"เลิกกันเถอะนะเราสองคนคงเข้ากันไม่ได้เพราะเราแตกต่างกันเกินไป" ประโยคนี้ยังคงก้องอยู่ในหูของผมพูดโดยเธอคนที่ผมรักและพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเธอแต่เธอกลับตอบแทนผมด้วยคำพูดประโยคนี้...เฮอะน่าหัวเราะไหมล่ะ...
ผมกลับมานั่งริมหน้าต่างมองดูรถราที่วิ่งกันขวักไขว่ในตอนกลางคืน ก็คงเหมือนใจของผมในตอนนี้กำลังสับสนวุ่นวายไม่สามารถสงบลงได้เลย..."เราแตกต่างกันอย่างนั้นหรือผมเฝ้าถามตัวเอง จริงอยู่ผมอาจไม่ใช่ชายในฝันที่แสนดีแต่ผมคิดว่าผมพร้อมที่จะลดความไม่ดีลงเพื่อคนที่ผมรักได้...
ผมชอบที่จะออกไปเฮฮากับเพื่อนฝูงบ้างเลยทำให้เธองอนผมอยู่เรื่อยๆ ผมเลยต้องง้อเธอบ่อยๆด้วยดอกไม้บ้าง ตุ๊กตาบ้าง หรือไม่แน่นะบางทีผมอาจต้องลาออกจากมหาวิทยาลัย
มานั่งง้อเธอเป็นงานประจำและมีเงินเดือนเป็นอารมณ์หงุดหงิดแถมด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงใส่เป็นโบนัส แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆผมอาจได้เลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว เพราะผมขยันง้อและมีความอดทนกับการอาละวาดของเธอเป็นยอด...
"หึหึ"ผมส่ายหน้าเล็กน้อยพร้อมทั้งหัวเราะเบาๆกับความคิดในอดีตตอนนั้นของผม...
ผมแหงนหน้ามองขึ้นไปเห็นพระจันทร์ "ใครเป็นคนคิดกันนะ ที่ชมว่าผู้หญิงสวยเหมือนพระจันทร์" เธอพูดกับผมในค่ำคืนหนึ่งระหว่างที่เราเล่นกันแถวๆถนนพระอาทิตย์ "พระจันทร์น่ะมีแต่หลุมแต่บ่อตะปุ่มตะป่ำ ผู้หญิงที่ไหนอยากสวยแบบนั้น"
เธอพูดหน้าตาขึงขัง ผมหันไปมองใบหน้าที่ไม่ค่อยจะมีรอยยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆแล้วบอกกับเธอว่า "เธอก็ดูสวยเหมือนพระจันทร์นะ" เท่านั้นแหละมือเล็กๆก็รัวกำปั้นใส่ผมไม่ยั้ง และชมผมกลับว่า "นายก็หล่อเหมือนอุกกาบาตนั่นแหละ"
เราทั้งสองต่างก็หัวเราะกันและกัน ผมจึงได้มีโอกาสเห็นรอยยิ้มและได้ยินเสียงหัวเราะของเธอ...
ผมจำได้ว่าเราเคยไปกินข้าวด้วยกันแถวๆท่าพระจันทร์ เธอสั่งส้มตำไทยใส่ปู ส่วนผมก็สั่งก๋วยจั๊บน้ำใสมานั่งกิน ผมคิดอยู่ในใจว่าแปลกแฮะดูเธอสิ มะเขือเทศก็ไม่กิน ปูเค็มก็เขี่ยออกแล้วจะสั่งใส่ปูทำไมนะ"
พอผมถามเธอ เธอก็ย้อนผมกลับว่า "นายล่ะ เต้าหู้ก็ไม่กินเลือดหมูก็ไม่ชอบแล้วจะสั่งทำไม" ผมก็มองในชามตัวเองว่าเออจริงแฮะ แต่ก่อนที่ผมจะพูดอะไร เธอก็พูดขึ้นมาว่า "ไม่รู้สินะ เราว่าใส่แล้วมันได้รสชาติกว่า ถึงเราจะไม่กินก็เหอะแต่รสชาติมันดีขึ้นนะ"
เธอพูดพลางเขี่ยขาปูเค็มออกจากมะละกอที่เธอกำลังจะตักเข้าปาก ผมจึงเอื้อมไปตักมะเขือเทศและช่วยเธอกินปูเค็ม ส่วนเธอก็ช่วยผมกินเต้าหู้กับเลือดหมูที่เธอชอบ เราแลกกันกินในของที่อีกคนไม่ชอบอย่างเอร็ดอร่อย...
เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งเราไปดูหนังด้วยกันที่มาบุญครอง ผมกับเธอเถียงกันอยู่นานว่าดูเรื่องอะไร เธออยากดูหนังแอ็คชั่นบู๊ล้างผลาญ (ซึ่งดูเหมาะมากกับผู้หญิงใส่กระโปรงสีชมพูอย่างเธอ)
ส่วนผมอยากดูหนังรักโรแมนติก (ก็เข้ากับผู้ชายกล้ามใหญ่ไว้เคราอย่างผมเช่นกัน) และแล้วเราก็พบทางออกคือดูหนังผีสยองขวัญ (อันเข้ากับหน้าตาเราทั้งคู่เป็นที่สุด)
ผมค้นพบว่าเราเลือกถูกต้องแล้ว เธอเกาะแขนผมแน่นตลอดจนจบเรื่อง จนผมตัดสินใจได้ในขณะนั้นว่าโปรแกรมหน้าผมจะชวนเธอมาดูหนังผีอีกเป็นแน่...
แต่แล้วผมก็ยังไม่ทันได้ชวนเลย เธอกลับชวนคนอื่นตัดหน้าไปดูก่อนนี่ซิ...
เฮ้อ! นี่คงใกล้ๆเที่ยงคืนแล้วผมก็ยังไม่สามรถข่มตาให้หลับลงได้ ก็เมื่อ2ชั่วโมงที่แล้วผมเพิ่งถูกทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรงจนเสียขวัญยิ่งกว่าได้เจอเฟรดดี้กับเจสันซึ่งหน้าพร้อมกันซะอีก หนำซ้ำยังถูกเธอทารุณ โดยประโยคคลาสสิคและเบสิคพื้นฐานของผู้หญิงกรีดลงที่ใจบางๆแต่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกว่ารักเธอ จนเป็นแผลเหวอะหวะบาดเจ็บสาหัสเลยทีเดียว...
ทำไมนะทำไมเธอไม่บอกกับผมตรงๆว่าเธอเจอคนใหม่ที่ดีกว่าผม ผมยังรับได้และพร้อมที่จะปล่อยเธอไป ให้ไปเจอคนที่เธอว่าดีกว่าผม...
แต่นี่ "เราแตกต่างกันเกินไป" เฮอะ! พูดมาได้นะ ใช่สิผมก็แค่ ผู้ชายที่ชอบง้อต่างกับเธอที่ไม่ชอบง้อแต่งอน
ผมไม่ชอบที่จะอ้อนใครแต่ชอบที่มีใครมาอ้อน
จึงต่างกับเธอที่ไม่ชอบให้ใครมาอ้อนแต่ชอบอ้อนผม
ผมต่างกับเธอตรงที่ผมยิ้มตลอดเวลา แต่ชอบที่จะหน้าบึ้งและถูกผมกวนอารมณ์จนหัวเราะออกมา
ใช่สิ ผมมันไม่ชอบกินเต้าหู้กับเลือดหมูที่เป็นของที่เธอชอบ แต่ผมกลับกินปูเค็มและมะเขือเทศ ที่เธอชอบใส่ในส้มตำแต่ไม่กิน ผมก็ไม่เคยเห็นเราต้องมานั่งแย่งของกินกัน แถมยังช่วยกันกินก็ยังได้
หรืออาจเป็นเพราะเธอชอบหนังแอ็คชั่น ส่วนผมกลับชอบหนังรักโรแมนติก แต่มันก็ทำให้เราได้ดูหนังสยองขวัญ ซึ่งก็เป็นสิ่งใหม่สำหรับเราทั้งคู่ ที่ได้มาจากความต่าง บางทีมันอาจทำให้เราเจอกันมากขึ้น เพราะเราอาจดูหนังแอ็คชั่นวันนี้ ส่วนพรุ่งนี้ก็นัดกันออกมาดูหนังโรแมนติกอีกครั้ง...
เฮ้อ! เราคงมีมุมมองที่ต่างกันมากกว่า แต่ถ้าเรามาเลิกกันด้วยเหตุแบบนี้จริงๆ ทำไมเราไม่ลองปรับเปลี่ยนตัวเองมาพบกันครึ่งทาง พยายามมองในแง่ดีของความต่างบ้าง
เพราะถ้าเราเหมือนกันไปซะทุกอย่าง เราก็คงสามารถอยู่คนเดียวได้ เพราะเราคงไม่ต้องการสิ่งอะไรแปลกใหม่เข้ามาในชีวิต ผมขอที่จะลองทำเหมือนเธอดูบ้าง
โดยการหันไปมองดาวบนท้องฟ้าแล้วพูดกับมันเหมือนกับเวลาที่เธอบอกผมว่า เธอคิดถึงผมเธอมักจะฝากดวงดาวมาบอก(แต่ผมไม่เคยเห็นมันพูดกับผมซะที ผมคิดว่าดวงดาวที่เธอฝากมาคงหลงทางหาบ้านผมไม่เจอ) ผมเลือกบอกดาวดวงที่คิดว่าดูฉลาดและต้องไม่หลงทางแน่ๆว่า
"ฉันไม่เคยเสียใจเลยในความต่างกันของเรา เพราะว่ามันเหมือนกับฉันได้ตามหาสิ่งที่ไม่มีมาเติมให้เต็มในชีวิตของฉัน แต่ก็นั่นแหละเราอาจจะยังต่างกันไม่พอ เธอก็เลยต้องจากไป เพื่อหาใครที่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่เธอขาดหายไปได้ดีกว่าฉัน
เพราะฉะนั้นที่เราเลิกกันก็อาจเป็นเพราะ เราเหมือนกันเกินไปก็ได้นะ แต่ช่างเถอะ ฉันไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ..."
ผมหวังว่าเจ้าดาวดวงนี้คงไปบ้านเธอถูกนะ ผมได้ลองทำในสิ่งที่เหมือนเธอดูแล้ว ผมคิดว่าถึงแม้ผมจะทำทุกๆอย่างให้เหมือนเธอ หรือเพียงแค่ส่วนหนึ่งก็ตาม เธอก็คงไม่กลับมาหาผมอยู่ดี
เพราะว่าผมคงได้ยินคำพูด ที่เธอจะชมผมก่อนเลิกกันว่า "เธอดีเกินไป" เฮ้อ! อีกประโยคคลาสสิคของผู้หญิง... ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ...
จากคุณ :
Rafin
- [
21 พ.ย. 47 03:48:22
]