.
.
.
.
.
.
ตอนที่ฉันตื่นมา เขาก็ไม่อยู่ในห้องแล้ว
ก่อนจะหลับไปเมื่อคืน ฉันก็ตกลงใจว่าจะถามเขาออกไปตรง ๆ เกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมด
บางที อาจจะเป็นฉันคิดไปคนเดียวก็ได้
เขาอาจจะหัวเราะบอกฉันว่า ฉันฝันกลางวันไปไกล
.
.
.
.
อย่างน้อย ตอนนี้ฉันก็สบายใจที่จะหลอกตัวเองเช่นนั้น
.
.
.
.
.
.
.
.
เขาไม่ได้อยู่ที่โต๊ะอาหารอย่างที่เคยทำเป็นปกติ และก็ไม่มีร่องรอยใด ๆ ว่าเขาเดินเข้ามาที่นี่ตอนเช้าเลย
ฉันเดินเลยไปที่ห้องทำงาน ประตูเปิดอยู่ก็จริง แต่ท่าทางของคนที่ใช้ความคิดหนักนั้น ทำให้ฉันไม่กล้าเข้าไปกวน
ฉันชงชาให้ตัวเอง แล้วก็ตัดสินใจไปดูรูปในอัลบั้มอีกครั้ง
แล้วฉันก็คิดได้ เขาเคยเอารูปมาให้ฉันดูตอนฟื้นขึ้นมาเพื่อเป็นหลักฐานว่าเรารักกัน
แต่ถ้าผู้หญิงในรูปเป็นเธอ คนที่เขารักก็ต้องเป็นเธอไปด้วย
แววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักนั้นจับจ้องอยู่แต่กับเธอคนนั้น
แล้วฉันล่ะ เขาบอกว่าเขารักฉันก็จริง แต่เขารักฉันจริงน่ะหรือ
ฉันรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบจนหายใจไม่ออก
สิ่งที่เขาทุ่มเทไปทั้งหมด ไม่ใช่เพื่อฉันแม้แต่นิดเดียว
แต่เป็นเธอ
และเขารักฉันที่เป็นตัวแทนของเธอ มากกว่าจะรักฉันที่เป็นฉันจริง ๆ ... ฉันควรทำอย่างไรดี ... ฉันอยากจะถามเขาเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดก็จริง แต่ฉันก็กลัวเกินกว่าจะถาม ... ยิ่งดูรูป ฉันก็ยิ่งกลัว ... ถ้าทุกอย่างเป็นอย่างที่ฉันคิดล่ะ
ฉันจะทนได้ละหรือ
ไม่ควรย้อนกลับมาดูรูป และก็ไม่ควรคิดเลย
น้ำตาค่อย ๆ หยดลงมาเปื้อนรูปในมือฉัน
แล้วเมื่อฉันพยายามปาดน้ำตาออกไปจากรูป ก็ทำให้รูปนั้นยิ่งเปื้อนไปมากกว่าเดิม
----------
ผมเอนหลังพิงผนังเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า เรื่องที่คิดมาตั้งแต่คืนจนบัดนี้ก็ยังคิดไม่ตก
เพื่อนของผมคิดว่าตอนนี้มิเรอร์อยู่กับผมแล้ว ผมจะลืมเธอคนนั้นไป แต่ไม่ใช่เช่นนั้นเลย
มิเรอร์ถูกสร้างขึ้นมาให้แทนเธอ ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นเธอ
ผมไม่มีทางลืมผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุดไปได้แน่
มิเรอร์เป็นตัวแทนของเธอ
ผมบอกตัวเอง
แต่แล้วอีกเสียงในใจก็แย้งขึ้นมา
แน่ใจหรือ มิเรอร์เหมือนเธอ แต่ก็ไม่ใช่เธอหรอกนะ
มิเรอร์มีความคิด มีนิสัยที่แตกต่างไปจากเธอมากมาย นายก็คิดอย่างนั้นตอนอยู่ริมน้ำไม่ใช่หรือ
อย่างน้อยที่สุด สิ่งที่นายสร้างให้เป็นตัวแทนก็แจ่มใส กระตือรือร้น แล้วก็ตรงไปตรงมามากกว่าเธอ
นายมีความสุขเมื่ออยู่กับมิเรอร์ แม้นายจะรู้ว่าแตกต่างจากเธอก็ตาม นายกำลังรักผู้หญิงอีกคนหนึ่งนะ ...
ใช่ ผมรู้ตัวว่า กำลังหลงรักมิเรอร์ แต่มันก็เป็นปกติดีที่จะหลงรักคนที่เป็นเธอ ... แต่ถ้ามิเรอร์ไม่ใช่เธอ ผมก็กำลังทำผิดใช่ไหม ...
----------
ผมตัดสินใจที่จะหยุดคิดสักพัก ก็เลยเดินไปที่โซฟา มิเรอร์น่าจะนั่งอยู่ตรงนั้น ... แต่ก็ไม่มี ปรากฏว่าเธอกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว ตาเธอแดงเหมือนเพิ่งร้องไห้มาอย่างหนัก แต่พอเห็นหอมใหญ่ที่กำลังถูกสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ผมก็เลยไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเธอร้องไห้ทุกครั้งที่หั่นหอมอยู่แล้ว ...
