แปลจาก The Alma Club
เขียนโดย Isla Dewar
ฉันเดาว่า ถ้าฉันซื่อสัตย์กับตัวเองซะหน่อย
แม้ปรกติฉันจะไม่ค่อยซื่อสัตย์กับตัวเองก็เถอะ
ฉันจำใจต้องยอมรับว่าฉันอิจฉาอัลม่ามาโดยตลอด เขามีอะไรมากมายที่ฉันอยากได้ อย่างริมฝีปากอวบอิ่มซึ่งมุมปากมักจะฉีกเป็นยิ้มกว้างอยู่เสมออย่างหนึ่งล่ะ ไหนจะโหนกแก้มที่ฉันยินดีแลกด้วยทุกอย่างอีก ขนาดยีนส์หนังสีชมพูเป้าคับติ้ว อัลม่ายังใส่ได้โดยไม่ขัดเขินเลย สีชมพูแจ๊ดขนาดนั้นเป็นสีที่ฉันโบกมือลาตั้งแต่อายุสิบหก ไหนจะนิ้วเรียวยาวแสนคล่องแคล่ว ไหนจะเล็บที่สวยสมบูรณ์แบบ แถมผมของเขาก็สุดเริ่ด
เอ่อ ก็ควรจะเป็นอย่างนั้นน อัลม่าเป็นช่างทำผมนี่ เขาทำผมให้ฉันมากว่ายี่สิบปีแล้ว
เฉพาะคนพิเศษในชีวิตของเขาเท่านั้นที่เขายอมให้เรียกว่าอัลม่า และฉันเป็นลูกค้าคนพิเศษของเขา นั่นเริ่มหลังจากฉันไปทำผมที่ร้านตัดของเขาเป็นครั้งที่สาม เราเริ่มคุยกันจริงๆ จังๆ ด้วยบทสนทนาที่เป็นอะไรมากกว่าการเจ๊าะแจ๊ะธรรมดาๆ ในร้านทำผม
อย่างวันหยุดไปเที่ยวไหน อากาศเป็นยังไง วันหยุด วันหยุด วันหยุด ฉันเล่าเรื่องตัวเอง ทิลลี่ เบ็ทส์ ให้เขาฟัง รวมถึงเรื่องของคริสโตเฟอร์ แฟนของฉัน เราเป็นทนายทั้งคู่ ฉันทำงานในสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่ง ไม่ได้รับทำคดีตื่นเต้นๆ อย่างคดีฆาตกรรมอะไรทำนองนั้นหรอก แต่ถ้าฉันตั้งใจจริงๆ หัดดูทิศทางลมดีๆ และเลือกบริษัทเยี่ยมๆ ซะหน่อย ฉันก็จะทำเงินได้มากโขทีเดียว และฉันเก่งเรื่องนี้ ฉันมีสายตาที่มีมาเพื่อใช้มองหาช่องโหว่ทั้งหลายในใบสัญญาโดยเฉพาะ ถ้าพูดแบบทำร้ายน้ำใจกันหน่อยก็เรียกว่า เป็นพวกชอบจับผิดนั่นแหละ ปรกติฉันเป็นอย่างนั้น
แต่ฉันไม่บอกเขาหรอก
อยู่ๆ เขาก็หยุดมือ จากนั้นก็ยีหัวฉันจนยุ่ง ไม่ เขาพูด ไม่ นี้ไม่ถูกต้อง มันต้องพิเศษกว่านี้สิเขาสูดลมหายใจเข้าก่อนจะลงมือ เขาตัดผมฉันซะสั้นกุด แล้วดึงปลายผมมาล้อมกรอบใบหน้าของฉันไว้อย่างนุ่มนวล เห็นมั้ย เธอดูสาวขึ้นตั้งเยอะ
ฉันบอกเขาว่าฉันยังไม่แก่ขนาดที่ต้องทำให้ดูเด็กลงซะหน่อย ตอนนั้นฉันเพิ่งจะยี่สิบห้าเท่านั้น แต่ฉันตื่นเต้นกับลุคใหม่ของตัวเองมาก ฉันเหมือนภูตสาวตัวเล็ก ฉันชอบแฮะ และฉันรู้ว่าคริสโตเฟอร์จะต้องชอบ เขาชอบผู้หญิงที่ดูเป็นทอมบอยนิดๆ มาแต่ไหนแต่ไร ระหว่างที่ฉันกำลังจ่ายเงินพร้อมค่าทิปเป็นกอบเป็นกำเป็นพิเศษอย่างเคย (ช่างทำผมฝีมือดีคู่ควรกับการปรนเปรอ) โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขารับมัน ฮัลโหล โรเบิร์ต ไบล์ท ซาลอนฮ่ะ รับอย่างมืออาชีพ แต่แล้วหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นยิ้ม แล้วเขาก็เริ่มคุยกับอีกฝั่งด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน ที่รัก ว่าไง สบายดีหรือเปล่า เป็นหวัดเหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่ นี่เธอนอนห่มผ้าหนาๆ อยู่หรือเปล่า ฮึ
ฉันยืนรอเขา ฉันแค่อยากจะนัดทำผมครั้งต่อไปไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง แต่ฉันก็ฟัง เขาเจ้ากี้เจ้าการออกคำสั่งกับเหยื่อของไข้หวัดคนนั้น ฟังนะ ที่รัก เดี๋ยวหลังเลิกงาน ให้ฉันแวะไปหาเธอนะ ฉันจะเอาองุ่นกับแชมเปญ แล้วก็ยาเล็มซิปไปฝาก ปล่อยอัลม่าคนนี้ปรนนิบัติเธอเอง เขาวางหูโทรศัพท์ลง
ฉันจ่ายเงิน และนัดเวลาทำผมครั้งต่อไป แต่ตอนที่ฉันกำลังจะกลับ
ฉันอดไม่ไหวจริงๆ อัลม่างั้นเหรอ ฉันถามยิ้มๆ คิ้วข้างหนึ่งเลิกขึ้นเล็กน้อย
อัลม่า เขาบอกด้วยท่าทางสบายๆ คนพิเศษของฉันเรียกฉันว่าอัลม่าทั้งนั้นแหละ
อ้อ ฉันพูด ถ้างั้น แล้วเจอกันวันหลังนะ โรเบิร์ต
เขาเอื้อมมือมาจับมือฉันไว้ เขาทำเรื่องพวกนี้ได้อย่างไม่ขัดเขิน ไม่ว่าจะเป็นการจับมืออีกฝ่าย ลูบไหล่หรือโอบเอว ฉันไม่เคยทำอะไรอย่างนี้ได้เลย ทุกครั้งที่ทำ ท่าทางของฉันมักจะดูเงอะงะ และฉันเป็นต้องทำให้อีกฝ่ายเขินทุกที
แต่สัมผัสของอัลม่าช่างอ่อนโยน นุ่มนวล และน่ารัก เขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นที่ต้องการ เหมือนฉันเป็นส่วนหนึ่งในโลกของเขาและมีความสำคัญต่อเขา เขามองตาฉัน ทำให้ฉันรู้สึกพึงพอใจด้วยสายตาคู่นั้น เรียกฉันว่าอัลม่าเถอะ เขาบอกฉัน
ฉันงี้ดีใจจนเนื้อเต้น พระเจ้า นี้ทำให้วันนี้ทั้งวันมีความหมาย ไม่สิทั้งสัปดาห์เลย ไม่ๆ ทั้งเดือนเลยล่ะ ไม่สิทั้งชีวิตเลยต่างหาก เฉพาะคนพิเศษเท่านั้นที่จะเรียกเขาด้วยชื่อนั้นได้ ฉันเป็นคนพิเศษ ลูกค้าคนพิเศษ และเขาเป็นช่างทำผมที่เก่งทีสุดในโลก เขาเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ในการใช้กรรไกร เขาตัดผมให้พระเจ้ายังได้เลย อัลม่าของฉัน
จากคุณ :
นารูมิ
- [
26 ต.ค. 47 18:48:39
]