ยี่สิบธันวาคมแล้ว เหลืออีกแค่ 20 วันพอดี ที่ฝัดต้องจากผืนแผ่นดินไทยไป
ช่วงนี้เขาและแม่ยังไม่เข้าที่เข้าทางสักเท่าไหร่ บ้านหลังใหญ่ที่มีเครื่องเฟอร์นิเจอร์จำเป็นไม่กี่ชิ้น รอให้มีคนมาเช่ามาเป็นเวลานาน
จนบัดนี้ยังไม่มีใครมาติดต่อขอเช่าเลย
เรื่องสัตว์เลี้ยงเขาสบายใจแล้วเพราะคุณสรรค์ รับปากจะเลี้ยงดูให้อย่างดี เขาไว้ใจเธอ รู้และแน่ใจว่าเธอรักมันและต้องเลี้ยงมันอย่างดีแน่ คงไม่ปล่อยทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ให้เขาคิดมากยามไกลไป
อันนั้นมันหมดห่วงแล้ว แต่ที่ห่วงนี่คือเรื่องบ้านและตัวหล่อนนั่นเอง
วันนี้ตอนบ่าย คุณสรรค์บอกกับเขาว่า จะขอติดรถไปด้วยได้ไหม เนื่องจากคุณจุ้นไปเยี่ยมภรรยาที่เพิ่งคลอดลูกชายคนใหม่ที่โรงพยาบาล
ธรรมดาคุณแจงจะผ่านมาแวะรับทุกเย็น เพราะต้องผ่านทางนี้ไปรับนายตั้ม จากโรงเรียนอยู่ทุกวัน
แต่วันนี้คุณจุ้นมารับแทนไม่ได้และคงจะผ่านไปโรงพยาบาลเลย มันคนละทางกัน
เขาโทรมาบอกน้องสาวให้ช่วยไปรับนายตั้มด้วย
ฝัดไม่เคยเห็นเธอขับรถมาทำงานอีกเลย ตั้งแต่ได้ข่าวว่าเธอแต่งงาน
รถคันเก่าของเธอก็จอดอยู่ไว้ในโรงรถเฉย ๆ
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอไม่ใช้ ต้องให้คุณแจงเป็นคนขับรถเธอมารับลูกชายที่โรงเรียน และรับเธอกลับพร้อมกัน
เย็นวันนั้นเธอเสร็จก่อนเขา และออกมายืนรออยู่ที่ตรงโต๊ะทำงานที่เขาทำอยู่ สายตาหลายคู่ลอบมองยิ้ม ๆ
เขาเองก็ยังงงกับท่าที่ของเธอที่ เธอมายืนเกาะโต๊ะเขาไม่ไปไหน
ทำไมหล่อนทำเฉยไม่รู้ไม่ชี้กับสายตาหลาย ๆ คู่ในห้องทำงานเขา หล่อนคงรับรักเขาแน่นอนแล้ว ฝัดคิดเข้าข้างตัวเองและลิงโลดคนเดียวอยู่ในใจ
วันนี้ล่ะว่ะ ได้ควงหล่อนในที่ทำงานสมใจ ประกาศกลาย ๆ ให้รู้กันไปเสียทีว่า เธอก็แคร์เรา
ฝัดเดินเคียงคู่มากับเธอด้านหน้าบริษัทที่จอดรถของหัวหน้าหน่วยต่าง ๆ เขาจอดรถไว้ใต้ร่มไม้ใหญ่นั้นทุกวัน
ที่จอดรถของเขาจะมีไม้ตอกติดชื่อเขาหรา อยู่ตรงนั้น ไม่ต้องแย่งที่จอดกับใคร
ที่จริงเขาก็คิดว่าดี ที่มีรายชื่อหัวหน้าแผนกต่าง ๆ ติดไว้ตามที่จอดรถซองใครซองมัน
แต่ที่ไม่ดี มันเหมือนกับเป็นการเอาเปรียบลูกน้องบางคนที่มีรถ
เพราะถ้าเกิดว่าเจ้าของซองจอดรถคนใดไม่มา ก็ไม่มีคนใดกล้าเอารถเข้าไปจอดซี้ซั้ว ไม่เช่นนั้นยามจะมาบอกให้ไปจอดที่อื่นทันที ทั้ง ๆ ที่มันก็ว่างอยู่
อยู่ ๆ คุณสรรค์ก็บอกว่า "คุณรัก คุณจำพี่โมได้ไหม ?"
"คิดว่าจำได้ครับ มีอะไรเหรอคุณ?" ฝัดถามงง ๆ นายนี่มาเกี่ยวอะไรด้วยว่ะ อารมณ์วืดขึ้นมาทันที
"เขามาดักรอฉันทุกวันนะสิ ช่วยเลื่อนรถมาจอดตรงหน้าบันไดตึกนี่ได้ไหม ฉันจะหลบอยู่ข้าง ๆ ประตูในตึกก่อน อย่าถามอะไรมาก ทำได้ไหม ?" หล่อนบอกแกมขอร้อง
"ได้สิ งั้นผมไปเลื่อนรถมาก่อนแล้วกัน" ฝัดผละจากหล่อนเดินคนเดียวไปที่รถ ตั้งลำและถอยออกมาตรงบันไดหน้าตึกนั้น
หล่อนลุกลี้ลุกลน เอาแฟ้มเอกสารปิดหน้า ผลุบหายเข้าไปในรถเขา พร้อมกับก้มหัวหลบน้อย ๆ ดึงเอาที่บังแดดมาบังหน้าด้านข้างเสียด้วย พอรถเคลื่อนออกมา สายตาเธอยังมองกระจกข้าง และกระจกดูหลังอีกรอบ เมื่อเข้าสู่ถนนใหญ่แล้วนั่นแหละ เธอถึงได้นั่งเอาหลังพิงเบาะและถอนใจดังเฮือก
ฝัดประหลาดใจอีกแล้วในการกระทำของเธอ เขาถามเธอออกมาอย่างตรง ๆ ว่า " เขาตามตื้อคุณทุกวันหรือไง"
"ใช่นะสิ บ้าจัง ไม่รู้จักเลิกรา" หล่อนตอบอย่างเบื่อหน่าย "เออ คุณช่วยขับเลยไปสองไฟแดงหน่อย แล้วเลี้ยวขวานะ ไปรับนายตั้มก่อน"
"อืม ได้สิ พานายตั้มไปนั่งกินไอ้ติมกันก่อนดีไหม" ฝัดออกความเห็น
"ได้สิ แต่ว่านานนักไม่ได้นะ เพราะยังไม่รู้ว่าการบ้านมีเยอะหรือเปล่า ต้องจับกันสอนการบ้าน ไหนจะกินข้าวอาบน้ำเอาเข้านอนอีก" หล่อนจารไนยืดยาว
" อ้าว พี่จุ้นกลับบ้านกี่โมงล่ะ ผมว่าคงยังอยู่โรงพยาบาลกัยพี่แจง คงมืดดึกนะแหละ แล้วนายตั้มจะอยู่ได้เหรอ คนเดียวน่ะ" ฝัดถามด้วยความเป็นห่วง
"อืม ดูนายสนใจความเป็นไปกับคนในบ้านฉันดีเหลือเกินนะ ไปหว่านเสน่ห์ไว้ซะจนใคร ๆ ในบ้านฉัน เขาถามกันให้แซ่ดว่านายหายไปไหน หรือว่าทะเลาะกับฉันหรือเปล่า เวลาที่นายออกสาขาไปดูงานน่ะ " คุณสรรค์พูดยิ้ม ๆ
"จริงอ่ะ งั้นแสดงว่าได้ผล" ฝัดตอบยิ้ม ๆ
"อะไร?" คุณสรรค์งง
"อ้าว เสน่ห์ไง ผมมีมนต์มหาระรวย มันเป็นมรดกตกทอดกันมา ตั้งแต่ปู่ทวดเป็นแฟนกับย่าทวดน่ะ" ฝัดตอบแล้วหัวเราะอย่างชอบใจ
"ทะลึ่งแล้ว ไหนลองเป่าให้ฉันหลงนายหน่อยสิ" คุณสรรค์ท้าทาย
"โอ๊ยคุณ มันยังทำตอนนี้ไม่ได้ ไว้รอให้บ้า ๆ มากกว่านี้สักหน่อย จะทำให้ดูนะ ซันแจ๋ว" ฝัดตอบเป็นนัย ๆ
"โธ่เอ๋ย อีตาขี้โม้ โน่น ๆ ซอยหน้าโน่นนะ เลี้ยวเลย ๆ " คุณสรรค์ร้องโวยวายก่อนที่จะขับรถเลยซอยไป
"อาแจ๋ว อารัก " นายตั้มตะโกนเรียกหน้าตามอมแมม เสื้อผ้าหลุดลุ่ย
"อารักครับ ไอ้จุดล่ะ ไม่มารับตั้มด้วยเหรอ" นายตั้มถามถึงเพื่อนซี้
"เปล่าครับ อามาจากที่ทำงานกัน ก็มารับตั้มนี่ไง มีการบ้านเยอะไหมเอ่ย ?" ฝัดถามเด็กชาย
"โอ๊ย ไม่ครับ ไม่มีเลย ตั้มทำเสร็จหมดแล้ว ของกล้วย ๆ แค่ระบายสี กับจับคู่ หมู ๆ " นายตัวเล็กแต่คุยโตเกินตัว
"โอเค งั้นตั้มต้องไปล้างมือล้างแขนก่อน" คุณสรรค์ขัดขึ้น
"ใช่แล้วอาจะพาไปกินไอติม ฉลองให้ตั้มที่ได้เป็นพี่ชายคนเก่ง ดีไหมเอ่ย" ฝัดบอกต่อ
"จริง ๆ นะครับ แล้วพาตั้มไปดูน้องหน่อยได้ไหม? ตั้มอยากเจอแม่เจอน้องด้วย" นายตั้มขอร้อง
"อืม ให้อาดูก่อนนะ ว่าให้เยี่ยมได้หรือเปล่า ตัวมอมแมมเหมือนลูกหมา เขาจะให้เยี่ยมเหรอ?" คุณสรรค์บอกหลานชายแกมล้อเล่น
"ได้สิครับ ตั้มบอกว่า ตั้มอยู่ป .1 ก. แล้วนะ ครูบอกตั้มว่า คนที่จะได้เรียนป 1ก. ได้ต้องผ่านการคัดเลือกแล้ว แล้วหมอก็ต้องให้ตั้มผ่านเหมือนกัน" นายตั้มตอบฉาดฉานตามความเข้าใจที่ครูบอก
"อางง อะไรครับลูก มันไม่เห็นเกี่ยวกันเลยนี่กับโรงพยาบาล" คุณสรรค์ถามอย่างงง ๆ
"โอเค งั้นตั้มวิ่งไปล้างมือล้างแขนล้างหน้าด้วยนะ อารักเข้าใจตั้ม อาจะบอกกับอาแจ๋วเอง นะครับ" ฝัดเอ่ยบอกนายตัวเล็ก นายตั้มวิ่งตื๋อออกไป ไม่ได้รั้งรอ
"มานั่งรอนายตั้มตรงนี้ดีกว่า ผมจะอธิบายให้ฟัง" ฝัดพูดชวนพร้อมกับจูงมือหล่อนให้เดินมานั่งที่ม้าหมุนใกล้ ๆ นั่น
"คืองี้นะ นายตั้มเขาอยากบอกคุณถึงคำว่า "ผ่าน" น่ะ เด็กวัยนี้ จะฟังครูอยู่มาก อย่างครูบอกว่า เขาผ่านการคัดเลือก ให้ขึ้นป 1 ก. เนี่ย หมายความว่า เขาต้อง "ผ่าน" ได้ทุกเรื่องทุกที่ ไม่ว่าอะไร เขาจะ "ผ่าน" ได้ตลอด คุณเข้าใจไหมล่ะ" ฝัดอธิบายให้หล่อนหายข้องใจ
"อืม เข้าใจล่ะ นายไปเรียนจิตวิทยาเด็กมาหรือ ถึงได้เข้าใจเด็กได้ดีจัง นายตั้มเคยพูดกับคุณแม่นะว่า "คุณย่าเนี่ย เข้าใจอะไรยากจัง สู้อารักไม่ได้" คุณแม่ก็ไม่ได้โกรธหลานนะ กลับหัวเราะเอิ๊ก ๆ ไป
แม่ฉันเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนสมัยที่นายเด็ก ๆนายมีคำถามอะไรแปลก ๆ มาถามแม่เสมอ
บางทีแม่ก็จนปัญญาที่จะตอบ ฉันชักสงสัยแล้วสิ ว่านายนี่คงจะมาแนวเดียวกับนายตั้มใช่ไหม ?ถึงได้รู้ใจกันดีนัก" คุณสรรค์ถามล้อ ๆ
"แล้วแม่คุณเล่าว่าผมถามว่าอะไรบ้างล่ะ ไม่ได้เล่าให้ฟังเหรอ?" ฝัดถามยิ้ม ๆ
"ฉันก็ถามแม่นะ แต่แม่ไม่ได้บอกอะไรนี่ กลับโยนให้ฉันมาถามนายเอง" คุณสรรค์บอกตามตรง
"งั้นก็ดีแล้ว อยากรู้ไหมล่ะ?" ฝัดถามนัย ๆ
"อืม ฉันไม่อยากละลาบละล้วงหรอก นายอยากเล่าให้ฟัง ฉันก็ฟัง แต่อยากเล่า ฉันก็ไม่บังคับนี่นา" คุณสรรค์แบ่งรับแบ่งสู้
"ไม่อยากรู้จริงๆ อ่ะ" ฝัดเริ่มแหย่
"แล้วจะเล่าไหมล่ะ"
"บอกมาก่อน ว่าอยากรู้ไหมล่ะ" ฝัดย้ำอีกครั้ง
"ก็ได้ ไหน ๆ ก็เป็นเพื่อนกันแล้ว ก็ไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอ?" คุณสรรค์ตั้งแง่
"แค่เป็นเพื่อนงั้นไม่เล่า " ฝัดโยกโย้
"แล้วไม่เป็นเพือนแล้วเป็นอะไรล่ะ? เป็นแม่นายก็ไม่ได้" คุณสรรค์ไม่ยอมแพ้
"เพื่อนมีเยอะแล้ว แม่มีแล้ว เมียยังไม่มีนี่" ฝัดตัดสินใจบอกออกไป ใจเขาเอง ตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ รอคำตอบ
"อุ๊ย อีตาบ้า แล้วฉันจะหาที่ไหนให้ล่ะ ไม่ใช่ขนมนี่นะ จะได้ซื้อให้ได้" คุณสรรค์เริ่มจนมุม หล่อนลุกขึ้นยืนไปด้วย
" งั้นให้ผมไปขอคุณกับพ่อแม่ได้ไหม?" นายฝัดรุกต่อ
"นายนะเหรอจะกล้า ไม่กลัวพ่อกับพี่ชายฉันเตะออกมาก็ลองดูสิ"คุณสรรค์เริ่มไม่สนุกด้วยแล้ว โยนไปให้พ่อและพี่ชายไปโน่น
"ตั้ม ๆ ครับ อ้าว วิ่งไปไหนอีกล่ะ" คุณสรรค์ชะเง้อมองหลานชาย
"ผมถือว่าคุณสัญญาแล้วนะ นั่งรอตรงนี้แหละ ผมจะไปตามนายตั้มมาก่อน" ฝัดพูดทิ้งท้ายไว้ไม่ได้ให้โอกาสคุณสรรค์อ้าปาก ตัวเขาเองกลับวิ่งเหยาะ ๆ ตามหลังนายตั้มที่เห็นไว ๆ นั่นไป
มีต่อ
จากคุณ :
NATTI นัทตี้
- [
9 ธ.ค. 47 02:33:50
]