CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ))))))>>>>......ผู้ ช า ย ห น้ า บ้ า น.......<<<<<(((((((

    สวัสดีค่ะคุณอาหมอ

                  หนูหวังว่าเรื่องราวของหนูคงจะไม่เป็นการรบกวนเวลาของคุณอาเกินไปนะคะ เพราะหนูไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครไปปรึกษาใครได้อีกแล้ว  หนูชื่อวีค่ะ อายุเกือบเต็มสิบแปดปีแล้ว  หนูอยู่ที่นี่ (ตามที่อยู่ที่จ่าหน้าซอง..ตามกติกาของการตอบกลับเป็นการส่วนตัวนั่นแหละค่ะ)  บ้านของหนูอยู่ซอยกลาง  ซึ่งจะสะดวกเวลาจะหลบออกไปไหนๆ เวลาที่คุณพ่อคุณแม่ไม่อนุญาต….อ้อ…ห้องของหนูอยู่ชั้นล่างด้วยค่ะ เลยยิ่งสะดวกยิ่งขึ้น จนหนูกลัวว่าจะชอบเข้าออกทางหลังบ้านจนเป็นนิสัย  เรื่องนี้หนูก็หนักใจอยู่ลึก ๆ  แต่เรื่องสำคัญและทำให้ลำบากใจจนต้องเขียนจดหมายมารบกวนคุณอา คือเรื่องต่อไปนี้ค่ะ

                 หนูไม่รู้หรอกนะคะว่ารู้สึกอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จำได้แค่ว่ารู้สึกดีใจและเป็นสุขทุกครั้งที่พี่เค้าส่งยิ้มมาให้ พี่เค้าเป็นผู้ชายหน้าบ้านนี่เองค่ะ  อายุเราคงห่างกันหลายปีเกินไป บวกกับที่บ้านคุณแม่ของหนูค่อนข้างเข้มงวดกับเวลาและชีวิตส่วนตัวของลูกๆ ชนิดที่ว่ามีตารางเวลาคอยกำกับ  เราเลยมีโอกาสส่งยิ้มและทักทายกันได้อย่างคนบ้านใกล้เรือนเคียงเท่านั้น  จนกระทั่งพี่ชายหน้าบ้านเค้าพาหลานชาย (เค้าบอกว่าอย่างนั้นค่ะ) มาอยู่ด้วย  

                หลานชายเขาอายุมากกว่าหนูไม่กี่ปี  ตอนแรกๆ พอหนูรู้ว่าเป็นญาติของพี่ชายหน้าบ้าน หนูก็พยายามส่งยิ้มทักทายไปตามประสาคนที่จะมาอยู่ใกล้ๆ กัน  แต่คุณอาคะตั้งแต่หลานชาย (เขาหล่อมากค่ะ หน้าตางิ้หวานยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก)  เขาย้ายมาอยู่ด้วย พี่ชายหน้าบ้านของหนูก็ไม่ค่อยได้ส่งยิ้มทักทายหนูเลย   พอหนูจะเดินเข้าไปคุยด้วยอย่างเคย เวลาที่เขาทำอะไรๆ อยู่หน้าบ้าน พี่เขาก็จะรีบเดินกลับเข้าไปในบ้านแล้วปิดประตูเงียบ….เขาทำเหมือนรังเกียจหนูมากเลยค่ะช่วงนั้น…หนูทำอะไรผิดหรือคะคุณอา

                 ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้…ตอนที่หนูโตพอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร  เราคือหนูกับพี่ชายหน้าบ้านของหนูก็ทำท่าจะเข้าใจกันดี  เมื่อหนูโตพอจะกล้าโทรไปสารภาพกับเขาถึงเรื่องราวภายในใจของหนู พี่เขายังดูเหมือนจะเข้าใจ เขายังถามหนูเลยนะคะ ว่าผู้ชายดีๆ มีเยอะแยะไปที่คู่ควรกับหนูมากกว่าตัวเค้า  ทำไมต้องมาชอบผู้ชายหน้าบ้านอย่างเขา…แต่เขาก็ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรนะคะ  เขายังคงเสมอต้นเสมอปลายจนหนูเข้าใจไปเองมั้งคะว่า พี่ผู้ชายหน้าบ้านของหนูคนนี้ เขารับรักหนูแล้ว

                 หนูเคยเอาคำพูดและการกระทำที่เขาแสดงออกมาเวลาเจอกับหนูไปเล่าไปปรึกษาเพื่อนๆ ในกลุ่ม  แล้วก็พากันมาแอบดูตัวเป็นๆ ของพี่เค้าคนนี้ เพื่อนๆ มันพูดเป็นเสียงเดียวกันค่ะว่า ให้หนูไปหาเอาข้างหน้าเถอะ…อย่ามาทำตัวเป็นพวกโรคจิตหน่อยเลย…แล้วหลังจากนั้นพวกเพื่อนๆ ก็ล้อเลียนหนูบ่อยๆ ค่ะ  ว่าหนูรสนิยมต่ำ คนเยอะแยะไม่ชอบ ไม่หลงใหลได้ปลื้ม ดันไปหลงรักผู้ชายหน้าบ้านได้ยังไง  

                  ก็นี่หละค่ะคุณอา หนูเลยอดสงสัยไม่ได้ว่า แล้วหลานชายของพี่เค้าทำไมถึงได้หน้าตาดีขนาดนั้น  หนูเคยถามนะคะ…ครั้งหนึ่งที่หนูทนไม่ได้จนต้องแอบไปดักรอเขาที่หน้าปากซอย  พี่เค้าบอกว่านับถือกันเหมือนน้าหลานเท่านั้น ที่จริงคือเป็นลูกของเพื่อนบ้านที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน พอดีสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่กรุงเทพนี่ได้เลยมาอาศัยอยู่ด้วย(หนูก็ไม่ได้ซักถามอะไรพี่เค้ามากมายหรอกค่ะ…เพราะเวลาที่เราจะได้อยู่ใกล้ๆ กันนั้นน้อยเหลือเกิน…วันนั้นเราหลบไปนั่งทานไอติมกันค่ะ…คนรอบๆ มองเรากันใหญ่เลย…พี่ชายหน้าบ้านกับหนูคงเป็นคู่ที่สะดุดสายตาคนอื่นมากเกินไปมั้งคะ)

                 แล้วเขายังบอกอีกนะคะ ว่าหลังจากนี้เราคงได้คุยกันน้อยลง  เพราะเขาเกรงใจหลานชายเขาน่ะค่ะ  เค้ากลัวว่าหลานชายจะเข้าใจผิดหรือไม่ก็เอาเรื่องนี้ไปพูดให้คนที่บ้านเค้าฟัง   อีกอย่างหนึ่งเขาบอกกับหนูว่าตัวเค้าเองก็ยังไม่แน่ใจว่ารู้สึกอย่างไรกับหนูกันแน่  นอกจากการเป็นคนที่เห็นกันมาแต่เล็กแต่น้อย  คุณอาคะคำนี้มันทิ่มแทงหัวใจของหนูเหลือเกินค่ะ  หนูคงทรมานใจน้อยกว่านี้ถ้าพี่เขาบอกมาตรงๆ ว่าเขาเกลียดหนูหรือเขามีคนอื่นอยู่แล้ว

                 ตั้งแต่เราคุยกันครั้งนั้น ดูเหมือนว่าหนูกลายเป็นอิบ้าอิบอ ที่คอยแต่เฝ้าทุรนทุรายแอบมองแอบคิดถึงแอบหึงหวงพี่ผู้ชายหน้าบ้านตลอดเวลา…หนูกลัวว่าจะกลายเป็นโรคจิตซ้ำซ้อนขึ้นมาอีกอย่างน่ะค่ะ….นอกจากที่เพื่อนล้อว่า เป็นโรคจิตรสนิยมต่ำชอบผู้ชายหน้าบ้าน  แต่พี่ชายหน้าบ้านของหนูเขามีรูปร่างดีมากเลยนะคะมาดแมนสมชายแต่งตัวเซอร์ๆ อย่างที่หนูเห็นกี่ครั้งก็ไม่มีวันละสายตาจากไปได้  พี่เขาชอบออกกำลังกายน่ะค่ะ  หนูชอบออกมานั่งถักนิตติ้งถักโคเชร์รอเวลาที่พี่เขากลับมาจากการวิ่งจ๊อกกิ้ง  เพื่อจะได้ยิ้มทักทายพี่เขา  เพราะตอนที่เขาอยู่ในกางเกงขาสั้นตัวเล็กๆ นั่น มันยิ่งทำให้หนูพยายามสรรหาเรื่องอะไรต่อมิอะไรมาคุยกับพี่เขาได้ครั้งละนานๆ…นี่..นี่หนูความความผิดปกติทางจิตหลายอย่างขนาดนั้นเชียวหรือคะคุณอา

                 ค่ะ..ตั้งแต่เราคุยกันครั้งนั้น (ครั้งที่ว่าคนที่มาอยู่ด้วยไม่ใช่หลานชายแท้ๆ นั่นแหละค่ะ)  พี่เขาก็เปลี่ยนไป  หรือไม่อาจจะเป็นความรู้สึกของหนูเองก็ได้ที่คิดว่าเค้าเปลี่ยนไป  หนูรู้สึกเหมือนมีใครมาแย่งคนรักไปจากหนูค่ะ  แม้จะพยายามทำใจให้มองโลกในแง่ดีอย่างไรก็ยังทำใจได้น้อยเต็มทีกับอีกคนที่เหมือนเป็นส่วนเกินของเรา

                 แต่หลานชายตัวดีของพี่ชายหน้าบ้านเสียอีกสิคะ ที่มีท่าทางเหมือนจะมาชอบหนู  ทำไมหนูถึงจะดูไม่ออกล่ะคะว่าเขาหวังอะไรจากตัวหนู เขาเคยขอเข้ามาทางหลังบ้านของหนูหลายครั้งแต่หนูไม่เคยยอม และต้องขู่ว่าจะฟ้องพี่ชายหน้าบ้าน เขาถึงค่อยเพลาๆ มือลงไปสำหรับการแต๊ะอั๋ง ที่เค้าพยายามทำอยู่เป็นประจำ  เช่นโอบไหล่หรือจับมือถือแขน นั่นหนูไม่ว่าหรอกค่ะ มันธรรมดาเสียแล้วกับพวกเราสมัยนี้

                  จนเขาจะโน้มหน้าหนูเข้าไปหอมแก้มนั่นแหละค่ะ หนูถึงจะหยิกเตือนสติว่ามันชักจะล้ำเส้นเกินไปแล้ว   แต่คุณอาคะถ้าเป็นพี่ผู้ชายหน้าบ้านมาทำอย่างนี้กับหนู…หนู…หนูคงยินยอมพร้อมใจไปกับเขาหมดทุกสิ่งทุกอย่าง  คุณอาคะอย่างนี้เค้าเรียกว่าความรักหรือความหลงกันแน่ ถ้ามันเป็นความหลงมันจะต้องเป็นแค่ชั่วครู่ชั่วยามไม่ใช่หรือคะ แต่ทำไมหนูถึงชอบที่จะมองชอบที่จะได้คุยกับพี่ผู้ชายหน้าบ้านของหนูมาตั้งแต่เด็กๆ ล่ะคะ

                  คุณอาคะหากเรื่องมันจบลงเพียงแค่นี้ หนูคงจะพอทำใจได้ คงไม่ต้องมารบกวนเวลาอันมีค่าของคุณอา  แต่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นกับหนูเมื่อเร็วๆ นี้น่ะสิคะ  มันทำให้หนูหวั่นวิตกเหลือเกิน แล้วก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครไปปรึกษาใคร นอกจากคุณอาที่หนูนับถือและติดตามอ่านคำแนะนำของคุณอามาโดยตลอด

                  เรื่องของเรื่องมันก็เพราะพวกเพื่อนๆ ตัวดีในกลุ่มนี่อีกแหละค่ะ…คือมีวันหนึ่งเรามาติวหนังสือกันที่บ้าน แล้วเพื่อนๆ มันก็เห็นหลานชายของพี่เค้าเข้า พวกมันเลยยิ่งแช่งชักหักกระดูกหนูกันยกใหญ่ ว่าเอาผู้ชายหล่อๆ ดีๆ อย่างนี้มาแอบมาซ่อนไว้คนเดียว  เพื่อนๆ มันทำยังกับว่าหนูอยู่กินกับหลานชายของพี่หน้าบ้านหยั่งไงหยั่งงั้นเลยค่ะ  พอหนูยืนกรานปฏิเสธว่าไม่เคยสนใจไยดี เพราะหัวใจทั้งดวงหนูมอบให้พี่ชายหน้าบ้านไปหมดแล้ว พวกมันเลยยิ่งว่า..ว่าหนูรสนิยมต่ำหนักเข้าไปอีกค่ะ

                 และแค่นั้นยังไม่พอ พวกเพื่อนๆ หนูมันยังให้ความร่วมมืออย่างดีกับไอ้นายนั่น  วันนั้นเรามาติวหนังสือกันเหมือนเคย  หนูไม่รู้ตัวว่าหนูถูกมอมด้วยยาอะไร  เหมือนพอว่าหนูเคลิ้มได้ที หลานชายของพี่เค้าก็เข้ามาทางหลังบ้านของหนู…แล้ว…แล้ว…หนู…หนูก็ต้องเสียความบริสุทธิ์ให้กับเค้า  คุณอาคะ หนูรู้สึกผิดเหลือเกิน  หนูรู้สึกเหมือนกำลังนอกใจพี่ชายหน้าบ้านเลยค่ะ  เพราะหนูเคยปฏิญาณไว้ว่า ผู้ชายคนแรกในชีวิตต้องเป็นพี่ชายหน้าบ้านคนเดียวเท่านั้น..(ส่วนเรื่องหนูเจ็บปวดยังไงตอนโดนครั้งแรกหนูขอข้ามไปเลยนะคะ..มันก็เหมือนๆ กับคนอื่นเคยเล่าไว้นั่นแหละค่ะ ว่ามันทรมานขนาดไหนว่าจะผ่านเข้าไปได้ทั้งหมด)  

                   หลังจากเค้าเสร็จสมใจพร้อมๆ กับที่หนูได้สติขึ้นมาเต็มที่  หนูพยายามทำใจให้เข้มแข็งเอาไว้  ขอร้องเขาว่าอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกกับใคร ถึงกับพวกเพื่อนๆ ที่มอมยาหนูแล้วหนีกลับไปรอฟังข่าวนั่นก็ขอให้เค้าบอกพวกมันเพียงว่า หนูรู้ตัวและขัดขืนเสียก่อน…หนูทำท่าจะโวยวายเขาเลยไม่กล้าลงมือ  เขารับปากกับหนูค่ะว่าจะไม่บอกกับใครเรื่องที่ได้หนูแล้ว  แต่ข้อแม้ของเขาน่ะสิคะ ที่ทำให้หนูเหมือนตกนรกทั้งเป็น  ก็เพราะขนาดร่างกายที่ใหญ่โตของเขาน่ะสิคะ  คุณอาคงเดาได้นะคะว่าหนูต้องเปิดประตูหลังบ้านรับเขาทุกครั้งที่เขาต้องการ  

                  ตอนแรกๆ เขาก็เตรียมหาถุงยางอนามัยมาเอง แต่ตอนหลังๆ นี่เขาจะขอสดๆ แต่หนูไม่ยอม จนหนูต้องเป็นฝ่ายซื้อหาเครื่องป้องกันนี่มาเอง  ถึงจะอายพนักงานเซเว่นแค่ไหนหนูก็ต้องยอมค่ะ  และมันก็ไม่เท่ากับความรู้สึกอับอายทุกครั้งที่พี่หน้าบ้านเขามองมาแล้วเผอิญเราจะต้องสบตากัน  ตอนนี้ดวงตาและหัวใจของหนูพร่าเลือนไปหมดจนอ่านไม่ออกเลยค่ะว่าในแววตาของพี่ชายหน้าบ้านที่มองมานั้น มองมาด้วยความรู้สึกอย่างไร…เค้าจะระแคะระคายบ้างไหมกับเรื่องของหนูกับหลานชาย(เทียมๆ ของเขา)

                  แต่แล้วการยอมพลีกายเป็นเครื่องระบายอารมณ์ใคร่ให้กับหลานชายพี่เขาเพื่อแลกกับความลับอันนี้กลับไม่มีความหมายอะไรเลย  เมื่อวันหนึ่งเค้ามาบอกว่าน้าชายของเขารู้เรื่องของเรามาตั้งแต่แรก…หนูหน้ามืดเป็นลมไปเลยค่ะ ทั้งๆ ที่เขายังขย่มโยกอยู่บนร่างของหนู  มันชอกช้ำเข้าไปถึงส่วนที่ลึกที่สุดในหัวใจเลยนะคะคุณอา  หนูกลุ้มใจเหลือเกินค่ะและก็รู้สึกขยะแขยงนายนี่อย่างที่จะทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว  

                  เมื่อหนูได้สติขึ้นมาจึงต่อว่าเขาเป็นการใหญ่ หนูทั้งถีบทั้งต่อยเขาจนอารมณ์มันได้ระบายออกไปบ้างนั่นแหละค่ะ หนูถึงค่อยๆ สารภาพกับเขาว่า หนูหลงรักน้าชายของเขา(พี่ชายหน้าบ้านของหนู) เขายิ่งเยาะเย้ยหนูใหญ่เลยค่ะ  เค้าพูดอะไรที่หนูไม่เข้าใจหลายอย่าง ซึ่งหนูก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าเขาหมายความว่าอย่างไร เพราะจริงๆ แล้ว นอกจากหลานชายของพี่เค้าแล้ว หนูก็ไม่ได้เคยยุ่งสุงสิงกับใครอีก

                  คุณอารู้ไหมคะ ว่าพอหนูสารภาพว่ารักพี่ชายหน้าบ้านหลานชายเค้าทำยังไง  เขาบอกว่าจะนัดพี่ชายให้หนูด้วย..ให้มาเข้าทางหลังบ้านหนูอีกคน  คุณอาคะทำไมโลกนี้ถึงมีผู้ชายเลวๆ ขนาดนี้อยู่อีกคะ  เขาบอกหน้าตาเฉยเลยนะคะว่า ของอย่างนี้แบ่งกันได้เพราะขอกันกินยังมากกว่า  แต่เค้าก็พูดเป็นนัยๆ นะคะ ว่าท่าทางจะไม่สำเร็จเพราะพี่ชายหน้าบ้านของหนูเค้ารักเดียวใจเดียวและไม่ชอบที่จะรุกล้ำกล้ำกรายใคร  หนูไม่ค่อยเข้าใจหรอกค่ะว่ายังไง แต่ก็นั่นแหละค่ะ ถ้าพี่ชายหน้าบ้านมาขอเข้าประตูหลังบ้านจริงๆ หนูจะปฏิเสธเขาได้ยังไง  หนูเหมือนกับคนที่ขี่อยู่บนหลังเสือหรือเปล่าคะ…คือถ้าคิดจะลงก็คงจะโดนมันขบมันกัดเอาจนตาย

                  ส่วนเรื่องที่จะแจ้งความ  ใครเขาจะเชื่อล่ะคะ…มันเนิ่นนานมาจนป่านนี้แล้ว ยิ่งถ้าจะให้ปรึกษากับพ่อกับแม่หนูนั้นอย่าหวังเลยค่ะ  แค่หนูยิ้มให้กับผู้ชายสักคนเวลาที่ครอบครัวเราไปไหนต่อไหนด้วยกัน  เมื่อกลับมาถึงบ้านก็จะถูกตำหนิต่อว่าเป็นการใหญ่ จนหนูกลายเป็นคนเก็บกดไปแล้ว จะดีนิดหนึ่งก็ตรงที่ว่ามีเพื่อนและครูที่โรงเรียนคอยเข้าใจและเห็นใจหนูอยู่บ้าง(ก็กลุ่มเพื่อนๆ ที่ทำให้หนูต้องเป็นอย่างนี้แหละค่ะ)  เพื่อนๆ หนูเข้าใจและให้คำแนะนำดีๆ กับหนูมากมายเหลือเกิน

                   คุณอาคะ วันนี้แล้วค่ะที่แผนการณ์และสิ่งที่หนูรอคอยกำลังจะเกิดขึ้น  กว่าคุณอาจะได้อ่านจดหมายฉบับนี้แล้วตอบกลับมา หนูคงกลายเป็นตัวอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ ที่ไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักพอไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจกับการแก้แค้นกับการระบายความต้องการของตัวเองในทางที่ไม่ถูกไม่ควร  คุณอาคะ วันนี้พ่อแม่หนูต้องไปงานศพญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง  หนูต้องอยู่โยงเฝ้าบ้านเหมือนเคย  แต่พวกเพื่อนเขานัดให้หลานของพี่ชายหน้าบ้านของหนูออกไปตั้งแต่เช้าและพวกมันก็รับรองว่าจะรั้งเค้าไว้ให้ได้ทั้งคืน เพื่อเปิดโอกาสให้หนูเต็มที่  ยาเลิฟเม็ดละหลายร้อยนี่พวกมันก็ลงขันกันซื้อให้หนูเป็นการไถ่บาป(มั้งคะ) สามเม็ดคงพอสำหรับหน้าที่ของมัน  หนูกำลังจะเป็นฝ่ายไปเคาะประตูบ้านของพี่ชายหน้าบ้าน หนูกำลังจะต้องเป็นฝ่ายเสนอตัวเข้าไปเองเลยหรือคะนี่  คุณอาคะอย่าว่าหนูเลยนะคะว่าหนูไม่มียางอาย  

                  คุณอาเชื่อเถิดค่ะว่าความรักมันทำให้คนเราทำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ลืมได้กระทั่งพระคุณพ่อพระคุณแม่ กล้าได้กระทั่งสิ่งที่ต้องใช้ความด้านอายอย่างถึงที่สุด คุณอาคะ หนูหวังว่าคุณอาคงจะช่วยอวยพรย้อนหลังให้หนู  ขอให้หนูได้สำเร็จในครั้งนี้ที่ปรารถนามานาน…ตั้งแต่วันที่หนูรู้จักเปิดประตูหลังบ้านต้อนรับคนอื่น  คนเดียวที่หนูรอให้เข้ามาเยี่ยมเยียนก็คือพี่ผู้ชายหน้าบ้านของหนูคนนี้ แต่เขายังไม่เคยย่างกรายเข้ามาเลย  วันนี้แล้วนะคะที่หนูจะได้สัมผัสกับมัน ได้สัมผัสไออุ่นจากอกของพี่ชายหน้าบ้านของหนู

                  หนูภาวนาว่าขอให้มันง่ายกว่าการที่จะต้องรับคำเวลาพูดกับพ่อกับแม่จากคำว่า “ครับ” โดยเปลี่ยนมาเป็นคำว่า “ค่ะ” แทน…หวังว่าคุณอาจะเป็นกำลังใจให้หนูนะคะ

                  ด้วยความนับถือเสมอและรอคำตอบของคุณอาอย่างใจจดใจจ่อค่ะ

                                                                                     (แสง)รวี  ทวิชาติกุล
                                                                                     พฤศจิกายน ๒๕๔๗

    ปล. ผิดด้วยหรือคะที่หนูจะรักผู้ชายหน้าบ้านๆ สักคน





    แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 47 15:37:55

    แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 47 14:22:16

    จากคุณ : SONG982 - [ 16 พ.ย. 47 14:14:41 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป