วันใดขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก ----ตอน1
(หมายเหตุ ผมได้ใช้นามสมมุติแทนบุคคลทั้งหมดในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้กระเทือนถึงเจ้าตัว)
หนึ่งในบรรดาของรักของหวงสำหรับคนอยู่ต่างประเทศนั้น คือซีดีซอฟท์แวร์ต่างๆ ทั้งนี้เพราะว่าไม่ค่อยมีใครเขาให้ก๊อปปี้กัน เพื่อนฝูงฝรั่งก็อีกนั่นแหล่ะ ถึงแม้จะสนิทกันมากเพียงใหนก็ตาม น้อยนักจะยอมให้ก๊อปปี้แบ่งปันกันใช้ ในเมื่อได้มายากผมก็ต้องหวงของผมเป็นธรรมดา กว่าเพื่อนผมที่เมืองไทยจะหาซื้อซีดีเถื่อนพวกนี้มาจากแถวๆ พันธ์ทิพย์พล่าซ่าแล้วส่งมาให้ผมถึงนี่ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะครับ
ผมจึงตั้งหน้าไปตามเอาคืนจาก พี่น้อย คนรู้จักกันที่ผมให้ความเคารพนับถือ ชอบพอและคบหากันมานานแล้วตั้งแต่ผมเริ่มมาอยู่ออสเตรเลียใหม่ๆ พี่น้อยนั้นผมจัดให้อยู่ในประเภทบุคคลที่ใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะสุดยอด ไม่ว่าจะผ่านเสี้ยนหนามอุปสรรคในชีวิตใดๆ พี่น้อยก็ยังคงยิ้มได้อยู่ตลอด แกเคยเป็นโรบินฮูดมาก่อนสมัยตั้งแต่มาเที่ยวงานเอ๊กซ์โป เมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว และก็โดดวีซ่าท่องเที่ยวตั้งแต่ตอนนั้น ทำตัวเป็นบุรุษพเนจรไปเรื่อยๆ โดยอาศัยทำงานในไรองุ่นบ้าง ในร้านอาหารที่เค้าไม่ต้องเรียกเก็บภาษีบ้าง หนึ่งในทุภาษิตของพี่น้อยที่เคยบอกไว้คือ นครแห่งหนใดอันไร้ซึ่งโรงจำนำ โรงสุราและสถานเริงรมณ์แล้วไซร้ บุรุษมิควรพักพิงอยู่ แม้เพียงแค่ราตรีเดียว
พี่น้อยเอาตัวรอดจนกระทั่งมาพบรักกับ แมรี่ สาวออสซี่ที่หน้าตาออกจะสะสวยคนหนึ่ง จึงตกลงปลงใจแต่งงานกัน และแมรี่ก็ติดต่อดำเนินเรื่องกับอิมมิเกรชั่น(สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) จนกระทั่งพี่น้อยได้รับวีซ่าอยู่อาศัยถาวรและต่อมาได้รับสัญชาติออสเตรเลี่ยนในที่สุด ซึ่งอิมเกรชั่นเองในสมัยนั้นยังพออะลุ่มอะหล่วยให้วีซ่ากันง่ายๆ ไม่เข้มงวดกวดขันเหมือนกับสมัยนี้ ซึ่งเห็นหลายๆ คู่ยื่นเรืองแล้วน่ารันทดใจแทนไม่ได้ เพียงแค่เห็นปึกแบบฟอร์มแต่ละชุดแล้ว หนาพอๆ กับชุดข้อสอบเข้าทำงานกับองค์การนาซ่า ยังไงยังงั้น
บ้านพี่น้อยอยู่ เอลวูด(Elwood) อยู่ในเทศบาลเขตเดียวกับเซนต์ คิวด้า แหล่งคึกคักยามราตรีที่อยู่ติดชายทะเล มีหาดสวยงามสุดลูกตา แต่ว่าพวกขี้ยาเยอะไปหน่อย จึ่งไม่ค่อยปลอดภัยในยามค่ำคืน เมืองเอลวูดนี้ต่างจาก เมืองอื่นๆ แทนที่ถนนหนทางจะตัดเป็นบล๊อกตารางสี่เหลี่ยมให้ง่ายแก่การสัญจรเหมือนที่อื่นๆ แต่นี่ดันเป็นทางคดเลี้ยว มีแต่วงกลมเต็มไปหมด ยากแก่การจำ หลายเส้นถนนที่บทจะโค้งก็โค้งแบบโง่ๆ ทั้งที่สภาพภูมิประเทศเอื้ออำนวยให้ตัดเป็นรูปทรงเรขาคณิตได้ หรือว่าวิศกรทำทางสมัยนั้นไม่มีไม้ทีกับวงเวียนใช้ก็ไม่รู้
ผมบ่นมาสุดทางและหลงอยู่สองสามครั้ง จนแล้วจนรอดก็มาถึงหน้าบ้านแกจนได้ พอเปิดประตูรั้วหน้าบ้านเดินเข้าไปจะกดกริ่ง ก็ได้ยินเสียงอันไม่ภิรมณ์หูของทั้งสองดังมาจากในบ้าน ---เอาอีกแล้ว ทะเลาะกันอีกแล้วคู่นี้ จะกดกริ่งเรียกดีมั้ยเนี่ย ผมคิดในใจ--- ไม่ใช่ของใกล้ๆ ใหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว จะต้องได้ซีดีโปรแกรมกลับไปให้ได้.... ว่าแล้วจึงแบ่งรับแบ่งสู้กดกริ่งหน้าบ้านเรียก
แม่รีมาเปิดประตูให้พร้อมกับกล่าวสวัสดี แล้วก็กลับเข้าไปทะเลาะกันต่อ เสียงดังระงมลั่นบ้าน หม้อให กะละมังถังหม้อ โครมคราม สร้างความอึดอัดมากสำหรับคนกลางอย่างผม ในระหว่างพักยกผมบอกกับพี่น้อยว่า ผมมาเอาซีดีเฉยๆ ครับและจะไปแล้ว พี่น้อยยังไม่ทันพูดอะไรเลย แมรี่ก็สอดแทรกขึ้นกลางคัน พอแปลเป็นไทยได้ว่า เอาตาแก่นี้ไปด้วย เอาไปจากบ้านหลังนี้เดี๋ยวนี้เลย ข้าล่ะเบื่อสุดๆ มีผัวเฮ็งซวยอย่างนี้ ชีวิตเส็งเคร็งจริงๆ ผมมองหน้าพี่น้อย---โอ๊ะโอ่ พี่พี่ไปทำอะไรให้เค้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟละเนี่ย
พี่จะไปทำอะไรวะ ก็แค่ไม่ได้ล้างจาน ซักผ้าและดูดฝุ่นเท่านั้นเอง ผมถามต่อ---เอ้าแล้วพี่ทำไมไม่ทำอ่ะ-- ก็มันไม่ได้รีบเร่งอะไรนี่หว่า เพิ่งไปดื่มฉลองกับเพื่อนมาก็กะว่าจะรีบมาทำนี่แหละ พี่น้อยให้การแบบข้างๆ คูๆ ผมได้แต่ถอนหายใจ นี่แหล่ะน้อ ชีวิตคู่ที่นี่ อะไรก็ต้องช่วยกันทำหมด แบ่งเวณกันดูแลบ้านเพราะถือว่าทั้งคู่มีสิทธิเท่าเทียมกัน พี่น้อยบ่นออกมาแรงๆ เป็นทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ว่าอิจฉาพวกที่อยู่เมืองไทยจริงๆ มีหน้าที่ทำงานนอกบ้านอย่างเดียว ในบ้านนั้นเป็นหน้าที่รับผิดชอบของภรรยาหมดบางรายดีไปกว่านั้นอีก ผู้หญิงทำงานด้วย กลับมาถึงบ้านก็ทำงานบ้านอีก ส่วนสามีนั้นสบาย นอนเอกขเนกดูทีวี ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น
ผมยอมรับว่าผู้หญิงออสซี่หัวแข็งไม่ค่อยลงหัวให้สามีเท่าไหร่ เห็นมาหลายคู่แล้ว ยิ่งสามีคนไทยที่เคยใช้อำนาจเบ็ดเสร็จในบ้านมาเจอแบบนี้ยิ่งไปใหญ่ อยู่กันก้นหม้อข้าวยังไม่ทันดำ มีหวังเลิกกันแน่ๆ ถึงเวลาอยู่กันไม่ได้ใช่ว่าผู้หญิงจะแคร์นะ หล่อนทั้งหลายใจใหญ่พอๆ กับผู้ชายเลิกแล้วก็หาเอาใหม่ ถึงแม้มีลูกก็หอบลูกไปด้วย และถ้าเจอคนรักใหม่ก็อาจจะอยู่กินร่วมกันเป็นครอบครัวอีกมีคำพูดให้ได้ยินอยู่เสมอว่า ที่รักๆ ลูกฉันกับลูกคุณกำลังทะเลาะกับลูกเรา ช่วยไปห้ามหน่อย
