แฮ่ะๆ
ผมค้างเรื่องนี้ไว้หลายเดือน
หลายท่านลืมไปแล้ว
เลยถือโอกาสนำมาเรียบเรียงใหม่ มารวบรวมไว้ในกระทู้เดียวกัน ตั้งแต่ต้น จนจบ เพื่อให้อ่านสะดวก
ขอบคุณท่านอาจารย์ตัวเอ้(คนชื่นชอบนิยาย) ที่มีส่วนอย่างมากในการตรวจทานและขัดเกลา
+++++
หลอนวิปลาส
โดย GTW/ Psycho man
จิตแพทย์วัยกลางคนนั่งแทะเล็มความคิดของตัวเองอยู่ในห้องอย่างไม่รีบร้อน บันทึกของคนไข้ทางจิตหลายเล่มวางอยู่บนโต๊ะอย่างไม่เป็นระเบียบ นอกหน้าต่างยังได้ยินสรรพเสียงดังแว่วมาเป็นระยะ เครื่องบินโดยสารท้องแก่เพิ่งบินอุ้ยอ้ายผ่านไป เขานึกเล่นๆว่ามันคงไม่คลอดออกมากลางอากาศก่อนถึงสนามบิน นาฬิกาแขนบนผนังบอกเวลาอีกไม่นานความมืดก็จะเริ่มถามหา อาหารมื้อเย็นและเสียงสวดพร่าบ่นคาถาจากภรรยาบังเกิดเกล้าซึ่งมีอายุการใช้งานมากคงตั้งหน้าตั้งตารอด้วยสายตามุ่งร้ายอยู่ที่บ้าน ส่วนข้อหาก็คงเป็นข้อหาโบราณเก่าเก็บหากได้รับความนิยมไม่สร่างซา ประเภทหาว่าเขากำลังมีอะไรกับสาวๆที่ไม่พึงประสงค์จะออกนาม อะไรประมาณนั้น
โครงการแจกสมุดบันทึกให้คนไข้เขียนเป็นไปด้วยดี บันทึกเหล่านั้นนอกจากจะนำไปใช้ในงานวิจัยเพื่อเป็นข้ออ้างในการขึ้นเงินเดือนให้กับตัวเอง ยังอ่านสนุกนั่งลุกสบาย เรื่องบางเรื่องมีแต่คนบ้าเท่านั้นที่เขียนออกมาแบบนั้นได้ เรื่องบางเรื่องก็มีแต่คนบ้าเท่านั้นที่จะอ่านรู้เรื่อง บางเรื่องอ่านแล้วไม่รู้ว่าใครดีใครบ้ากันแน่
เขาหยิบมั่วๆขึ้นมาเล่มหนึ่งโดยไม่สนใจว่าคนบ้าหน้าไหนจะเป็นคนเขียน
เวลายังพอมี คุณหมอเอนหลังพิงเก้าตัวนุ่มก้นนุ่มหลัง พลิกอ่านช้าๆไม่รีบร้อน เผื่อจะได้ข้อมูลลมๆแล้งๆมาประกอบงานวิจัย
++++++
ก่อนที่ผมจะถูกส่งมาที่นี่ ผมมีภรรยาที่แสนสวยและแสนดี
จนทำให้ไม่จำเป็นต้องอิจฉามนุษย์หรือเทวดาหน้าไหน เราพบกันโดยบังเอิญเมื่อหลายปีก่อนในงานเลี้ยงของบริษัท เพียงครั้งแรกที่สบตากัน ผมก็รู้ว่าเธอเกิดมาเพื่อผม ผมเกิดมาเพื่อเธอ เราต่างเกิดมาเพื่อกันและกัน หลังจากงานแต่งงานแบบเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ ครอบครัวของเราก็เริ่มต้นขึ้นและความผิดปกติอันน่าสะพรึงกลัวก็เริ่มต้นขึ้นเช่นกัน
พวกเราไม่เคยทะเลาะกัน ไม่เคยขัดใจกัน ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีจนไม่อยากเชื่อ ผมว่าคุณเองก็คงไม่อยากเชื่อ ว่าคนสองคนอยู่ด้วยกันจะไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกันเลย ดังนั้นคุณจึงไม่รู้ว่าชีวิตแบบนั้นมันดีขนาดไหน จะพูดไปคุณก็ไม่รู้อยู่ดี
บางทีเพราะอะไรที่มันดีเกินไปนี่เอง อาจทำให้ผมดูแปลกไปในสายตาของเพื่อนๆ งานที่ทำเริ่มมีความผิดพลาดมากขึ้น ซึ่งก็แน่ละ... ระยะหลังผมเอาจิตใจทุ่มเทให้กับเข็มนาฬิกา ชี้บอกเวลาเลิกงานอย่างใจจดใจจ่อ ก็เพียงแค่จะรีบกลับบ้านเท่านั้น
ถ้าคุณมีคนรักที่แสนสวย วิเศษ และแสนดีอย่างผม คุณก็คงจะทำแบบนี้เช่นกัน ชีวิตและหน้าที่การงานอะไรจะมีความสุขมากไปกว่าการเผ่นกลับบ้าน เพื่อพบกับคนรักที่รอคอยอยู่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส วงแขนและจุมพิศต้อนรับอันแสนหวาน ขี้คร้านจะทำให้คุณไม่อยากออกจากบ้านไปไหน
แต่ก็มีวันหนึ่งที่ผมทำผิดพลาดไปจนได้ หัวหน้าและบรรดาเพื่อนฝูงทั้งหลายทั้งปวงพอเลิกงาน พากันรวมตัวลากคอผมให้ไปงานเลี้ยงของบริษัทที่จัดขึ้นเพื่อแสดงความยินดีในเรื่องอะไรก็คร้านที่จะจำ คนพวกนั้นดูท่าทางสาแก่ใจและมีความสุขในการบังคับให้ผมดื่มเครื่องมึนเมาแก้วแล้วแก้วเล่า
ให้เวลากับเพื่อนฝูงบ้างสิ
นั่นเป็นข้ออ้างของพวกมัน ก็แน่ล่ะ คนเหล่านั้นไม่มีคนรักที่สุดวิเศษอย่างผมนี่นา เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของผู้คนรอบข้างซึ่งดูเหมือนเย้ยหยันทำให้เวียนหัวเหลือเกิน สาวดูแลโต๊ะซึ่งคอยบริการรินเหล่ารินเบียร์ก็ดูน่าเกลียดน่าชังเสียจริง นัยน์ตาแพรวพราวไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมเยือกเย็น ปากทาสีแดงจนเหมือนเพิ่งดื่มเลือดมาใหม่ๆ นั่นก็จ้อเจรจาอย่างไร้ความจริงใจ กลิ่นควันบุหรี่อบอวลทั่วห้องวีไอพีซึ่งแยกมาจากห้องอาหารปกติ บางคนแหกปากหอนเพลงคาราโอเกะด้วยท่าทางเหมือนจะสำลักไมโครโฟน
ทำอย่างไรดีจะหนีคนพวกนี้ได้นะ พยายามคิดหาทางออก
ห้องน้ำ.. จะต้องอ้างเข้าห้องน้ำ แล้วขึ้นรถแท็กซี่หนีกลับบ้าน วิธีง่ายๆ แต่ได้ผลเสมอ
ผมลุกขึ้นและออกปากขอตัวเข้าห้องน้ำ
คุณจะเชื่อไหมว่าทุกคนหยุดพูดหยุดคุย อย่าว่าแต่โต๊ะนี้เลย ทุกตัวในร้านก็พากันชะงักค้างเงียบกริบ
หันมามองเป็นตาเดียว เหมือนกันจะรู้ว่าผมจะมาไม้นี้
อาการของคนพวกนั้นทำให้ผมรู้สึกอยากจะอาเจียนด้วยความขนลุก มันอะไรกันนี่ .. ดูเหมือนว่าพวกเขาพวกเธอทุกคนกำลังรวมตัวกันวางแผนทำอะไรสักอย่างที่ยังทายไม่ออกบอกไม่ถูก อาการนิ่งเงียบแบบพร้อมเพรียงกันและสายตาคนพวกนั้นเหมือนมีอำนาจหรือมนตร์สะกดลี้ลับอันน่าสะพรึงกลัวอย่างบอกไม่ถูก
หัวหน้าของผมซึ่งเป็นชายวัยกลางคน แต่ตอนนี้ดูหน้าตาของแกน่าเกลียดเหลือเกิน รอยยิ้มนั่นดูไปก็เหมือนกับเป็นการแสยะมากกว่า ผิดจากเจ้านายใจดีที่บริษัทลิบลับ
นายจะหนีกลับบ้านก็บอกมาเถอะ.... เขาเอ่ยขึ้นมาเหมือนกันรู้ความคิดของผม
จะกลับก็ควรบอกเพื่อนฝูงกันดีๆ ไม่ควรจะหนีกลับแบบนี้
เปล่าครับ....
ผมตอบเสียงอึกอักเพราะไม่ถนัดในการโกหกมนุษย์
โกหก...
เสียงใครคนหนึ่งสวนคำขึ้นมาในขณะที่ผมเริ่มมึนงงและตกตะลึงกับเหตุการณ์อันไม่คาดคิด คนพวกนี้เป็นเพื่อนผมจริงๆหรือเปล่าทำไมตั้งหน้าตั้งตาจองล้างจองผลาญแบบนี้
จะกลับไปหาแฟนคนดีที่หนึ่งของนายล่ะสิ
เห็นแฟนดีกว่าเพื่อนนี่นา
แบบนี่ต้องสั่งสอน
ฆ่ามันเลย...
เฮ้ย....
ผมร้องเสียงหลงกับประโยคสุดท้าย มันชักจะล้อเล่นกันแรงมากเกินไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะเสริมให้สิ่งที่พากันพูดออกมาเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น พวกเขาพากันคว้าสิ่งที่พอจะทำเป็นอาวุธขึ้นมาจากโต๊ะ ไม่ว่าจะเป็นช้อน ส้อม ตะเกียบ มีดหั่นเนื้อ ผมถอยหลังกรูดอย่างไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น แทบหายเมาเป็นปลิดทิ้ง
ไม่เพียงแต่โต๊ะนี้เท่านั้น โต๊ะตัวอื่นๆ ก็พากันเข้ามาร่วมสังคายนาด้วย พวกเขาเริ่มพากันลุกขึ้นและเดินตรงมาที่ผมเป็นจุดเดียว มีทั้งเด็ก ผู้หญิง หรือแม้กระทั่งคนแก่ สีหน้าท่าทางของพวกเขาจริงจังและกระหายเลือด แบบนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นแล้ว
แผ่นหลังผมปะทะเข้ากับใครสักคน พอหันไปมองก็เป็นสาวดูแลโต๊ะลูกค้าคนนั้นนั่นเองกำลังยิ้มตาลุกวาวแดงฉาน อกนุ่มๆของเธอไม่ได้ทำให้การปะทะนั้นอิ่มเอิบซาบซ่านแต่ประการใดเพราะมือขวาของเธอกำมีดเงื้อขึ้นสุดแขน
จะไปไหนคะที่รัก คุณยังไม่จ่ายเงินเลยนะคะ
เสียงใสๆนั่นไม่เข้ากันเลยกับอาการจ้วงแทงมีดหั่นเนื้อเข้าเต็มซอกคอของผม
คมมีดร้อนผ่าวและความเจ็บปวดประทุพร้อมเพรียงกัน เสียงคมมีดปักผ่านเนื้อดังถนัดชัดหู นั่นเป็นครั้งแรกที่สัมผัสได้ถึงการถูกแทงด้วยมีด ริมฝีปากแดงของเธอดูเหมือนจะแสยะยิ้มกว้างมากขึ้นทุกทีจนทุกสิ่งทุกอย่างอาบเลือดไปจนหมดสิ้น
ผมได้ยินเสียงตัวเองร้องสุดเสียง
++
เป็นอะไรไปวะ เมาจนหลับแล้วจู่ๆแหกปากร้องทำซากอะไร
เสียงตะโกนจนแสบแก้วหู
ผมผวาขึ้นมาปากอ้าตาค้างและมึนงง ก่อนจะพบว่าตัวเองยังนั่งอยู่ในงานเลี้ยง บรรดาขี้เมาทั้งหลายทั้งปวงกำลังหลับหูหลับตาคุยแข่งกันอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยไม่สนใจว่าจะมีคนฟังหรือไม่ บางคนก็กำลังตั้งหน้าตั้งตาจีบเด็กส่งอาหารแบบลืมเมียลืมตาย บางโต๊ะกำลังแหกปากร้องเพลงที่ฟังดูแล้วไพเราะกว่าหมาหอนนิดหน่อย ผิดคีย์ผิดจังหวะไปตามประสาคนเมา
นี่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มันเป็นเพียงความฝันเท่านั้นหรือ ความเจ็บอันเกิดจากการถูกแทงยังระริกไหวอยู่ซอกคอทำให้ยกมือลูบบริเวณที่ถูกแทงในความฝันโดยไม่รู้ตัว ไม่มีบาดแผลหรือรอยเลือด..แน่ล่ะ ก็มันเป็นเพียงความฝันเท่านั้น
เมาก็กลับไปนอน
นั่นเสียงของหัวหน้าอันฟังดูเต็มไปด้วยความห่วงไยตามแบบฉบับของหัวหน้าที่ดี ไม่มีแววแห่งความอำมหิตเลือดเย็นจนน่าสยดสยองอย่างเมื่อครู่แม้แต่น้อย
จะให้เรียกแท็กซี่ให้ไหม
หรือจะให้ไปส่งที่บ้าน
นั่นก็เสียงเพื่อนรักทั้งหลายที่พากันรุมล้อมด้วยความเป็นห่วง
หรือจะให้หนูไปส่งก็ได้นะคะ
นั่นเป็นเสียงสาวคนที่เพิ่งจ้วงแทงผมเมื่อครู่ แต่ตอนนี้เธอดูหวานทั้งตาทั้งตัวอย่างไม่น่าเชื่อ กระดุมเม็ดบนของเสื้อรัดรูปหลุดออกอย่างไร้เดียงสา เผยให้เห็นเนินอกอวบอิ่มขาวผ่อง แต่เมินเสียเถอะ..สู้คนรักของผมไม่ได้หรอก
ผมส่ายหน้าปฏิเสธกับทุกคนทุกความเห็น ก่อนขอตัวเดินออกมานอกร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่ริมถนน คงไม่ยากที่จะหารถแท็กซี่สักคันกลับบ้าน แต่อะไรบางอย่างรบกวนจิตใจผมเหลือเกิน ความฝันอันน่ากลัวทำให้รู้สึกเหมือนคนกำลังจะสติแตก
จากคุณ :
Psycho man
- [
17 พ.ย. 47 10:14:10
]