CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ขอโอกาสสักครั้ง...ให้ฉันได้บอกเธอ ตอนที่ 2

    ขอโอกาสสักครั้ง…ให้ฉันได้บอกเธอ
    ตอนที่ 2
    ภาพภายในอดีตค่อย ๆ ไหลวนออกมาทีละภาพ
    ทั้งสองคนเคยเรียนด้วยกันตอนอยู่ชั้นมัธยมต้น ศรุตชอบแกล้งเธอเสมอ จนทุกวันนี้พิมพ์รพีก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้นอาจจะเป็นเพราะเธอเป็นคนเรียบร้อยไม่กล้าสู้คนละมั้งแต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่เธอจำเขาไม่ได้
    เหตุผลที่ทำให้เธอไม่เคยลืมเลยก็คือ วันนั้นเป็นวันที่มีการรายงานหน้าห้อง ซึ่งเขาและเธออยู่กลุ่มเดียวกัน เมื่ออ่านรายงานจบแล้วกำลังจะเดินกลับเข้าไปนั่งที่ อยู่ดี ๆ เขาก็ตบหัวเธอเสียเฉย ๆ
    พิมพ์รพีทั้งเจ็บทั้งอายที่หันไปเห็นสายตาของศรุตที่มองมาอย่างขยะแขยง ถอยหลังไปสองก้าว กอปรกับเพื่อน ๆ ในห้องที่พากันหัวเราะไม่หยุด ทำให้เธอวิ่งออกจากห้องไปไม่กลับเข้าเรียนตลอดบ่าย
    หลังจากวันนั้นศรุตไม่ได้แกล้งอะไรเธออีก
    อาจเป็นเพราะเขาสำนึกได้หรือไม่อราจเป็นเพราะเธอเองที่คอยหลบเลี่ยงเขาตลอด ทำให้เขาไม่มีโอกาสก็เป็นได้
    จนจบการศึกษาก็ไม่มีแม้คำขอโทษหรือคำกล่าวลา มีเพียงสายตาที่มองมาอย่างสำนึกผิดของเขา และสายตาอันเย็นชาของเธอ
    และเธอก็พยายามตัดมันทิ้งไปจากใจฝังมันไว้กับอดีตที่ไม่น่าจดจำ
    เข้าเรียนที่ใหม่เธอพยายามเป็นคนใหม่ จากที่เคยเรียบร้อยก็กล้าแสดงออกมากขึ้นเข้าร่วมกิจกรรมที่ไม่เคยทำก็พอจะทำให้ภาพในอดีตค่อย ๆ ลบเลือนหายไป

    แล้วมาเมื่อคืนนี้ ฟ้าช่างกลั่นแกล้งให้เธอได้มาเจอเขา ในสภาพที่ย่ำแย่กว่าเดิม และเขาก็เป็นต่อเสียด้วย จะทำอย่างไรดี หากเขาจะแจ้งความเอาเรื่อง พิมพ์รพีรู้ดีว่าเธอผิดเต็มประตู แย่แน่ ๆ คราวนี้

    ภาพความทรงจำและคำถามที่ไม่มีคำตอบคงจะวนเวียนอยู่อีกนานหากไม่ได้ยินเสียงจากคนที่นอนบนเตียงปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์

    “เจ็บหัว” คนไข้พยายามยกมือขึ้นแตะศีรษะของตัวเอง แต่ก็ทำได้แค่ยกมือขึ้นจากเตียงเล็กน้อยก่อนจะตกกลับที่เดิม
    ศรุตนอนมองเพดานนิ่งเพราะรู้สึกจะตึง ๆ ที่คอ
    “คุณศรุตครับ” หมอเรียกเบา ๆ แต่เขายังคงมองอยู่ที่จุดเดิม
    “คุณศรุตครับ คุณจำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น” ศรุตยังคงมองอยู่ที่เดิมค่อย ๆ คิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เขากำลังจะข้ามถนน รถคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้ามาเกือบจะชนเขา แม้จะหักหลบได้แต่ท้ายรถก็ยังกระแทกเข้าที่ขาทำให้เขาล้มหัวกระแทกอะไรสักอย่าง แล้วก็มาฟื้นเอาที่นี่

    อาการตาลอย ๆ ของศรุตส่งผลให้หมอพยายามกระตุ้นมากขึ้น
    “เมื่อคืนคุณถูกรถชน มีคนพาคุณมาส่ง จำได้ไหมครับ”
    คงจะเป็นคนที่ชนเขาพามา
    “คุณพิมพ์รพีที่ขับชนคุณพามา” หมอเสริม
    เมื่อได้ยินชื่อที่คุ้นหูเป็นอย่างดี เขาก็ค่อย ๆ เหลือบตาอย่างช้า ๆ เพราะยังคงขัดยอกที่ต้นคออยู่ มองหมอ พยาบาล ไล่มาจนถึงคนสุดท้าย หน้าเรียวนั้นซีดจนเห็นได้ชัด คิ้วเรียวขมวดอย่างกังวลใจ ตาดำราวกับนิลดูจะแห้งแล้งเพราะอดนอน ปลายจมูกเชิดนั้นออกจะแดง ๆ ปากบางสั่นน้อย ๆ มือทั้งสองบีบเข้าด้วยกันจนแน่น เขาจำได้ทันทีว่าเธอเป็นใครก็หน้าเธอแทบจะไม่เปลี่ยนไปจากตอนที่เรียนมัธยมต้นด้วยกันเลย เพียงแต่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นเท่านั้น สวยขึ้นด้วย
    สายตาที่ทอดมองมามีแววดีใจ แต่พิมพ์รพีไม่ทันได้สังเกต มือที่บีบเข้าด้วยกันเย็นเฉียบ
    “เขาเป็นอะไรคะหมอ” เสียงที่เปล่งออกมาเบาหวิว
    “หมอไม่แน่ใจนะครับ อาจจะเป็นเพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างแรง คงต้องเอกซเรย์ดูอีกที”หมอตอบเรียบ ๆ พยายามไม่ให้คนป่วยได้ยิน ค่อย ๆ พาพิมพ์รพีเดินห่างจากเตียงเมื่อเหลือบไปเห็นคนไข้จ้องเป็งไปที่หญิงสาว
    “เขาจะความจำเสื่อมเหรอคะหมอ”
    “ผมก็ยังไม่แน่ใจ ยังไงก็พยายามติดต่อญาติของคนป่วยด้วยนะครับ”
    “ค่ะ” พิมพ์รพีรับคำเบา ๆ เดินกลับมายืนข้างเตียงเมื่อหมอและพยาบาลขอตัวออกไปแล้ว  
    เสียงฝีเท้าทำให้ศรุตที่เพิ่งจะหลับตาไปกลับลืมขึ้นมาใหม่จ้องหน้าซีด ๆ นั้นไม่วางตา
    “รุต นายจำเราได้ไหม พิมพ์รพีไง” หญิงสาวถามเสียงสั่น
    “พิมพ์รพี” ชายหนุ่มทวนเหมือนจะย้ำถามว่าเขาเรียกถูกใช่ไหม ยิ่งทำให้เธอใจไม่ดี
    “ใช่ เพื่อนนายไง”
    “เพื่อน?” ศรุตทวนอีกครั้งอย่างงง ๆ
    เพื่อนเหรอก็ตอนมัธยมต้นเธอไม่เคยคุยกับเขาจนจบการศึกษาเลย เธอยังจะคิดว่าเขาเป็นเพื่อนเธออีกหรือ
    “เราเคยเรียนด้วยกันไง”
    “เรียน” ชายหนุ่มชักจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโง่ที่เอาแต่ทวนคำพูดของเธออยู่แบบนี้ ก็เขาจำได้อยู่แล้ว เธอจะพูดทำไม
    อาการทวนคำพูดนั้นทำให้พิมพ์รพีถึงกับน้ำตาร่วงพรู
    ‘เขาต้องความจำเสื่อมแน่เลย’
    พิมพ์รพีสะอื้นฮัก พร่ำบ่นตัวเองอยู่ในใจว่าจะทำอย่างไรดี
    ชายหนุ่มเห็นอาการนั้นก็ถึงกับตกใจ อยากจะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาแต่แขนก็ไม่มีแรง อยากจะพูดจาปลอบประโลม เธอก็ไม่เปิดโอกาส ได้แต่ถามอย่างงง ๆ ว่าเธอเป็นอะไร
    “ก็รุตความจำเสื่อม พิมพ์ต้องติดคุกแน่เลย” เธอไม่ได้สนใจเลยว่าได้พูดจาโต้ตอบกันอย่างรู้เรื่องดี
    “โธ่ เราไม่แจ้งความหรอก”
    “จริงนะ” ดวงตาเป็นประกายขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนั้น แต่ก็ยังอดที่จะหวั่นใจไม่ได้
    “แต่ญาติของรุตก็ต้องเอาเรื่อง พิมพ์ต้องแย่แน่ ๆ เลย”
    “ก็ไม่ต้องบอกสิ แต่ถึงรู้รุตก็ไม่ให้แจ้งหรอก”
    “จริงนะ” หญิงสาวย้ำคำเดิม ริมฝีปากค่อย ๆ แย้มยิ้มจนกว้างทั้งที่ใบหน้ายังเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ทำให้เขาอดที่จะยิ้มตามด้วยความเอ็นดูไม่ได้
    แล้วก็เหมือนกับเพิ่งจะนึกขึ้นได้ ตาที่ยิบหยีจากการยิ้มจึงเบิกกว้างขึ้น ปากอ้าค้าง ในความคิดของศรุตแล้วช่างเป็นภาพที่น่าขันจริง ๆ
    “รุต ไม่ได้ความจำเสื่อมเหรอ”
    “ก็..เปล่า” ตอบพร้อมกับพยายามกลั้นยิ้มกับท่าทางตกใจนั้น
    “นายหรอกฉัน” พิมพ์รพีกล่าวหาพร้อมกับเปลี่ยนสรรพนามเรียกเสร็จสรรพ
    “เปล่านี่ ก็พิมพ์นั่นแหละคิดไปเอง” อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
    “นาย…บ้า” พิมพ์รพีพึมพำเขิน ๆ หันหลังเดินกระแทกเท้าออกจากห้องไปด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ทิ้งให้คนป่วยนอนยิ้มอยู่คนเดียว พร้อมกับสายตาหมายมาดอะไรบางอย่าง
    *******

    จากคุณ : กระปุกกลิ้ง - [ 9 ธ.ค. 47 08:07:29 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป