ผู้คนที่นั่งอยู่ในโรงละครศาลาเฉลิมกรุงเริ่มเงียบเสียงลง เมื่อดนตรีโหมโรงซึ่งประกอบด้วยเครื่องสายไทยผสานกับวงดนตรีออเครสตร้าดังกังวานขึ้น ความงดงามของท่วงทำนองหวานพริ้ว พรากพาปัจจุบันของชายชราสูงอายุผู้หนึ่งให้หวนกลับคืนสู่ความทรงจำที่ถูกปิดตายมาเป็นเวลานับสามสิบปีมาแล้ว
เย็น
เย็นริมสองฝั่งคลอง คลอง
คลองน้ำนองสองฝั่งชล
เคย
เคยว่ายน้ำคลอสองคน จน
จนดาวหล่นลงจากฟ้า
จำ
ค่ำคืนนั้นอยู่ด้วยกัน ชมพระจันทร์สวยกับเธอ
จนได้ยินเสียงพร่ำเพ้อ ว่าฉันรักเธอ ฉันรักเธอ
เธอเสมอมา
เป็น
เป็นความหลังฝังใจ อยากบอกใคร ฉันได้รักจริง***
เสียงทุ้มทว่ากังวานหวานหยุดลงพร้อมๆนิ้วที่พรมสายกีตาร์
ฟังอยู่รึเปล่าหือ คนร้องเพลงจบชะโงกหน้าเข้าใกล้หญิงสาวที่กำลังสนใจอยู่แต่หนังสือตรงหน้า
อือ หญิงสาวตอบอย่างขอไปที มือแข็งแรงจึงกระตุกหนังสือของคนตรงข้ามออกมนตราเงยหน้าขึ้นในทันที ชายหนุ่มผิวคร้ามแดดรูปหน้าคมสันอย่างไทยแท้ จ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง หญิงสาวกลั้นหัวเราะแสร้งยิ้มให้อย่างประจบ
โธ่วิก
ขอหนังสือคืนเถอะนะ กำลังสนุกเชียว มนตราอุทธรณ์
ไม่
.เราไม่สนุกด้วยหรอก เห็นหนังสือดีกว่าฟังเราร้องเพลงดีนัก มนตราพยายามกลั้นยิ้มที่มุมปาก แต่ไม่อาจปกปิดประกายระยับในแววตาได้ ทำเอาชายหนุ่มหน้าบูดหนักขึ้น
แหมเรื่องแค่นี้เอง
เอาน่า
มนสัญญา ถ้าอ่านหนังสือเล่มนี้จบนะจะนั่งฟังวิกร้องเพลงจนจบเลย
..ทั้งวันก็ได้เอ้า หญิงสาวต่อรองทำหน้าจริงจังแต่นัยน์ตาพราวดุจเดิม
อย่ามาทำเจ้าเล่ห์ คราวก่อนก็หนหนึ่ง
..มนสัญญาจ๊ะว่าจะฟังเพลงของวิกจนจบ เขาดัดเสียงเล็กเสียงน้อย แต่ทำหน้าขึงขังเอาเรื่อง เราร้องยังไม่ทันจะจบหลับซะนี่
อ้าว
.นี่ยังไม่แสดงว่าวิกร้องเพลงได้เพราะอีกหรือจ๊ะ มนตราขึ้นเสียงสูงแสร้งทำตาโตอย่างสงสัย กรวิกยื่นหน้าเข้าใกล้ใช้มือบีบจมูกหล่อนอย่างหมั่นไส้
เขาร้องเพลงรัก ไม่ใช่เพลงกล่อมเด็กนะ เมื่ออีกฝ่ายรู้ทันหญิงสาวจึงหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ
เสียงหัวเราะใสๆปนกับเสียงทุ้มห้าวกังวานอยู่ริมชายน้ำ
เสียงไอเบาๆทำให้กรวิกตื่นจากภวังค์ เขาคว้ามือซีดขาวซึ่งเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกมากอดไว้แนบคางอย่างถนอม พลางถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ทำไมตื่นเร็วพึ่งนอนไปได้สองชั่วโมงเอง เขาถามอ่อนโยน พร้อมกับหันไปรินน้ำจากกาไฟฟ้าที่โต๊ะเล็กๆข้างเตียง มนตรามองร่างสูงใหญ่อย่างรักใคร่ ชายหนุ่มช้อนศีรษะหล่อนอย่างเบามือพลางจ่อแก้วน้ำลงตรงปากของหญิงสาว
นอนต่อไหม เขาถามเมื่อหล่อนดื่มน้ำเสร็จ วางแก้วน้ำไว้ที่โต๊ะตามเดิม มนตราเอียงคอมองดวงตามีแววสลดวูบ
วิกนั่นแหละต้องนอน
. หล่อนใช้นิ้วแตะลงตรงขอบตาเขาเบาๆ ดูสิ
ขอบตาคล้ำหมดแล้ว ระวังจะเจ็บไปอีกคน กรวิกรวบมือผอมแห้งมาแนบแก้มอย่างถนอม
ดีสิ
จะได้ไปพร้อมๆกัน เขาตอบหนักแน่น
ยังหรอก
.ยังไม่ใช่เวลาของวิก
.มนไปก่อนน่ะดีแล้ว จะได้สำรวจพื้นที่ไว้ก่อน รอวิกไงจ๊ะ ถ้าไปพร้อมๆกัน ที่ใหม่ไม่ถูกใจ วิกจะบ่นให้เท่านั้น มนตราพูดติดตลกมองหน้าเขาอ่อนโยน
ไม่.. ขอเพียงได้ไปกับมนที่ไหนวิกก็ไม่บ่น
และถ้าเป็นไปได้ วิกอยากให้มนอยู่ที่นี่
.อยู่ด้วยกัน อยู่รอคำถามจากมนว่า
.วิก
.มนอยู่กับวิกมากี่ปีแล้วนะ
แล้ววิกก็จะตอบมนว่า .. เขารั้งร่างผอมหุ้มกระดูกเข้ามากอดอย่างรักใคร่ ร้อยปีได้แล้วมั้ง ชายหนุ่มเสียงแหบพร่าขอบตาร้อนผ่าว มนตราผละออกจากอกกว้างอย่างช้าๆ มือขาวราวปราศจากสีเลือดแตะที่แก้มสากมนของชายหนุ่มอย่างรักใคร่
ใครว่ามนจะไปจากวิกล่ะ
. หญิงสาวชี้นิ้วไปที่อกซ้ายของเขา
มนอยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือจ๊ะ มนตราถามอย่างอ่อนหวาน ชายหนุ่มกลั้นสะอื้น
จ้ะ
มนจะอยู่ตรงนี้
.ตลอดไป หญิงสาวยิ้มกว้างอิงอยู่กับอกอุ่นอย่างเป็นสุข
รอบข้างเงียบสงัดมีเพียงนาฬิกาโบราณเท่านั้นที่ส่งเสียงอยู่ตลอดเวลา นอกหน้าต่าง ดาวดวงเล็กๆกระพริบแสงริบหรี่
วิก
จ๋า
เขาอ่อนหวานกับหัวใจรักของตัวเองเสมอ
มนอยากฟังเพลง
ชายน้ำนะ ชายหนุ่มยิ้มทั้งหน้า กอดร่างผอมบางแน่นขึ้น ราวกับจะหลอมร่างซีดบางให้ละลายสู่เนื้อเดียวกัน
คราวนี้มนสัญญา สัญญาว่าจะไม่หลับ ก่อนที่วิกจะร้องจบ วิกเคยบอกกับมนว่ามันเป็นเพลงอะไรนะจ๊ะ
ชายหนุ่มก้มลงจูบเบาๆที่หน้าผากของหญิงสาวอย่างสุดหวง
เพลงรัก
.
จ้ะ..เพลงรักของเรา มนตราหลับตาพริ้มยิ้มให้กับความสุขของวันวานและวันนี้
เสียงทุ้มต่ำกังวานขึ้นท่ามกลางความเงียบ กรวิกโยกตัวไปมาเบาๆราวกับจะกล่อมร่างบอบบางที่อิงอยู่กับอกกว้างให้หลับไหล
ภาพซุ้มบานบุรีสีเหลืองสดริมคลองกับเด็กชายตัวโตผอมเก้งก้างและเด็กหญิงผมเปียตัวเล็กผอม ชัดเจนในความทรงจำ
ขี้โกงนี่ ใบไม้ของตัวเล็กกว่าของเค้า เสียงแหวขึ้นพร้อมกระทืบเท้าเร่าๆอย่างไม่พอใจเมื่ออีกฝ่ายหาใบไม้ใบใหญ่ยื่นให้
ก็ตัวให้เค้าหาทำไมล่ะ เด็กชายไม่ยอมเช่นกัน
หาให้ ก็ต้องให้อันดีๆกว่าสิ เด็กหญิงลอยหน้าเบะปากแดงๆใส่อย่างไม่พอใจ ฝ่ายตรงข้ามไม่สนใจยังคงยื่นใบไม้ใบเดิมให้ ผลคือร่างเล็กๆทิ้งตัวลงดิ้นอยู่กับพื้นอย่างขัดใจ
.เป็นวิธีที่ทำแล้วได้ผลตลอดมา
เอ้า
.เอาไป
.ยายยุ่งเอ๊ย
เด็กชายยื่นใบไม้ของตัวเองที่เลือกมาอย่างดีให้ พลางบ่นอุบ ขอเขาเล่นแล้วยังจะเรื่องมากอีก
พู่ชายต้องยอมพู่หญิงลู้มั้ย
.จะได้เป็นสะพาบกะหลุดไง เด็กชายเบะปากอย่างรำคาญ
โธ่โอ๊ย
พูดไม่ถูกแล้วยังอวดรู้อีก
เรือใบไม้ลำเล็กและลำใหญ่ล่องลอยไปตามน้ำจนลับตา
จากคุณ :
ยูนิคอร์น
- [
3 ธ.ค. 47 22:07:59
A:203.155.154.141 X:
]