Winnie says : ดีค่ะแต้ม
แต้มสี says : ดีค่ะ
Winnie says : คิดถึงแต้มจังเลย
แต้มสี says : แต้มก็คิดถึงวินเหมือนกัน อิอิ
Winnie says : วันอาทิตย์นี้ว่างมั้ยคะแต้ม
แต้มสี says : วินถามทำไมเหรอคะ
Winnie says : ไปเดทกัน
แต้มสี says : ไปไหนล่ะ
Winnie says : ไปดูหนังกัน ตอนนี้กำลังอยากดู๊อยากดู
แต้มสี says : ไม่มีเพื่อนไปดูด้วยอ่ะสิ บอกมาตามตรง
เถอะ
Winnie says : เปล่าสักหน่อย เราอยากไปเดทกับแต้มต่างหาก
แต้มสี says : เชื่อตายล่ะ อมพระมาพูดยังไม่เชื่อเลย
Winnie says : เราพูดจริงๆนะ แต้มไม่เชื่อเราเหรอ
แต้มสี says : ใช่ เราไม่เชื่อแกหรอก เพราะแกพูดอะไรไม่
ค่อยน่าเชื่อถือเลย
Winnie says : โธ่! เศร้าเลย แล้วตกลงจะไปมั้ยล่ะ
แต้มสี says : ไปก็ได้ กี่โมงล่ะ
Winnie says : ประมาณ 11 โมงละกัน เจอกันที่เดิมละกัน จะได้ไปกินข้าวก่อน แล้วค่อยไปดูหนัง แล้วอีกอย่างแกจะได้ไม่กลับบ้านช้าด้วย
แต้มสี says : อืมก็ได้ แกอย่าตื่นสายล่ะ
Winnie says : จะพยายามนะ ทางที่ดีแกโทรมาปลุกเราดีกว่านะ เราจะได้ไม่ไปสายไง
แต้มสี says : อะไรวะ เราไปกับแก แล้วเรายังต้องโทรไปปลุกแกอีกเหรอ เราไม่ได้เป็นนาฬิกาปลุกของแกนะ
Winnie says : งั้นเราก็ไม่รับรองนะว่าเราจะตื่นสายหรือเปล่า
แต้มสี says : ก็ได้วะ โทรก็โทร แต่เราจะโทรไปปลุกแกแค่รอบเดียวนะ ถ้าแกไม่ตื่นอีกเราก็ไม่รู้ด้วยนะ แล้วถ้าแกมาสายนะ เราจะไม่รอด้วย
Winnie says : เออ
แต้มสี says : งั้นเราไปก่อนนะ ง่วงนอนจนจะหลับอยู่หน้าคอมแล้ว
Winnie says : เออ ฝันดีนะแก อย่าลืมฝันถึงเรานะ
แต้มสี says : ไม่เอาหรอก ถ้าเราฝันถึงแกนะ เราต้องฝันร้ายแน่ๆเลย แกก็ฝันดีนะ บาย
Winnie says : อืม บาย
หลังจบการสนทนาทางเอ็มเอสเอ็นกับยศวินแล้ว แต้มฝันก็ไม่ได้ไปนอนอย่างที่บอกกับยศวิน เพราะหญิงสาวนั่งคิดถึงความรู้สึกของเธอที่มีต่อเพื่อนตั้งแต่ประถมคนนี้ หญิงสาวถามตัวเองว่า นี่เรารู้สึกยังไงกับวินนะ ทำไมจะต้องดีใจทุกครั้งที่ได้คุยกับเขาล่ะ เมื่อก่อนเราไม่เคยเป็นอย่างนี้นี่ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่าเราจะชอบวินเข้าแล้ว แต่เรากับวินก็คงเป็นได้แค่เพื่อนกันอย่างนี้ตลอดไปแหละ เพราะนายนั่นคงไม่เคยเห็นเราเป็นอย่างอื่นนอกจากเพื่อนอยู่แล้ว ท่าทางที่เขาแสดงออกก็คงแค่หยอกเราเล่น ตัดใจซะเถอะก่อนที่จะสายไปกว่านี้ วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ขอเป็นวันสุดท้ายที่เราจะรู้สึกอย่างนี้กับวิน เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้วแต้มฝันก็ล้มตัวลงนอน
เราไม่ได้มาสายนะ ยศวินพูดออกมาหลังจากที่เจอหน้าแต้มฝัน
เรายังไม่ได้ว่าอะไรแกเลยนะ อย่าร้อนตัวดิ พูดจบแต้มฝันก็หัวเราะออกมา
เออ ก็ดูแกทำหน้าดิ หน้าดุอย่างกับหมาลูกอ่อนแน่ะ คราวนี้เป็นยศวินที่หัวเราะออกมา
แกว่าเรา เป็นหมาเหรอ งั้นต่างคนต่างไปละกัน หญิงสาวแกล้งดัดเสียงให้งอน
โอ๋ๆ ไม่เป็นหมาก็ได้ แต่เป็น...
เป็นอะไรพูดให้มันดีๆนะ ไม่งั้นแกตาย หญิงสาวพูดเสียงโหด
เป็นแฟนเราไง คำตอบของยศวินทำเอาหญิงสาวหน้าแดง ทั้งๆที่รู้ว่าเขาพูดเล่น
ก็แค่แฟนกำมะลอแหละวะ หญิงสาวตอบกลับไป เหมือนจะบอกกับตัวเองด้วย
เออ แต่ก็ได้ชื่อว่าแฟนใช่มั้ยล่ะ วันนี้แกก็เป็นแฟนกำมะลอของเราอีกวันละกัน จะได้เสมอกันไง
ก็ได้ แล้วนี่จะไปจองตั๋วก่อนหรือไปกินข้าวก่อนละ หญิงสาวถาม
ไปจองตั๋วก่อนละกัน แล้วค่อยลงมากินข้าว ยศวินตอบ หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วก็ออกเดิน ระหว่างที่เดินอยู่นั้นมือของแต้มฝันก็โดนมือของยศวินที่ใหญ่และอบอุ่นจับเอาไว้ หญิงสาวหยุดเดินเงยหน้าที่มีสีระเรื่อขึ้นเพื่อมองหน้ายศวิน แล้วส่งสายตาเป็นคำถามว่าจับทำไม
ก็คนเป็นแฟนกันก็ต้องเดินจับมือกันดิ แกอย่าลืมนะว่าวันนี้แกเป็นแฟนเราวันนึง ยศวินตอบหญิงสาวเมื่อแปลความหมายจากดวงตาคู่นั้นออก หญิงสาวไม่พูดอะไร ทั้งสองคนเลยเดินไปที่โรงหนังภายในห้างสรรพสินค้าที่มีผู้คนพลุกพล่านเนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์
ไปเราไปกินข้าวกันดีกว่า เหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงนึง ยศวินเอ่ยออกมาหลังจากที่ได้ตั๋วหนังแล้ว
ก็ได้ แต่เราต้องเป็นคนจ่ายนะ แต้มฝันบอกกับยศวิน
ไม่เอาอ่ะ ตอนนี้เราเป็นแฟนแกนะ ทำไมต้องให้แกเลี้ยงด้วยล่ะ ยศวินท้วง
ก็แค่แฟนกำมะลอ เราไม่อยากเป็นหนี้ใคร เมื่อกี้แกเลี้ยงหนังเรา เราก็ต้องเลี้ยงคืนดิ เสมอกันดี หญิงสาวบอกเหตุผล
ก็ได้วะ แล้วแกจะไปกินที่ไหนล่ะ ยศวินตอบรับอย่างจำใจ
ไปกินที่...กันมั้ย ไม่แพงเท่าไหร่อาหารก็อร่อย หญิงสาวเสนอร้านอาหารร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ภายในห้างแห่งนี้
ก็ได้ แกเป็นคนจ่ายนี่ พูดจบทั้งสองคนก็เดินไปที่ร้านอาหารร้านนั้นโดยที่มือของทั้งสองยังคงเกาะกุมกันอยู่
เดี๋ยวแกนั่งด้านนอกนะ เราเข้าไปนั่งด้านในเอง ยศวินพูดกับแต้มฝันเบาๆ เมื่อเห็นว่าที่นั่งด้านในที่ติดกับที่นั่งของทั้งสองนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ แล้วยศวินก็เดินนำเข้าไปยังที่นั่งของทั้งสอง
แกหนาวมั้ย ยศวินก้มกระซิบถามแต้มฝันเบาๆเมื่อหนังจะฉายแล้ว แต้มฝันส่ายหน้าเป็นคำตอบ นึกในใจว่า แค่จับมือวินก็หายหนาวแล้ว
ว้าย! แต้มฝันรีบซุกหน้ากับไหล่ของยศวินเมื่อผีในหนังโผล่มาอย่างไม่ทันตั้งตัว ยศวินได้แต่หัวเราะฮึๆ แต้มฝันรีบเอาหน้าออกมาจากไหล่ของยศวินเมื่อรู้สึกตัว
กลัวเหรอ ยศวินกระซิบถามเบาๆ
เปล่าไม่ได้กลัวหรอก แค่ตกใจ แต้มฝันตอบเบาๆ รู้สึกว่าร้อนที่หน้ามากๆ แต้มฝันเอามือข้างที่ว่างจากการเกาะกุมของยศวินมาปิดตาเมื่อผีในหนังมา ยศวินมองเห็นแล้วก็ได้แต่หัวเราะเบาๆ แล้วเอามือที่ปิดตาแต้มฝันออกพร้อมกับพูดว่า
เก่งจริงอย่ามือปิดดิ แต้มฝันส่งเสียงประท้วงเบาๆ แล้วก้ต้องรีบเอาหน้าไปซุกที่ไหล่ของยศวินอีกรอบเมื่อผีโผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัวอีกแล้ว และเป็นแบบนี้จนกระทั่งหนังจบ เรียกเสียงหัวเราะจากชายหนุ่มได้เป็นระยะๆ
โกรธเหรอแก ยศวินถามเมื่อเห็นแต้มฝันเงียบไปตั้งแต่ออกมาจากโรงหนัง
เปล่า แต้มฝันตอบห้วนๆ
แล้วทำไมเงียบไปล่ะ ยศวินยังคงถามต่อ
ไม่มีอะไรหรอก แต้มฝันตอบยศวิน พลางนึกในใจว่า ที่เราโกรธน่ะ เราโกรธตัวเราเองมากกว่าที่เราไม่สามารถบังคับความรู้สึกที่เรามีต่อวินได้ เราอยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นเรื่องจริงตลอดไป
แล้วจะไปไหนต่อดีล่ะ ยศวินถามเมื่อคิดดูแล้วว่าถามต่อไปก็คงไม่ได้คำตอบ
ไปร้านหนังสือกันมั้ย เราอยากไปเดินดูหนังสือน่ะ แต้มฝันบอกกับยศวิน
ไปดิ ทั้งสองคนเดินไปที่ร้านหนังสือที่ตั้งอยู่ภายในห้างแห่งนั้น
แกจะดูอะไรก็ไปนะ เราจะอยู่แถวๆนี้แหละ แต้มฝันบอกกับแฟนกำมะลอของเธอเมื่อเดินมาถึงที่ร้านหนังสือ
จากคุณ :
@หนูเอ๋อ@
- [
20 พ.ย. 47 17:52:50
A:168.120.26.173 X:
]