CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    จริงหรือหลอก...บอกหน่อยได้มั้ย (ตอนที่ 4)

    Winnie says : ดีค่ะแต้ม

    แต้มสี says : ดีค่ะ

    Winnie says : คิดถึงแต้มจังเลย

    แต้มสี says : แต้มก็คิดถึงวินเหมือนกัน อิอิ

    Winnie says : วันอาทิตย์นี้ว่างมั้ยคะแต้ม

    แต้มสี says : วินถามทำไมเหรอคะ

    Winnie says : ไปเดทกัน

    แต้มสี says : ไปไหนล่ะ

    Winnie says : ไปดูหนังกัน ตอนนี้กำลังอยากดู๊อยากดู

    แต้มสี says : ไม่มีเพื่อนไปดูด้วยอ่ะสิ บอกมาตามตรง
    เถอะ

    Winnie says : เปล่าสักหน่อย เราอยากไปเดทกับแต้มต่างหาก

    แต้มสี says : เชื่อตายล่ะ อมพระมาพูดยังไม่เชื่อเลย

    Winnie says : เราพูดจริงๆนะ แต้มไม่เชื่อเราเหรอ

    แต้มสี says : ใช่ เราไม่เชื่อแกหรอก เพราะแกพูดอะไรไม่
    ค่อยน่าเชื่อถือเลย

    Winnie says : โธ่! เศร้าเลย แล้วตกลงจะไปมั้ยล่ะ

    แต้มสี says : ไปก็ได้ กี่โมงล่ะ

    Winnie says : ประมาณ 11 โมงละกัน เจอกันที่เดิมละกัน จะได้ไปกินข้าวก่อน แล้วค่อยไปดูหนัง แล้วอีกอย่างแกจะได้ไม่กลับบ้านช้าด้วย

    แต้มสี says : อืมก็ได้ แกอย่าตื่นสายล่ะ

    Winnie says : จะพยายามนะ ทางที่ดีแกโทรมาปลุกเราดีกว่านะ เราจะได้ไม่ไปสายไง

    แต้มสี says : อะไรวะ เราไปกับแก แล้วเรายังต้องโทรไปปลุกแกอีกเหรอ เราไม่ได้เป็นนาฬิกาปลุกของแกนะ

    Winnie says : งั้นเราก็ไม่รับรองนะว่าเราจะตื่นสายหรือเปล่า

    แต้มสี says : ก็ได้วะ โทรก็โทร แต่เราจะโทรไปปลุกแกแค่รอบเดียวนะ ถ้าแกไม่ตื่นอีกเราก็ไม่รู้ด้วยนะ แล้วถ้าแกมาสายนะ เราจะไม่รอด้วย

    Winnie says : เออ

    แต้มสี says : งั้นเราไปก่อนนะ ง่วงนอนจนจะหลับอยู่หน้าคอมแล้ว

    Winnie says : เออ ฝันดีนะแก อย่าลืมฝันถึงเรานะ

    แต้มสี says : ไม่เอาหรอก ถ้าเราฝันถึงแกนะ เราต้องฝันร้ายแน่ๆเลย แกก็ฝันดีนะ บาย

    Winnie says : อืม บาย
    หลังจบการสนทนาทางเอ็มเอสเอ็นกับยศวินแล้ว แต้มฝันก็ไม่ได้ไปนอนอย่างที่บอกกับยศวิน เพราะหญิงสาวนั่งคิดถึงความรู้สึกของเธอที่มีต่อเพื่อนตั้งแต่ประถมคนนี้ หญิงสาวถามตัวเองว่า ‘นี่เรารู้สึกยังไงกับวินนะ ทำไมจะต้องดีใจทุกครั้งที่ได้คุยกับเขาล่ะ เมื่อก่อนเราไม่เคยเป็นอย่างนี้นี่ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่าเราจะชอบวินเข้าแล้ว แต่เรากับวินก็คงเป็นได้แค่เพื่อนกันอย่างนี้ตลอดไปแหละ เพราะนายนั่นคงไม่เคยเห็นเราเป็นอย่างอื่นนอกจากเพื่อนอยู่แล้ว ท่าทางที่เขาแสดงออกก็คงแค่หยอกเราเล่น ตัดใจซะเถอะก่อนที่จะสายไปกว่านี้ วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ขอเป็นวันสุดท้ายที่เราจะรู้สึกอย่างนี้กับวิน’ เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้วแต้มฝันก็ล้มตัวลงนอน


    “เราไม่ได้มาสายนะ” ยศวินพูดออกมาหลังจากที่เจอหน้าแต้มฝัน

    “เรายังไม่ได้ว่าอะไรแกเลยนะ อย่าร้อนตัวดิ” พูดจบแต้มฝันก็หัวเราะออกมา

    “เออ ก็ดูแกทำหน้าดิ หน้าดุอย่างกับหมาลูกอ่อนแน่ะ” คราวนี้เป็นยศวินที่หัวเราะออกมา

    “แกว่าเรา เป็นหมาเหรอ งั้นต่างคนต่างไปละกัน” หญิงสาวแกล้งดัดเสียงให้งอน

    “โอ๋ๆ ไม่เป็นหมาก็ได้ แต่เป็น...”

    “เป็นอะไรพูดให้มันดีๆนะ ไม่งั้นแกตาย” หญิงสาวพูดเสียงโหด

    “เป็นแฟนเราไง” คำตอบของยศวินทำเอาหญิงสาวหน้าแดง ทั้งๆที่รู้ว่าเขาพูดเล่น

    “ ก็แค่แฟนกำมะลอแหละวะ” หญิงสาวตอบกลับไป เหมือนจะบอกกับตัวเองด้วย

    “เออ แต่ก็ได้ชื่อว่าแฟนใช่มั้ยล่ะ วันนี้แกก็เป็นแฟนกำมะลอของเราอีกวันละกัน จะได้เสมอกันไง”

    “ก็ได้ แล้วนี่จะไปจองตั๋วก่อนหรือไปกินข้าวก่อนละ” หญิงสาวถาม

    “ไปจองตั๋วก่อนละกัน แล้วค่อยลงมากินข้าว” ยศวินตอบ หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วก็ออกเดิน ระหว่างที่เดินอยู่นั้นมือของแต้มฝันก็โดนมือของยศวินที่ใหญ่และอบอุ่นจับเอาไว้ หญิงสาวหยุดเดินเงยหน้าที่มีสีระเรื่อขึ้นเพื่อมองหน้ายศวิน แล้วส่งสายตาเป็นคำถามว่า‘จับทำไม’

    “ก็คนเป็นแฟนกันก็ต้องเดินจับมือกันดิ แกอย่าลืมนะว่าวันนี้แกเป็นแฟนเราวันนึง” ยศวินตอบหญิงสาวเมื่อแปลความหมายจากดวงตาคู่นั้นออก หญิงสาวไม่พูดอะไร ทั้งสองคนเลยเดินไปที่โรงหนังภายในห้างสรรพสินค้าที่มีผู้คนพลุกพล่านเนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์


    “ไปเราไปกินข้าวกันดีกว่า เหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงนึง” ยศวินเอ่ยออกมาหลังจากที่ได้ตั๋วหนังแล้ว

    “ก็ได้ แต่เราต้องเป็นคนจ่ายนะ” แต้มฝันบอกกับยศวิน

    “ไม่เอาอ่ะ ตอนนี้เราเป็นแฟนแกนะ ทำไมต้องให้แกเลี้ยงด้วยล่ะ” ยศวินท้วง

    “ก็แค่แฟนกำมะลอ เราไม่อยากเป็นหนี้ใคร เมื่อกี้แกเลี้ยงหนังเรา เราก็ต้องเลี้ยงคืนดิ เสมอกันดี” หญิงสาวบอกเหตุผล

    “ก็ได้วะ แล้วแกจะไปกินที่ไหนล่ะ” ยศวินตอบรับอย่างจำใจ

    “ไปกินที่...กันมั้ย ไม่แพงเท่าไหร่อาหารก็อร่อย” หญิงสาวเสนอร้านอาหารร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ภายในห้างแห่งนี้

    “ก็ได้ แกเป็นคนจ่ายนี่” พูดจบทั้งสองคนก็เดินไปที่ร้านอาหารร้านนั้นโดยที่มือของทั้งสองยังคงเกาะกุมกันอยู่


    “เดี๋ยวแกนั่งด้านนอกนะ เราเข้าไปนั่งด้านในเอง” ยศวินพูดกับแต้มฝันเบาๆ เมื่อเห็นว่าที่นั่งด้านในที่ติดกับที่นั่งของทั้งสองนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ แล้วยศวินก็เดินนำเข้าไปยังที่นั่งของทั้งสอง

    “แกหนาวมั้ย” ยศวินก้มกระซิบถามแต้มฝันเบาๆเมื่อหนังจะฉายแล้ว แต้มฝันส่ายหน้าเป็นคำตอบ นึกในใจว่า ‘แค่จับมือวินก็หายหนาวแล้ว’

    “ว้าย!” แต้มฝันรีบซุกหน้ากับไหล่ของยศวินเมื่อผีในหนังโผล่มาอย่างไม่ทันตั้งตัว ยศวินได้แต่หัวเราะฮึๆ แต้มฝันรีบเอาหน้าออกมาจากไหล่ของยศวินเมื่อรู้สึกตัว

    “กลัวเหรอ” ยศวินกระซิบถามเบาๆ

    “เปล่าไม่ได้กลัวหรอก แค่ตกใจ” แต้มฝันตอบเบาๆ รู้สึกว่าร้อนที่หน้ามากๆ แต้มฝันเอามือข้างที่ว่างจากการเกาะกุมของยศวินมาปิดตาเมื่อผีในหนังมา ยศวินมองเห็นแล้วก็ได้แต่หัวเราะเบาๆ แล้วเอามือที่ปิดตาแต้มฝันออกพร้อมกับพูดว่า
    “เก่งจริงอย่ามือปิดดิ” แต้มฝันส่งเสียงประท้วงเบาๆ แล้วก้ต้องรีบเอาหน้าไปซุกที่ไหล่ของยศวินอีกรอบเมื่อผีโผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัวอีกแล้ว และเป็นแบบนี้จนกระทั่งหนังจบ เรียกเสียงหัวเราะจากชายหนุ่มได้เป็นระยะๆ


    “โกรธเหรอแก” ยศวินถามเมื่อเห็นแต้มฝันเงียบไปตั้งแต่ออกมาจากโรงหนัง

    “เปล่า” แต้มฝันตอบห้วนๆ

    “แล้วทำไมเงียบไปล่ะ” ยศวินยังคงถามต่อ

    “ไม่มีอะไรหรอก” แต้มฝันตอบยศวิน พลางนึกในใจว่า ‘ที่เราโกรธน่ะ เราโกรธตัวเราเองมากกว่าที่เราไม่สามารถบังคับความรู้สึกที่เรามีต่อวินได้ เราอยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นเรื่องจริงตลอดไป’

    “แล้วจะไปไหนต่อดีล่ะ” ยศวินถามเมื่อคิดดูแล้วว่าถามต่อไปก็คงไม่ได้คำตอบ

    “ไปร้านหนังสือกันมั้ย เราอยากไปเดินดูหนังสือน่ะ” แต้มฝันบอกกับยศวิน

    “ไปดิ” ทั้งสองคนเดินไปที่ร้านหนังสือที่ตั้งอยู่ภายในห้างแห่งนั้น

    “แกจะดูอะไรก็ไปนะ เราจะอยู่แถวๆนี้แหละ” แต้มฝันบอกกับแฟนกำมะลอของเธอเมื่อเดินมาถึงที่ร้านหนังสือ

    จากคุณ : @หนูเอ๋อ@ - [ 20 พ.ย. 47 17:52:50 A:168.120.26.173 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป