CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    เปลวไฟในสายลม [5] : พบกันอีกครั้ง

    5 . พบกันอีกครั้ง


        ศักราชที่ห้าร้อยเจ็ดสิบสองแห่งสมาพันธรัฐ…


        “แถวนี้ช่างเงียบสงบดีจริงนะคะคารอส..”

        สตรีที่พูดเปรยขึ้นมานี้กำลังนั่งอยู่ในรถม้าที่เคลื่อนที่ไปข้างหน้าไม่เร็วนัก  เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่โดยสารอยู่ได้ชมทัศนียภาพรอบข้างได้อย่างสบายใจ

        พันโทคารอส  เฟอร์นาดีเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่างรถม้าด้วยความเคยชิน  เขาฝึกนิสัยช่างสังเกตมาตั้งแต่ยังเล็ก  บัดนี้เมื่อได้รับมอบหมายให้เข้ามาคุมหน่วยข่าวกรองที่ถูกปรับปรุงอย่างหนักมาตลอดแปดปีที่ผ่านมา  ยิ่งทำให้นายทหารหนุ่มผมแดงในวัยสามสิบติดนิสัยของการระแวดระวังเรื่องราวรอบข้างเป็นพิเศษ

        เส้นทางเงียบสงบแถบชานเมืองละแวกนี้เป็นที่ซึ่งเขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี  เพราะห่างออกไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะเป็นที่ตั้งของปราสาทเดอวินด์ซึ่งเพื่อนของเขาเป็นเจ้าของนั่นเอง

        เมื่อได้ยินเพื่อนร่วมทางของเขาพูดขึ้น  ชายหนุ่มจึงหันไปยิ้มให้กับหญิงสาวผู้งดงามในชุดกระโปรงสีเหลืองมะนาวสดใสอย่างอ่อนโยน  ก่อนจะพูดเรียบ ๆ

        “คุณหนูมิเชลเพิ่งเคยมาแถวนี้หรือครับ ?”

        อีกฝ่ายยิ้มอย่างอาย ๆ ดวงตาสีฟ้ากระจ่างหันกลับมามองเพื่อนร่วมทางก่อนตอบ

        “ข้าไม่ค่อยได้ออกจาเมืองบ่อยนักหรอกค่ะ  ...ก็ไม่มีคนอยู่พาเที่ยวแบบคนอื่น ๆ นี่คะ”

        คารอสยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหัวเราะหยอกเย้า

        “อ้าว...  เป็นความผิดของข้าที่ไม่ยอมพาคุณหนูมิเชลออกมาเที่ยวหรอกหรือนี่ ?  ข้านึกว่าเป็นเพราะใครบางคนไม่ยอมให้ข้าพามาเที่ยวล่ะมากกว่า  เห็นชวนทีไรก็อ้างท่านพ่อห้ามไปที่โน่น..  ท่านพ่อบอกให้อยู่ที่นี่..  อยู่เรื่อย”

        ดวงตาสีฟ้าใสนั้นหันมาค้อนขวับ  น้ำเสียงสดใสนั้นขึ้นเสียงสูงอย่างไม่ค่อยได้ทำนัก

        “ก็ถ้าข้าไปกับท่านตามที่ชวนล่ะก็  คงถูกลือไปทั้งนครรีมาไม่จบสิ้นแน่..  มีอย่างที่ไหนมาชวนให้ข้าตามท่านไปสอดแนมบ้าง  ไปสืบข่าวต่างแคว้นบ้าง...”

        พันโทหนุ่มเอื้อมมือออกไปกุมมือนุ่มบางไว้ข้างหนึ่ง  ก่อนจะยิ้มใส่ตาอีกฝ่าย

        “ก็ข้ารับรองแล้วไงล่ะว่าไม่ปล่อยให้หวานใจของข้าต้องเป็นอันตรายแน่  ...เห็นเจ้ามักบ่นว่าอยู่แต่ในเมืองรีมาน่าเบื่อจะแย่  ข้าก็เลยหาเรื่องไม่น่าเบื่อให้ทำไง ?”

        ผิวแก้มนวลราวกับงาช้างนั้นแดงเรื่อขึ้นทันตาเห็น  มืออีกข้างที่ว่างอยู่ตีลงไปบนมือของอีกฝ่ายไม่เบานัก  ก่อนจะร้องเบา ๆ เพราะเกรงคนขับรถจะได้ยิน

        “เอาอีกแล้ว..  ชอบเรียกข้าแบบนี้เรื่อยเลย..  ครั้งก่อนโรสเพื่อนข้าแอบได้ยินเข้า  นางยังเอามาล้อเลียนข้าไม่เลิก  แถมเอาไปโพนทะนาให้เพื่อน ๆ คนอื่นเสียอีก  ..จนข้าแทบต้องมุดแผ่นดินหนีแล้ว..”

        แต่เฟอร์นาดีหนุ่มไม่ยอมปล่อยมือ  กลับดึงขึ้นมาจุมพิตเบา ๆ ที่หลังมือนั้น  ก่อนยิ้มตอบ

        “ใครจะล้อก็ปล่อยเขาล้อไปสิ  ...ในเมื่อคุณหนูมิเชลเป็นหวานใจของข้าจริง ๆ นี่นา...”

        คราวนี้สีแดงเข้มบนใบหน้าของหญิงสาวเข้มกว่าเดิมสักเท่าตัวได้  มือข้างที่ว่างเปลี่ยนเป็นหยิกเข้าไปที่ต้นแขนแข็งแรงข้างนั้นเต็มที่

        “ก็บอกแล้วไงว่าไม่ให้เรียก  ...แถมมาเอาเปรียบข้าอีก..”

        ชายหนุ่มแกล้งร้องโอดโอยออกมาเต็มเสียง  ก่อนจะแกล้งพูดยั่ว

        “หวานใจของข้านี่มือหนักจริง ๆ  ...อย่างนี้ข้าไม่ช้ำในตายก่อนจะได้แต่งงานกันหรือนี่ ?”

        หญิงสาวหมั่นไส้อีกฝ่ายจนต้องกำมือทุบเข้าไปอีกครั้ง

        “ไม่ชอบก็ถอนหมั้นได้เลยท่านพันโทเฟอร์นาดี  ...ข้าไม่ได้ง้อสักหน่อย”

        คารอสลูบไปบนไหล่ที่ถูกทุบด้วยความเจ็บ  แต่ดวงตายังคงเป็นประกายพราวระยับดังเดิม

        “ครับผม...  เอาเป็นว่าข้าไม่แกล้งแล้วล่ะ  เจ้ามานั่งใกล้ ๆ ข้าดีกว่า  อยู่ห่างแบบนี้ข้าเหงาแย่..”

        เมื่ออีกฝ่ายออดเสียงอ่อยแบบนั้น  หญิงสาวก็อดที่จะใจอ่อนไม่ได้  แม้จะยังหมั่นไส้อยู่ไม่เลิกแต่ก็ยอมขยับเข้าไปนั่งใกล้ตามที่ชายหนุ่มร้องขอ



        มิเชล  เบลโฟร์  เป็นบุตรสาวคนรองของนายพลลาร์ค  เบลโฟร์แห่งแคว้นโซเวล  นางเข้ามาศึกษาวิชาการเรือนในมหานครรีมาตั้งแต่สองปีก่อน  และเธอก็ได้มีโอกาสรู้จักกับนายทหารหนุ่มผมแดงในงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายเกิดของ ธีโม  พลาเนียส ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งมหานครรีมาเมื่อเกือบหนึ่งปีที่แล้ว  

        ด้วยรูปโฉมงดงามและกริยามารยาทที่เพียบพร้อม  เมื่อรวมกับบุคลิกท่าทีที่ร่าเริงสดใสของมิเชล  ทำให้คารอสไม่อาจละสายตาจากสตรีผู้นี้ได้ตลอดทั้งงานเลี้ยงที่ดำเนินไป  ก่อนจะรบเร้าให้ธีโมผู้เป็นอาจารย์แนะนำให้เขารู้จักสาวงามจากโซเวลเป็นการด่วน

        บทเรียนจากเมื่อครั้งของจารสตรีมารีอาแห่งเพลเทียทำให้คารอสต้องกลับมาสืบเกี่ยวกับความเป็นมาของหญิงสาวเป็นการใหญ่  ก่อนที่เขาจะก้าวหน้าไปถึงขั้นจีบสาวน้อยคนนี้อย่างเอาจริงเอาจังอย่างที่ใจต้องการ  

       ด้วยอำนาจทางด้านการข่าวกรองและข้อมูลจากสหายในต่างแดนของเขาทำให้คารอสสามารถสืบภูมิหลังของมิเชลโดยละเอียดได้ไม่ยาก  ดีที่ประวัติของหญิงสาวผู้นี้เปิดเผยและไม่มีลับลมคมในแม้แต่น้อยนิด  ทำให้พันโทเฟอร์นาดีหนุ่มเริ่มพาตัวเข้าไปใกล้ชิดและเริ่มการเกี้ยวพาราสีอย่างเปิดเผยตั้งแต่หลายเดือนก่อน

        หากเป็นเมื่อเดือนก่อนเขาคงจะไม่กล้าพาเธอออกมาไกลถึงนอกเมืองเช่นนี้  อย่างมากก็เพียงชวนเธอไปนั่งรถเล่นในสวนธารณะหรือไม่ก็เชิญไปชมละครที่หอประชุมใหญ่กลางนครรีมา

        แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เองคารอสได้มีโอกาสเข้าพบนายพลลาร์ค  เบลโฟร์ผู้เป็นบิดาของหญิงคนรักพร้อมกับท่านอาจารย์ธีโมของเขาเพื่อขออนุญาตหมั้นหมายบุตรสาวคนรองของท่านนายพลอย่างเป็นทางการ

        ดังนั้นคารอสจึงได้รับอนุญาตให้พาคู่หมั้นหมาด ๆ ของตนมาเยี่ยมเพื่อนสนิทที่กำลังอยู่ในช่วงลาพักร้อนประจำปีไกลถึงปราสาทเดอวินด์แห่งนี้

        จากทิศทางที่เขามาคารอสรู้ดีว่าจะต้องผ่านหน้าคฤหาสน์คารานิสต์ที่บัดนี้เงียบเหงาว่างเปล่า  มีเพียงคนรับใช้จำนวนหนึ่งที่อาจารย์ธีโมของเขาส่งมาดูแลอาศัยอยู่เท่านั้น

        คารอสอดไม่ได้ที่จะนึกถึงผู้เฒ่าเอียน  คารานิสต์ที่จากไปเมื่อสองปีก่อน  เขาไม่มีโอกาสได้ร่ำลาท่านเป็นครั้งสุดท้าย  เพราะติดภารกิจสำคัญในวันนั้นพอดี  แต่ก็ได้เข้าร่วมพิธีฝังศพอย่างสมเกียรติของท่านที่เนินทางตะวันตกของคฤหาสน์  และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้เข้าไปเหยียบคฤหาสน์แห่งนั้น

        เมื่อแนวกำแพงเก่าแก่ของคฤหาสน์คารานิสต์ปรากฏขึ้นในสายตา  คารอสก็อดไม่ได้ที่จะเพ่งมองเข้าไปด้วยความคิดถึง  แปดปีมานี้เขายังคิดถึงเด็กสาวตัวน้อยที่จากไปอยู่แดนไกลไม่เสื่อมคลาย  เฟอร์นาดีหนุ่มยอมรับว่าส่วนใหญ่เกิดจากความรู้สึกผิดที่มีต่อเด็กคนนั้นเป็นสำคัญ

        อาการถอนใจของคู่หมั้นหนุ่มไม่พ้นไปจากความสังเกตของมิเชล  เธอหันไปมองตามสายตาของชายหนุ่มจนพบว่าสิ่งใดคือสาเหตุที่ทำให้คารอส  เฟอร์นาดี  คู่หมั้นหนุ่มที่ปกติแล้วจะเป็นคนร่าเริงขี้เล่น  ต้องถอนใจยาวด้วยอาการกลัดกลุ้มเช่นนี้

        “คฤหาสน์ของใครหรือคะคารอส ?”

        เฟอร์นาดีหนุ่มหันไปยิ้มให้คู่หมั้น  แต่คราวนี้ค่อนข้างจะฝืด

        “นี่คือเขตรั้วของคฤหาน์คารานิสต์...   เจ้าคงไม่รู้จักเพราะท่านผู้เฒ่าคารานิสต์ผู้เป็นเจ้าของนั้นได้เสียชีวิตไปก่อนที่เจ้าจะมาอยู่รีมาหลายเดือนทีเดียว...”

        แต่มิเชลกลับขมวดคิ้วเพียงเล็กน้อย ก่อนจะร้องออกมาอย่างนึกขึ้นได้

       “ใช่ท่านผู้เฒ่าเอียน  คารานิสต์หรือไม่คะ ?  ท่านพ่อของข้าเคยเอ่ยถึงนามของท่านบ่อย ๆ มักบอกข้าว่าผู้ที่รอบรู้ในเรื่องราวของวาซาเรียอย่างลึกซึ้งนั้นไม่มีผู้ใดเกินปราชญ์แห่งมหานครรีมาท่านนี้ไปได้..”

        แม้คารอสจะรู้สึกกึ่งดีใจกึ่งประหลาดใจอยู่บ้างเมื่อได้ยินเช่นนั้น  แต่ก็พยักหน้ารับ

        “นึกไม่ถึงว่าท่านจอมพลลาร์คจะให้ความยกย่องต่อท่านผู้เฒ่าคารานิสต์ถึงเพียงนี้  ...กระทั่งข้าเองที่เติบโตมาในละแวกของคฤหาสน์แห่งนี้ก็ยังไม่ค่อยจะรู้ความเป็นมาเป็นไปของท่านเลยด้วยซ้ำไป..”

        มิเชลกวาดตามองไปยังนอกหน้าต่างด้วยความสนใจ  พลางพูดอย่างร่าเริง

        “ดูเหมือนข้าจะเคยได้ยินว่าท่านอดีตตุลาการคารานิสต์ยังมีหลานสาวอยู่อีกคนหนึ่งไม่ใช่หรือคะ ?  ท่านรู้จักนางหรือไม่ ?”

        น้ำเสียงของคารอสเคร่งขรึมลงเพียงเล็กน้อยจนเกือบจับไม่ได้

        “รู้จัก..  นางชื่อว่าเอลซ่า  มักจะมาเล่นที่ปราสาทเดอวินด์ของเกเบรียลเพื่อนข้าตั้งแต่เยาว์วัย...”

        “แล้วตอนนี้นางอยู่ที่ไหนคะ ?  ข้าคิดว่านางน่าจะมีอายุไล่เลี่ยกับข้าใช่หรือไม่ ?  ถ้ามีโอกาสล่ะก็ข้าก็อยากจะทำความรู้จักกับนางสักครั้ง”

        คารอสฝืนยิ้มให้กับตัวเองเงียบ ๆ เมื่อฟังความต้องการของคู่หมั้นสาว  คงไม่ง่ายนักที่มิเชลจะได้รู้จักกับเอลซ่า  ในเมื่อตัวเขาเองก็ยังไม่ได้พบหน้านางมากว่าแปดปีเต็มแล้ว  
       
        แต่แล้วสายตาคมกริบของชายผมแดงก็เหลือบไปเห็นสิ่งแปลกประหลาดเหนือคฤหาสน์คารานิสต์โดยบังเอิญ  จนต้องชะโงกหน้าออกไปร้องบอกคนขับรถม้าให้หยุดในทันที
             
        หญิงสาวชาวโซเวลไม่ทันรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น  แรงเหวี่ยงของรถม้าจึงเกือบทำให้นางต้องล้มหน้าคะมำลงไปกับพื้นรถ  ดีที่คารอสเอื้อมมือออกไปคว้าร่างบางนั้นได้ทันท่วงที
             
        “เกิดอะไรขึ้นคะ ?  มีอะไรข้างนอกหรือคารอส ?”

        ชายหนุ่มไม่ตอบคำ  ...หากดวงตาทั้งคู่ไม่ได้หลอกเขาแล้วล่ะก็  คารอสก็เพิ่งได้เห็นนกประหลาดตัวใหญ่ที่มีปีกสีขาวสะอาดตาถึงสองคู่เพิ่งบินขึ้นสู่ท้องฟ้าลับหายไปในหมู่เมฆ !

        สมองที่ถูกฝึกจนเฉียบไวทบทวนความทรงจำอย่างรวดเร็ว  ก่อนจะตาเป็นประกายเมื่อนึกถึงความสำคัญของนกประหลาดตัวนี้ได้

        “ข้าคิดว่าข้าเห็นใครบางคนด้านในคฤหาสน์คารานิสต์  ...คุณหนูมิเชลจะว่าอะไรไหมถ้าข้าจะขอแวะเข้าไปทักทายคนในคฤหาสน์แห่งนี้ก่อน  ไว้ค่ำ ๆ เราค่อยเดินทางต่อไปยังปราสาทเดอวินด์ ?”

        สายตาของมิเชลมองไปยังคู่หมั้นหนุ่มด้วยความงุนงง  แต่ก็ยังพยักหน้ารับ

        “ตามใจท่านเถิดค่ะ..  ข้าไม่มีความเห็นขัดแย้งใด ๆ “

        เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคนรัก   พันโทหนุ่มจึงสั่งให้คนขับรถม้าเปลี่ยนทิศทางที่จะมุ่งหน้าไป  …ในความคิดของคารอสแล้ว  ปราสาทเดอวินด์นั้นจะไปเมื่อไหร่ก็ได้  แต่ถ้าเขาพลาดโอกาสนี้ไปแล้วล่ะก็  คงไม่อาจได้พบผู้ที่มาเยือนจากดินแดนแห่งหมอกเป็นแน่

        ทันทีที่รถม้าเข้าไปจอดเทียบยังหน้าประตูของคฤหาสน์  ประตูก็ถูกเปิดออกช้า ๆ  คารอสจำคนรับใช้ชายผู้นี้ได้แม่นยำ  เพราะเป็นหนึ่งในจำนวนที่เขาช่วยท่านอาจารย์ธีโมเลือกมาดูแลคฤหาสน์นี้เอง

        ชายหนุ่มก้าวลงจากรถม้าด้วยความคล่องแคล่ว  ก่อนจะหันมารับมือของคู่หมั้นสาวเพื่อช่วยให้นางลงจากรถม้าได้โดยสะดวก  จากนั้นจึงหันไปทักทายคนรับใช้ชายที่ออกมายืนรอด้วยรอยยิ้ม

        “เป็นอย่างไรบ้างโมล  …ดูเหมือนคฤหาสน์คารานิสต์เพิ่งจะมีแขกที่ไม่ได้คาดหมายมาเยี่ยมใช่ไหม ?  ...นี่คุณหนูมิเชล  เบลโฟร์  คู่หมั้นของข้าเอง...”

        ชายวัยกลางคนน้อมศีรษะคำนับแก่คนทั้งสองอย่างนอบน้อม  ดวงตาเป็นประกายสดใสเมื่อตอบคำถาม

        “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณหนูมิเชล  ...พวกท่านเดินทางมาได้พอดีจังหวะจริง ๆ..   ท่านโมเร็กเพิ่งมาถึงพร้อมกับเพื่อนร่วมทางอีกสองคน  ตอนนี้กำลังอยู่ในห้องนั่งเล่นครับ”

        ทั้งเกเบรียลและคารอสเคยพบท่านลุงชาวเทม่าของเอลซ่าที่มีชื่อว่าโมเร็กเพียงครั้งเดียวในช่วงที่ผู้เฒ่าคารานิสต์ล้มป่วยเมื่อสองปีก่อน  และได้ทราบว่าโมเร็กมักเดินทางไปมาเพียงลำพัง  จึงรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่ได้ยินว่าอีกฝ่ายพาเพื่อนร่วมทางมาด้วย

        “มีคนมาด้วยหรือ ?  ใครกัน ?  ใช่เอลซ่ากลับมาแล้วหรือเปล่า ?”

        คำถามสุดท้ายคารอสขึ้นเสียงสูงอย่างตื่นเต้น  อาจเป็นไปได้ว่าเด็กสาวคนนั้นผ่านการฝึกฝนตามธรรมเนียมของเทม่าสำเร็จในที่สุด  และเลือกที่จะกลับมาบ้านในรีมาแล้ว

        แต่โมลส่ายหน้าอย่างจงใจ

        “คุณคารอสเข้าไปดูเองดีกว่าครับ  ข้าไม่เคยพบหน้าคุณหนูเอลซ่ามาก่อน  จึงไม่อาจตอบท่านได้..”

    จากคุณ : noOne - [ 23 พ.ย. 47 21:48:48 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป