CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ~~~ ธิดาแห่งเอมุน (บทที่ 12 ตอนที่2)~~~

    "  เจ้าลอดเข้าไปก่อนเถอะ นามอร์ แล้วเวลาลอดเข้าไประวังด้วย  ที่มืดและชื้นอย่างนั้นพวกแมงป่องกับงูจะเข้ามาหลบแดดเวลากลางวัน   "   ชายหนุ่มส่งเสียงเตือนแล้วฝืนทำหน้าชื่น สะกดกลั้นอาการปวดแปลบยามขยับตัวด้วยรอยยิ้มนุ่มนวลทั้งปากและนัยน์ตา  ยิ้มให้อย่างตั้งใจหว่านเสน่ห์เต็มที่ให้สหายตัวน้อยหลงลมแล้วยอมมุดรูเล็กๆนั่นเข้าไปเสียที

    แต่เจ้าตัวจ้อยเหมือนกับจะบื้อใบ้ต่อรอยยิ้มตรงหน้าขึ้นมาทันทีทันใด  มันเอียงคอเมียงมองร่างสูงซ้ำไปซ้ำมาจากศีรษะจรดปลายเท้าสองสามรอบแล้วยังไม่หนำใจ  เดินวนรอบตัวของเขาอีกสองรอบราวกับจะพิศโฉมเสียให้เต็มอิ่ม

    "  อืออออ  ถ้าข้ามุดเข้าไปก่อนแล้วท่านเกิดมุดเข้าช่องนี้ไปไม่ได้ล่ะ  "   เจ้าหนูปุจฉาขึ้นมา

    "   ก็หาทางอื่นมุดไปแทน   "  เขาตอบด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ  แสร้งแสดงเป็นชายหนุ่มผู้สดใส  มองโลกในแง่ดี และเปี่ยมด้วยอารมณ์ขัน  อย่างที่ควรจะเป็น

    "   ก็แล้วถ้ามันไม่มีทางอื่นอีกล่ะ  "   ข้อสงสัยของนามอร์ยืดยาวไม่รู้จักจบสิ้น  

    "   ถ้าหนีทางใต้ดินไม่ได้  ก็หนีทางอากาศด้วยการปีนหลังคาเอา   "   ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบและค่อยๆ ขยับท่อนขาที่หนักอึ้ง  พาร่างกายของตนไปพิงกับผนังตึกเพื่อเป็นการพักและผ่อนแรงขาข้างที่บาดเจ็บให้รองรับน้ำหนักตัวน้อยลง

    พยายามเป็นครั้งสุดท้ายที่จะเกลี้ยกล่อมสหายต่างวัยให้หาทางหลบหลีกจากไปก่อน

    "   ไปเถอะนามอร์  ชักช้าจะไม่ทันการ  เดี๋ยวกองกำลังราชองครักษ์พวกนั้นจะเข้ามาตรวจค้น  แล้วจะถูกรวบเข้าซังเตกันหมด   "

    "   ถ้าอย่างนั้นก็ปีนด้วยกัน  "  คู่สนทนาย้ำเสียงหนักแน่นแต่ยังปักหลักมั่นในตำแหน่งเดิมไม่ยอมขยับตัวไปไหน

    "   ท่านปีนก่อน  ข้าจะรั้งท้ายระวังหลังให้  "  

    ความมีน้ำใจของมันสร้างทั้งความซาบซึ้งระคนไปกับความหงุดหงิด  จนแสบๆ คันๆ ใน หัวใจและอารมณ์ของเขาอย่างบอกไม่ถูก

    "   เจ้านั่นแหละปีนก่อน  ถ้าเกิดพลาดพลั้งร่วงลงมายังไง  เราจะได้รับเอาไว้ได้  ขืนเราปืนก่อน  เกิดร่วงลงมาก็คอย่นทั้งคู่  ตัวเล็กๆอย่างเจ้าน่ะจะช่วยเรายังไงไหว   "  คัซซาร์ส่งเสียงปรามาสไป แล้วทอดตามองร่างเล็กที่ยังยืนขยุกขยิกไปมาแต่ไม่ยอมก้าวขาสักข้างจนรู้แล้วรู้รอด

    "   จำเรื่องหนูกับราชสีห์ที่ข้าพูดเมื่อคืนได้ไหม  หนูอาจช่วยราชสีห์ได้เมื่อถึงเวลาคับขัน   "   ไอ้หนูพูดลอยๆ แล้วส่งยิ้มยิงฟันขาวสว่างตัดกับหน้ามอมแมมเปรอะเปื้อนจนมองเค้าหน้าของมันไม่ออกมาให้

    "   ดังนั้นเมื่อถึงคราวคับขันของราชสีห์ เช่น ถูกยิงมาจนเดี้ยง  ราชสีห์ก็ไม่ควรอวดเก่ง  อ้างสารพัดเหตุผลต่อหนูน้อย  เพื่อจะแสดงท่าทีเจ้าป่ารักษาหน้าตาอวดเจ้าหนูต่อไป   "

    ประโยคของสหายตัวน้อยทำเอาเขาจุก  รู้สึกเหมือนโดนกำปั้นต่อยซ้ำ ซัดเข้าที่ท้องเต็มๆ หมัด  อย่างไม่ทันตั้งตัว

    ไม่รู้ว่าจะปั้นสีหน้าแบบไหนตอบกลับวาจาอาจหาญนั้นไปดี  ระหว่างซึ้งใจจนน้ำตาแทบร่วง  โกรธจนไม่อยากมองหน้า  หรือขบขันจนอยากจะหัวเราะล้มกลิ้งไปกับพื้น  สีหน้าสีตาที่ออกมาจึงพิกลจนอีกฝ่ายต้องหัวเราะเสียงดังไม่ขาดเสียง

    "   โกรธข้าล่ะสิ พูดแทงใจดำขนาดนั้น  "   เสียงพูดขาดเป็นห้วงๆด้วยเจ้าตัวพยายามกลั้นเสียงหัวเราะเต็มความสามารถ

    "   เจ้ารู้ได้ยังไง  "   เปล่าประโยชน์ที่ชายหนุ่มจะปฏิเสธแสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป  ในเมื่อเจ้าหนูที่ยืนตรงหน้าออกจะรู้เรื่องของเขาดีขนาดนั้น

    "   ข้าก็ไม่รู้หรอกจนกระทั่งถึงเมื่อกี้  " มันตอบหน้าตาย  อย่างน่าตายในความคิดของเขาจริงๆ

    "   ก็แค่ดักคอ  เห็นท่าทางท่านแปลกไป  ตามนิสัยของท่านน่ะ  ปกติควรจะกุลีกุจอมุดเข้ารูนั่นเพื่อสำรวจสัตว์เลื้อยคลานนำหน้าข้าด้วยซ้ำ  แต่นี่กลับตักเตือนเสียยืดยาว  แถม...   "  นามอร์อมยิ้มน้อยๆ แล้วเอานิ้วมือมอมๆ มาจิ้มที่ริมฝีปากและดวงตาคมจัดของคู่สนทนา

    "  แถม...ไอ้ยิ้มหวานๆ ตาเยิ้มๆ ของท่านน่ะ  ไปใช้กับสาวๆ จะดีกว่า  มายิ้มหว่านเสน่ห์หวังผลกับเด็กกะโปโลอย่างข้าก็ยิ่งต้องน่าสงสัยเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า  "

    แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 47 20:59:14

    แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 47 20:57:17

    แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 47 20:54:06

    แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 47 19:12:21

    จากคุณ : ปาล์ม. - [ วันลอยกระทง 19:09:39 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป