CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ....ฟ้า กับ ตะวัน.....ภาคจบ

    ฟ้ากับตะวันภาคแรก อ่านได้ที่นี่ค่ะ

    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3049745/W3049745.html

    ..........................................................................

    ภาค 2


    “…My Milkshake brings all the boys to the yard
    And their like it's better than yours
    Damn right it's better than yours
    I could teach you
    But I have to “ …..ติ๊ด

    “โหล.....” ฉันส่งเสียงงัวเงีย โดยไม่ลืมตาดูว่าใครโทรเข้ามา

    “ยังไม่ตื่นอีกเหรอ ยายฟ้า....สายแล้วนะ” เสียงใสต่อว่าฉันแบบนี้เสมอๆ

    “มีไรก็ว่ามา....”

    “วันนี้ฟ้า ว่างเปล่า จะชวนไปดูหนัง”

    “วันนี้เหรอ...แป๊ปหนึ่งนะ เดี๋ยวขอดูปฏิทินก่อน .... ตอนนี้กี่โมงเหรอ” คนขี้ลืมอย่างฉันพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น และค่อยๆ ลืมตาช้าๆ พอให้เห็นรอยปากกาสีน้ำเงินบนปฏิทินข้างเตียง เพื่อดูว่าวันนี้ฉันมีนัดแล้วหรือไม่

    “จะ 10 โมงอยู่แล้ว ตื่นเร็ว !” เสียงปลายสายพูดอย่างเคยชิน

    “10 โมงเหรอ วันนี้ อื่ม...เฮ้ย ฉันนัดกับพี่ตะวันนี่นา แค่นี้ก่อนนะ สายแล้ว....ติ๊ด...” ฉันตัดสายทันที โดยไม่ฟังคำพูดของคนที่โทรมา แล้วกุรีกุจอ รีบลุกขึ้นจากเตียงเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวออกไปข้างนอก

    “ฟ้า เอ๋ย ฟ้า....จะทันไหมเนี่ย” ฉันพูดกับตัวเอง ก่อนที่จะเปิดฝักบัวอาบน้ำอย่างรวดเร็ว


    ..........................................................................

    ฉันเดินใจลอยไปตามทางอย่างเคยชิน นึกถึงความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ ฉันว่าฉันเป็นเหมือนคน ที่อารมณ์แปรปรวนบ่อยๆ จนบางทีเพื่อนๆของฉันก็ทนอาการแบบนี้ของฉันไม่ไหว อาการแปรปรวน แบบผีเข้าผีออกเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ...จะมีก็แต่พี่ตะวันนั่นแหละที่ไม่เคยว่าอะไรฉันสักคำ...

    .........อย่างวันก่อนที่ฉันร้องไห้ เสียใจเรื่องพี่ตะวันไม่ว่างมาฉลองวันเกิดกับฉัน นั่นก็อีกครั้งหนึ่ง ฉันยอมรับว่าวันนั้นฉันโมโหพี่ตะวันจริงๆ แล้วฉันก็เลยนึกไปถึงเรื่องราวเก่าๆที่เกิดขึ้น ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เรารักกันไม่ได้ แล้วก็นั่งร้องไห้ฟูมฟายเป็นวรรคเป็นเวรในห้องนอน  แต่พอเช้าวันนี้ ทันทีที่ฉันดูปฏิทินแล้วพบว่าฉันนัดกับพี่ตะวันไปซื้อของใช้ให้พี่ภูผาที่กำลังจะกลับมา ฉันก็กุรีกุจอแต่งเนื้อ
    แต่งตัวราวกับว่าฉันไม่ได้เสียอกเสียใจอะไรกับเรื่องวันนั้น  หรือจะจริงที่เพื่อนคนหนึ่งของฉันว่าฉันทำตัวเหมือนเป็นเด็กมีปัญหา ชอบเรียกร้องความสนใจ ชอบทำตัวเหมือนขาดความอบอุ่นแล้วถ้าฉันได้สิ่งที่ฉันต้องการ ฉันก็จะหายเป็นปรกติ หรือถ้าฉันลืมเรื่องต่างๆ ไป ฉันก็จะกลับ
    เป็นปรกติ.....

    “ไงสาวน้อย...จำบ้านพี่ไม่ได้แล้วเหรอจ๊ะ” เสียงทุ้มๆที่คุ้นเคยทำให้ฉันตื่นจากภวังค์แล้วก็หยุดเดินโดยอัตโนมัติ

    “อ้าว! ฟ้าเดินเลยเหรอคะเนี้ย สวัสดีค่ะพี่ตะวัน” ฉันอุทานอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าฉันเดินเลยประตูทางเข้าบ้านพี่ตะวันมาแล้ว

    “นี่ถ้าพี่ไม่มานั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่สวนนี่ เราก็คงเดนเลยไปสุดซอยแล้วมั้ง” ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจเบาๆที่ทำให้ฉันทำหน้าหงิกได้

    “ไม่เอาละ เดี๋ยวพี่ตะวันออกมาดีกว่า ฟ้าจะรออยู่ตรงนี้......ไม่เป็นไรนะคะที่ไม่เข้าไป ” ฉันยื่นหน้าเข้าใกล้รั้วไม้ไผ่ ที่ถูกปกคลุมไปด้วยพันธุ์ไม่เรื้อย จนแทบจะไม่เห็นแผงไม้ไผ่ที่กั้นอาณาบริเวณระหว่างบ้านกับถนน

    ........นี่ถ้าลุงนุ่นไม่คอยดูแลสวนบ้านนี้หละก็ บ้านขนมหวานของฉันคงกลายเป็นบ้านผีสิงไปแล้วก็ไม่รู้.........ฉันนึกอย่างขำๆ

    ระหว่างทางที่จะไปซื้อของกัน ฉันถามนู้นถามนี่พี่ตะวัน เพื่อไม่ให้เกิดเสียงเงียบขึ้นในรถ ขณะเดียวกัน ฉันก็ไม่อยากเปิดโอกาสให้พี่ตะวันพูดเรื่องวันนั้นอีก ก็ฉันอายนี่นาที่ทำตัวไม่มีเหตุผลแบบนั้น แต่แล้วมันก็เกิดขึ้นจนได้

    “ฟ้า.....พี่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” พี่ตะวันหันมามองหน้าฉันเพียง 45 องศา ก่อนที่จะหันกลับไปมองถนน และรถราข้างหน้า

    “ไม่ได้ค่ะ ฟ้าไม่อยากตอบ”

    “ฟ้าหายโกรธพี่เรื่องวันนั้นแล้วเหรอ พี่ขอดทานะที่พี่ไปฉลองกับฟ้าไม่ได้...ฟ้ารู้ไหมว่าพี่ไปนั่งรอฟ้าตั้งแต่เช้า กลัวว่าฟ้าจะโกรธพี่ แล้วไม่ยอมมาช่วยพี่เลือก๙ื้อของวันนี้ ” เสียงทุ้มร่ายออกมาเป็นชุดจนฉันไม่รู้ว่าจะแทรกตรงไหนว่าฉันไม่ให้ถาม

    “ฟ้าไม่อยากพูดถึงมันค่ะพี่ตะวัน เอาเป็นว่า ฟ้าไม่โกรธพี่ตะวัน แล้วอีกอย่างระหว่างเราก็ยังเป็นเหมือนเดิม...โอเคนะคะ”

    “ได้จ้ะ” ชายหนึ่งพยักหน้าให้ฉัน พร้อมกับยื่นมือมาโยกหัวฉันเบาๆ

    เราเลือกซื้อของกันจนเย็น ถือของพะลุงพะลังราวกับคู่รักที่กำลังจะย้ายที่อยู่ใหม่ ฉันเผลอคิดไปว่า ถ้าพี่ตะวันไม่ชอบผู้ชายด้วยกันก็คงจะดี ฉันคงจะเป็นคนที่พี่ตะวันรักเป็นแน่ .... ในขณะที่กำลังช่วยพี่ตะวันจัดข้าวของที่ซื้อมาฉันก็นึกถึงพี่ภูผาขึ้นมา

    “พี่ตะวันค่ะ พี่ภูผาไม่ได้กลับมา นานแค่ไหนแล้วคะ”

    “2 ปีกว่าเห็นจะได้ ตอนนี้พี่ภูจบโทแล้วนะ เห็นว่าจะมาหางานทำที่นี่”

    “เหรอคะ...ไม่รู้พี่ภูผาจะเป็นยังไงบ้างนะคะ ไม่รู้มีแฟนกะเขาหรือยัง ” ฉันหัวเราะเบาๆ เพราะนึกขำว่าใครนะ ที่จะโชคร้ายมาเป็นแฟนพี่ภูผาจอมเฮี้ยว

    “พี่ว่าไม่น่าจะมีแฟนนะ เเต่ไม่รู้สิ ถ้าฟ้าอยากรู้ฟ้าคงต้องถามมันเอาเอง”

    “ไม่เอาหรอกค่ะ เดี๋ยวโดนแกล้ง เดี๋ยวหาว่าฟ้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา อีกอย่าง ไม่เจอกันต้องนาน ไม่รู้พี่ภูผาจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหม”  ฉันเงยหน้าขึ้นจากการประกอบโคมไฟ อย่างขัดในใจเล็กน้อย

    ชายหนุ่มตรงหน้าฉัน  ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ทำให้ฉันสะดุ้งสุดตัว....“พี่ตะวันทำไมหัวเราะอย่างนั้นหละคะ ฟ้าพูดอะไรผิดเหรอ...ทำไมขำวะขนาดนั้นหละ ฟ้าตกใจนะพี่ ยิ่งห้องเงียบๆแบบนี้ เสียงพี่ตะวันยิ่งดังใหญ่ ” ............ ฉันขมวดคิ้ว เพราะงง อย่างหนักกับอาการของพี่ตะวัน

    “เปล่า...เปล่า....พี่ขำเราทำหน้ามุ่ยเชียว นายภูผาไม่น่ากลัวขนาดนั้นหรอก แต่นะ.....พี่อยากให้ใครมาเห็นหน้าเราเมื่อกี้จัง ตลกเป็นบ้าเลย” เจ้าของเสียงทุ้ม พูดระคนเสียงหัวเราะ ทำเอาฉันโมโหอยู่เนื่องๆ

    “พี่ตะวันก็....” ..... ฉันอดค้อนคนตรงหน้าไม่ได้ หนอย.... มาว่าฉันทำหน้ามุ่ยฉันเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยอย่างมีจริต....แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าพี่ภูผาจะมีแฟนหรือยัง...แล้ว...ทำไมฉันต้องอยากรู้เรื่องของพี่ภูผาหละ.....ฉันเริ่มสับสนตัวเอง...

    แต่เหมือนคู่สนทนาของฉันจะรู้ว่า ฉันคงอยากรู้จริงๆ เพราะด้วยความที่เราสนิทกัน ไม่มีเลยสักครั้งที่พี่ตะวันจะไม่รู้ว่าฉันกำลังคิดอะไร

    “ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เราเห็นหนะ เป็นเพื่อนของนายภูทั้งนั้นแหละ แต่แฟนเป็นตัวเป็นตนหนะ ยังไม่มีหรอก เพราะนายนั่นเขามีคนที่เขารักอยู่แล้ว อีกอย่าง  พี่ว่าคนคนนั้นยังไม่รู้ด้วยซ้ำไป ว่ามันชอบเขามากขนาดไหน แล้วก็ชอบมานานแล้วด้วย”

    “จริงเหรอคะ ฟ้าไม่อยากจะเชื่อ อยากรู้จังว่าใครคือผู้หญิงที่โชคร้ายคนนั้น” ฉันเอ่ยพูดอย่างไม่ใส่ใจแล้วก็ก้มหน้า ก้มตาประกอบโคมไปที่ฉันเลือกอย่างตั้งใจ

    “พี่ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่โชคดีต่างหาก เพราะผู้ชายสมัยนี้หาที่รักเดียวใจเดียวหนะ ยากมาก อีกอย่าง ผู้ชายแบบ..เอ่อ..แบบพี่หนะ ! ก็มีเยอะ ดูยากด้วย ถ้าไม่ใช่พวกเดียวกัน”

    ฉันเพียงแต่เงยหน้าขึ้นสบตาพี่ตะวัน แล้วก็รู้สึกเห็นด้วยกับคำพูดพี่ตะวันอยู่ลึกๆ ......... ผู้หญิงที่โชคดีเหรอ ฉันอยากเป็นผู้หญิงที่โชคดีนะ แต่คนที่ฉันชอบ หรืออาจจะเรียกว่ารักก็ได้เป็นพี่ตะวันนี่นา

    “ฟ้า เชื่อที่พี่พูดมั้ย”

    “ไม่รู้สิคะ แต่ฟ้าจะเชื่อไม่เชื่อมันเกี่ยวอะไรหละคะ”

    “พี่ไม่อยากให้ฟ้าคิดว่าที่พี่พูดชมภูผา เพราะเราเป็นพี่น้องกันหนะสิ  ภูผาเป็นคนดี ถึงแม้เมื่อก่อนจะเกเร แต่ตอนนี้เขาก็เเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วนะ”

    “ฟ้าเชื่อที่พี่ตะวันพูดค่ะ” ฉันยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับพี่ตะวัน

    “อื่ม...ถ้าภูมันรู้มันคงดีใจ”  แม้ว่าเสียงมี่ถูกเปร่งออกมาจะค่อนข้างเบา เหมือนพูดกับตัวเอง แต่ฉันก็แน่ใจว่า ฉันได้ยินสิ่งที่พี่ตะวันพูด แล้วมันก็ทำให้ฉันรู้สึกหวิวในใจอย่างบอกไม่ถูก

    ..........................................................................

    จากคุณ : รวยระรินกลิ่นชา - [ 15 พ.ย. 47 17:30:57 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป