* * * * _ _ _ _ _ปี ศ า จ ว สั น ต์_ _ _ _ _ * * * * (ช่วงแรก) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3099880/W3099880.html
* * * * _ _ _ _ _ปี ศ า จ ว สั น ต์_ _ _ _ _ * * * * (ช่วงที่สอง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3102946/W3102946.html
* * * * _ _ _ _ _ปี ศ า จ ว สั น ต์_ _ _ _ _ * * * * (ช่วงที่สาม)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3151175/W3151175.html
*********************************
๑๘.
ผมคงเสียแรงกับความใจถึงของเธอมากเกินไป นั่นไม่สำคัญเท่ากับความหวังที่เธอแสดงออกมา ว่าตกหลุมเสน่ห์ของผมอย่างไม่อยากจะจากไปไหน ตั้งแต่คำแรกที่เธอขอตัวกลับ จนกว่าที่เธอจะได้กลับไป เราอ้อยอิ่งอยู่บนเตียงจนสาย จนกระทั่งสัญญาณแห่งการผูกมัดเริ่มต้นแสดงตัวนั่นแหละ
เธอใช้ปากกาในกระเป๋าถือของเธอ จดหมายเลขโทรศัพท์ของที่ทำงานให้ผม ให้เหตุผลว่า จะได้รู้ว่าเธอไม่เคยไปนอนค้างที่ไหนกับใครอื่น
โทรไปหลังสามทุ่มนะคะ ไม่งั้นฉันไม่ถึงที่ทำงานหรอก เธอกระซิบบอกด้วยลมหายใจร้อนผ่าว
นี่ชื่อคุณเหรอ
.จ๋า
. ผมถามเมื่อมันเป็นคนละชื่อกับที่บอก
คนที่ทำงานไม่รู้จักชื่อ แพรวรพีหรอก รับปากแล้วต้องโทรนะ
เมื่อเห็นว่าผมไม่ได้มีทีท่าใส่ใจเท่าใด เธอก็ทำหน้าง้ำไม่สบอารมณ์ ตึงตังไปเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่ม
ฉันว่าคุณไม่โทรหรอก เธอเดาใจผม
โทรสิ ร้อยทั้งร้อยผู้ชายก็ต้องตอบเหมือนกันหมด
คุณไม่จำเบอร์โทรด้วยซ้ำนะ และร้อยทั้งร้อยผู้หญิงก็เป็นเช่นนี้
ก็จดให้แล้วนี่ไง ทำไมต้องจำด้วยล่ะ ผมบ่ายเบี่ยง รู้สึกเพลียเต็มที แต่เธอกลับยังคะยั้นคะยอ
ถ้าเกิดทำหายล่ะ
ในที่สุดผมก็ต้องผุดลุกขึ้น มันจำเป็นในบางครั้งที่เราก็ต้องแสดงให้เห็นบ้างว่า เราก็กำลังอยู่ในอารมณ์ไม่พอใจ และไม่อยากจะสนใจอะไรทั้งสิ้น
งั้นก็ช่วยไม่ได้ ผมทิ้งท้ายน้ำเสียงว่าคิดอย่างนั้นจริงๆ
ลองทำหายสิ ฉันเอาคุณตายแน่ ลองทำหายดูสิ แล้วเธอก็กระโจนเข้ามาผลักอก และคร่อมร่างเปล่าของผมไว้อีกครั้ง
อย่าพูดกับผมอย่างนี้อีก
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้สักสองชั่วโมงผมคงจะพลิกเธอกลับลงแนบที่นอนแล้วเริ่มบรรเลงเพลงรักบทที่ห้าบทที่หกต่อไป แต่นี่มันล้าไปหมดทั้งหลังและไหล่ สะบักสะโพกก็ปวดเมื่อยจวนจะเป็นตะคริวอยู่รอมร่อ ผมจึงได้แค่ลุกหนีออกมาจากเตียง
ใช่สิ ฉันหลวมตัวกับคุณแล้วนี่นะ เธอกระเง้ากระงอดไม่วาย
จะกลับบ้านไม่ใช่เหรอ ผมเรียกแท็กซี่ให้นะ
คุณจะไม่ไปส่งฉันเหรอ
ผมไม่เคยไปส่งใคร ผมบอกไปตามตรง
ฉันไม่อยากกลับแล้วหละ
ผู้หญิงอย่างเธอมันจะไปมีอะไรมากไปกว่านี้อีกเล่า
.
๑๙.
บ่ายอ่อนๆ แม่บ้านหอพักยืนเช็ดกระจกสู้แรงแสง หญิงสาวแอบย่องลงมาเงียบๆ จนจะล่วงพ้นบันไดขั้นสุดท้าย เสียงทักทายก็ดังขึ้น
อรุณสวัสดิ์ครับคุณ เขาหลบแดดอยู่ตรงช่องเก็บของข้างบันได
อ้าว! คุณเองหรือเนี่ย ยังไม่กลับอีกหรือ เธอรู้ดีว่าคำทักนั้นประชดประชันเล่น แต่ก็ป่วยการที่จะต่อความ จึงตอบโต้ไปเพียงตามมารยาท
ชายหนุ่มเดินออกมาจากเงามืด เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าเขาได้ชัดเจน ใบหน้านั้นยังแลสดสะอ้าน ทรงผมเรียบร้อยไม่กระเซิงเหมือนตอนที่ปีนขึ้นไปข้างบน แววตาสุภาพฉายชัดว่าอยากจะต่อบทสนทนากับเธอด้วยใจจริงมากกว่าจะยียวนเล่นๆ มือที่ถือวิทยุเครื่องเล็กหมุนคลื่นเล่นไปมาคล้ายระคางเขิน
ฉันไปหละนะ เธอรีบตัดบทเมื่อสังเกตเห็นแววตานั้น
เดี๋ยวสิครับ เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงทอดไมตรีเต็มที่
ไม่คิดว่าอย่างนั้นนะ คุณคิดไปเอง
.แต่
ถ้าคุณ
คุณอาจจะเคยเห็นหน้าฉันมาก่อน แพรวรพีพูดอย่างมีลับลมคมใน นึกสนุกจึงส่งสายตาเจ้าเสน่ห์กลับไปบ้าง
คุณทำงานอะไรครับ
งานชั้นนะเหรอ
เปิดวิทยุสิ
.เพลงช้าๆ นะ
เมื่อเสียงเพลงแผ่วแว่วหวานดังขึ้น หญิงสาวเริ่มกรีดกรายไปตามจังหวะ อาศัยขั้นและราวบันไดเป็นพื้นที่การแสดง ในชุดแซ็กสั้น แขนกุดและคว้านคอลึก ทำให้หลายท่วงท่านั้นดูแฝงมนตราแห่งความหอมหวานของค่ำคืนอันมืดมิดไว้ได้อย่างแยบยล ทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียวในความรู้สึกของชายหนุ่ม
รู้หรือยังว่าฉันทำงานอะไร เธอโน้มหน้ามาจนจมูกเกือบจะแตะจมูก
ยะ..ยัง..ไม่แน่ใจ ขออีกรอบได้ไหม เสียงของชายหนุ่มสั่นเครือ สูดหายใจลึก และหนีบช่วงขาเข้าหากันโดยอัตโนมัติ
คิดว่าฉันโง่นักหรือไง
แพรวรพีสะบัดหน้าหนี แล้วทำท่าจะรีบเดินจากไป
เดี๋ยวครับ
คุณ
คุณชื่ออะไร เขารู้สึกว่าตัวเองมีสิทธิ์ถามได้แค่นี้
เรียก จ๋า ก็ได้
ไปนะ
หญิงสาววิ่งออกจากประตูห้องโถงไปอย่างรวดเร็ว ข้ามถนนโดยไม่เกรงรถรา แท็กซี่ปราดเข้ามารับอย่างทันใจ แล้วเธอก็หายไปพร้อมกับไอเสีย ปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งสูดกลิ่นลมหายใจที่เธอพ่นออกมาเมื่อสักครู่อย่างเงียบงัน
๒๐.
เธอคงแวะอ่อนเหยื่อรายอื่นๆ อีกหละมั้งนั่น กว่าจะวิ่งข้ามถนนไปขึ้นรถได้ถึงต้องใช้เวลานานขนาดนั้น ผมไม่เคยคิดจริงจังกับผู้หญิงอย่างนี้หรอกนะ อาจจะมีบางคนที่พิเศษหน่อยที่อาจจะได้เจอกันมากกว่าหนึ่งครั้ง ก็จะเป็นเพราะเธอมีอะไรเป็นพิเศษที่จะมอบให้ผมได้
บนเตียง
ผมทิ้งตัวลงนอนอย่างอ่อนเปลี้ย มันเป็นความสุขที่ได้มาด้วยความทรมาน แต่ผมก็ชอบที่จะทำอย่างนี้ ชอบที่จะเป็นอย่างนี้ ความอ่อนเพลียอย่างถึงที่สุดทำให้ผมหลับเป็นตาย โดยไม่ต้องนึกต้องฝันอะไรอีก เพราะสิ่งที่ผมพบในความฝันนั้นมันช่างเหนื่อยยากกว่าในชีวิตจริงเป็นร้อยเท่า
ผมฝันว่าตัวเองเป็นนกที่ไร้ขา ต้องบินไป บินไป บินไปตั้งแต่ลืมตาดูโลก ในชีวิตผมหยุดบินแค่ครั้งเดียว คือในเวลาที่ผมตาย แล้วร่างกายดิ่งร่วงลงสู่พื้น
.ผมสะดุ้งตื่นอย่างเมื่อยล้าและหวาดกลัว ก่อนจะกลับไปฝันอย่างเดิมเมื่อล้มตัวลงนอนอีกครั้ง
.
มันเป็นอย่างนี้มานานมากแล้ว
ตั้งแต่ผมรู้ว่า คุณไม่ใช่แม่แท้ๆ ขอผม
.
คุณไม่เคยกักขังผม คุณให้อิสระกับการใช้ชีวิตของผมเต็มที่ แต่มันไม่เคยเติมให้ชีวิตผมเต็มได้เลยแม้สักครู่เดียว
๒๑.
หลายวันมานี่ ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นฝ่ายโทรหาเขาตลอด แต่เขาก็ไม่เคยปฏิเสธเมื่อฉันขอร้องให้ออกมาพบกัน วันนี้เขาพานายนั่นมาด้วย ก็นายคนที่ฉันแกล้งยั่วยวนที่เชิงบันไดหอพักของเขานั่นแหละ เรานั่งร่วมโต๊ะกินกลางวันกันในร้านหรู ที่เขาเป็นคนเลือกและโทรมาจองไว้ล่วงหน้า
ผู้หญิงแก่คราวแม่ เดินตรงเข้ามาทางเรา แล้วก็เปิดฉากซักถามโดยไม่สนใจว่าฉันกับปิงก็นั่งอยู่ด้วย
เธอไปทำเขาทำไมชัช เสียงคนมาใหม่ เป็นเสียงที่สะกัดกั้นอารมณ์เอาไว้อย่างเต็มที่
มันหลอกคุณนะ ชัชตอบกลับไป
ฉันนึกรู้ได้ทันทีว่าสองคนนี่กำลังคุยเรื่องอะไรกัน ฉันทำเฉยๆ ขณะที่ปิงก็ก้มหน้าก้มตาเกินมันฝรั่งทอดกับผักเคียงในจานอย่างกับว่ามันอร่อยจนหยุดไม่ได้
ใครบอกเธอ
คนพูดแต่งตัวเต็มที่ แต่งหน้าทาปากเกลี่ยกลบริ้วรอยแห่งวัยได้เกือบมิดชิด เครื่องเพชรพราว สร้อยคอและเข็มกลัดรูปดอกไม้เข้าชุด ทำให้ฉันต้องรีบปลดต่างหูที่สวมอยู่อย่างไม่ให้เธอเห็นพิรุธได้ ดีที่เธอจ้องเขม็งอยู่ที่ชัชชัยคนเดียว
ต้องให้ใครบอกด้วยเหรอ ผู้ชายที่นอนกับคุณไม่ใช่เพื่อเงินแล้วเพื่ออะไร มันอายุเท่าไหร่ คุณอายุเท่าไหร่ คุณไม่ใช่สาวๆ แล้วนะ
ฉันถึงกับหน้าชาในคำพูดของชัด รู้ดีว่าผู้หญิงแก่คนนี้คือคนที่เลี้ยงดูชัชมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย แต่แล้วทำไมเขาถึงพูดอะไรไม่ไว้หน้ากันอย่างนี้
ใช่
เค้าทำเพื่อเงิน แต่เขาก็ทำให้ฉันมีความสุขได้ ฉันเลี้ยงเธอมา ฉันให้เธอทุกอย่าง เธอทำให้ฉันมีความสุขบ้างได้ไหม
คนที่ตอบโต้ก็มีน้ำเสียงแกว่งไปเหมือนกัน ความสุขที่เธอหมายถึงคงจะหมายถึงความสุขใจ มากกว่าความสุขกายอย่างที่คนที่มอบมันให้เธอโดยมีต่างหูคู่นั้นเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน
คุณก็ไม่เคยเหมือนกัน ผมไม่สุขคุณก็ไม่สุขบ้างจะเป็นไรไป ชัชเบือนหน้าหลบ แม้เขาจะพยายามแสดงอาการเย้ยหยัน ฉันก็พอจะจับได้ว่า ข้างในใจเขาคงปวดร้าวอยู่ลึกๆ เหมือนกัน
เธอต้องการอะไรชัช คนยังยืนทำท่าจะตัดบทสนทนา
คุณก็รู้ว่าผมต้องการอะไร เขาหันขวับกลับมา แววตาฉายประกายความสมหวังแวบหนึ่ง ก่อนที่จะจางหายไปกับคำตอบของหญิงชรา
เธอจะไม่มีทางรู้จากฉันหรอก พูดมากี่ครั้งแล้ว อยากรู้ว่าแม่เธอเป็นใคร ก็พยายามหาเอาเองสิ ฉันเลี้ยงเธอมาจนป่านนี้ ถ้าจะบอกฉันคงบอกไปนานแล้ว ที่ไม่บอกก็เพราะกลัวจะเสียเธอไป
.ตอนนี้ยิ่งบอกไม่ได้ มันไม่คุ้มกัน บอกฉันสิว่าจะได้อะไรจากเธอ ถ้าเธอทิ้งฉันไปหาแม่เธอ ฉันจะไม่ได้อะไรจากเธอเลย แล้วเธอจะลืมฉันอีกด้วย ทำไม
มองหน้าฉันทำไม
.
.เอาสิ ฉันอยากให้เธอเกลียดฉัน อย่างน้อยเธอก็จะไม่ลืมฉัน
ฉันเห็นชัชกำหมัดแน่น เกร็งแขนไว้เหมือนจะสะกัดกั้นไม่ให้มันเหวี่ยงออกไปหาคนตรงหน้า แววตาแข็งกร้าวขมขื่นและรื้นน้ำขึ้นมา แล้วเหือดหายไปได้ในทันใด เขาทุบโต๊ะดังปัง
ทำดีกับฉันบ้างสิ บางทีฉันอาจจะบอกเธอ ไม่งั้นก็ลืมซะเถอะ
เธอทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไป ชัชผุดลุกขึ้นทันที ฉันนึกว่าเขาจะรีบตามออกไป แต่เขากลับเดินไปด้านใน เดินไปทางห้องน้ำ ฉันไม่ทันเห็นหรอกว่าน้ำตาลูกผู้ชายเป็นอย่างไร
ยายแก่นั่นรวยไหม ฉันถามปิงที่กำลังกัดมันฝรั่งชิ้นสุดท้าย
คิดว่างั้น
.เคยเป็นอย่างว่ามาก่อน เขาตอบทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก
คุณรู้จักชัชมานานแล้วเหรอ ฉันถามพยายามไม่มองปากที่เลอะคราบซอสนั่น
ตั้งแต่เด็กๆ บ้านใกล้กัน เขาคงเพิ่งรู้สึกตัว ว่าแววตาฉ่ำชื่นที่กำลังมองมานี่ ไปกันไม่ได้กับท่าทางตะกรุมตะกรามที่กำลังทำอยู่ จึงรีบกลืน ดื่มน้ำตามแล้วเช็ดปากอย่างรวดเร็ว
อยากรู้จริงๆ ว่าชัชคิดจะทำอย่างไรต่อไป ฉันประสานสายตาที่เปิดเผยนั้นอย่างไม่กลัวเกรงเหมือนกัน ผู้ชายคนนี้ซื่อเกินไปสำหรับฉัน ซื่อจนฉันอ่านได้ทะลุปรุโปร่ง
ไม่รู้สินะ คำตอบเขา สั้นและเลื่อนลอย
แต่ฉันรู้นะว่าคุณคิดอะไรกับฉัน อยากจะให้ลองทายดูไหม ฉันแกล้งส่งสายตายั่วยวน แถมส่งขาผ่านใต้โต๊ะไปสะกิดต้นขาเขาด้วยพร้อมกัน
บอกมาเลยดีกว่าน่ะ เขาเบี่ยงส่วนสำคัญหลบปลายเท้าฉันไม่ทัน
นี่คุณ
อย่ามาคิดชอบฉันล่ะ
.ฉันเตือนไว้ก่อนนะ
แล้วฉันก็ใช้ปลายรองเท้า เคาะที่กลางกางเกงเขาเบาๆ ความแข็งแกร่งที่สัมผัสได้นั้น ทำให้ฉันต้องรีบชักเท้ากลับลงมาด้วยความเขินอายเล็กน้อย
.
********จบช่วงที่ ๔ ********
เรื่องนี้เป็นนิยายขนาดสั้นหรือเรื่องสั้นขนาดยาว ผู้เขียนเองก็ยังไม่แน่ใจ แต่ต้องบอกก่อนว่าเป็นเรื่องที่ดัดแปลงเพื่อความบันเทิงใจบวกกับความประทับใจของผู้เขียนเป็นพื้น หากเพื่อนๆ คุ้นๆ เหมือนผ่านตาก็ขออย่าได้แปลกใจ ถือเสียว่าเรามาแบ่งปันกันเฝ้ามองเรื่องราวเหล่านี้ด้วยกันเท่านั้น
ดีไหม
ขอเชิญชวนเพื่อนทุกคนช่วยติติงแสดงความคิดเห็นกันได้เต็มที่นะจ๊ะ
.ผู้เขียนยินดีน้อมรับทุกประการ ^____ ^
แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 47 04:44:04
จากคุณ :
เพียงคำ
- [
14 ธ.ค. 47 04:41:56
]