาจตามไปถึง…



    ถ้อยคำที่น้ำนวลกล่าวถึงพระเอกของเรื่องทำให้ศิลาหงุดหงิดด้วยอารมณ์หวงแหน…เธอคงมีใครอยู่ในใจแล้ว ไม่อย่างนั้น จะรู้จักความห่วงหาอาวรณ์ได้อย่างไร?...แต่อะไรบางอย่างสะกิดใจให้เขาอ่านทวนอีกหน แล้วชายหนุ่มก็ต้องแปลกใจเป็นคำรบสอง เมื่อเขาเรียกหานิตยสารพธูเล่มเก่าจากแม่บ้าน แล้วก็พบว่าคนรักของนวลนารามีชื่อว่า “ศิลา” แถมยังมีแผลเป็นที่แก้มซ้าย ซ้ำเนื้อเรื่องยังกล่าวถึงแหวนพลอยสีม่วงอีกด้วย!

    อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น? ศิลาผุดลุกขึ้น บอกตัวเองว่าเขาจะต้องหาทางติดต่อกับน้ำนวลให้ได้ …แรกทีเดียว เขาคิดจะส่งอีเมล์ไปตามที่อยู่ในนิตยสาร แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เพราะเห็นโฆษณาในกรอบเล็ก ที่เขียนไว้ว่า “เชิญพบนักเขียนของพธูที่บู๊ธ 182 ในงานสัปดาห์หนังสือ” พร้อมระบุวันเวลา ที่ตรงกับวันพรุ่งนี้ตอนเที่ยงพอดี

    ถึงแม้จะงานยุ่งอย่างไร มีนัดมากแค่ไหน ศิลาก็ตั้งใจว่าเขาจะไม่ยอมพลาดอีกแล้ว ชายหนุ่มฉวยโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดหาหมายเลขที่บันทึกไว้ รอเพียงครู่เดียว เสียงทางปลายสายก็ตอบมา

    “สวัสดีค่ะ พี่ศิลา”

    “ครับ น้องแพรว”

    “มีอะไรหรือคะ? คอนเฟิร์มนัดพรุ่งนี้ใช่ไหมเอ่ย?” แพรวพราวถามด้วยเสียงหวานเจื้อยแจ้วแกมหัวเราะ

    “เอ่อ…ไม่ใช่ครับ คือพรุ่งนี้พี่มีธุระด่วน ขอเลื่อนไปเป็นวันจันทร์หน้านะครับ”

    “ค่ะ” แพรวพราวกลั้นเสียงกรีดร้องด้วยความขุ่นเคืองไว้ได้ และศิลาก็ไม่สงสัยแต่อย่างใด เพราะจิตใจของเขาจดจ่ออยู่กับหญิงสาวอีกคน

    …หญิงสาวผู้อยู่ในความคิดคำนึงของศิลานั้น กำลังเตรียมตัวอย่างตื่นเต้นที่จะไป “แจกลายเซ็น” ในงานวันรุ่งขึ้น โดยมีสองเพื่อนรัก คือฐิติมากับทรงพลเป็นกองหนุน

    “จะให้ใส่ชุดไหนดีล่ะ” สาวหมวยฐิติมาหันไปปรึกษาชายหนุ่มหน้าสวย และฝ่ายนั้นก็ลุกขึ้นเดินกอดอกวนเวียนรอบตัวน้ำนวล พินิจพิจารณาอยู่ครู่ใหญ่

    “ต้องให้ดูเรียบแต่เก๋ อย่าเว่อร์ แต่งหน้านิดหน่อย เผื่อต้องถ่ายรูป” ทรงพลบอก

    “ใส่ชุดสีน้ำตาลไม่ได้เหรอ?” นักเขียนมือใหม่ประท้วง

    “ชุดสีน้ำตาล!” ทรงพลขึ้นเสียงสูงปรี๊ด “เชยจะตาย ไม่ด๊าย ไม่ได้! ริจะเป็นนักเขียน ก็ต้องดูแลภาพพจน์ให้ดี เธอเคยเห็นตัวจริงของนายน้อย เคลียร์ไอซ์ แล้วก็มะวัน รันดาหรือเปล่าล่ะ? เขาสวยๆ กันทั้งนั้น ไม่กลัวคนอ่านผิดหวังในตัวเธอหรือไง? แถมยังจะขายหน้ามาถึงบอกอพธูอีกล่ะ”

    น้ำนวลจำต้องพยักหน้าอย่างว่าง่าย

    “เอาชุดนี้แล้วกัน” ฐิติมาตัดสิน “แล้วฉันจะมาแต่งหน้าทำผมให้ ส่วนทรงไปรอที่งานเลยก็ได้”

    ชุดที่ฐิติมาเลือก เป็นหนึ่งในเสื้อผ้าที่น้ำนวลเพิ่งซื้อมาใหม่ ประกอบด้วยกางเกงทรงตรงสีน้ำเงินเข้ม กับเสื้อแขนยาวคอวีผ้าเนื้อนิ่มสีฟ้า ติดจีบระบายเล็กๆ รอบคอและข้อมือ เมื่อรวบผมขึ้นสูงเป็นหางม้า แต่งหน้าบางๆ เสริมด้วยต่างหูเพชรเม็ดเล็กกับแหวนพลอยสีม่วงแล้ว แม้แต่ฐิติมาคนแต่งตัวให้ยังต้องยอมรับว่า “ใช้ได้” ซึ่งก็ช่วยให้น้ำนวลมั่นใจขึ้นมาก

    ภาพที่ศิลาเห็นเมื่อเขาฝ่าฝูงชนเข้ามาถึงบู๊ธของ”พธู” จึงน่ามองยิ่งนัก สาวน้อยของเขาโดดเด่นอยู่ท่ามกลางกลุ่มแฟนนักอ่าน แก้มของเธอแดงปลั่งด้วยความตื่นเต้นสนุกสนานที่ได้พูดคุยกับแฟนหนังสือซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นสาววัยใกล้เคียงกัน ศิลาหยุดยืนนิ่ง พยายามสะกดความรู้สึกที่ท่วมท้น พร้อมกับคิดหาคำพูดที่จะทักทายเธอ

    แล้วแรงดึงดูดจากจิตใจของชายหนุ่มก็เรียกให้น้ำนวลเงยหน้าขึ้น …ดวงตาสองคู่สบกันในวินาทีที่ไร้กาลเวลา ทุกสิ่งรอบตัวเหมือนจะหยุดนิ่ง …

    จากคุณ : ภานินี - [ 25 ต.ค. 47 00:41:05 A:203.155.237.34 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป