CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    การมาของหมาจร

    ผมเคยบอกกับภรรยาว่าเมื่อคืนฝันร้าย ต้องมีเหตุไม่ดีเกิดขึ้นแน่นอน เธอก็ได้แต่ปลอบประโลมด้วยถ้อยคำละมุนหู
    "ในฝันร้ายคุณยังมีฉัน"
    ฝันร้ายพลันปรากฏตัวในรุ่งอรุณกรุ่นหมอก มีของขวัญถูกวางทิ้งเอาไว้ข้างโอ่งน้ำ คือลูกหมาสามตัวแรกเกิด ผมมองของขวัญนี้อย่างตำหนิถึงแม้มันจะเคลื่อนไหวให้น่าเอ็นดูก็ตาม หากผมหลงกลคงเอ็นขาด ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ผมเองก็ย่ำแย่ข้าวสารไม่พอกรอกหม้อ หากเพิ่มสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "ลูกหมา" อีกสามตัว ภรรยาผมคงต้องได้หุงข้าวเพิ่ม เจ้าของทรัพย์สินทางสายเลือดพลันปรากฏตัวเป็นแม่หมาผอมโซมีขี้เรือนเป็นเครื่องการันตีความโชกโชน คล้ายมันสัมผัสได้ถึงรังสีอัมหิตในเม็ดเลือดของผม ได้แต่กระดิกหางอย่างผูกมิตรและเฝ้ามองความเมตตาที่ผมจะเผื่อไปถึงมัน อย่าหวัง...ความเมตตาผมไม่มีหรอก
    "อุ๊ย น่ารักจังเลย" ภรรยาผมมาเห็นเข้าก่อนที่จะเคลื่อนย้ายของกลาง
    "ใช่น่ารัก แต่พี่ว่าเอาไปปล่อยที่อื่นดีกว่า"
    เธอหันหน้ามามองผมด้วยดวงตาแห่งความผิดหวังในคำตอบอันไร้น้ำใจ
    "คุณจะรู้อะไร คุณไม่ใช่ผู้หญิง ฉันจะเลี้ยงมันเอง"
    หมาโซตัวนี้คล้ายเข้าใจกระดิกหางโดยไวให้ภรรยาของผม พร้อมวิ่งอ้อมหน้าอ้อมหลัง
    "อีประจบ"
    ผมด่าหมาในใจ และเดินจากไปอย่างไม่ไยดีในอารมณ์ ทั้งๆ ที่แปรงฟังยังไม่เสร็จสมบูรณ์

    ทุกเช้าที่ผมมาล้างหน้าแปรงฟัน หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเห็นลูกหมาสามตัว เห็นการเคลื่อนไหวของลำตัวน้อยๆ มันร้องเสียงอู้อี้และเบียดซุกซึ่งกันและกัน บางทีกลิ้งหงายท้องก็มี และแม่ที่เป็นขี้เรื้อนของมันก็เฝ้ามองอยู่ใกล้ๆ มันจำแนกออกว่าใครเป็นมิตรแท้ ศัตรูถาวร มองผมด้วยดวงตาหวาดระแวง ถ้าไม่ระวังมันคงกัดผมแน่ ผมเกลียดมันอยู่เอาการ เพราะทุกครั้งที่ทานข้าวภรรยาผมมักพูดว่า
    "อย่ากินหมดเสียล่ะ แบ่งไว้ให้หมาบ้าง มันจะได้มีน้ำนมเลี้ยงลูก"
    แกงจืดที่อยู่ตรงหน้ากลับกลายเป็นจืดยิ่งกว่า เธอเห็นหมาสำคัญกว่าผมไปเสียแล้วหรือนี่ มันแย่งความรักที่เธอมีต่อผม เกลียดหมาโว้ย !!!!

    จนกระทั่งลูกหมาทั้งสามตัวลืมตา คงเป็นเช้าวันใหม่ที่มันพบสิ่งแปลกตาและไม่คุ้นชินกับสีแสง ขณะที่ผมแปรงฟัน ข้าน้อยๆ ของมันก็ขยับและพยาก้าวเดินบ้างล้มลุกคลุกคลาน จนมาถึงผมเอาลำตัวเบียดขา ผมไม่กล้าสบตาอันซื่อใสนั่น มันทำให้ผมรู้สึกถึงความอ่อนโยนที่ดำรงอยู่ในโลก และเผลอยิ้มให้มันอย่างลืมตัว อดที่จะอุ้มมันขึ้นมาเอามือหยาบลูบขนมันเบาๆ
    "คุณทำอะไร"
    เสียงภรรยาของผมดังขึ้นจากข้างหลัง ผมรีบวางลูกหมาไว้ที่เดิม แปรงฟันอย่างไม่รู้ไม่ชี้
    "อย่าหวังพี่จะรักมัน"
    "คนใจร้ายไส้สับปะรด"
    "ไม่ใช่เป็นแม่พระมาเกิดอย่างคุณนี่"
    ผมประชดแต่แอบมองลูกหมาด้วยความเอ็นดู มันน่ารักขึ้นทุกวัน ขนปุย ตัวสีขาวก็ขาวราวฟ้อนเมฆ ตัวสีดำเล่าก็ดำละเอียดจนระยิบตา ส่วนตัวสีขาวมีลายดำแต้มตามตัวนั่นก็ดูเหมาะเสียเหลือเกินกับตำแหน่งแห่งสีป้าย ผมต้องใช้เวลายามเช้าอยู่กับมันมากขึ้น บางทีก็แอบอาบน้ำให้มันด้วย ตอนมันหนาว คุณเอ๊ย..ตลกอย่าบอกใครเชียว แต่ผมก็ทำลับๆ ไม่ให้ภรรยารู้

    จนกระทั่งเย็นวันหนึ่งตอนทานข้าว ภรรยาของผมก็เอ่ยคำนี้ขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ
    "อ้อมว่าน่าจะแบ่งเอาไปให้ญาติเลี้ยงก็ดีนะ มันโตขึ้นทุกวันและกินจุ เราคงไม่มีปัญญาเลี้ยงมันได้ทั้งหมด"
    "แค่สามตัว ทำไมพี่จะเลี้ยงไม่ได้ ต่อให้เยอะกว่านี้พี่ก็จะเลี้ยง"
    ผมตอบออกมาอย่างเผลอใจและลืมตน อดที่จะเขินอายไม่ได้ เพียงเห็นภรรยาก้มหน้าและยิ้มกริ่มขณะเคี้ยวคำข้าว แกงจืดวันนี้คล้ายไม่จืด...

    จากคุณ : เดอะแหลม - [ 24 พ.ย. 47 00:48:06 A:203.172.57.60 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป