CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    วันใดขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก--เรื่องเล่าสู่กันฟัง ชุด วรรณกรรมตกยาก

    (ท้าวความเดิม)
    บ้านพี่น้อยอยู่ เอลวูด(Elwood) อยู่ในเขตเทศบาลเดียวกันกับ เซนต์ คิวด้า แหล่งคึกคักยามราตรีที่อยู่ติดชายทะเล มีหาดสวยงามสุดลูกหูลูกตา แต่ว่าพวกขี้ยาเยอะไปหน่อย จึ่งไม่ค่อยปลอดภัยในยามค่ำคืน เมืองเอลวูดนี้ต่างจาก เมืองอื่นๆ แทนที่ถนนหนทางจะตัดเป็นบล๊อกตารางสี่เหลี่ยมให้ง่ายแก่การสัญจรเหมือนที่อื่นๆ แต่นี่ดันเป็นทางคดเลี้ยว มีแต่วงกลมเต็มไปหมด ยากแก่การจดจำ ผมนึกบ่นอยู่ในใจว่า--ไอ้พวกวิศวกรที่ช่วยกันออกแบบผังเมืองสมัยนั้น มันไม่มีไม่บรรทัดใช้กันรึยังไง—ถึงได้ทำถนนหลายเส้นที่บทจะโค้งก็โค้งแบบโง่ๆ ทั้งที่สภาพภูมิประเทศก็เอื้ออำนวยให้ตัดเป็นรูปทรงเรขาคณิตได้

    ผมบ่นมาสุดทางและหลงอยู่สองสามครั้ง จนแล้วจนรอดก็มาถึงหน้าบ้านพี่แกจนได้ พอเปิดประตูรั้วหน้าบ้านเดินเข้าไปจะกดกริ่ง ก็ได้ยินเสียงอันไม่ภิรมณ์หูของทั้งสองดังมาจากในบ้าน ---เอาอีกแล้ว ทะเลาะกันอีกแล้วคู่นี้ จะกดกริ่งเรียกดีมั้ยเนี่ย ผมคิดในใจ--- กว่าจะถ่อร่างมาถึงนี่ได้ไม่ใช่ของใกล้ๆ ใหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว จะต้องได้ซีดีโปรแกรมกลับไปให้ได้.... ว่าแล้วจึงแบ่งรับแบ่งสู้กดกริ่งหน้าบ้านเรียก
    แม่รีมาเปิดประตูให้พร้อมกับกล่าวสวัสดี  แล้วก็กลับเข้าไปทะเลาะกันต่อ เสียงดังระงมลั่นบ้าน หม้อไห กะละมังถังหม้อ โครมคราม สร้างความอึดอัดมากสำหรับคนกลางอย่างผม ในระหว่างพักยกผมบอกกับพี่น้อยว่า “ผมมาเอาซีดีเฉยๆ ครับและจะไปแล้ว” พี่น้อยยังไม่ทันพูดอะไรเลย แมรี่ก็สอดแทรกขึ้นกลางคัน พอแปลเป็นไทยได้ว่า “เอาตาแก่นี้ไปด้วย เอาไปจากบ้านหลังนี้เดี๋ยวนี้เลย ข้าล่ะเบื่อสุดๆ มีผัวเฮ็งซวยอย่างนี้ ชีวิตเส็งเคร็งจริงๆ” ผมมองหน้าพี่น้อย---โอ๊ะโอ่ พี่—พี่ไปทำอะไรให้เค้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟละเนี่ย

    เสียงโครมครามทุบแหลก กระแทกของ      ดังกึกก้องทั่วบ้าน สะท้านไหว
    She’s a bitch จิตต่ำ  ระyumใน                  แค่ไม่ได้ คลีนห้อง ต้องโวยวาย

    อยู่กันไปแบบนี้ ไม่ดีแน่                               ไม่ใช่แม่ ตูนี่ Eชิบหาย
    ไม่มีเธอ ก็ใช่ว่า ข้าจะตาย                              never mind I can go โนพลอมแพลม

    หน้าอย่างเธอ ถ้าใคร อยากได้อีก                  จะหลบหลีกเอาเงินเซ่น เป็นของแถม
    ไม่มามุ่ง ยุ่งเกี่ยว เทียวมาแจม                       What a damn Life sucks หักใจลา

    อยากเอาไร เอาไป ซะให้หมด                      เอาทั้งรถ ทั้งบ้าน ตูไม่ว่า  
    เสียทั้งใจ ทั้งเงิน ทั้งเวลา                         ตูบากหน้า หาใครไม่ต้องแคร์

    ---ฝ่ายหญิงก็ใช่ย่อย ได้ทั้งโกรธทั้งหน้าแดง โผงผางไม่ลดราว่าศอก

    สุดจะทน คนเหลวไหลไม่เอาถ่าน                ออกจากบ้าน นานไปตายแหง๋ๆ
    เพียงให้รับ สับหน้าที่ อย่างแฟร์ๆ                       มีข้อแม้ เป็นประจำ ระyum จริง

    คนเรานั้น พันผูก  Look after            แต่ว่าเธอดูถูก ลูกผู้หญิง
    ไอ้พวก man แสนสบาย like a King        เบื่อจริงๆ พวกนอนนั่ง ไม่ชั่งใจ

    อยู่ไม่ได้ฝืนทำไม ให้มันเจ็บ                มีคอนเซ็ป ผัวเดียวเกี่ยวที่ใหน
    หรือ you ชอบ บอบบาง อย่างหญิงไทย       คอยเอาใจ สุดแหลก แหกตูดดม

    แพ็คกระเป๋าไวๆ ไปเดี๋ยวนี้                          Kevin Lee กับ you คู่เหมาะสม
    ไปให้ตาย หายหัวกุด มุดโคลนตม                แช่งให้จม Good luck F..ck You  เอย..

    ในเมื่อไม่มีทางเลือก ผมก็สุดจะทำใจ ตกกระได้พลอยโจนแท้ นี่กะว่ามาแค่แผ่นซีดีอย่างเดียว ต้องมาได้ตัวพี่น้อยกลับไปด้วยอีกคนเป็นของแถม จะไม่พาไปด้วยก็ไม่ได้ จะให้แกนอนที่ใหนกันล่ะ ก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนก็แล้วกัน ว่าแล้วผมก็ลาแมรี่ ส่วนพี่น้อยนั้นหอบประเป๋าไปรออยู่ที่รถเรียบร้อยแล้ว ยังไม่ทันก้าวออกจากประตู แมรี่ก็ตะโกนบอกว่า เควิน! เอาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คไปให้มันด้วย และทำท่าจะโยนมาให้ ---ผมเห็นแล้วใจแทบสลาย รีบเบรกไว้ก่อน Wait wait wait Marry! อย่าโยนนะ พลีสสส –ผมจำได้ว่าโน๊ตบุ๊คนี้พี่น้อยซื้อมาจากเมืองไทย ข้อดีของมันคือมันมีคีย์อักษรไทยในแป้นพิมพ์ด้วย ถ้าเกิดแมรี่ทำให้พัง ถึงหาซื้อมาใหม่ได้ แต่จะหาแป้นพิมพ์ที่ใหนมาแทนที่ได้


    -----------------------------------------เริ่มตอนสอง----------------------------------------------------------------------------------
    ผมหอบโน๊ตบุ๊คพร้อมสายไฟอะแด๊ปเตอร์ที่ห้อยติดโตงเตงมาส่งให้พี่น้อยที่นั่งรออยู่แล้วในรถ ผมไม่รอช้ารีบเข้าไปนั่งในรถปิดประตู สตาร์ทเครื่อง แล้วมองท้องฟ้าผ่านกระจกหน้าพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่—เคลื่อนรถออกจากที่นั่น—ผมขับรถไปช้าๆ สงบเงียบ รอให้พี่น้อยพูดอะไรออกมาก่อน

    พี่น้อยนั่งซึมกระทือหมดอาลัยตายอยากอยู่ด้านข้างคนขับ สุดท้ายแกก็เอ่ยปาก “เควิน ทำไมไม่ช่วยพี่เถียง E ห่านั่นวะ” พี่น้อยเลือกใช้สรรพนามชนิดแย่สุดๆ แทนชื่อภรรยาตัวเอง ซึ่งผมก็เข้าใจดีสำหรับคนที่อยู่ในอารมณ์โกรธ – “ไม่อ่ะครับพี่ ผมเคยมาแล้ว ไม่เวิร์ก” ผมตอบพี่น้อยไปโดยไม่หันมามอง เพราะสายตายังจับอยู่กับท้องถนน “เมื่อก่อนผมเคยอยู่ทีนึง ช่วยเพื่อนผมเถียงกับแฟนมัน ผมถือหางเพื่อนผมนะแหล่ะ และใส่ไฟอีกฝ่ายหนึ่ง ว่าเค้าซะเสียสาดเสียเท อีกไม่นานมันกลับมาดีกัน ผมเลยกลายเป็นหมาหัวเน่า ตั้งแต่นั้นมาผมไม่เคยเข้าข้างใครอีกเป็นอันขาด” –พี่แหล่ะ ผูกเองก็แก้เอง ผมพูดเสริม—

    ตอนนี้รถติดไฟแดง – ผมกันมามองพี่น้อยเพื่อสังเกตอาการ พี่น้อยพยักหน้าเป็นนัยว่าเข้าใจในที่ผมบอกว่า “ผูกเองก็แก้เอง” --- “แล้วเอ็งคิดว่า พี่ควรจะทำไงดีว่ะ” ผมบอกพี่น้อยไป “ขอโทษเค้า สิพี่” ผมแนะให้โดยจำเอามาจากคำพูดของเหล่านักวิชาการในประเทศหนึ่งแถวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ชี้ทางให้ผู้นำประเทศตัวเองทำ เพื่อลดสถานการณ์ความรุนแรง “โอย ไม่ได้ผลหรอก” พี่น้อยคัดค้าน – “แฟนพี่มันหัวรุนแรงว่ะ ทันทีที่พี่ขอโทษมันนะ มันจะได้ใจ – พี่รู้ดีหรอก ว่าแมรี่น่ะ เป็นคนประเภทได้คืบจะเอาศอก” --- งั้นขอผมคิดก่อนนะพี่ ตอนนี้ทำใจให้สบายก่อน อย่าเพิ่งคิดอะไรมากนะครับ

    “เควิน”
    “หา ว่าไงพี่”
    พี่น้อยบุ้ยปากไปทางกระจกหน้ารถ
    “สัญญาณไฟน่ะ มันไม่เขียวไปกว่านั้นแล้วล่ะ ออกรถสิเดี๋ยวรถคันหลังมันก็บีบแตรไล่เอาหร็อก”

    ผมรีบออกรถโดยไม่ช้า – เราใช้เวลาบนถนนอยู่ราวๆ 45 นาทีก็มาถึงบ้านผม ผมจัดแจงให้พี่น้อยนอนใน้ห้องนอนว่างห้องหนึ่ง ซึ่งปรกติแล้วเก็บเอาไว้ให้แขกนอน พี่น้อยกล่าวขอบคุณในความกรุณา แล้วบอกกับผมว่า ขอนอนที่นี่สักคืนสองคืนก็แล้วกัน เสร็จแล้วจะไปอยู่กับญาติห่างๆ อีกเมืองหนึ่งในระหว่างรอให้เหตุการณ์สงบลง

    ในระหว่งปรับทุกข์ ผมได้ลาก จอห์นนี่ เรด มาขวดหนึ่งจากบาร์เหล้าในบ้าน พร้อมกับโซดา น้ำแข็ง หลังจากที่แก้วแรกผ่านไป ผมสังเกตเห็นอาการผ่อนคลาย ของพี่น้อยอย่างชัดเจน แกเริ่มมีรอยยิ้มเหยียดๆ นิด แบบไม่แยแส ต่อสถานการณ์ ผมชอบพี่เค้าก็ตรงนี้แหล่ะ ที่ไม่ยอมให้อะไรจากภายนอกมามีผลกระทบกระเทือนกับจิตใจให้มากจนเกินไป แทนที่แกจะเป็นฝ่ายถูกกระทำโดยสถานการณ์ แต่กลับเป็นว่าแกเลือกที่จะควบคุมสถานการณ์มากกว่า นี่รึเปล่าที่ได้ยินใครพูดน้อ ว่า – เปลี่ยนวิกฤติเป็นลำบาก เอ๊ย โอกาส

    เหล้าพร่องลงขวดไปได้สักหน่อย พี่น้อย หนุ่มผู้อัดแน่นไปด้วยศาสตร์และศิลป์ ก็เปรยออกมาถึงแนวทางแก้ปัญหา “พี่จะไม่ทำอะไรรุนแรงเหมือนที่เคยทำ มันไม่ได้ผล” ผมเห็นด้วย – อืมพี่ เหมือนคราวนู้นน่ะ เดือดร้อนวุ่ยวายกันไปหมด – เรื่องมีอยู่ว่า มีอยู่ครั้งหนึ่ง พี่น้อยเหลืออดกับแมรี่ เพราะความที่เจ้าหล่อนชอบทะเลาะแบบกัดไม่ปล่อย พี่น้อยเลยขึ้นเข่าลงศอกไปยกหนึ่ง ส่งผลให้แมรี่ไปแจ้งความกับตำรวจ แล้วพี่น้อยก็ถูกศาลสั่งห้ามเข้าใกล้ตัวแมรี่ ในระยะ 200 เมตร และต่อมาก็ถูกดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย เพราะว่าแมรี่ไม่เจ็บมาก จึงถูกสั่งให้จำคุกแค่เดือนเดียว พร้อมกับบันทึกประวัติเอาไว้

    “อยู่ในคุกเดือนเดียว พี่เปลี่ยนไปเลยเหรอ” ผมถาม “เอ็งลองไปอยู่สิ แล้วจะรู้” พี่น้อยย้อน แล้วแกก็เล่าอย่างอารมณ์ดีว่า ตอนที่พี่อยู่ในคุกอ่ะนะ โดนเอาไปขังรวมกับพวกที่ติดหลายๆ ปีด้วย ซึ่งมันไม่แฟร์เลย พี่แค่ขาจรเอง ไม่ได้มีสันดานโจรเหมือนพวกนั้น “เควิน รู้มั้ยกฎข้อแรกที่สำคัญที่สุดในการอยู่ในคุกคืออะไร” แกย้ำอีก – “ข้อแรกเลยนะ” – ไม่รู้พี่ บอกผมหน่อยเด่ะ เป็นความรู้ประดับตัว

    “กฎประจำตัวข้อแรกที่ต้องจำขึ้นใจเลยคือ ตอนยืนเรียงกันอาบน้ำเนี่ย ถ้าทำสบู่ตกห้ามก้มเก็บเด็ดขาด” – “อ้าวทำไมอ่ะพี่” --- “เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ศูนย์หน้าของฝ่ายตรงข้ามบุรุกทำประตูได้ง่าย และอาจจะไม่ใช่ประตูเดียวด้วย เพราะทีม อินเมท ยูไนเต็ดนั้นทำงานกันเป็นหมู่คณะ หลายๆ คนติดอยู่ในนั้นมาเป็นเวลาสี่ห้าปีแล้ว อดอยากปากแห้งมาแสนนาน – ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์ที่พวกมันทำไม่ได้” พี่เแกพูดเสริมท้าย ผมจำได้ว่าประโยคท้ายๆ ที่ว่าภายใต้ดวงอาทิตย์อะไรๆ น่ะ แกเอามาดัดแปลงเอาจากคำพูดของ(คนที่พูดคนแรกเลยคิดว่าน่าจะเป็น)  พล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ ที่ว่า ภายใต้ดวงอาทิตย์ ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ ซึ่งก็จริงซะด้วย เป็นสโลแกนที่ใช้ได้กับตำรวจทุกยุกทุกสมัย

    ผมบอกว่ากับพี่น้อยว่าให้เค้าพักอยู่บ้านผมไปก่อนก็ได้ในช่วงนี้ ไม่ต้องรีบไปใหนหร็อก แต่พี่เค้าก็ยืนยันว่า จะไปอยู่กับญาติห่างๆ กันที่เมือง จีลอง(Geelong) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของรัฐนี้ ห่างจากเมลเบิร์นไปราว 80  กม. ผมก็สุดจะยั้งได้ แกพูดในเชิงเปรียเทียบเหยียดหยันตัวเอง ออกมาเป็นกลอนแปดที่ผมเคยอ่านผ่านตามาแล้ว ที่เป็นเวอร์ชั่นของคุกราดยาว เป็นภาษาไม่สุภาพเลย ดังนี้

    พรหมลิขิต ขีดเขี่ย ให้.....เดิน
    .....ก็เพลิน หลงเดิน ไม่สงสัย
    .....กับ.... เจอะกัน ก็บรรลัย
    .....หนึ่งไป .....หนึ่งอยู่ คู่เมลเบิร์น

    (คำในช่องว่าง หาเติมเอานะครับ ผมบอกใบ้ให้ว่าเป็นนิกเนมของสัตว์เลื้อยคลานประเภทหนึ่ง)

    พี่น้อยกล่าวกับผมอย่างรันทด – แต่อย่างไรก็ดีผมไม่คิดว่าผ้ชายคนนี้จะแก้สถานการณ์ไม่ได้ เพราะผมเคยเห็นพี่แกทำอะไรหลายๆ อย่างที่มองดูแล้วหล่อหลอมเป็นตัวของตัวเองมาก เช่นภาษาอังกฤษ พี่เค้าก็พูดได้ถูกต้องตามหลักไวยกรณ์ พูดกับฝรั่งอย่างกับคนเกิดที่นี่ เจรจาต้าโอย กับใครๆ ดูเป็นงานเป็นการดีกว่าบางคนที่มาเรียน ป โท หรือ Ph D ที่นี่อีก ทั้งที่แกก็ไม่เคยมีใบปริญญา แต่อาศัยตั้งใจศึกษาอย่างจริงจังจากแหล่งภายนอก การทำงานก็ขยันขันแข็ง ตลอดเวลาที่รู้จักกันมาผมไม่เคยเห็นเค้าตกงานมาก่อนเลย    

    ***อินเมท ยูไนเต็ด ---ทับศัพท์ จากคำว่า Inmate หมายถึง นักโทษในเรือนจำ
    (โปรดติดตาม ตอนต่อไป ซึ่งเป็นตอนจบของเรื่อง)

    สำหรับผู้ที่พลาดการอ่านเรื่องเก่าๆ ของผม ตอนนี้ยังไม่สายครับ ผมทำลิงค์ไว้ให้ที่นี่แล้ว


    กระทรวงมหาดไทย ทำ SEX เพื่อนผมเสื่อม
    http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F3133048/F3133048.html

    เรื่องเล่าจาก ออสเตรเลีย---วีรกรรมลุงเสก
    http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F3134135/F3134135.html

    รักแท้ แฟนฝรั่ง(เก่า) ไม่เกี่ยว เรื่องจริงที่อยากเล่าให้ฟัง
    http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F3132018/F3132018.html

    กติกาเดิมครับ ---โปรดลงชื่อไว้ด้วยนะครับที่ comment ผมจะได้รู้ว่ามีคนสนใจติดตามอ่านมากขนาดใหน พอเป็นแรงบันดาลใจให้เขียนเรื่องอื่นๆ หรือไม่ ขอบคุณครับ Kevin Lee

    จากคุณ : เควิน ลี - [ 23 พ.ย. 47 11:49:26 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป