ตู๊ด...
ตู๊ด...
กูจะนอน
ตู๊ด...
นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว
ตู๊ด...
ตีสาม
ตู๊ด...
ไม่เกรงใจกันบ้างหรือไง
กลืนน้ำลาย 2 3 อึก ประกอบเสียงอีกไม่กี่อึดใจ มือไขว้คว้าหาโทรศัพท์ในความมืด
ฮัลโหล สุดท้ายก็ต้องรับโทรศัพท์ด้วยเสียงแหบพร่าจนได้
เออ เปลี่ยนเวลาออกกอง เป็นตีห้าครึ่งนะ
จะบ้าเหรอ กูเพิ่งได้นอนตอนตีสอง
อย่าไปสาย แค่นี้นะ
ครับ
เขาวางโทรศัพท์ นอนขดตาค้างอยู่บนเตียง
เอายังไงดี
เลิก ๆ ทำมันซะเลยดีไหม
เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคนส่วนใหญ่ที่เขารู้จัก ถึงได้ดิ้นรนอยากจะทำงานในวงการบันเทิงกันนัก หรือว่าการเป็นคนในวงการบันเทิงมันจะได้อภิสิทธิ์อะไรพิเศษมากกว่าคนอื่น ถ้าถามเขา เขาเห็นว่ามีแต่พวกดารานักแสดงเท่านั้นล่ะ ที่ได้อภิสิทธิ์เหนือกว่าคนทั่ว ๆ ไป ส่วนพวกที่ทำงานเบื้องหลัง เขาไม่เห็นว่าจะได้อะไรพิเศษสักอย่าง
เขาเบื่อเวลาที่ญาติ ๆ มารวมกันทุกเทศกาล พ่อกับแม่จะคอยบอกญาติ ๆ ว่าเขาทำงานในกองถ่าย สิ่งที่ตามมาก็คือ พี่ ป้า น้า อา เริ่มที่จะฝากฝังลูกหลาน น้อง ๆ ของเขาให้เป็นดารา เขาได้แต่แบ่งรับแบ่งสู้ เพราะในความเป็นจริง เขาเป็นแค่กระโถนในกองถ่าย ทำงานไม่ต่างจากจับกัง จริง ๆ เขาไม่ต้องเรียนให้จบปริญญาก็ได้ เพราะต่อให้ไม่ต้องเรียนก็ทำงานใช้แรงงานอย่างเขาได้ไม่ยากเย็น
วันนี้ปวดตามเนื้อตามตัวไปหมด ไม่แปลกใจเลยที่รู้สึกอย่างนั้น เพราะวันนี้เขายืนเด่นตระหง่านอยู่บนหลังคายิมเนเซียม ที่มีความสูงเท่ากับตึก 4 ชั้น พร้อมกับผ้ายาง 6 ผืน แต่ละผืนยาว 12 เมตร เขาเดินลากผ้ายางสีดำสนิท 6 ผืนอย่างช้า ๆ ไปปิดช่องกระเบื้องใสทีละแผ่น ๆ ค่อย ๆ ปิดมันทีละผืน เพื่อไม่ให้แสงเล็ดลอดไปภายในยิมเนเซียม
เพราะอะไรน่ะหรือ
ก็เพราะหนังเรื่องนี้ กำลังจะถ่ายทำฉากกลางคืน ก่อนหน้าที่เขาจะขึ้นมาอยู่บนนี้ เขาถามผู้จัดการกองถ่าย ว่าทำไมไม่ถ่ายกันตอนกลางคืนซะเลย
เออหว่ะ ผู้จัดการกองถ่ายพูดได้แค่นั้น ก็หัวเราะร่วนตัวงอ
แต่เขาไม่ขำสักนิดเดียว
นาฬิกาที่โต๊ะข้างเตียงบอกเวลา ตีสามสี่สิบห้านาที
เขาพลิกตัวนอนคว่ำ ตั้งหน้าตั้งตาที่จะหลับให้ได้ ประสบการณ์สอนเขาให้ออมแรงไว้ทำงาน
เมื่อก่อนเขาไม่เคยนอนหลับบนรถไม่ว่าจะเดินทางระยะสั้นหรือยาว แต่เดี๋ยวนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด ทุกครั้งที่เขาก้าวขึ้นรถไม่ว่ารถเมล์รถตู้ ถ้าหากได้นั่งเขาหลับได้ทั้งนั้น และมีแนวโน้มว่าจะหลับได้แม้กระทั่งเวลาที่นั่งเรือหางยาว
เลิกเลยดีไหมวะ
เขาคิดถึงคำที่แม่บอกกับเขา ตอนที่เขาเพิ่งจะได้งานนี้
ถึงงานมันจะหนัก ก็ต้องอดทนนะลูก
เดือนแรกผ่านไป แม่บอกกับเขาว่า ถ้างานมันหนักเยี่ยงทาสอย่างนี้ ลาออกก็ได้นะลูก
แต่จนแล้วจนรอด เขาก็ไม่ยอมลาออกเสียที
ตอนนี้เขาคิดว่าควรจะเชื่อแม่ดีหรือเปล่า
ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาแทบไม่ได้นอนเลย ทุกวันเขาจะถึงโลเคชั่นที่ถ่ายทำก่อนคนอื่นเพื่อจัดการทุกอย่างให้พร้อมถ่ายทำได้ทันที เมื่อผู้กำกับนักแสดงมาถึง และเมื่อถึงเวลาเลิกกองถ่าย เขาจะกลับเป็นคนสุดท้ายเพราะต้องทำความสะอาดสถานที่ให้เรียบร้อย
ทุก ๆ วันเขาเฝ้าแต่คิดเสมอว่า หลายคนในกองถ่ายความสามารถไม่ถึงครึ่งของเขา แต่ทำไมทุกคนทำงานสบายกว่าเขา และยังได้เงินมากกว่าเขาหลายเท่า
โลกนี่ไม่เคยยุติธรรมเลย
นาฬิกาบอกเวลา ตีสี่ครึ่ง
เขาดันตัวลุกขึ้นจากเตียง สุดท้ายก็เป็นเหมือนทุกวัน เป็นขี้แพ้ไม่ต่างจากทุกวัน เขาไม่ได้กลัวที่จะตกงาน ไม่กลัวที่จะเป็นขี้ปากชาวบ้าน สิ่งที่เขากลัว มันคือการเป็นคนไร้คุณค่าในสายตาของตัวเอง เขากลัวเพียงแค่นั้นเอง
ฟ้ายังมืดอยู่ตอนที่ก้าวเท้าออกจากบ้าน
ปาท่องโก๋กระทะแรกถูกยกขึ้นแล้ว เขาเดินตรงเข้าไปหาเหมือนอย่างเคย
ปาท่องโก๋ 20
อาแปะคีบปาท่องโก๋ใส่ถุงให้เขาทีละตัว ๆ
ขอโทษครับ ขายทุกวันแบบนี้เคยเบื่อหรือเปล่า
แกพูดไปพร้อมกับหยิบปาท่องโก๋ใส่ถุง แล้วกินทุกวันไม่เบื่อเหรอ
ถ้าเบื่อก็คงไม่กิน
แกยิ้มให้อืม ถ้าเบื่อก็เลิกขายเหมือนกันแหละ
จริงสินะ มันมีวิธีนั้นด้วย เขายิ้มตอบ
จ่ายเงินอาแปะเสร็จแล้ว ตั้งใจว่าวันนี้จะทำงานให้ดีที่สุด
แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 47 10:44:03
จากคุณ :
CU.
- [
24 พ.ย. 47 23:51:35
]