เช้าวันเสาร์สามภพและวศินมารับเปียที่หอเพื่อที่จะกลับบ้านต่างจังหวัดด้วยกัน โดยที่สามภพนั่งด้านหน้าคู่กับเปียซึ่งกว่าจะยินยอมมานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถของเขาได้ก็ใช้เวลานานเหมือนกัน โดยข้ออ้างของเธอก็คือ วศินแก่กว่าเธอ ( เกี่ยวอะไรมั้ยเนี่ย ) ทั้ง ๆ ที่ความจริง เธออายต่างหากที่ต้องมานั่งคู่กับเขาแล้วมีคนมานั่งมองทางด้านหลังอย่างนี้
ทันทีที่ถึงบ้านเปียก็พบว่าพ่อ แม่ ปิ๋ม น้ำและยิ้มที่กลับมาบ้านเหมือนกันมานั่งรอเธอที่บ้านแล้ว เปียจึงตรงไปไหว้พ่อกับแม่ แล้วก็เข้าไปโอบกอดเพื่อนทั้งสองด้วยความคิดถึง โดยปล่อยให้ชายหนุ่มทั้งสองคนถือกระเป๋าของเธอยืนยิ้มมองเธออยู่ ซึ่งเขาน่ะ ไม่ต้องพูดถึง โดยเฉพาะสามภพนั้นแทบจะตรงเข้าไปกราบแทบตักของพ่อแม่เปียเลยก็ว่าได้ ( ก็ว่าที่พ่อตาแม่ยายนี่นา ) แต่ทั้งสองท่านไม่รู้สึกตกใจอะไร เพราะตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมา ทั้งสองหนุ่มได้แวะเวียนมาที่บ้านเสมอ พ่อกับแม่ของเธอจึงรับรู้ได้ว่าชายหนุ่มทั้งสองรู้สึกอย่างไรก็ลูกสาวของตนเอง โดยเฉพาะนายสามภพเนี่ย คอตกทุกทีที่มาที่บ้านแล้วไม่พบกับเปีย
" คราวนี้มาได้กี่วันล่ะเปีย " คุณปฐมพ่อของเปียถามขึ้นเมื่อทั้งหมดเดินเข้ามานั่งในห้องรับแขกเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้เขาก็กำลังนั่งโอบไหล่ลูกสาวโดยที่ คุณสุนิสาภรรยาคู่ชีวิตนั่งขนาบข้างอยู่อีกข้างหนึ่ง
" ก็คงได้อาทิตย์นึงค่ะ เพราะว่าเปียต้องกลับไปเตรียมเปิดเรียน " หญิงสาวยิ้มหวานเชิงประจบ
" เห็นมั้ยปิดเรียนตั้งนานเราก็มัวแต่ไปช่วยอาจารย์ทำงาน มาทีก็อยู่ได้แป็ปเดียว " คุณสุนิสาตัวพ้อลูกสาวด้วยท่าทางงอน ๆ ทำให้ทั้งหมดหัวเราะขึ้นมาพร้อมกันด้วยความขบขัน
" ช่วยงานอาจารย์ ! " สามภพพูดขึ้นมาด้วยความสงสัย นั่นส่งผลให้เปียถึงกับถลึงตาใส่เขาเชิงห้ามไม่ให้พูดมาก เดี๋ยวความจะแตก ( คือว่าโกหกพ่อแม่ว่าจะช่วยงานอาจารย์ แต่ความจริงแล้วไปเข้าค่าย ) สามภพเห็นอย่างนั้นก็ถึงบางอ้อพลางส่ายหัวน้อย ๆ
+ แสดงว่าคุณชายธนภัทรไม่ได้ฟ้องพ่อกะแม่จริง ๆ ท่าทางกลัวเราฟ้องคุณป้าแน่ ๆ เลย +
" อะไรหรือจ๊ะพ่อภพ " แม่ของเปียถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทางแปลก ๆ ของเขา นั่นทำให้เปียยิ่งถลึงตาใส่เขาหนักขึ้น
" อ๋อ คือว่าเปียเข้าช่วยงานอาจารย์หามรุ่งหามค่ำทุกวันเลยครับ "
" อ๋อ นึกว่าอะไร "
" เอ่อ
..คุณลุงคุณป้าครับ
..ผมมีเรื่องจะปรึกษาน่ะครับ " เสียงพูดของสามภพทำให้ทุกคนหันหน้ามามองเขานิ่ง
" มีอะไรล่ะ " คูณปฐมถามชายหนุ่มด้วยสายตาสงสัย แต่เขาคิดว่าเขารู้ว่าชายหนุ่มคนนี้จะพูดเรื่องอะไร จึงหันไปสบตากับคุณสุนิสา ซึ่งภรรยาของเขาก็พยักหน้ารับ เขาจึงหันมาทางสามภพอีกครั้ง
" ว่ามาสิ ว่าแต่ทุกคนในห้องนี้ฟังได้รึเปล่าล่ะ "
" เอ่อ
ดีแล้วล่ะครับ
.อยู่พร้อมหน้ากันก็ดีแล้วครับ " สามภพหน้าเคร่งเครียดขึ้น
" งั้นก็ว่ามาสิ "
" คือผมจะพูดเรื่องผมกับ
..เปียน่ะครับ " สามภพพูดพลางมองหน้าเปีย ซึ่งพอถึงตอนนี้หญิงสาวก็พอจะรู้แล้วว่าสามภพจะต้องพูดเรื่องเธอกับเขาเป็นแฟนกันอย่างแน่นอน เธอจึงหน้าเข้มขึ้นเล็กน้อย พลางเสมองมือแก้เขิน ซึ่งเมื่อคุณปฐมกับคุณสนิสาหันมามองหน้าลูกสาวแล้วเห็นอาการดังกล่าวก็พอจะรู้แล้วว่าสิ่งที่พวกเขาคิดถูกต้อง
" อืมมม แล้วไง " เอาแล้วสิคุณปฐมสวมมาดคุณพ่อจอมหวงลูกสาวแล้ว
" คือว่าผมมีความรู้สึกที่ดีกับเปียน่ะครับแล้ว
.."
" ความรู้สึกที่ดีน่ะมันเป็นแบบไหน " อ้าว.....คราวนี้คุณแม่หวงลูกสาวขึ้นมาบ้าง
" เอ่อ
..ผมรักเปียครับ.... แล้วผม
.คือว่าผมจริงใจกับลูกสาวของคุณลุงคุณป้าจริง ๆ ครับ ผมอยากจะขอคบกับเปีย จะได้มั้ยครับ "
+ พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว เอาไงก็เอาวะ สู้โว้ยไอ้ภพ สู้โว้ย +
" แน่ใจเหรอ " คุณปฐมถามขึ้นมา หลังจากที่เงียบไปอึดใจ เขาหันไปขอความเห็นกับภรรยา ก่อนที่จะหันมาพูดกับสามภพ
" ครับ ผมยังไม่เคยแน่ใจอะไรในชีวิตเท่ากับครั้งนี้เลยครับ "
" ดี แล้วเราว่าไงล่ะเปีย "
" ค
.คะ อะไรคะคุณพ่อ " เปียที่นั่งเขินอยู่ตรงนั้นถึงกับสะดุ้งเมื่อถูกผู้เป็นพ่อถามขึ้น
" ลูกยินดีที่จะคบกับคุณสามภพเค้ารึเปล่า "
" ค่ะ "
" ค่ะนี่มันหมายความว่าไงจ๊ะเปีย " คุณสุนิสาหันมาถามลูกสาว
" ก็ยินดีค่ะ โธ่คุณแม่คะอย่ามองหนูอย่างนี้สิ "
" อ้าว....ก็แม่ไม่เคยเห็นหนูอายอะไรอย่างนี้นี่นา ก็เลยอยากมองให้เป็นขวัญตาซักหน่อย "คำตอบนี้เรียกเสียงหัวเราะได้จากคนรอบข้าง เป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดดี ๆ นี่เอง
" ได้ แต่คุณต้องสัญญานะว่าจะดูแลลูกสาวผมให้เป็นอย่างดี "
" ผมสัญญาด้วยชีวิตครับ "
" แต่ว่าเปียอยู่กรุงเทพ แล้วคุณสามภพก็อยู่กรุงเทพ เป็นแฟนกันนี่จะเป็นข้อครหารึเปล่าฮึคุณ " คุณปฐมหันมาถามภรรยา ( โห เพิ่งจะรู้ว่าพ่อกะแม่นางเอกเราหัวโบราณขนาดนี้ แค่เป็นแฟนกันเฉย ๆ เนี่ยนะ ยังกะจะไปเรียนเมืองนอกด้วยกัน )
" แล้วเราจะทำอย่างไรดีล่ะคุณ " สามภพมองหน้าบุคคลทั้งสองอย่างตัดสินใจ แล้วกล่าวขึ้นว่า
" แล้วถ้าผมจะขอหมั้นเปียไว้ก่อนล่ะครับ "
" อะไรนะ !!!!!! " เสียงเปียร้องดังลั่นก่อนจะก้มหน้าเหมือนเดิมเมื่อสามภพมองหน้าเธอพลางส่งสายตาหวานเชื่อม
" ตกลง ว่าแต่ตอนไหนล่ะ "
" แล้วคุณลุงคุณป้าจะว่าอะไรมั้ยครับถ้าผมจะขอเป็นตอนนี้เวลานี้ "
" อะไรนะ!!!!!!!! " คราวนี้ไม่ใช่แค่เสียงของเปียเพียงคนเดียวแต่เป็นเสียงของทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าจะเป็นคุณปฐม คุณสุนิสา วศิน ปิ๋ม น้ำ และยิ้ม ส่วนคุณปฐมเห็นอย่างนั้นจึงอยากจะลองดีกับชายหนุ่มตรงหน้า
" แล้วคุณมีของหมั้นแล้วหรือไงครับ "
" ผมมีแหวนทองคำขาวเกลี้ยง สลักนามสกุล "เสถียรชัย " ซึ่งเป็นแหวนประจำตระกูล ที่คุณพ่อของผมเอาไว้หมั้นคุณแม่ แล้วให้ผมมาไว้หมั้นกับผู้หญิงที่ผมรักครับ "
" อือ......ฮื้อ
." เสียงคลางของสักขีพยานดังขึ้นเมื่อเห็นถึงความพร้อมของเขา ( เตรียมการมาดีเนอะ ยังกะวางแผนเอาไว้ )
" งั้นเปียลูกจะว่ายังไงล่ะ ตกลงมั้ย " เปียเงยหน้าขึ้นมาสบตากับสามภพอย่างตัดสินใจ ก่อนจะสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วตอบว่า
" เอ่อ......ค่ะ "
" ครอบครัวเราถึงจะไม่ได้ร่ำรวยมาจากไหน แต่เราก็ไม่ได้ต้องการที่จะขายลูกสาวของเรา ดังนั้นของหมั้นของเราผมขอแค่ คุณดูแลลูกสาวของเราให้ดีที่สุด รักเขาอย่างที่พวกเรารัก อย่าทำให้เธอเสียใจ ไม่อย่างนั้นผมเอาตาย ( โหดวุ้ย! ) เท่านั้นก็คงจะพอ คุณจะให้พวกเราได้รึเปล่าล่ะกับของหมั้นอย่างนี้ "
" ได้ครับ " สามภพตอบขึ้นมาทันทีโดยไม่ต้องคิด
" งั้นตกลง เปียลงมานั่งข้างล่าง ส่วนคุณมานั่งข้าง ๆ เปียนี่เร็ว "
เมื่อทั้งหมดตกลงกันได้พิธีหมั้นแบบเรียบง่าย และฉับไวก็เกิดขึ้น โดยที่ตลอดเวลานั้นสายตาของสามภพกับเปียก็จ้องมองกันอย่างซาบซึ้ง แล้วสามภพก็บรรจงสวมแหวนทองคำขาวเกลี้ยงนั้นที่นิ้วนางข้างซ้ายของเปียอย่างถนุถนอม ท่ามกลางคนในครอบครัวของฝ่ายหญิงและเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่ายเป็นสักขีพยาน เมื่อสามภพสวมแหวนให้เปียแล้ว แม่ของเปียจึงบอกให้เธอไหว้สามภพ และสามภพก็ไหว้ตอบเปีย เป็นอันว่าพิธีได้เสร็จสิ้นลงแล้ว
แต่ว่าโลกของเปียกับสามภพยังไม่จบสิ้น ทั้งสองนั่งจ้องมองกันนิ่งนาน ซึ่งคนอื่น ๆ พยักเพยิดพากันเดินออกมาอย่างเงียบกริบ ทิ้งไว้แค่สองคนนี้เท่านั้น ส่วนสามภพเมื่อรู้สึกว่าเหลืออยู่แค่สองคน จึงขยับเข้ามาใกล้เปียมากขึ้น ดึงมือของเปียมากุมเอาไว้ ถ่ายทอดความรักทั้งหมดของเขาทางสายตาก่อนที่จะถามเปียขึ้น
" เปียไม่โกรธพี่แน่นะ "
" คะ
.ว่าอะไรนะคะ " เปียสะดุ้งขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของเขา
" โกรธพี่มั้ยที่พี่ไม่บอกกล่าวเปียก่อน "
" แล้วจะให้โกรธรึเปล่าล่ะ " เปียแกล้งทำเสียงสะบัดเล็กน้อย
" โธ่อย่าโกรธพี่เลยนะครับ "
" ถ้าไม่โกรธแล้วจะให้อะไร "
" หอมทีนึง "
" เปี๊ยะ ! "เสียงฝ่ามือของเปียกระทบลำแขนของชายหนุ่มอย่างไม่จริงจังนัก หน้าของเธอตอนนี้ช่างน่ามองจริง ๆ เลย แดงอย่างกับลูกตำลึงสุก สีหน้ายิ้ม ๆ เล็กน้อย แต่ไม่มองหน้าเขาหรอก นี่เขาชักจะอิจฉาพื้นแล้วนะ ที่เปียมองแต่มันโดยไม่มองหน้าเขา
" โอ้ย! อย่าทำร้ายร่างกายพี่เลย พี่กลัวแล้วทูลหัว อยากให้พี่ทำอะไรพี่จะถวายหัวให้เลยนะ
น้าาาา
อย่าโกรธพี่เลยนะ "
" ก็ได้ " หญิงสาวทำท่าเหมือนกับตัดใจยกโทษให้เขา
" งั้นคราวนี้พี่ขออะไรอย่างนึงนะ "
" อะไรล่ะ "
" กอดทีนึงนะครับ "
จากคุณ :
ทรายสีชมพู
- [
วันพ่อแห่งชาติ 12:16:45
A:203.156.52.34 X:
]