2
..
ในที่สุดผมก็ต้องเป็นฝ่ายใจอ่อนยอมไปช่วยยัยตุ๊กแกแก่แดดนั่นยกกระเป๋าจนได้ ที่ช่วยก็ไม่ใช่ว่าเกิดพิศวาสหล่อนขึ้นมาหรอกนะครับ เพียงแต่ว่าความเป็นลูกผู้ชายที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในตัวผม มันบอกให้ผมทำไปตามที่ควรก็แค่นั้น
หนำซ้ำพอตอนที่ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ยัยบ้านี่กลับเชิ่ดหน้าเดินผ่านผมไปหน้าตาเฉย
สงสัยตอนเด็กๆ ยัยนี่ต้องเคยผ่านการอบรมมารยาททรามมาก่อนแน่ๆ
การเดินทางไปถึงเกาะพีพีนั้นจะใช้เวลานานประมาณ 2-3 ชั่วโมง ผมลากเก้าอี้พลาสติกแยกมานั่งคนเดียวอยู่ตรงริมระเบียงชั้นสามของเรือเพื่อรับลมทะเล ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติแทบทั้งนั้น ส่วนผมเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษเลยไม่มีปัญหาอะไรในการทักทายพูดคุยกัน
ผมเกิดปวดท้องเบาขึ้นมา เลยจำใจต้องลุกไปใช้บริการห้องน้ำรวมที่ชั้นล่างสุดของเรือ และในจังหวะที่ผมลุกขึ้น
ว๊าาาย ยัยบ้านี่อีกแล้ว ! ผมชนเธอเข้า ทำให้แก้วน้ำในมือเธอกระฉอกเลอะเสื้อผ้า (ที่ไม่รู้จะใส่ไปทำไม) ของเธอ
ขอโทษที ผมเอ่ยขอโทษสั้นๆ แต่ด้วยความจริงใจนะครับ ก็ทางมันแคบขนาดนี้ ยังจะเดินเข้ามาทำไมนะ ?
อี๋
.อีตาบ้า อีตาผู้ชายขี้เรื้อน ทำเสื้อคนอื่นเขาเลอะเทอะ แล้วยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกหรอ ?
อะไรของเธอ ? ฉันนั่งของฉันอยู่ตรงนี้แท้ๆ เธอนั่นแหละ ยัยตุ๊กแกแก่แดด ที่ทะเล่อทะล่าเข้ามาชนฉัน ก็มันจริงนี่ครับ
ใครจะหาว่าผมรังแกผู้หญิงก็เอาเถอะ แต่ถ้าเป็นคนอื่น ผมว่าบางที ยัยนี่อาจจะกระเด็นลงไปเป็นอาหารปลาในทะเลแล้วก็ได้
ไม่รู้ล่ะ นายต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ฉัน รู้มั้ยว่าเสื้อตัวนี้น่ะ เท่าไหร่ ? ดูหล่อนทำท่าเข้า ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอกนะครับ เพียงแต่รู้สึกขายหน้าแทนเธอก็เท่านั้น
ตัวนี้น่ะเหรอ ? 39 ถึงมั้ย ? หรือถ้าถูกไปงั้นก็คงเป็น 59 บาท ขาดตัว ก็จริงนี่ครับ
ผมเพิ่งรู้ว่ายัยนี่ก็มีรสนิยมชอบโชว์สีผิวที่เหมือนจิ้งจกของตัวเองให้ชาวบ้านเขาดู
ว่าไงนะ ?! นี่แน่ะ ตุ๊บ !
.ตอนนี้ผมกระโดดโหยงเหยงเหมือนกุ้งเต้นก็ไม่ปาน จะร้องโวยวายออกมาก็ไม่ได้ ก็ยัยนี่เล่นกระแทกหลังเท้าผมด้วยรองเท้าส้นสูงราวตึก 18 ชั้นของเธอ แถมยังใช้ส่วนที่เป็นส้นบี้ไปมาด้วยสีหน้าสะใจอีกต่างหาก
นี่ถ้าแถวนี้มีกองถ่ายหนังกำลังขาดนางอิจฉาอยู่ล่ะก็ ผมจะลากยัยนี่ไปเสนอถึงที่เลย
อย่างยัยตุ๊กแกนี่ต้องให้ชื่อเรื่องว่า..นังมารขาตะเกียบ ^_^
ขอแอบสะใจหน่อยก็ยังดี
ผมเดินกะเผลกลงไปเข้าห้องน้ำด้วยความยากลำบาก หลังจากที่ยอมให้ยัยนั่นทำร้ายร่างกายจนพอใจแล้วก็วิ่งหนีไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
กลับจากไปเที่ยวคราวนี้ เห็นทีผมจะต้องไปทำบุญกับเขาบ้างแล้ว เพราะเคยได้ยินมาว่า ถ้าเราไปทำอะไรใครไว้ในชาติก่อน ก็จะกลายมาเป็นเวรกรรมตามชดใช้กันในชาตินี้
บางทีชาติที่แล้ว ผมอาจจะเคยฆ่าพวกตุ๊กแกไว้เยอะก็ได้ >_<
ท่านผู้โดยสารครับ หลังจากลงเรือแล้วขอให้ทุกท่านไปพร้อมกันที่จุดทานอาหารนะครับ ทางเรามีอาหารบริการท่านหนึ่งมื้อ แล้วสำหรับท่านที่จะดำน้ำชมความงามของปะการังหรือเดินเที่ยวชมรอบๆเกาะก็ขอให้กลับมาเจอกันที่เรือตอนบ่ายสามโมงนะครับ หากผู้โดยสารท่านใดมีความประสงค์จะค้างที่เกาะก็ขอให้เก็บตั๋วไว้แสดงให้เจ้าหน้าที่ดูในวันที่ท่านกลับด้วยนะครับ ขอบคุณครับ เสียงวิทยากรบนเรือพูดดังออกมาจากลำโพง ผมหยุดฟังจนจบแล้วก็ตัดสินใจเดินลิ่วไปบนสะพานขึ้นฝั่ง เพื่อไปที่จุดบริการอาหารมื้อเที่ยงก่อนใครเพื่อน
ตะกละ !! เสียงแจ๋นของใครบางคนดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ชีวิตนี้ผมคงจะหนีเธอไม่พ้นจริงๆ แต่ผมไม่มีอารมณ์จะไปต่อล้อต่อเถียงกับใครตอนนี้หรอก
ความหิวที่มีอยู่อาจจะทำให้ผมบีบคอยัยตุ๊กแกนี่ตายคามือได้
เดินนำหน้าชาวบ้านเขามาแบบไม่มีมารยาท ไม่รู้ว่าไปตายอดตายอยากมาจากไหน ! ผมยังคง(พยายาม)นิ่ง เดินต่อไปอย่างไม่แยแส แต่ว่านั่นคงจะเป็นเหมือนการราดน้ำมันลงบนกองไฟแน่ๆ เพราะดูเหมือนหล่อนจะโมโหที่ทำอะไรผมไม่ได้
เฮ้ยยย ! นี่มันอะไรกันนักหนา ใครก็ได้ช่วยยืนยันกับผมทีว่ายัยนี่เป็นคนจริงๆ ไม่ใช่นางมารร้ายที่ไหน ก็ดูสิ ! พอพูดจาถากถางผมแล้วไม่สะใจตัวเอง ก็เลยเหยียบส้นรองเท้าแกล้งให้ผมสะดุด นี่ถ้าผมทรงตัวไว้ไม่อยู่ มีหวังได้หน้าทิ่มตกสะพานแน่ๆ
ผมจะเอาคืนจากเธอยังไงดีเนี่ย ?
ซุ่มซ่าม !!! หล่อนกระแทกกระทั้นด่าผมทิ้งท้ายไว้ ก่อนจะเดินหัวเราะเยาะนำหน้าผมไป นี่มันครั้งที่สองของวันนี้แล้วนะ ที่ยัยนี่ทำร้ายร่างกายผมแล้วก็เดินจากไปอย่างไม่ใยดี ที่สำคัญตอนนี้ท้องไส้ของผมเริ่มทำงานไม่เป็นปกติแล้ว อาจจะเพราะความหิวแล้วก็โรคกระเพาะเพื่อนเก่าของผมถามหาเลยทำให้ผมปวดท้องมากขนาดนี้
ผมลดความเร็วของฝีเท้าลง ใจจริงอยากจะลงไปนอนขดกับพื้นถนนให้มันรู้แล้วรู้รอดเสียด้วยซ้ำ แต่ว่าผมมาคนเดียวก็ต้องอดทนเข้าไว้ ที่สำคัญ ยัยกุ้งแห้งตกมันที่เดินเหมือนอยู่บนแค็ตวอร์กข้างหน้านั่นต้องหัวเราะเยาะผมดังลั่นแน่ๆ ถ้ารู้ว่าคนตัวโตอย่างผมเป็นโรคกระเพาะขั้นรุนแรง
ผมอยากจะทนให้ได้นานกว่านี้ ด้วยหวังว่าบางทีพอมีอาหารตกถึงท้องอาการต่างๆอาจจะทุเลาลงบ้าง แต่แล้วผมก็พบว่าความพยายามนั้นกำลังล้มเหลว
โอ๊ยย.. ผมเลี่ยงออกมาตรงไหล่ทางทรุดตัวลงกับพื้นช้าและเงียบที่สุด ผมขดตัวแน่นขึ้นเรื่อยๆ
นี่ เป็นอะไรไปน่ะนายขี้เรื้อน ? จะมีใครได้ ที่เรียกผมแบบนี้ถ้าไม่ใช่ยัยโรคจิตนั่น ผมพยายามจะบอกเธอว่า อย่ามายุ่งกับผม แต่ว่าคงไม่ใช่ตอนนี้ ริมฝีปากของผมเริ่มสั่นมากขึ้น รู้สึกได้ถึงความเย็นเฉียบของฝ่ามือและใบหน้า
เอ๊ะ ! ทำไมนายหน้าซีดจังเลยล่ะ ? เธอย่อตัวลงมา พยายามมองสีหน้าของผมซึ่งนั่งก้มหน้าอยู่
ปวววด
..ปวด
.ท้อง ผมกัดฟันพูดออกมาอย่างยากเย็นเต็มที โลกหมุนเร็วขึ้นแล้วตอนนี้ ผมพยายามมองผู้หญิงตรงหน้า ส่งสายตาที่พร่ามัวนั้นไปพร้อมกับความรู้สึกสุดท้ายว่า
อย่ามายุ่งกับฉันนะ ยัยบ้า
ผมนอนเพ่งตามองเพดานของที่ไหนสักแห่ง อาการปวดท้องยังปะปนอยู่กับความรู้สึกคลื่นไส้เป็นระยะ ผมกวาดตามองไปรอบๆถึงได้รู้ว่าที่นี่เป็นห้องขนาดกลาง และมีใครบางคนนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เก้าอี้รับแขกตรงปลายเท้าผม
เธอนั่นเอง..ยัยบ้า
ทำอะไรน่ะ ? นายหายดีแล้วหรือยังไง ? เธอถามผมเมื่อเห็นผมยันตัวลุกขึ้นจากที่นอน น้ำเสียงนั่นก็ไม่ได้แสดงออกถึงความเป็นห่วงเลยสักนิด
เธอทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ ? แล้วนี่มันกี่โมงแล้ว ?
ฉันก็เป็นคนแบกนายมาที่บังกะโลนี่น่ะสิ ถามได้ เล่นเป็นลมไปตอนที่คนอื่นเขาเดินกันไปไกลลิบแล้ว แล้วตอนนี้ก็บ่ายสามโมงแล้วด้วย
ฉันยังไม่ได้กินข้าวก็เพราะนายนั่นแหละ รู้แบบนี้ไม่น่าถามเลย
ยัยนี่ขี้บ่นชะมัด !!!
อืม ฉันก็หิวเหมือนกันแหละน่า ยัยขี้เหร่ ทำมาเป็นรำเริบบุญคุณไปได้
นี่นาย
เลิกเรียกฉันว่ายัยขี้เหร่ ซักทีได้ไหม ? ฉันชื่อปอย่ะ
งั้นเธอก็เลิกเรียกฉันว่า นายขี้เรื้อนซะทีสิ ผมลุกขึ้นเตรียมตัวจะไปกินข้าว (แบบตัวใครตัวมัน)
ของฟรีน่ะหมดตั้งแต่เที่ยงแล้ว ถ้าอยากกินข้าวก็ไปซื้อกินเอาโน่น ฮึ้ย!! เพราะนายคนเดียวเลย
โธ่
ยัยขี้งก !!! ผมตะโกนว่าตามหลังคนที่เดินกระแทกส้นเท้าออกไป
ในที่สุดผมก็ปากพล่อยไปเสนอว่าจะเลี้ยงข้าวเธอเป็นการตอบแทน ถึงได้มานั่งกุมขมับอยู่แบบนี้ ก็ดูหล่อนสิ สั่งอาหารแต่ละอย่างราคาแพงหูฉี่ เพราะปกติบนเกาะนี้ค่าครองชีพต่างๆก็สูงอยู่แล้วเนื่องจากเขาจะปั่นไฟฟ้าใช้กันเอง แล้วยัยนี่เล่นสั่งเป็นชุดจนบริกรจดแทบไม่ทัน นี่ผมจะมีงบเหลือพอถึงวันอื่นๆด้วยไหมเนี่ย ? >_<
หลังจากที่ผมกับหล่อนทานอาหารมื้อกลางวันกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมแทบไม่มีแรงจะควักเงินออกจากกระเป๋า ทั้งหมดเกือบ 3,500 บาท ซึ่งความจริงเธอน่าจะอิ่มตั้งแต่ 500 บาทแรกแล้ว แต่ก็ยังดันทุรังสั่งมาให้มันเหลือบานเบอะ เพียงเพราะอยากจะแกล้งผม
ผมเริ่มคำนวณถึงเงินที่จ่ายไปเมื่อครู่ ค่าห้องพักแบบพัดลมคืนละ 700 บาท ถ้าเอาเงินที่ยัยนี่ช่วยผมผลาญไปเมื่อกี๊มาเป็นค่าห้องล่ะก็ ผมจะอยู่ได้ถึง 5 คืน (T_T)
ยัยปีศาจ ! ผมแอบว่าเธอตามหลัง
ว่าไงนะ ?! ยัยนี่หูไวเหมือนตัวอะไรน้าาา
.^_^
อะไรนะครับ ?! ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เมื่อเจ้าของที่พักบอกกับผมว่า ห้องทุกห้องเต็มหมดแล้ว หลังจากที่ผมเดินหาที่พักมาจนรอบเกาะแบบไม่เลือกว่าจะเป็นห้องพัดลมหรือห้องแอร์ โดยเลี่ยงที่นี่เอาไว้ เพราะว่ายัยนั่นจองห้องพักอยู่ (ก็ห้องที่ผมนอนพักตอนหมดสติไปนั่นแหละครับ) แต่สุดท้ายคำตอบที่ผมได้ก้ไม่แตกต่างจากที่อื่นๆ นั่นคือ ทุกห้องเต็มหมดแล้ว
ฮ่าๆๆ ไม่มีที่นอนแบบนี้ ก็แย่ล่ะสิ ยัยนี่แอบมาฟังผมคุยกับเจ้าของห้องพักตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
ถ้างั้นคืนนี้ผมจะกลับไปนอนที่ภูเก็ตก่อน แล้วพรุ่งนี้จะมาใหม่ละกันครับ ผมตัดปัญหา
เอ่อคุณครับ..ห้องพักของเรามีสองเตียงใหญ่วางอยู่คนละฟากของห้อง พวกคุณเป็นเพื่อนกันทำไมไม่พักด้วยกันล่ะครับ ?จะได้ช่วยกันออกค่าเช่า แล้วพอมีห้องว่าง คุณผู้ชายก็ค่อยย้ายไงครับ เจ้าของพูดกับผมด้วยรอยยิ้ม ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น ผมแทบจะหวีดร้องออกมาด้วยความสะพรึงกลัวอย่างสุดชีวิต
ก็จะให้ผมอยู่กับยัยตุ๊กแกสองต่อสองเนี่ยนะ !
ผมยอมนอนที่ชายหาดให้ผีทะเลมันขึ้นมาลากไปยังจะดีเสียกว่า !
จากคุณ :
sadmoon
- [
6 ธ.ค. 47 22:03:45
A:61.90.53.138 X:
]