CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    สุดสงวน

    ผู้คนที่นั่งอยู่ในโรงละครศาลาเฉลิมกรุงเริ่มเงียบเสียงลง เมื่อดนตรีโหมโรงซึ่งประกอบด้วยเครื่องสายไทยผสานกับวงดนตรีออเครสตร้าดังกังวานขึ้น ความงดงามของท่วงทำนองหวานพริ้ว พรากพาปัจจุบันของชายชราสูงอายุผู้หนึ่งให้หวนกลับคืนสู่ความทรงจำที่ถูกปิดตายมาเป็นเวลานับสามสิบปีมาแล้ว


    เย็น…… เย็นริมสองฝั่งคลอง คลอง…… คลองน้ำนองสองฝั่งชล
    เคย…… เคยว่ายน้ำคลอสองคน จน…… จนดาวหล่นลงจากฟ้า
    จำ…… ค่ำคืนนั้นอยู่ด้วยกัน ชมพระจันทร์สวยกับเธอ
    จนได้ยินเสียงพร่ำเพ้อ ว่าฉันรักเธอ ฉันรักเธอ …… เธอเสมอมา
    เป็น…… เป็นความหลังฝังใจ อยากบอกใคร ฉันได้รักจริง***


    เสียงทุ้มทว่ากังวานหวานหยุดลงพร้อมๆนิ้วที่พรมสายกีตาร์


    “ ฟังอยู่รึเปล่าหือ “ คนร้องเพลงจบชะโงกหน้าเข้าใกล้หญิงสาวที่กำลังสนใจอยู่แต่หนังสือตรงหน้า


    “ อือ “ หญิงสาวตอบอย่างขอไปที มือแข็งแรงจึงกระตุกหนังสือของคนตรงข้ามออกมนตราเงยหน้าขึ้นในทันที ชายหนุ่มผิวคร้ามแดดรูปหน้าคมสันอย่างไทยแท้ จ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง หญิงสาวกลั้นหัวเราะแสร้งยิ้มให้อย่างประจบ


    “ โธ่วิก…ขอหนังสือคืนเถอะนะ กำลังสนุกเชียว “ มนตราอุทธรณ์


    “ ไม่….เราไม่สนุกด้วยหรอก เห็นหนังสือดีกว่าฟังเราร้องเพลงดีนัก “ มนตราพยายามกลั้นยิ้มที่มุมปาก แต่ไม่อาจปกปิดประกายระยับในแววตาได้ ทำเอาชายหนุ่มหน้าบูดหนักขึ้น


    “ แหมเรื่องแค่นี้เอง…เอาน่า…มนสัญญา ถ้าอ่านหนังสือเล่มนี้จบนะจะนั่งฟังวิกร้องเพลงจนจบเลย…..ทั้งวันก็ได้เอ้า “ หญิงสาวต่อรองทำหน้าจริงจังแต่นัยน์ตาพราวดุจเดิม


    “ อย่ามาทำเจ้าเล่ห์ คราวก่อนก็หนหนึ่ง…..มนสัญญาจ๊ะว่าจะฟังเพลงของวิกจนจบ “ เขาดัดเสียงเล็กเสียงน้อย แต่ทำหน้าขึงขังเอาเรื่อง “ เราร้องยังไม่ทันจะจบหลับซะนี่ “


    “ อ้าว….นี่ยังไม่แสดงว่าวิกร้องเพลงได้เพราะอีกหรือจ๊ะ “ มนตราขึ้นเสียงสูงแสร้งทำตาโตอย่างสงสัย กรวิกยื่นหน้าเข้าใกล้ใช้มือบีบจมูกหล่อนอย่างหมั่นไส้


    “ เขาร้องเพลงรัก ไม่ใช่เพลงกล่อมเด็กนะ “ เมื่ออีกฝ่ายรู้ทันหญิงสาวจึงหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ


    เสียงหัวเราะใสๆปนกับเสียงทุ้มห้าวกังวานอยู่ริมชายน้ำ

    ………………………………………………………………………………………………………………………


    เสียงไอเบาๆทำให้กรวิกตื่นจากภวังค์ เขาคว้ามือซีดขาวซึ่งเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกมากอดไว้แนบคางอย่างถนอม พลางถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน


    “ ทำไมตื่นเร็วพึ่งนอนไปได้สองชั่วโมงเอง “ เขาถามอ่อนโยน พร้อมกับหันไปรินน้ำจากกาไฟฟ้าที่โต๊ะเล็กๆข้างเตียง มนตรามองร่างสูงใหญ่อย่างรักใคร่ ชายหนุ่มช้อนศีรษะหล่อนอย่างเบามือพลางจ่อแก้วน้ำลงตรงปากของหญิงสาว


    “ นอนต่อไหม “ เขาถามเมื่อหล่อนดื่มน้ำเสร็จ วางแก้วน้ำไว้ที่โต๊ะตามเดิม มนตราเอียงคอมองดวงตามีแววสลดวูบ


    “ วิกนั่นแหละต้องนอน….” หล่อนใช้นิ้วแตะลงตรงขอบตาเขาเบาๆ “ ดูสิ…ขอบตาคล้ำหมดแล้ว ระวังจะเจ็บไปอีกคน “ กรวิกรวบมือผอมแห้งมาแนบแก้มอย่างถนอม


    “ ดีสิ…จะได้ไปพร้อมๆกัน “ เขาตอบหนักแน่น


    “ ยังหรอก….ยังไม่ใช่เวลาของวิก….มนไปก่อนน่ะดีแล้ว จะได้สำรวจพื้นที่ไว้ก่อน รอวิกไงจ๊ะ ถ้าไปพร้อมๆกัน ที่ใหม่ไม่ถูกใจ วิกจะบ่นให้เท่านั้น “ มนตราพูดติดตลกมองหน้าเขาอ่อนโยน


    “ ไม่.. ขอเพียงได้ไปกับมนที่ไหนวิกก็ไม่บ่น…และถ้าเป็นไปได้ วิกอยากให้มนอยู่ที่นี่….อยู่ด้วยกัน อยู่รอคำถามจากมนว่า ….วิก….มนอยู่กับวิกมากี่ปีแล้วนะ…แล้ววิกก็จะตอบมนว่า ..” เขารั้งร่างผอมหุ้มกระดูกเข้ามากอดอย่างรักใคร่ “ ร้อยปีได้แล้วมั้ง “ ชายหนุ่มเสียงแหบพร่าขอบตาร้อนผ่าว มนตราผละออกจากอกกว้างอย่างช้าๆ มือขาวราวปราศจากสีเลือดแตะที่แก้มสากมนของชายหนุ่มอย่างรักใคร่


    “ ใครว่ามนจะไปจากวิกล่ะ….” หญิงสาวชี้นิ้วไปที่อกซ้ายของเขา


    “ มนอยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือจ๊ะ “ มนตราถามอย่างอ่อนหวาน ชายหนุ่มกลั้นสะอื้น


    “ จ้ะ…มนจะอยู่ตรงนี้….ตลอดไป “ หญิงสาวยิ้มกว้างอิงอยู่กับอกอุ่นอย่างเป็นสุข


    รอบข้างเงียบสงัดมีเพียงนาฬิกาโบราณเท่านั้นที่ส่งเสียงอยู่ตลอดเวลา นอกหน้าต่าง ดาวดวงเล็กๆกระพริบแสงริบหรี่


    “ วิก “


    “ จ๋า… “ เขาอ่อนหวานกับหัวใจรักของตัวเองเสมอ


    “ มนอยากฟังเพลง……ชายน้ำนะ “ ชายหนุ่มยิ้มทั้งหน้า กอดร่างผอมบางแน่นขึ้น ราวกับจะหลอมร่างซีดบางให้ละลายสู่เนื้อเดียวกัน


    “ คราวนี้มนสัญญา สัญญาว่าจะไม่หลับ ก่อนที่วิกจะร้องจบ วิกเคยบอกกับมนว่ามันเป็นเพลงอะไรนะจ๊ะ “


    ชายหนุ่มก้มลงจูบเบาๆที่หน้าผากของหญิงสาวอย่างสุดหวง


    “ เพลงรัก…. “


    “ จ้ะ..เพลงรักของเรา “ มนตราหลับตาพริ้มยิ้มให้กับความสุขของวันวานและวันนี้


    เสียงทุ้มต่ำกังวานขึ้นท่ามกลางความเงียบ กรวิกโยกตัวไปมาเบาๆราวกับจะกล่อมร่างบอบบางที่อิงอยู่กับอกกว้างให้หลับไหล


    ภาพซุ้มบานบุรีสีเหลืองสดริมคลองกับเด็กชายตัวโตผอมเก้งก้างและเด็กหญิงผมเปียตัวเล็กผอม ชัดเจนในความทรงจำ


    “ ขี้โกงนี่ ใบไม้ของตัวเล็กกว่าของเค้า “ เสียงแหวขึ้นพร้อมกระทืบเท้าเร่าๆอย่างไม่พอใจเมื่ออีกฝ่ายหาใบไม้ใบใหญ่ยื่นให้


    “ ก็ตัวให้เค้าหาทำไมล่ะ “ เด็กชายไม่ยอมเช่นกัน


    “ หาให้ ก็ต้องให้อันดีๆกว่าสิ “ เด็กหญิงลอยหน้าเบะปากแดงๆใส่อย่างไม่พอใจ ฝ่ายตรงข้ามไม่สนใจยังคงยื่นใบไม้ใบเดิมให้ ผลคือร่างเล็กๆทิ้งตัวลงดิ้นอยู่กับพื้นอย่างขัดใจ….เป็นวิธีที่ทำแล้วได้ผลตลอดมา


    “ เอ้า….เอาไป….ยายยุ่งเอ๊ย…” เด็กชายยื่นใบไม้ของตัวเองที่เลือกมาอย่างดีให้ พลางบ่นอุบ “ ขอเขาเล่นแล้วยังจะเรื่องมากอีก “


    “ พู่ชายต้องยอมพู่หญิงลู้มั้ย….จะได้เป็นสะพาบกะหลุดไง “ เด็กชายเบะปากอย่างรำคาญ


    “ โธ่โอ๊ย…พูดไม่ถูกแล้วยังอวดรู้อีก “


    เรือใบไม้ลำเล็กและลำใหญ่ล่องลอยไปตามน้ำจนลับตา

    จากคุณ : ยูนิคอร์น - [ 3 ธ.ค. 47 22:07:59 A:203.155.154.141 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป