ที่สนามบิน คราคร่ำไปด้วยผู้คน
ไม่แปลก..วิรานีบอกกับตนเอง..
เดี๋ยวนี้ตั๋วเครื่องบินราคาพอกับตัวบขส. สนามบินแห่งชาติจึงกลายเป็นสถานีบขส.แห่งชาติไปได้ง่าย ๆ
เธอเพียงหงุดหงิดเล็กน้อย..ไม่ใช่สิ..หงุดหงิดมาก ๆ
เธอตั้งใจว่าจะออกเดินทางแต่เช้า..แต่แล้ว...ตั๋วเต็มหมด มีว่างพอก็ตอนบ่ายสามโมงนี่แหล่ะ
ถึงอย่างไรก็ยังดีกว่านั่งรสบัส..รถไฟ..ที่กว่าจะถึง ต้องเสียเวลาไปไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมง
ช่วงเช้าของเธอจึงค่อนข้างว่าง..เมื่อว่างจึงรีบเข้าโรงพิมพ์
ฟิล์มถูกส่งเข้าห้องแลป..มันใช้เวลาไม่นานนักก็ถูกปริ้นท์ออกมา..
ที่โต๊ะทำงาน..เธอนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด..สังเกตภาพของศพทั้งสองอย่างเต็มที่
ไม่มีร่องรอยอื่นใดนอกเหนือจากที่ได้เห็นมาจากภาพจริง..
เธอแสกนด์ภาพถ่ายหน้าตรงของศพ..เพื่อเปรียบเทียบกับภาพเชิงซ้อน..อะอะ..หนังสือพิมพ์ที่เธอสังกัดอยู่..ยิ่งใหญ่พอที่จะมีเทคโนโลยีเดียวกันกับสนง.ตำรวจได้
เธอจะเอาภาพของศพมาซ้อนกับภาพถ่ายจริง..ที่ญาติ
มาแจ้งหายเอาไว้
เธอรู้..ตำรวจก็ทำอย่างนี้
แต่เธอไม่รู้..ว่าตำรวจยังไม่ได้ทำ
+++++
ปรากฎว่า..ภาพของศพแรก..ที่ผูกคอ..ไปแมชเข้ากับใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่งพอดี
เด๊ะ..
รอยยิ้มยินดีปรากฎขึ้นบนริมฝีปาก..ชื่อและที่อยู่ปรากฎหราขึ้นบนหน้าจอ
เธอจดใส่สมุดบันทึกส่วนตัว
แต่เมื่อจดถึงที่อยู่..เธอแทบจะอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ
มันเป็นอำเภอและจังหวัดเดียวกันกับบ้านพ่อแม่ของเธอ..ซึ่งเธอจะต้องเดินทางไปตอนบ่ายนี้พอดี
ให้ตายสิ..เรื่องนี้ทำไมถึงได้บังเอิญขนาดนั้น
มือเร็วเท่าความคิด..เอ..หรือมือเร็วกว่า?
ภาพถ่ายหน้าตรงของศพที่สอง..ศพยิงหัวตัวเอง..ถูกปฏิบัติการเปรียบเทียบเหมือนกับภาพแรก
อุฟระ..ไม่แมช
เธอเกาหัว..ลองพยายามอีกที
คำตอบเป็นเช่นเดิม
ไม่เป็นไร..รายเดียวก็เกินพอ
เธอจดทุกอย่างใส่สมุด..ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
เพิ่งสิบโมงเช้า..ผู้หมวดขี้เก๊กหน้าย่นคนนั้นจะรู้เหมือนเธอรู้ไหมหนอ?
ช่างเหอะ..มันไม่เกี่ยวกับเราซักหน่อย
แต่..
"ถ้ามีอะไรให้ผมช่วย..ก็บอกได้ทันทีนะครับ"
เสียงสุดท้ายของเขาคืนนั้น..ทำให้เธอต้องกดโทรฯ ถึงเขา
เย่ย..ไม่มีคนรับสาย
จะมาว่าฉันไม่ได้นาว้อย..
++++++
เมื่อขึ้นเครื่องเรียบร้อย..เธอตั้งใจจะหยุดความคิดฟุ้งซ่านในทางร้าย..ที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของน้องสาว
แต่ทำไงก็หยุดไม่ได้
เธอกับน้องแม้ไม่สนิทกันนัก..เพราะเธอมาเรียนกรุงเทพฯ ได้เกือบ 5 ปี..แต่เธอก็ยังรักน้อง
น้องไม่สวยเท่าเธอ..แต่ก็น่ารัก..ขาวเหมือนเธอ..และมีดวงตาเหมือนเธอ
แม่เคยโทรฯ มาบ่นกับเธอบ่อย ๆ ว่าน้องคนนี้..มักจะหนีเที่ยวดึก ๆ เป็นประจำ
และมีผู้ชายหลายคนมาก้อร่อก้อติก..ซึ่งเธอก็ทำได้แต่เพียงว่าให้แม่ไปฟ้องพ่อ
แม่ฟ้องกลับมาว่าพ่อก็ห่วงแต่เมา
เธอคุยกับพ่อ..กลับถูกขอตังค์ทุกครั้ง
ด้วยความเหนื่อยใจ..เธอเลยไม่ค่อยได้ติดต่อกลับบ้านสักเท่าไร
มีแค่บางที..รายได้จากงานไซด์ไลน์ที่เธอทำตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ปี 2..งานเขียนบทเล็ก ๆ น้อย ๆ .. ได้ผลตอบแทนกลับคืนมาเป็นก้อน..เธอก็จะส่งเงินกลับบ้านไปบ้าง
ยังดีที่แม่เป็นข้าราชการครู..มีเงินเดือนประจำ ไม่งั้นที่บ้านคงขัดสนยิ่งกว่านี้
นึกถึงตอนนี้..น้ำตาซึมออกมานิด ๆ พอเป็นพิธี
จ
ริง ๆ แล้วเธออยากอยู่กับครอบครัว..แต่..ชีวิตของเธอจะจมอยู่กับสภาพเดิม ๆ ไม่ได้
เธอเป็นความหวังเดียวของครอบครัว..ที่จะทำให้ทุกชีวิตดีขึ้น..นั่นจึงเป็นเหตุผลใหญ่..ที่ทำให้เธอมุมานะเรียนจนจบ..และรีบหางานทำให้ได้เร็วที่สุด
งานเป็นนักข่าวเยี่ยงนี้..ตรงกับที่เธอเรียนมาพอดี
และเธอก็กำลังสนุกกับมัน
ไม่น่าจะเกิดกรณีน้องสาวหายตัวไปเล้ย..
เฮ้อ..
+++++++
จากคุณ :
ปิ๊วปิ้ว
- [
27 ต.ค. 47 12:50:14
A:202.5.83.110 X:
]