พูดถึงสถิติการหย่าร้างแล้วถือว่าสูงมากคืออยู่ที่ราวๆ 56% คือใน100คู่จะหย่าร้างกันถึง 56 คู่ ในขณะที่เมืองไทยนั้นยังไม่ถึง 20% เลย--- ทำไมถึงเป็นอย่างงั้น ผมคิดเอานะว่า ผู้หญิงไทยกลัวหาสามียาก หรือชายไทยส่วนหนึ่งไม่ชอบผู้หญิงที่เคยแต่งงานมาแล้ว--- ที่หายากเพราะว่า อัตราการเกิดของทารกไทยทั้งสองเพศไม่สมดุลกัน คือในทารกทุกๆ 5 คนจะเป็นหญิงซะสี่ และเป็นชายหนึ่ง... พอโตขึ้นมาจำนวนผู้ชายที่มีอยู่น้อยนิดนั้นใช่ว่าจะเป็นชายชาตรีกันหมด มีจำนวนไม่น้อยที่เปลี่ยนไปเป็นสาวประเภทสองและที่ชอบไม้ป่าเดียวกันอีกก็เยอะแยะ ทำให้ผู้หญิงไทยหาคู่ยากเข้าไปกันใหญ่
เป็นไปได้ว่าหญิงไทยนั้นต้องหวงสามีกันสุดขีด เพราะกว่าจะได้มานั้นไม่ใช่ของง่าย และสาเหตุนี่เองที่ไม่ค่อยปล่อยให้ออกไปเพ่นพ่านนอกบ้าน เพราะกลัวว่าคนขาดคนรักอื่นๆ มาจับจองแบบไม่รู้ตัว อีกอย่างการหย่าร้างในเมืองไทยนั้นผู้หญิงเสียเปรียบสุดๆ เพราะกฎหมายชดเชยค่าเลี้ยงดูบุตรนั้น ไม่มีประสิทธิภาพใช้ได้ผลอย่างจริงจังในเมืองไทย ทำให้ผู้ชายไทยนั้น โคตรจะสบาย ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น เดินไปแต่ตัวเปล่า เดี๋ยวสักพักก็มีคนใหม่มาจับจองเอาเอง
พี่น้อยบ่นด้วยความรันทดได้สักพัก เวลาพักยกก็หมดลง ยกใหม่ก็เริ่มขึ้น คราวนี้หนักว่าเดิมอีก แม่รี่เจ็บใจที่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับหญิงประเทศอื่น ความรุนแรงทวีคูณขึ้นเป็นหลายเท่า แมรี่ชีหน้าพร้อมกับเอ่ยท้าให้ไปหาหญิงไทยที่ใหนก็ได้ที่มันทนอยู่กับผู้ชายสันหลังยาวอย่างนี้ พร้อมกับเดินปึงปัง ปิดประตูห้องนอนกระแทกเสียงดัง หายไปสักพัก แล้วกลับออกมาพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าของพี่น้อย ---เราสองคนมองหน้ากันเลิ่กลัก
คำดุด่าต่อว่ากันประดังออกจากปากสองคนยังกะพายุ เต็มไปด้วยสารพัดคำเจ็บแสบ ที่แต่ละฝ่ายสรรหามาทิ่มแทงความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่ง ผมนั้นชอบเขียนเรื่องราวในสไตล์อารมณ์ดี มาถึงตอนนี้อึดอัดจังเลย ท้าทายมากๆ ที่ตัองบันทึกตอนนี้ซึ่งขาดไปเสียก็ไม่ได้ จึงขอคัดเอามาเพียงใจความโดยย่อ จับยัดลงไปในกลอนดังนี้
เสียงโครมครามทุบแหลก กระแทกของ ดังกึกก้องทั่วบ้าน สะท้านไหว
Shes a bitch จิตต่ำ ระyumใน แค่ไม่ได้ คลีนห้อง ต้องโวยวาย
อยู่กันไปแบบนี้ ไม่ดีแน่ ไม่ใช่แม่ ตูนี่ Eชิบหาย
ไม่มีเธอ ก็ใช่ว่า ข้าจะตาย never mind I can go โนพลอมแพลม
หน้าอย่างเธอ ถ้าใคร อยากได้อีก จะหลบหลีกเอาเงินเซ่น เป็นของแถม
ไม่มามุ่ง ยุ่งเกี่ยว เทียวมาแจม What a damn Life sucks หักใจลา
อยากเอาไร เอาไป ซะให้หมด เอาทั้งรถ ทั้งบ้าน ตูไม่ว่า
เสียทั้งใจ ทั้งเงิน ทั้งเวลา ตูบากหน้า หาใครไม่ต้องแคร์
---ฝ่ายหญิงก็ใช่ย่อย ได้ทั้งโกรธทั้งหน้าแดง โผงผางไม่ลดราว่าศอก
สุดจะทน คนเหลวไหลไม่เอาถ่าน ออกจากบ้าน นานไปตายแหง๋ๆ
เพียงให้รับ สับหน้าที่ อย่างแฟร์ๆ มีข้อแม้ เป็นประจำ ระyum จริง
คนเรานั้น พันผูก Look after แต่ว่าเธอดูถูก ลูกผู้หญิง
ไอ้พวก man แสนสบาย like a King เบื่อจริงๆ พวกนอนนั่ง ไม่ชั่งใจ
อยู่ไม่ได้ฝืนทำไม ให้มันเจ็บ มีคอนเซ็ป ผัวเดียวเกี่ยวที่ใหน
หรือ you ชอบ บอบบาง อย่างหญิงไทย คอยเอาใจ สุดแหลก แหกตูดดม
แพ็คกระเป๋าไวๆ ไปเดี๋ยวนี้ Kevin Lee กับ you คู่เหมาะสม
ไปให้ตาย หายหัวกุด มุดโคลนตม แช่งให้จม Good luck F..ck You เอย..
ในเมื่อไม่มีทางเลือก ผมก็สุดจะทำใจ ตกกระได้พลอยโจนแท้ นี่กะว่ามาแค่แผ่นซีดีอย่างเดียว ต้องมาได้ตัวพี่น้อยกลับไปด้วยอีกคนเป็นของแถม จะไม่พาไปด้วยก็ไม่ได้ จะให้แกนอนที่ใหนกันล่ะ ก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนก็แล้วกัน ว่าแล้วผมก็ลาแมรี่ ส่วนพี่น้อยนั้นหอบประเป๋าไปรออยู่ที่รถเรียบร้อยแล้ว ยังไม่ทันก้าวออกจากประตู แมรี่ก็ตะโกนบอกว่า เควิน! เอาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คไปให้มันด้วย และทำท่าจะโยนมาให้ ---ผมเห็นแล้วใจแทบสลาย รีบเบรกไว้ก่อน Wait wait wait Marry! อย่าโยนนะ พลีสสส ผมจำได้ว่าโน๊ตบุ๊คนี้พี่น้อยซื้อมาจากเมืองไทย ข้อดีของมันคือมันมีคีย์อักษรไทยในแป้นพิมพ์ด้วย ถ้าเกิดแมรี่ทำให้พัง ถึงหาซื้อมาใหม่ได้ แต่จะหาแป้นพิมพ์ที่ใหนมาแทนที่ได้
(เรื่องยังไม่จบครับ โปรดติดตามตอนต่อไป ผมจะเอามาโพสท์เร็วๆ นี้)
***เรียน ท่านผู้อ่านทุกท่าน กรุณาลงComment ด้วยนะครับ ไม่ว่าท่านชอบหรือไม่ชอบในสิ่งที่ผมเขียนก็ตาม--อยากรู้ครับว่ามีคนติดตามอ่านมากขนาดใหน พอเป็นแรงบันดาลใจ เขียนเรื่องต่อๆ ไปหรือไม่ ขอบคุณครับ
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 47 19:21:43
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 47 19:08:02
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 47 19:05:53
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 47 18:45:44
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 47 17:25:49
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 47 17:23:16
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 47 17:21:03
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 47 17:18:40
จากคุณ :
เควิน ลี
- [
22 พ.ย. 47 17:16:48
]