ซากุระในสายลมร้อน
พ.ไทยยืนวงษ์
ตอนที่43
เสียงกรุ๋งกริ๋งน่ารักดังขึ้นเมื่อประตูบานกระจกถูกผลักเข้ามา
สวัสดีค่ะ เชิญชมตามสบายนะคะ เธอเอ่ยทักทายตามธรรมเนียม แล้วปล่อยให้ลูกค้าสาวเดินเลือกหาหนังสือตามที่ตนต้องการโดยไม่เข้าไปรบกวนวุ่นวาย
ร้านหนังสือขนาดเล็ก ตกแต่งแบบง่ายๆ มีชั้นวางทำจากไม้เรียงต่อกันเป็นระเบียบเรียบร้อย ผนังโทนสีอบอุ่นสว่างไสว ด้านหน้าที่ติดกับบาทวิถีเป็นบานกระจกหนายาวตลอดแนว มีหนังสือที่กำลังฮิตติดอันดับขายดีวางบนชั้นหันหน้าออกให้คนเดินผ่านไปมาได้หันมองกัน เธอชอบดอกไม้ จึงเห็นว่ามีแจกันตั้งวางตรงโน้นตรงนี้ ตามมุมห้องยังมีกระถางใบโต ปลูกไม้กึ่งน้ำพันธุ์เขตร้อนชูกิ่งก้านเขียวขจี บนเคาน์เตอร์ที่เธอนั่งอยู่เป็นประจำก็มีแจกันดอกไม้จัดด้วยฝีมือประณีตวางอยู่สองใบ
เธอชอบสีขาว วันนี้เธอสวมเสื้อไหมพรมแขนยาวสีขาวกับกระโปรงยาวสีชมพู ข้างนอกลมหนาวพัดกราว ใบไม้สีส้มๆแดงๆปลิวร่วงเกลื่อนพื้นทางเดิน เคาน์เตอร์หันข้างให้กับทิวทัศน์ด้านนอก เพียงผินหน้าเล็กน้อยก็ได้เพลิดเพลินกับภาพฝนใบไม้โปรยปราย เธอเฝ้ามองใบแล้วใบเล่าร่วงหล่นโรยรา ครั้นถาซบแตะพื้นก็ยังปลิวกลิ้งไปตามทาง แม้ว่าใบหน้าจะงดงามหมดจด แต่ในแววตานั้นช่างเต็มไปด้วยความเศร้าเหงาหงอย ริมฝีปากจิ้มลิ้มสีชมพูขยับเจรจาต่อเมื่อทักทายลูกค้าและอธิบายให้รายละเอียดของหนังสือแต่ละเล่ม นอกจากนั้นแล้ว มันมักทำหน้าที่นิ่งเฉย ไม่ผลิแย้มยิ้ม ไม่เริงร่าเปล่งเสียงหัวเราะ ราวกับเธอเบื่อหน่ายบทสนทนากับผู้คนไปเสียแล้ว
รองเท้าส้นสูงย่ำพื้นกระเบื้องสีอิฐดังต็อกๆ ตรงมายังเครื่องคิดเงิน
ขอโทษค่ะ ฟ้าสว่างกลางคืนแรม หมดแล้วหรือคะ มือเรียวยาวเล็บสีแดงสวยเหมือนผิวเชอรี่วางทาบบนพื้นหน้าเคาน์เตอร์ดูราวเครื่องประดับ เธอจ้องมองเหมือนชื่นชม เพราะมือของเธอไม่สวยเลย มันผ่านการฝึกฝนอย่างหนักมาตั้งแต่เด็กจนดูเหมือนกับมือของผู้ชาย
เล่มสุดท้ายเพิ่งขายไปได้สักครู่เอง ต้องขอประทานโทษด้วยนะคะ เธอรู้ว่าไม่จำเป็นต้องขอโทษก็ได้ แต่ธรรมเนียมการค้ากับลักษณะนิสัยเฉพาะตัว ทำให้กล่าวออกไปอย่างเป็นธรรมชาติพร้อมกับค้อมศีรษะให้อีกด้วย หญิงสาววัยยี่สิบปลายๆทำหน้าผิดหวัง หันมองไปยังชั้นวางด้านหน้าร้าน
จะขอซื้อเล่มที่โชว์อยู่ได้ไหมคะ
เธอทำตาโตเพราะไม่ทันคิด ผลักประตูเตี้ยๆของเคาน์เตอร์แล้วเดินไปหยิบหนังสือที่มียอดขายดีที่สุดเล่มสุดท้ายกลับมา
ขอโทษด้วยค่ะ ฉันลืมไปจริงๆ จะห่อให้เดี๋ยวนี้เลยนะคะ
คราวนี้รอยยิ้มปรากฏขึ้นทั้งจากหญิงสาวร่างสูงโปร่งกับเธอผู้มีรูปร่างเล็กกว่า เธอหยิบกระดาษคั่นหนังสือแนบไปในเล่มด้วยหนึ่งใบ บางเวลาหากว่างมาก เธอมักทำที่คั่นหนังสือเอง เขียนภาพง่ายๆด้วยสีน้ำ มีบทกลอนสั้นๆ แล้วก็มีชื่อร้าน ลงบนกระดาษแข็งเนื้อดี ตัดเป็นแผ่นยาวๆ เจาะด้านบนเป็นรูกลมๆ ร้อยไหมพรมเส้นเล็กๆดูน่ารักอ่อนหวาน ท่วงท่าขณะสาละวนกับการห่อปกและใส่ถุงกระดาษทำให้หญิงสาวจ้องมองด้วยความประทับใจ แล้วเหมือนมีอะไรมาสะกิดความคิดหล่อนเมื่อเห็นลีลาของมือคู่นั้น มันคล่องแคล่วพลิ้วไหวราวกับเริงระบำน่าชม
มือของนักดนตรี..หล่อนบอกกับตัวเอง ชีวิตกว่าครึ่งของหล่อนคลุกคลีกับวงดนตรีอย่างใกล้ชิด สมัยเรียนมหาวิทยาลัย หล่อนเลือกเข้าชมรมดนตรีคลาสสิกแล้วเลือกเล่นฟรูทซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่ดูเท่สง่างาม หล่อนจริงจังกับมันจนได้เข้าร่วมวงซิมโฟนีของมหาวิทยาลัย จนกระทั่งจบออกมาก็ยังได้รับเชิญเข้าไปเล่นในงานประจำปีอยู่เสมอ น้องชายของหล่อนเล่นกีตาร์คลาสสิกและเป็นอาจารย์สอนอยู่ในโรงเรียนมัธยม เขามักพูดถึงชื่อสาวน้อยนักกีตาร์คนโปรดทุกครั้งที่พบกัน แถมยังเอาทั้งรูปและแผ่นซีดีมาให้ฟังจนหล่อนนึกเอ็นดูในความน่ารักและเก่งกาจของเด็กสาว ผู้ซึ่งบัดนี้ห่างหายไปจากวงการดนตรีอย่างไม่มีเหตุผลเมื่อสองปีก่อน หล่อนพิศใบหน้าของเธออย่างจริงจัง ขนลุกขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นไม่คาดฝัน ต้องใช่แน่ หน้าแบบนี้ ตาคู่นี้ รูปร่างอย่างนี้ แล้วไหนจะเรียวนิ้วว่องไวแต่ขนาดใหญ่กว่าผู้หญิงทั่วไปอีกล่ะ..
เอ่อ..ขอประทานโทษนะคะ หญิงสาวค้อมศีรษะ เธอเงยหน้าขึ้นมองแล้วส่งยิ้มให้
คะ?
ไม่ทราบว่าใช่คุณคาวาชิม่า โนริโกะ หรือเปล่าคะ? หล่อนโค้งให้อีก ราวกับว่าถ้าไม่ใช่ก็ต้องขออภัยด้วย เธอเลื่อนถุงหนังสือมาไว้ตรงหน้าหล่อน ดวงตากลมโตจ้องมองอย่างอารมณ์ดี หยิบที่คั่นหนังสือใส่ลงไปอีกสองสามใบ เธอไม่พูดอะไร ได้แต่ยิ้มอ่อนโยน ลมหนาวพัดวูบเข้ามาพร้อมพาร่างลูกค้ารายใหม่กับเสียงกรุ๋งกริ๋งที่ประตู เธอหันไปส่งยิ้มทักทาย
สวัสดีค่ะ เชิญชมตามสบายนะคะ
จากคุณ :
อันโตนิโอ
- [
14 พ.ย. 47 23:25:04
]