ระหว่างมื้อกลางวันนั้น เราไม่ได้คุยอะไรกันเท่าไหร่ ผมยังติดอยู่ในวังวนความคิดของผมเอง ก็เลยไม่ได้พูดอะไรออกไปนัก ... ส่วนเธออาจจะไม่อยากกวนผม ก็เลยเงียบไปด้วยอีกคน
หลังจากนั้น ผมก็ล้างจาน ตามปกติเธอจะช่วยผมอยู่ใกล้ ๆ วันนี้ก็เช่นกัน แต่ดูเหมือนจะมีกำแพงบาง ๆ มากั้นระหว่างเรา เธอดูเนือย ๆ และใจลอยกว่าที่เคย
ผมควรจะใส่ใจมิเรอร์มากกว่านี้ เพราะหลังจากวันนั้น ทีท่าเศร้าสร้อยของเธอก็ยังไม่หมดไป แต่เพราะผมจมติดกับภวังค์ความคิดของผม ผมเลยไม่ได้สังเกตว่าเธอแปลก ๆ ไปเท่าไหร่
----------
คืนนั้นฉันฝันร้าย ... ฉันเห็นตัวเองเอามือเกาะอยู่ริมหน้าผา และก็พยายามร้องเรียกเขาให้มาช่วย ... เขาวิ่งเข้ามาตั้งท่าจะช่วยแล้วก็ปฏิเสธ บอกว่าฉันเป็นแค่ตัวแทน แล้วฉันก็เห็นเธอยืนอยู่ข้าง ๆ เขา ... เขาบอกเธอว่าตัวแทนกำลังจะหายไป ก่อนจะแกะมือฉันออกจากที่ยึดอยู่ แล้วปล่อยให้ฉันหล่นลงไป ... เมื่อร่วงลงสู่พื้น คำว่า ตัวแทน ก้องอยู่ในหูของฉัน
...แม้ลืมตาตื่น เสียงที่ก้องอยู่หูก็ไม่หายไป ... ฉันลุกขึ้นมาล้างหน้า แล้วก็ส่องกระจก ... หน้าฉันเหมือนเธอมากจริง ๆ นี่สินะที่ทำให้เขาเรียกฉันว่ามิเรอร์ ... ฉันก็เป็นแค่กระจกเงาที่สะท้อนภาพของเธอออกมาให้เขาก็เท่านั้นแหละ
ฉันอดไม่ได้ที่จะร้องไห้อีกครั้ง ... ชื่อมิเรอร์ของฉันควรจะเป็นมิราจจะดีกว่า ... ฉันไม่ใช่กระจกเงา ... เป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น ... ฉันไม่เคยมีตัวตนจริง ๆ เป็นแค่ตัวแทนของเธอ ... ไม่เคยมีชีวิต ...
... และถึงฉันอยากจะเป็นฉัน คนที่สร้างฉันมาก็อยากให้ฉันเป็นเธอ ... และฉันก็ต้องเป็นเธอมากกว่าที่จะเป็นตัวฉันเองได้ ... ฉันเกิดมาก็เพื่อเป็นตัวแทน ... มิราจ ... ฉันเป็นแค่ภาพลวงตา
----------
แต่ถึงอย่างไร ฉันก็รักเขาอยู่ดี ... และถ้าเขาบอกฉันว่าเขารักฉัน ถึงแม้จะต้องเป็นตัวแทนของเธอ ฉันก็จะยอม ... ฉันตัดสินใจอย่างนั้นจริง ๆ
ฉันรักคุณนะคะ
คุณรักฉันไหมคะ ฉันเดินมานั่งข้าง ๆ เขาที่ดูทีวีอยู่
หือ ... แม้จะอยู่หน้าทีวี แต่ราวกับว่าใจของเขาคำนึงถึงเรื่องอื่นอยู่ เขาถามฉันกลับ เมื่อกี้นี้ คุณว่าอะไรนะ
ฉันบอกว่าฉันรักคุณค่ะ
แล้วคุณล่ะ รักมิเรอร์บ้างไหม
ปกติแล้ว ที่เราบอกรักกัน เขาจะตอบฉันในทันที แต่วันนี้ เขานิ่งไปสักพัก แล้วก็พูดขึ้นมาอย่างลังเลว่า รักสิ
ฉันจูบแก้มเขาเบา ๆ ก่อนจะบอกราตรีสวัสดิ์กับเขา
----------
.
.
.
.
.
ฉันรู้สึกล้าเหลือเกิน เขาไม่กล้าพูดคำว่ารักฉันออกมา เฮ้อ ทั้ง ๆ ที่ฉันตั้งใจแล้วว่า ถ้าเขาบอกฉันว่าเขารักฉัน ฉันจะทิ้งความเป็นมิเรอร์เพื่อเป็นเธอให้เขา
แล้วตอนที่เขาพูดคำนั้นออกมา สายตาของเขาก็ไม่ได้จับจ้องที่ฉันเลย
... ฉันสะท้อนใจ ... หุ่นกระจกเงา หุ่นภาพลวงตา ... จริง ๆ ตอนนี้ฉันไม่สมควรเป็นอะไรทั้งนั้น ... ฉันไม่ใช่มนุษย์ และก็ไม่ใช่หุ่นด้วย เพราะฉันไปหลงรักมนุษย์เข้า แม้แต่หุ่นฉันก็ยังเป็นไม่ได้ ... น้ำตาฉันไหลลงมาอีกแล้ว ..
.
.
.
.
แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 47 22:13:28
จากคุณ :
หมาเลี้ยงแกะ
- [
1 ธ.ค. 47 22:12:34
]