บัว รู้ว่าการกระทำของเธอมันเป็นสิ่งที่ผิด เธอเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ่อยๆ ว่าสมควรหรือที่ทำอย่างนี้ คำตอบที่เธอได้รับ แบ่งเป็นสองภาคระหว่างขาว ดำ เสมอ แต่...คำหวานที่เขาออดอ้อนต่อเธอช่างบาดดวงแดให้เป็นริ้วรอยแห่งรัก ดวงตาดำขลับเป็นประกายของเขานั่นเล่า ราวแม่เหล็กดึงให้เธอตกอยู่ในอ้อมกอด ได้ทุกเมื่อ
เธอยังคงบรรจงหวีผมยาวสลวยหน้ากระจกเงาที่สะท้อนใบหน้างามนวล ทุกอย่างบนร่างเธอย่อมพิถีพิถันเป็นพิเศษ ความงามที่เธอมีจะทำให้เขาตกตะลึงงัน และนั่นเป็นหมัดเด็ดที่เธอจะใช้ในคืนนี้ หัวใจของเธอเต้นระทึก เมื่อดวงตากลมโตมองดูเข็มของนาฬิกา อีก 15 นาที เที่ยงคืน เขาจะมาพร้อมความเงียบงันของรัตติกาล หากเสียงเคาะประตูดังสามครั้ง เป็นจังหวะทอดยาวนั่นย่อมใช่เขาแน่ มันเป็นรหัสลับที่เธอบอกใบ้กับเขา และนี่เป็นนัดแรกเสียด้วยสิ ที่สำคัญเป็นห้องนอนของเธอเอง....
ถ้าทุกคนเลือกเกิดได้โลกใบนี้คงมีแต่คนรวย.... หมานเพียงสงสัยว่าเมื่อชาติปางก่อนเขาทำกรรมอะไรไว้ ชาตินี้ถึงต้องเกิดมาจนและระเหเร่ร่อนมาหางานทำถึงกรุงเทพฯ เขารู้สึกตัวเองเป็นคนแปลกหน้าของสังคมเมือง ตั้งแต่วันแรกที่ย่างเท้าเปื้อนฝุ่นเข้ามา ความจนอีกนั่นแหละที่บีบรัดให้เขาต้องพรากจากคนรัก เขาจำแววตาเมียรักได้ดีในวันที่มาส่งที่ท่ารถปากทางเข้าหมู่บ้าน ดวงตาของเธอเศร้า มือที่สัมผัสกันนั้นโอนถ่ายความรักสู่อีกคนได้เป็นอย่างดี และมือทั้งคู่ก็ต้องแยกออกจากกัน ความอุ่นซ่านกลายเป็นหนาวเหน็บและเดียวดายในที่สุด ภาพของเธอค่อยๆ เล็กลงสุดท้ายก็ลับหาย นั่นเป็นวันสุดท้ายที่เขาได้เห็นเมียรักหลังหนึ่งเดือนของงานแต่ง นี่คงห้าเดือนแล้วที่เขาต้องจำทนมานอนบ้านสังกะสีทั้งสี่ทิศ ไม่ว่ายามกลางวันหรือเที่ยงคืนมันก็ร้อนจนน้ำในร่างเดือดระเหือดออกมาให้ชุ่มร่าง หมานยังคงนอนมือก่ายหน้าผาก ภาพเมียรักยังแจ่มชัดในความทรงจำ ปลายเดือนนี้สินะเขาจะกลับบ้าน หอบเอาความรักในอกไปให้เธอ ใช่เขาจะซื้อทองสักเส้นเป็นของฝาก เธอคงยิ้มจนแก้มปริ..และหอมแก้มเขาหลายฟอด หมานเคลิ้มต่อความฝัน อีกเพียงสามวันเท่านั้นที่เขาจะได้กลับบ้าน สามวัน...สามวัน หมานนับวันในใจ จนหลับไปเหลือทิ้งไว้เพียงการครุ่นคำนึงของพัดลมแก่ที่ส่ายโยกอย่างจำทน
ใครหลายคนถามถึงดนัยด้วยคำถามอันหลากหลาย หลังจากที่ห่างบ้านมาหลายปี คนแก่ถามว่านี่คือใคร?ขณะที่แม่พาเขาไปไหว้ เพื่อนรุ่นเดียวกันต่างถามคล้ายกันว่าเมื่อไหร่เขาจะแต่งงาน ส่วนเด็กสาววัยแรกแย้มนั้นถามแม่เธอว่า เขาเป็นใคร? และดนัยก็ถามแม่ต่อไปอีกนั่นแหละว่าเด็กๆ เหล่านี้เป็นใครบ้าง ดูเหมือนกาลเวลาบิดเบือนลักษณะของพวกเขาไปจนสิ้นกลิ่นแห่งอดีต และคำถามที่เป็นประชาธิปไตยก็เกิดขึ้นว่าจบปริญญาตรีมาทำสวนให้ตัวดำทำไม? นั่นสินะทำสวนทำให้ตัวขาวไม่ได้หรือ เขาไม่รู้จะตอบอย่างไรดีว่า การจบปริญญากับค่านิยมโรงงานเป็นคนละอย่างกันกับการแสวงหาทางปัญญา และอีกนั่นแหละเขาอธิบายสิ่งเหล่านี้ออกมาเป็นคำพูดไม่ได้นอกจากสบตาแล้วยิ้มให้ เป็นยิ้มเหงาๆที่เขาคิดว่าดูดี
ดนัยไม่ชอบสังคมเมืองเขาพอใจที่จะกลับมาช่วยทำงานในครอบครัวมากกว่า เขาเป็นคนแปลกหน้าที่หลุดมาจากสังคมเมือง และหลายคนคิดกันว่าการกระทำของเขาเป็นสิ่งที่โง่ จบสูงน่าจะหมายดาวแต่กลับมาคว้าดิน ถึงอย่างไรก็ดีเขามีเสน่ห์ต้องตาต้องใจของสาวๆ ในหมู่บ้าน และเช่นกันความรักก็เกิดขึ้นไม่เลือกกาลเวลา มันเป็นเหตุแห่งความบังเอิญของสายตาที่บรรจบกันในระหว่างความอ้างว้างของอารมณ์ เขารู้ดีว่าควานช้างที่จะคล้องช้างเผือกตัวงามในป่าได้นั้นต้องอาศัยฝีมือ และเขาก็ทำได้ช้างเผือกสาวตกอยู่ในบ่วงแห่งรัก สิ่งที่ร้ายกาจที่เขามีคือการเขียนคำรักไว้ในดวงตา...
บัวรอคอย...ชีวิตของเธอคุ้นเคยกับคำนี้และก็เกลียดคำนี้อีกเช่นเดียวกันแต่เธอไม่เคยหนีมันพ้น เสียงเคาะประตูเป็นจังหวะทอดระยะห่างพอประมาณนั้น ทำให้หัวใจของเธอพองโตจนคับห้อง มือของเธอสั่นหัวใจของเธอไหวต่อมโนธรรม ถ้าเธอปฏิเสธ ศีลธรรมก็จะไม่ทำร้ายเธอ แต่นั่นสินะในห้วงเวลานี้ความถูกต้องมักไม่ปรากฏตัว เสียงเคาะดังขึ้นอีกเป็นจังหวะเดียวกันกับครั้งแรก มันบีบบังคับเธอให้ลุกจากเตียงนอน มาเพื่อเปิดต้อนรับคนแปลกหน้าของราตรี เธอรู้ดีว่าหลังจากที่เขาเข้ามาแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และหลังจากที่เขาไปแล้วจะทิ้งอะไรเอาไว้ในความทรงจำของเธอบ้าง ทำอย่างไรได้ล่ะเมื่อหัวใจเรียกร้องให้เปิดประตู แต่เธอยังคงไม่กล้า...
หมานเป็นคนขยัน เขาเป็นคนที่ซื่อของทุกอย่างที่กระทำ ความดีงามและการเสียสละเป็นคุณสมบัติที่เขามีติดตัวมาตั้งแต่เกิด หมานไม่เคยเอาเปรียบใคร จุดประสงค์ของการเกิดของเขาอาจถูกกำหนดมาเพื่อการเสียสละ เพื่อนร่วมงานก่อสร้างที่หลั่งไหล่กันมาหลายจังหวัดจึงรักเขาด้วยกันทั้งนั้น นายจ้างมักเรียกเขาไปพบเพราะเขาเป็นแบบอย่างที่ดีในการทำงาน หมานไม่เคยอู้งานเวลาที่นายไม่อยู่ ต่อหน้าและลับหลังเขาเป็นคนเดียวกัน มีหลายครั้งที่สาวๆ ก่อสร้างส่งสายตาหวานและทอดสะพานให้เขาเดินไปถึงหน้าประตูห้อง แต่หมานไม่เคยสนใจ เขาเชื่อในเรื่องของบาป ศีลข้อที่สามบอกเอาไว้อย่างแจ่มชัดว่าผิดลูกผิดเมียของผู้อื่นต้องได้ไปปีนต้นงิ้วหนามในนรก และอีกเหตุผลก็คือเขามีเมียแล้ว เขาสัญญาต่อเธอเอาไว้ แม้แต่นางฟ้าก็ไม่อาจเปลี่ยนใจหมานได้ หัวใจเขามีดวงเดียวมันย่อมขึ้นตรงต่อคนเพียงคนเดียวเท่านั้น
อย่าลืมซื้อของติดไม้ติดมือไปฝากคนทางบ้านล่ะหมาน หัวหน้าคนงานก่อสร้างบอกต่อเขาเมื่อมือที่แตกด้านนั้นรับเงินสดที่ยังคงเหลือกลิ่นหอมยวนใจ
ครับ เขาตอบสั้นๆ พร้อมยกมือไหว้
ถ้ามีงานใหม่เข้ามาอีก จะโทรไปตามตัว คนดีๆ อย่างหมานนะหายากเต็มทน อั๊วชอบคนอย่างลื้อนี่แหละ
หัวหน้าตบไหล่เขาและยิ้มให้ หมานเดินไปลาเพื่อนฝูงคนร่วมแรงงานขั้นต่ำ ถ้อยคำของพวกเขาเป็นเพียงคำลาธรรมดาที่ไม่มีในบทกวี แต่มันก็เปล่งออกมาจากความจริงใจ กระเป๋าพร้อมแล้ว แต่ต้องเปิดมันออกอีกครั้งเพื่อมองดูรูปเมียรัก เขาหอมที่รูปภาพนั่นด้วยรอยยิ้ม เขาจะไปแวะที่ร้านทองต่อจากนั้นค่อยไปหมอชิต นานพอแล้วต่อการพรากจาก และมันก็สมควรได้รับการชดเชยจากการอยู่ร่วม อีกไม่นานเขาจะกลับบ้าน
ดนัยรู้ดีว่าความรักทำให้คนตาบอดและมันเป็นกบฏต่อความเจ็บปวด ตั้งแต่เขาพบเธอในงานประจำปีของหมู่บ้าน หัวใจเขาก็ถูกกระชากออกจากอก เพียงรอยยิ้มที่เผยอบนใบหน้าเอียงอาย มันยิ่งกว่าการสะบัดปลายพู่กันของจิตรกรเอกของโลก แล้วดนัยก็ระบายสีความรักด้วยถ้อยคำที่อ่อนหวาน การศึกษาทำให้เขารู้จักเฟ้นคำมาประดับราตรี มันเป็นคำที่หญิงสาวบ้านนอกยากจะปฏิเสธ ถ้อยคำที่คล้ายปลายมีดกรีดผ่านเข้ามาจนถึงหับห้องแห่งใจ อบอุ่นและละมุนฟัง ทุกค่ำคืนที่ผ่านภาพของเธอจะมาแอบซุกในฝัน มันทำให้ผีเสื้อบินออกมาจากลมหายใจของเขา และดอกไม้นานาพันธุ์ก็เบ่งบานบนร่างกายของเขาอีกเช่นเดียวกัน ความรักทำให้เขาไม่จำเป็นต้องมีดวงตา และอีกเช่นกันไม่จำเป็นต้องฟังสิ่งใด ศีลธรรมหรือเขารู้จัก แต่เขาไม่เข้าใจ......
เสียงเคาะประตูแผ่วเบาแต่กลับคล้ายไม้ศึกตีประตูเมืองยามสงครามเมื่อกาลอดีต หัวใจของบัวเต้น ผิวเนื้อของเธอสั่น เมื่อตัดสินใจเปิดประตู ทุกสิ่งทุกอย่างคงเริ่มต้นจากตรงนี้ ภาพของเขาปรากฏเป็นภาพที่เธอปรารถนาจะเห็นมาตลอดระยะเวลาหลายเดือน ไม่มีคำพูดใดจะกล่าวนอกจากรสจูบที่หอมหวานประทับลงบนริมฝีปากของเธอ เท่านั้นร่างของเธอก็อ่อนล้าตกอยู่ในอำนาจแห่งการกอดรัด การระบำระหว่างผีเสื้อกับดอกไม้เป็นไปตามกฎของธรรมชาติแช่มช้า แต่ทว่า....ดูดดื่มด้วยรสแห่งการโหยหา
การเดินทางของหมานถึงคราวยุติ ตอนนี้เขายืนอยู่หน้าประตูบ้านของตัวเอง ประตูที่เขาเฝ้ารอการเปิดมาแรมเดือน เขามีโอกาสจะเปิดมันในสิทธิของเจ้าของบ้าน หมานอดลูบคลำที่กระเป๋าเสื้อตัวเองไม่ได้ ในนี้มีสร้อยทองถึงแม้ว่ามันจะอยู่ในเสื้อราคาถูกแต่อย่างไรก็ดีทองคำมีค่าเสมอแม้จะอยู่ในห่อของผ้าขี้ริ้วก็ตาม เขาจะปลุกให้เธอตื่นแล้วจะคล้องคอของเธอด้วยสร้อยทอง หมานแปลกใจอยู่บ้างที่ประตูไม่ได้ล็อค แต่อย่างไรก็ดีเขาต้องการที่จะเข้าไปพบเธอมากกว่าสิ่งอื่นใด หมานแทรกตัวผ่านบานประตูแผ่วเบา มันเป็นราตรีที่มีจันทร์ช่างเหมาะนักต่อการพบเมียรัก ถ้อยคำใดหนอจะปลอบขวัญเธอให้ชื่นใจต่อความห่างอันนานยาว แม้ในความมืดหมานก็มองเห็นทุกสิ่งภายในบ้านชัดเจน อีกไม่กี่ก้าวเท่านั้นที่ประตูบานสองจะถูกเปิด หมานแง้มประตูห้องนอนแผ่วเบา เขาเห็นเมียรักแล้ว!!!
บัว...หมาน...ดนัย ต่างสบตาซึ่งกันและกัน ในค่ำคืนของคนแปลกหน้า ทุกคนต่างไม่มีถ้อยคำใดจะกล่าว.....
จากคุณ :
เดอะแหลม
- [
17 พ.ย. 47 10:39:06
A:203.121.172.242 X:
]