ไปโพสท์อีกเวบหนึ่ง มีคนอ่านเป็นร้อยๆ แต่ไม่มีใครทิ้งคำวิจาร์ณไว้เลยค่ะ เลยเอามาโพสท์ที่นี่
Witty Witch
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ฉัันควานหาผักที่ต้องการอย่างขะมักขเม้น ตรวจดูในลิสต์แล้ว ยังขาดอีกตั้งหลายอย่าง แค่ทำผัดใบกระเพราเองนี่นะ ทำไมมันยุ่งยากอย่างนี้ โชคดีที่เขามีป้ายบอกไว้ ว่าอันไหนใบกระเพรา อันไหนใบโหระพา ไม่งั้นก็ได้ซื้อไปสลับกัน อ้าวแล้วกระเทียมมันอยู่ตรงไหนกันล่ะ หันไปถามพนักงาน ดันบอกว่าไม่มี ทั้งห้างเนี่ยนะ ไม่กระเทียมขาย น้องขี้เกียจหามั้ง ฉันสะบัดหน้าหนี เหลือบไปเห็นกระเทียมกอง อยู่ใกล้กับหัวหอมพอดี นี่น้อง ไอ้นี่เรียกกระเทียมใช่ไหม แม่บ้านญี่ปุ่นคุยกันกระหนุงกระหนิง แต่โครตขวางทางเดินเลย เมื่อไหร่จะตัดสินใจ หยิบเสียทีละ คุยกันอยู่ได้ หลีักหน่อยได้ไหมเล่า ทั้งคนทั้งรถเข็นนั่นแหละ พูดกันก็ ไม่รู้เรื่อง โอ้ย โอ้ย ปวดหัวแล้วนะ ทำไมจะทำกับข้าว ทั้งทีมันถึงต้องวุ่นวายอย่างนี้นะ
แต่ก่อนกินคนเดียว เดินไปปากซอยเสียเงินสักสี่สิบ ก็อิ่มหนำสำราญ แต่เมื่อต้อง ร่วมชีวิตกับคนเรื่องมากแล้ว เรื่องง่ายๆ แบบนี้ก็กลายเป็น เรื่องยากไปอย่างไม่น่าเชื่อ ไอ้นั่นก็ไม่ชอบ ไอ้นี่ก็เหม็น เธอกินไอ้นั่นเข้าไปได้ยังไงน่ะ กลิ่นพิลึก แล้วนั่นอะไร โอ้วชิ้น ส่วนในท้องหมูู ยี้ หากใครได้นั่งกินข้าวเย็นกับคนแบบนี้ มีหวังพาลจะอิ่ม ทั้งที่เพิ่งเริ่มมื้อ แล้วฉันก็ไม่ได้กินอะไรพิสดารเสียที่ไหน แค่ก๋วยจั๊บเอง หรือไม่ก็ หวายนี่อะไร อ๋อ ปลาช่อนนึ่งจิ้มน้ำพริกไง อี๋ เหมือนอาหารแมวเลยนะ เวรเอ้ย ของใครของมัน ทีแกกินอะ โวคาโดนิ่มๆ แหวะๆ ฉันไม่เห็นจะมีปัญหาเลย เย็นนี้กินกระเพราไก่เอาเถอะ
อันที่จริงเรื่องข้าวเย็นนี่ ไม่ใช่สิ่งที่ดิฉันสันทัด เพราะตั้งแต่แต่งงานกันมาคุณชาย ก็ยืนตากหน้าอยู่ที่เตามาตั้งแต่ต้น จะทำกับข้าวแต่ละอย่างก็ต้องมีสูตรเป๊ะๆ มีถ้วยตวง ช้อนตักมากจนน่าเวียนหัว ไพร่อย่างฉันก็ปอกของสิบแปดอย่างมือเป็นระวิง นี่แหละหนา ชีวิตในครัว หากไม่ได้เป็นเชฟก็ต้องเป็นเด็กล้างจาน แต่ถ้าขืนให้นางนี่ยึดไป เห็นทีฉันคงจะ ต้องกลิ้งได้คล้ายลูกบอล อย่ากระนั้นเลย วันนี้ดิฉันจะลงมือทำอาหารเพื่อสุขภาพอย่าง กระเพราไก่ ไข่ดาว เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ เป็นอาหารเย็น
กว่าจะฝ่าฝูงชนบนรถไฟฟ้ามาได้ ก็เล่นเอาหงุดหงิดไม่หาย เคยสงสัยไหมว่า ทุกครั้งมันจะต้องมีคนจำพวกหนึ่ง ซึ่งคาดว่าคนเหล่านี้จะออกลาดตระเวณอยู่ตามสถานี รถไฟฟ้าทุกแห่ง เพื่อสร้างความอลหม่านทางอารมณ์ ให้กับผู้โดยสาร โดยการยืนมันเสีย กลางทางที่ประตูเปิด ใครจะขึ้นลงไม่สน ขอยืนจังก้า ปักหลั่นอยู่ตรงกลาง เดี๋ยว ไม่ได้ขึ้นเป็นคนแรก เจอเหตุการณ์แบบนี้ทีไร มันอดอยากเดินชน ให้กระเด็นไปเลยไม่ได้ อันที่จริงฉันก็เคยแกล้งชนไปบ้างเหมือนกัน นางร้ายในใจคิดว่า สมน้ำหน้าแกอยากมายืน ขวางทางทำไมล่ะ นางฟ้าอีกฝ่ายร้องว่า เห็นด้วย เกือบจะได้ยินเสียงหัวเราะด้วยนะ จิตฝ่ายดีของฉันมาตรฐานต่ำกว่าคนอื่นเข้าอยู่บ้างนิดหน่อย
ชีวิตของฉันเดินทางมาถึงตอนนี้ได้ยังไงกันนะ ทำไมอยู่ๆ ตื่นขึ้นมาก็พบว่ามี ผู้ชายนอนกรน พุงย้อยอยู่ข้างๆ แถมบางทียังเป่าน้ำลายกลายเป็นลูกโป่งตอนหลับ สาวๆ ที่เคยหมายปองผู้ชายคนนี้ จะว่าอย่างไรนะ ถ้าได้มาเห็นสภาพอันเกือบจะเรียก ได้ว่าน่าอเนจอนาถนี้เข้า ที่สำคัญมีหน้ามาเรียกฉันกับใครๆ อย่างเต็มปาก เต็มคำว่า ภรรยาของผม
ไม่เคยมีสูตรตายตัวใดที่พอจะบอกได้ว่า อะไรที่ทำให้มนุษย์สอง คน อยู่ร่วมกัน ได้ไปจน ตลอดรอดฝั่ง (อันนี้ฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันจะพยายามเป็นคน ที่เข้าฝั่งที่หลัง) อีกทั้งหากจะใช้วิธีดูเอาจากบุคคลในครอบครัว ชีวิตแต่งงานของฉันคงอับปางไปอย่าง ไม่ต้องวิเคราะห์ เพราะทั้งฝ่ายปู่ย่า ตายาย ตลอดจนพี่ป้าน้าอา กว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ใน ตระกูล ล้วนแต่งงานมากกว่าหนึ่งครั้งทั้งนั้น หวังว่ามันคงไม่ได้อยู่ในดีเอ็นเอนะ และหากวัดเอาช่วงเวลาที่คบหากันเป็นตัวตั้ง แล้วหารด้วยอะไรก็ตามแต่ อย่างเช่นลัคนา ราศีเกิด ผลลัพธ์มันจะออกมายิ่งกว่าติดลบอีก (่ แย่กว่าเศรษฐกิจประเทศอาเจนติน่า และไอ เอ็มเอฟปฏิเสธความช่วยเหลือ ) เพราะทั้งเขาและฉันต่างก็เป็นชาวราศีเมษ ตอนรู้จักกันใหม่ๆเคยไปยืนลักลอบอ่านหนังสือดวงมาแล้ว เขาบอกไว้โต้งๆ เลยว่า ไปกันไม่รอด แล้วตอนนั้นฉันก็ไม่ได้อยากมีแฟนจริงจังอะไรนักหรอก( เอ่อ ก็หลังจากที่ อยากมีแฟนมากถึงมากที่สุดมาพักหนึ่ง ) เพราะตั้งใจไว้ว่าจะไปใช้ชีวิตที่นิวยอร์กดูสักพัก เพื่อความตื่นเต้นของชีวิต แต่แล้วคนๆ นี้ก็มาเปลี่ยนแผนการในชีวิตของฉันไปหมด
เริ่มมาจากความเงียบเหงาในค่ำคืนหนึ่ง เมื่อนึกอยากทำตัวเป็นวัยรุ่น ลองเหยียบ ย่างเข้าไปในแชทรูม ที่เพิ่งอ่านเจอในหนังสือมาหยกๆ เพื่อที่จะพบว่าในห้อง สนทนานั้น เต็มไปด้วยชายหญิงโรคจิตที่เรียกตัวเองว่า สาวร้อนต้องการผู้ชายบ้าง สวยใสวัยสิบแปด อยากมีประสบการณ์ (ประสบการณ์อะไรยะ จะสอบส.ป.ช. หรือแม่คุณ) หรือฉันอยากเลียแกบ้าง ไปจนใช้หลักคณิตศาสตร์บวกกับตรรกะในชื่อไอ้หนูสิบเอ็ดนิ้ว แค่นี้ก็บอกแล้วว่ามันต้องการอะไรกัน ฉันจึงพยายามหาชื่อที่ไม่ส่อว่า จะมาร่วมสังคมโรคจิต กับพวกนั้น มันต้องมีคนปกติลองเข้ามาบ้างแหละน่า
ฉันพิมพ์คำว่า แม่มดชาญฉลาดลงไป ได้ผล ไม่มีพวกโรคจิตเข้ามาตอแย จะว่าไปแล้วต้องพูดว่าไม่มีใครเลยต่างหาก อันที่จริงฉันว่าการคุยกันแบบนี้มันดีเหมือนกัน ค่าที่เราไม่ต้องติดกับรูปลักษณ์ภายนอก ไม่ตัดสินคนๆ นั้นก่อนที่จะได้คุยกับเขา บวกกับฉัน ชอบคุยกับมนุษย์ คงติดนิสัยมาจากการทำงานนั่นแหละ ห้าปีที่ต้องสัมภาษณ์คนมาลงหนัง สือ ก็เลยติดนิสัยวิเคราะห์ หาวรรคทอง หรืออะไรก็ ตามที่ซ่อนอยู่ ระหว่างประโยค ไม่กี่นาทีก็รู้ว่าคนๆ นี้ น่าสนใจไหม ฉลาดเข้าทีต้องลงสองหน้า หรือได้แค่ลงรูปเต็มหน้า กับข้อเขียนอีกสิบสี่บรรทัด
แต่แล้วก็มีหน้าต่างลึกลับกระโดดขึ้นมาบนจอ เอาเมื่อตอนเกือบระอาลาจากห้อง เหลือบดูชื่อ พบว่าไม่ได้มีนัยส่อไปทางจิตทราม เป็นจำพวกชื่อที่คนไม่คิดมาก และไม่ได้คาด หวังอะไรจากการพูดคุย ส่วนใหญ่มักใช้
Us guy : หวัดดีแม่มด เสกอะไรได้บ้างล่ะ
Witty witch : หลายอย่างเลย
Us guy : เช่นอะไรบ้าง
Witty witch : ฉันเก่งจำพวกเสกคนให้เป็นกบ ว่าแต่ว่าคุณทำงานอะไร
Us guy : ผมเป็นเซลล์แมนน่ะ
Witty witch : ขายอะไร
Us guy : ขายตำราเวทมนต์คาถา สนใจไหม
Witty wicth : ดีซิ ตอนนี้กำลังขาดอยู่ ขอสั่งวิธีทำส้มอาบยาพิษหน่อย พักนี้แอปเปิ้ลแพงมากเลย
Us guy : โอ คุณต้องรอหน่อยของล็อทที่คุณอยากได้จะมาคราวหน้า ตอนนี้เรา มีพวกตำรา เปลี่ยนกบให้เป็นเจ้าชายสูตรใหม่ เร็วกว่าเดิมอีกนะ เรือสินค้าเพิ่งมาถึง เมื่อวานนี้เอง
Witty witch : ปีใหม่คุณทำอะไรน่ะ
Us guy : ผมหลับไปนะ ตื่นขึ้นมาอีกทีมันก็ผ่านปีใหม่ไปแล้วล่ะ แล้วคุณล่ะ
Witty witch : ฟังดูน่าสังเวชอยู่นะ ฉันไปเกาะพีพีมา เซ็งมากเลย แถมตอนนาทีแรกของ ปีใหม่ คนแก่สวีเดนข้างหันมาจูบแก้ม สวัสดีปีใหม่ฉันอีก เฮ้อ
Us guy : ชาวรัสเซียเขาว่า เวลาที่เหลือของทั้งปีขึ้นอยู่กับวิธีที่เราเริ่มปีใหม่นะคุณ
Witty witch : งั้นปีนี้ของฉันก็คงจะหงอยเงือกเลยล่ะ ฉันนึกว่าใครๆ ต้องกลับไปเยี่ยมบ้าน ตอนคริสมาสต์เสียอีก คุณไม่เหรอ
Us guy : อ๋อ ผมกลับไปอเมริกาก่อนหน้านั้นน่ะ แล้วคุณล่ะ
Witty witch : ฉันไม่มีคริสมาสต์ย่ะ แต่ถูกส่งไปทำงานที่ปักกิ่งช่วงนั้นพอดี
Us guy : อ๋อ คุณไปประชุมประจำปีแม่มดภาคพื้นเอเชียล่ะสิ
Witty witch : อย่าบอกนะว่าคุณคือหนึ่งในสมาชิกภาคพื้นอเมริกา หรือถ้าจะมาลอบบี้ให้ฉันสั่งตำราเวทมนต์จากคุณให้โรงเรียนมนต์ดำ ก็ไม่มีวันเสียหรอก
Us guy : ฮ่าฮ่าฮ่า คุยกับคุณแล้วสนุกดีจัง แลกอีเมลล์กันไหม เพื่อเราจะได้คุยกันอีก ผมจะส่งรูปให้คุณดูด้วย
Witty wich : คุณหน้าเหมือนกบหรือเปล่า บอกเสียก่อนนะว่าถึงฉันจะเป็นแม่มด แต่ลองถ้าใครหน้าเหมือนกบแล้วจะมาให้เสกให้หน้าเหมือนคนนี่ทำไม่ได้
Us guy : เอาน่า เดี๋ยวคุณก็รู้
Witty witch : นี่คุณไม่ได้เป็นพวกโรคจิตแน่นะ
Us guy : เอ๊ะคุณนี่ คุณว่าผมโรคจิตไหมละ
Witty witch : เออ อันที่จริงคุณก็คุยสนุกดีแหละ
ฉันตัดสินใจพิมพ์ที่อยู่อีเมลล์สำรองลงไป เผื่อมันเกิดเป็นโรคจิตขึ้นมา ส่งรูปอุจาดบาดตามาให้จะได้ไม่รกอีเมลล์จริงที่ฉันใช้อยู่ทุกวัน เพื่อความปลอดภัยทางจิต
และก็มีสัญลักษณ์เตือนว่าฉันเพิ่งได้รับจดหมายจากใครก็ตามที่ให้อีเมลล์ชื่อ หมาจรจัด เปิดออกดูเห็นข้อความสั้นๆ ว่า เหมือนกบไหม และเป็นรูปชายคนหนึ่งทำหน้า เหยเกในเงามืด มีบอลลูนคำพูดภาษาต่างดาว จะไปรู้ไหมว่าแกเหมือนหรือเปล่า มืดเป็น ราหูอย่างนั้น เพราะไอ้ที่เห็นนี่ก็ยังบอกไม่ได้ว่าหน้าตาแกน่ะ เป็นอย่างไร ฉันคิดในใจ
Witty witch : ได้รับแล้วนะ รูปคุณมืดมาก แต่ต้องชมคุณเรื่องความสามารถ ทางภาษานะ ฉันไม่เคยเห็นใครพูดภาษาดาวเสาร์ได้คล่องอย่างนั้นมาก่อนเลย
Us guy : ขอบคุณมาก ว่างๆ คุณส่งรูปคุณมาบ้างก็ได้นะ วันนี้ผมต้องไปนอนแล้ว นี่เลยเวลา นอนของผมไปมากแล้ว คุยกับคุณจนลืมไปเลย
Witty witch : ฉันก็ต้องไปเหมือนกันแหละ ขอบคุณที่เข้ามาคุยกันนะ สนุกดี บาย
บาย อีกฝ่ายหนึ่งตอบ แล้วฉันก็ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ลง อย่างน้อยคืนนี้ก็มีเพื่อน คุยฆ่าเวลาไปได้อย่างดี ก่อนเข้านอนได้แต่คิดคำนวณถึงเงินในบัญชี ที่ไม่ใคร่จะน่าพอใจ อยู่ีนิวยอร์กครึ่งปีโดยไม่ต้องทำอะไร ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่ากินค่าเที่ยว ตอนนี้ยังมีเงิน ไม่ถึงครึ่งเลย แต่เอาเถอะน่า ไปตายเอาดาบหน้าก็แล้วกัน
จากคุณ :
Pat
- [
25 พ.ย. 47 23:38:32
A:202.160.45.190 X:202.160.21.14 TicketID:000072
]