CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ยัยหมูพะโล้รมควันกับนายหน้าปลาจวด ตอนที่ 7 ดอนหอยหลอด จุดเริ่มต้นของหัวใจ

    หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อว่า ดอนหอยหลอด เป็นหมู่บ้านทางชนบทของจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน
    ต้องเดินทางออกจากตัวเมืองของจังหวัดถึง 50 กิโลเมตร และเมื่อถึงทางเข้าหมู่บ้าน เนื่องจาก
    เป็นหมู่บ้านที่ล้าหลังยังไม่ได้รับการพัฒนาทำให้ไม่มีถนนสำหรับรถใหญ่เพื่อเข้าไปข้างใน ที่จะ
    สัญจรไปมาได้ก็มีแต่มอร์เตอไซด์และรถกระบะคันเก่าของผู้ใหญ่บ้านเท่านั้น

    เมื่อถึงทางเข้าหมู่บ้านนักศึกษาทุกคนจึงต้องเดินลงจากรถพร้อมกับหอบสัมภาระของตนเองลงมา
    ด้วยเพื่อเดินต่อเข้าไปในหมู่บ้าน ซึ่งห่างจากปากทางประมาณ 2 กิโลเมตร แต่นักศึกษาค่าย
    พัฒนาก็ไม่มีใครปริปากบ่น เนื่องด้วยพวกเขารู้ว่าหน้าที่ของเขาตอนออกค่ายคืออะไร และรู้อีกด้วย
    ว่าหมู่บ้านแห่งนี้ทุรกันดารเพียงใด พวกเขาทุกคนเดินทางมาเข้าค่ายพัฒนาที่นี่ด้วยใจรักจริง ๆ

    พอชาวค่ายทั้งหมดเดินลากขาเข้ามาถึงตัวของหมู่บ้านได้ก็พากันหายเหนื่อยเป็นปริดทิ้งเมื่อ
    พบว่า ทั้งผู้ใหญ่บ้าน และลูกบ้านต่างพากันออกมายืนเรียงแถวต้อนรับพวกเขาด้วยรอยยิ้ม พร้อม
    กันนั้นประธานชมรมค่านอาสาพัฒนาก็ได้เป็นตัวแทนกล่าวถึงวัตถุประสงค์ที่พวกเขาเข้ามาที่นี่
    และสิ่งที่ได้รับกลับมาคือความยินดี และรอยยิ้มที่แสดงถึงมิตรภาพ นั่นเป็นความประทับใจแรก
    ของพวกเขาที่จะไม่มีวันลืมเลือนเลย

    หลังจากนั้นชาวคณะทั้งหมดก็ถูกต้อนให้มาที่ที่พัก ซึ่งที่พักก็คือศาลาวัดที่มีเพียงแห่งเดียว
    ในหมู่บ้าน เพื่อไปพักผ่อนแล้วเตรียมมาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับแบบฉบับชาวบ้านที่ลานหน้าบ้าน
    ผู้ใหญ่บ้าน

    " เปีย เป็นไงบ้าง เหนื่อยมั้ยครับ " สามภพถามขึ้นหลังจากที่รวบรวมกำลังใจอยู่นาน
    ประกอบกับได้ปฐวีเป็นเจ๊ดันรุนหลังเขาให้เข้ามา เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตัวเล็กอาบน้ำเปลี่ยนเสื่อผ้า
    ให้สดชื่นขึ้นแล้ว

    " ฮึ อะไรนะ "

    " เหนื่อยมั้ยครับ " ใจเย็นลูกพี่ นายวีภาวนาอยู่ภายในใจ

    " ก็ไม่หรอก หนุกดี แต่นายเถอะ เป็นไงบ้างอยากกลับแล้วยัง " ไม่อยากจะเชื่อว่านายนี่จะมา
    เข้าค่ายอย่างนี้ ( ก็แน่สิเห็นกลับบ้านพี่ศินทุกเดือนเลยนี่ )

    " ไม่หรอก พี่ว่าพี่มีความสุขดีออกนะยิ่ง….. " อยู่ใกล้เปียพี่ยิ่งมีความสุขมากเลยรู้มั้ย ( ค้างไว้
    แค่นั้นทำไมไม่พูดออกไปวะ เอาเหอะวะขืนพูดมีหวังโดนเครื่องประหารหัวน้องเปีย คอขาดตายแน่ ๆ
    แค่คิดก็เสียวแล้ว )

    " ยิ่งอะไร พูดให้จบสิ "

    " ไม่มีอะไรหรอก พี่ว่าเราไปรวมกับชาวคณะที่บ้านผู้ใหญ่บ้านดีกว่านะเปีย " โธ่ถามทำไมใคร
    จะไปกล้าตอบเล่า

    " จะไปก็ไปสิ มาชวนฉันทำไม " หญิงสาวยักไหล่แล้วเดินนำหน้าเขาไป แปลกแฮะวันนี้ยังไม่
    โดนด่าซักคำเดียว สงสัยเปียคงจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ชายหนุ่มคิดในใจพลางมองตามร่างเล็กไป
    ด้วยความเอ็นดู

    " เอ่อ มื้อนี่หมู่เฮาขอต้อนรับซาวค่ายเด้อคับผม เอ้าซวด ๆ " ( ซวด ๆ = ปรบมือ ) ชาวบ้านปรบ
    มือกันด้วยความยินดียิ่งเมื่อผู้ใหญ่บ้านกล่าวต้อนรับคณะนักศึกษาอย่างเป็นทางการ พร้อมกับเปิด
    อาหารเมนูเด็ด ส้มตำ ไก่ย่าง ลาบ น้ำตก ซกเล็ก ซุบหน่อไม้ ( หวานหมูยัยเปียขนาด ) พร้อมกับ
    เสียงเพลงจากวิทยุเครื่องเดียวของหมู่บ้านก็ดังขึ้น เป็นการต้อนรับแบบชาวบ้านโดยแท้จริง ๆ ถึง
    แม้หนุ่มสาวบางคนจะเป็นชาวกรุงโดยกำเนิด แต่ก็ไม่มีใครแสดงอาการรังเกียจรังงอนความเป็น
    ชาวบ้านแบบนี้เลย กลับมีท่าทางสนุกสนานและประทับใจกันถ้วนหน้า

    " หนูเหล้าขาวบ่ แซบเด้ " มีคุณลุงคนหนึ่งยื่นขวดเหล้าขาดมาให้กับเปีย แต่หญิงสาวซึ่ง
    ปฏิเสธสิ่งเสพติดทุกชนิดจึงยิ้มพลางสั่นหัว

    " ขอบคุณมากค่ะคุณลุง แต่ว่าหนูไม่ดื่มเหล้าค่ะ " ตอบไปยิ้มไป ช่างเป็นภาพที่ชวนมอง
    สำหรับสามภพจริง ๆ สำหรับคุณลุงคนนั้นเมื่อเห็นว่าเปียไม่ดื่มเหล้าจึงหันมาถามชายหนุ่มที่นั่งอยู่
    ข้าง ๆ หญิงสาวแทน

    " เอาบ พ่อหนุ่ม " ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวข้าง ๆ แล้วตอบว่า

    " ไม่หรอกครับคุณลุงผมไม่ชอบดื่มครับ " คำตอบนี้ทำให้เปียถึงกับหันมามองพร้อมกับเลิกคิ้ว
    ขึ้นมาด้วยความสงสัย แต่ก็เกิดความประทับใจกับชายหนุ่มคนนี้ขึ้นมานิด ๆ

    จากคุณ : ทรายสีชมพู - [ 12 พ.ย. 47 16:57:43 A:203.156.50.199 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป