สวัสดีค่า เดซี่ขออนุญาตเปลืองเนื้อที่ถนนหน่อยนะคะ
แบบว่า ซี่เอาที่ลงไปตอนนู้น มารีไรท์ใหม่อีกรอบ ในส่วนของการใช้คำนิดหน่อย
ก็เพราะ ซี่ย้อนกลับไปอ่านแล้วรู้สึกว่าบางจุดมันไม่เนียนเท่าที่ควร
อ้อ ไม่ใช่ตอนที่แล้วนะคะ เป็นตอนก่อนหน้านั้นค่ะ
ส่วนเรื่องใหม่นั้น ใกล้เสร็จแล้วค่ะ เหลือช่วงท้ายอีกนิดเดียว
ไม่นานก็จะเอามาลงให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน (และก็วิจารณ์ด้วยนะคะ)
เดี๋ยวซี่มาตอบความคิดเห็นที่แล้วที่ยังค้างอยู่นะคะ (อยู่ข้างล่างค่ะ)
....................................................................
มือถือเป็นเหตุ (อีกแล้ว)
โรงเรียนกวดวิชากาว้องในย่านสยามเซ็นเตอร์ คลาคล่ำไปด้วยเด็กหนุ่มสาวผู้ใฝ่วิชาและความฝัน มิ้นท์ กิ๊ก และโม สามสาวเพื่อนซี้เดินตามหลังเพื่อนร่วมชั้นกลุ่มใหญ่ออกมาจากห้องติวหลังหมดคาบเรียน เมื่อถึงด้านหน้าโรงเรียน โม เด็กสาววัยสิบสี่ตัวเล็กสุดแต่ห้าวสุดในกลุ่มก็บ่นกระปอดกระแปดขึ้นมาทันที
โหย.. ยากชิบเป๋งเลยว่ะ จารย์แกขุดเนื้อหาที่ไหนมาสอนวะ!
กิ๊ก มองหน้าเพื่อนผู้มีดวงหน้าขาวรูปไข่ ผมซอยสั้น มองไกลๆ นึกว่าเด็กผู้ชาย อย่างระอา
ก็คราวที่แล้วแกเล่นโดดไปดูคอนเสิร์ตทำไมล่ะ ฉันเตือนแล้วนะ จารย์จีสตริงอะเค้าสอนต่อจากอาทิตย์ก่อน
อาจารย์เค้าชื่อปลิง ไม่ใช่จีสตริง กิ๊กนี่ก็ เรียกให้ถูกๆ หน่อยสิ
มิ้นท์ สาวน้อยหน้าใสเด้งน่ารักสุดในกลุ่มประท้วง ก็เธอชื่นชอบอาจารย์คนนี้เป็นพิเศษนี่นา กิ๊กเลยใช้ปลายนิ้วจิ้มไปตรงแก้มของเธอ พลางพูดสัพยอก
แหมๆ ไม่ได้เลยนะจ๊ะ แซวจารย์ปลิงนิดหน่อย มีเคืองๆ
มิ้นท์หน้าแดง บ้าสิ! ฉันก็แค่ไม่อยากให้เธอไปเรียกอาจารย์เขาอย่างนั้น มันไม่สุภาพ
ฮิๆ เอาเหอะ กิ๊ก ปล่อยให้แม่สาวช่างฝันเค้าไว้คน ไงก็ได้แต่เพ้อแอบมองครูหนุ่มหล่ออยู่ข้างเดียวเท่านั้นแหละ โอ๊ย!!
แม่ทอมสาวร้องลั่นหน้าคะมำ ลงไปจับกบกับพื้นปูตัวหนอน ข้าวของรวมทั้งหนังสือเรียนหล่นกระจายเต็มพื้น พอตั้งหลักได้ก็หันขวับไปเอาเรื่องคนที่ชนเธอจากทางด้านหลัง โกรธควันแทบออกหู
เดินภาษาไรวะ มีตาหรือเปล่าวะแก!
คนถูกว่ามีตา แถมมีสี่ตาเสียด้วย เป็นเด็กหนุ่มตี๋ๆ สวมแว่นตากรอบดำหนาเตอะ ตัวเล็กผอม มือทั้งสองข้างกางหนังสือค้างไว้ ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็เด็กเรียนเต็มขั้น ใบหน้าซึ่งขาวอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งขาวซีดขึ้นไปอีก เขารีบพูดอย่างลนลาน
ขะ ขอโทษครับ! คือผมมัวแต่ดูหนังสือเลยไม่ได้มองทาง ขอโทษด้วยจริงๆ
ขอโทษแล้วมันจะหายเหรอไง แล้วมัวยืนเซ่ออยู่นั่นแหละ มาช่วยกันเก็บหน่อยสิวะ!
โมโวยวายและเรียกเขา เพราะเด็กคนอื่นๆ ที่กำลังทยอยออกมาเริ่มมุงดูด้วยความสนใจ กิ๊กและมิ้นท์รีบก้มลงไปช่วยโมเก็บใส่กระเป๋า เด็กหนุ่มหน้าตี๋ได้สติ จึงเข้าไปช่วยอีกแรง พอส่งปากกาดินสอกดลายเหมียวคิตตี้เป็นชิ้นสุดท้ายให้โม เขาเอ่ยปากขอโทษอีกครั้ง เด็กสาวเห็นว่านายคนนี้ท่าทางเรียบร้อย และคงไม่ได้ตั้งใจแกล้ง เลยกะว่าจะอภัยให้ แต่แล้วก็ต้องเลิกล้มไป ถ้าไม่ใช่เพราะกิ๊กเดินผมยาวสยายเข้ามาด้วยความกระวนกระวาย
โม! โม! มือถือของแกเป็นรอยเลยว่ะ ไม่รู้ข้างในเสียหรือเปล่า?!
โมรีบคว้าโทรศัพท์ในมือเพื่อนมาลองเปิดเครื่องอย่างตื่นตระหนก ทดสอบอยู่ซักพักจึงรู้ว่าเสีย เธอกระชากคอเสื้อนายแว่นตาตี๋อย่างแรง
เฟ้ย! เครื่องฉันพังเละหมดแล้วดูซิ แกจะว่ายังไงวะ!
โม! ใจเย็นๆ หน่อยสิ ค่อยพูดค่อยจากันดีๆ
มิ้นท์จับมือของโมข้างที่กำคอเสื้อเด็กหนุ่มไว้เป็นการห้าม โมยอมคลายมือออก เสื้อของเด็กแว่นยับยู่ยี่ เขาปาดเหงื่อแล้วพูดว่า
ผมจะเอาไปซ่อมให้ครับ ค่าซ่อมทั้งหมดผมจ่ายเอง
โมขยับเข้ามาใกล้จนเกือบชิด ดวงตากลมโตจ้องมองเขาเขม่ง เด็กหนุ่มได้กลิ่นโคโลญหอมจางๆ ทำเอาหัวใจเต้นผิดจังหวะเป็นครั้งแรก
มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วนายตี๋สี่ตา ว่าแต่..
เธอหยุดพูด แล้วมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า โมคิดในใจว่านายคนนี้แต่งตัวได้สะตึเป็นที่สุด ส่วนหนุ่มน้อยกลับรู้สึกร้อนวูบ ไม่อาจทนต่อสายตาของเด็กสาวตรงหน้าได้
อย่างนายเนี่ย มีเงินจ่ายเรอะ ของฉันรุ่นใหม่น้า แพงด้วย
โมกล่าวต่อจนจบด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก หน้าเชิดหน่อยๆ
โม! มิ้นท์ปราม แต่กิ๊กกลับพูดว่า
นี่ๆ นายแว่น เพื่อไม่ให้นายเบี้ยวไม่จ่าย ส่งบัตรประจำตัวนักเรียนมาเสียดีๆ ไม่งั้นละก็!
ช่าย.. ไม่งั้นละก็!
โมหักนิ้วกร๊อบๆ ข่มขู่ หาความเป็นหญิงในตัวเธอไม่ได้สักนิด ส่วนนายตี๋นั้นลมจะใส่อยู่รอมร่อแล้ว
เครื่องฉันส่งไปศูนย์ซ่อมแล้วนะ แล้วไหนล่ะเงิน? โมแบมือ
สามวันต่อมาหลังเลิกเรียนแล้ว โมนัดเด็กหนุ่มที่ทำโทรศัพท์มือถือของเธอเสียเพื่อรับเงิน ณ ร้านชานมไข่มุกแห่งหนึ่งแถวเซ็นเตอร์พ้อยท์ วันนี้เด็กสาวมาในชุดนักเรียนมัธยมต้นของโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง เธอสวมกระโปรงสีน้ำเงินยาวเลยเข่าเล็กน้อย ค่อยดูสมเป็นเด็กผู้หญิงมากกว่าครั้งที่เด็กหนุ่มเจอะเจอเมื่อวันก่อน
ว่าไงนายแว่น ไหนล่ะเงิน? โมย้ำอีกรอบ เขากลืนน้ำลาย
เอ่อ.. ผมชื่อวิทย์ครับ ไม่ใช่นายแว่น แล้ววันนี้เพื่อนๆ คุณไม่มาเหรอ?
เด็กหนุ่มพยายามผูกมิตร แล้วใช้รอยยิ้มเข้าสู้
ชื่ออะไรก็ช่าง วันนี้ฉันมาเดี่ยว พวกนั้นไม่ว่าง
ถ้างั้นดื่มอะไรก่อนมั้ยครับ เดี๋ยวผมสั่งให้
นี่ๆ มัวแต่โยกโย้โยเยอยู่นั่นแหละ ไม่หิว! มีอะไรก็พูดออกมาตรงๆ เลยดีกว่า ไม่ต้องทำมาเป็นเฉไฉเบี่ยงประเด็น
คือจริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ก็แค่..
วิทย์ทำท่ากระสับกระส่าย แล้วก้มหน้าลงต่ำ พูดเบาจนเกือบเป็นเสียงกระซิบ
แค่ตอนนี้ผมไม่มีเงินจ่าย
ว่าไงนะนายแว่นตี๋สี่ตา!! วิทย์สะดุ้งโหยง แล้วพ่อกับแม่ละมีไว้ทำไม นายไปขอพวกเขามาใช้ให้ก็ได้นี่
กะ ก็นั่นแหละครับที่เป็นปัญหา คือผมอาศัยอยู่กับลุง ท่านเป็นคนรับผิดชอบค่าเล่าเรียนกับค่าขนมให้ผม แค่ทุกวันนี้ผมก็เกรงใจท่านจะแย่อยู่แล้ว ผมไม่กล้าไปขอท่านหรอกครับ
พอโมได้ฟังเหตุผลก็เริ่มอ่อนลง แต่ยังไงเธอก็พูดขึ้นว่า
แล้วมือถือของฉันจะว่ายังไงล่ะ นายจะเอาเหตุผลแค่นี้มาอ้างไม่ได้หรอกนะ
ปะ เปล่าครับ ยังไงๆ ผมก็ต้องชดใช้คุณอยู่แล้ว แต่ว่าผมคงต้องขอเวลาหน่อย คือผมจะทำงานพิเศษหาเงินน่ะครับ
โมเลิกคิ้วสงสัย นายหน้าจืดท่าทางเด็กเรียนแบบนี้จะทำงานอะไรเป็น ทำงานในห้องสมุดหรือไง?
แล้วนายจะทำงานอะไรล่ะ หาได้แล้วเหรอ?
วิทย์ยิ้มกว้าง รอยยิ้มตรงมุมปากของเขาดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก โมอดลอบมองไม่ได้ หัวใจเต้นตึกตัก
ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านนี้แหละครับ พอดีรู้จักกับพี่เจ้าของร้าน ผมขอร้องเธอไว้แล้ว
เหรอ.. ดีแล้วตั้งใจทำงานเข้าละกัน
โมให้กำลังใจเขา รู้สึกว่าความที่ไม่ชอบขี้หน้านายแว่นหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แม้ว่าจะต้องจ่ายค่าซ่อมโทรศัพท์มือถือในอีกไม่กี่วัน ออกให้ก่อนก็ได้ โมคิด เธอไม่เดือนร้อนเรื่องเงินอยู่แล้ว ทางบ้านของเด็กสาวมีฐานะค่อนข้างดี
งั้นฉันขอเป็นลูกค้านายคนแรกเลยได้เปล่า โดยไม่รอคำตอบ โมก็สั่งเครื่องดื่มทันที ขอชาเขียวไข่มุกแก้วนึง อ้อ ใส่นมเยอะๆ นะ ฉันชอบ
ดะ ได้สิ รอเดี๋ยวนะ
วิทย์กระวีกระวาดลุกขึ้นแล้วเข้าไปหลังเคาน์เตอร์ แล้วชงชาใส่น้ำแข็งให้เธอ โดยมีพี่เจ้าของร้านคอยช่วยกำกับวิธี
จากคุณ :
เดซี่น้อย
- [
8 ธ.ค. 47 06:02:29
A:203.150.193.16 X:
]