สมัยที่ช้องนางเป็นเด็กเธอเคยเร่งวันเร่งคืนให้ถึงวันปีใหม่เร็ว ๆ เหตุผลเดียวที่เธอทำอย่างนั้นก็เพราะ ช่วงเวลานั้นมันคือเทศกาลแห่งความสุข
ในเดือนธันวาคมทุก ๆ ปี ความสุขจะลอยอยู่ในทุกอณูของอากาศ ความสุขอยู่บนถนน ความสุขอยู่ในห้างสรรพสินค้า ความสุขอยู่ในที่ทำงาน ความสุขมีอยู่ ทุกหนทุกแห่ง ช้องนางได้แต่ปรารถนาให้ความสุขได้แวะจิบน้ำชาที่บ้านของเธอบ้าง ไม่ใช่ผ่านเลยไปอย่างที่มันเป็นอยู่ชั่วนาตา ปี
บ้านบางหลัง ไม่เคยมีไออุ่นของความสุขเล็ดลอดเข้ามา
ในความทรงจำของช้องนาง ภาพที่พ่อแม่มีความสุขอยู่ด้วยกันแทบไม่มีอยู่เลย แม้จะพยายามนึกทบทวนเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม พ่อกับแม่ไม่เคยหย่าขาดจากกัน พวกท่านอยู่ด้วยกันจนวันสุดท้ายของชีวิต
พ่อกับแม่ เสียชีวิตในวันที่เดินทางไปสัมมนากับทางบริษัทที่ต่างจังหวัด รถโดยสารพลิกคว่ำก่อนจะถึงที่หมายปลายทาง ช้องนางจำได้ว่าก่อนออกเดินทาง พ่อกับแม่บอกให้เธออยู่บ้านคนเดียวสัก 2 3 วัน
จากเหตุการณ์นี้ทำให้ช้องนางได้รับมรดก 3 ชิ้น
หนึ่งคือบ้านที่เธออาศัยปัจจุบันนี้กับทรัพย์สินเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกจำนวนหนึ่ง
สองคือเงินประกันชีวิตของพ่อกับแม่
และสามคือการเริ่มต้นชีวิตโดดเดี่ยวเพียงลำพังตั้งแต่อายุ 17 ปี
เวลาผ่านมา 10 ปี ช้องนางยังอยู่ที่บ้านเหงา ๆ ของเธอ ทุก ๆ วันเธอจะออกไปทำงานแต่เช้าตรู่ กว่าจะกลับถึงบ้านก็มืดค่ำดึกดื่น เธอตั้งใจทำงานของเธออย่างเต็มที่ แม้ว่างานของเธอจะเหมือนการตอกย้ำชีวิตเหงา ๆ ของเธอ
งานของเธอคือการทำหน้าที่ใช้ตัวหนังสือขับไล่ความเหงา ช้องนางเป็นนักเขียน เธอไม่ใช่นักเขียนนิยาย เธอไม่ใช่กวี ไม่ใช่นักปราชญ์อะไรเทือกนั้น แต่ช้องนางทำหน้าที่เขียนการ์ดทุกเทศกาล
ช้องนางเขียนการ์ดทุกเทศกาลทุกวาระ การ์ดแสดงความยินดี การ์ดขอโทษ การ์ดบอกรัก การ์ดวันเกิด การ์ดวาร์เลนไทน์ การ์ดเทศกาลจิปาถะ เรื่อยไปจนถึงการ์ดปีใหม่
ช้องนางจิบกาแฟมองการ์ดใบแรกที่เธอเขียน สายตาค่อย ๆ ไล่ผ่านตัวอักษรที่ประสมรวมเป็นถ้อยคำ ผ่านไปทีละบรรทัด
ม่วงงามยามเห็นเด่นดอก
บ่งบอกเลอโฉมโลมหล้า
หลากล้วนเบ่งบางละลานตา
พราวผกาเกี่ยวกอล้อลม
พุ่มใบไกวยอดออดอ้อน
เอนอ่อนราวสนุกสุขสม
หลงเสน่ห์น้อมนำขำคม
ชื่นชมนิ่มน้องช้องนาง
เมื่อสายตากวาดมาถึงบรรทัดสุดท้าย หัวใจก็พลันนึกถึงใครบางคน
ชื่อคุณแปลกจังครับ เขาทักขึ้นหลังจากที่เพื่อนแนะนำเธอให้รู้จัก
คุณไม่ใช่คนแรกที่พูดอย่างนี้หรอกค่ะ ช้องนางตอบเหมือนอย่างที่เคยตอบมาตลอดชีวิต มีเรื่องเดียวที่ผิดแผกไปจากสิ่งที่ช้องนางเคยผ่านมา นั่นก็คือเขาไม่ได้หายไปเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเธอ เขาไม่ได้มีเวลาให้เธอแค่จันทร์ถึงศุกร์ ไม่ได้ให้เวลากับเธอแค่ เจ็ดโมงเช้า ถึงห้าโมงเย็น เขาสามารถพาช้องนางไปทานอาหารค่ำได้ถึงสี่ทุ่มโดยไม่คิดค่าล่วงเวลา
เวลาผ่านมาหลายเดือน เขานัดเธอทานมื้อค่ำที่ร้านเดิมและกำชับเธอว่าเขามีเรื่องสำคัญจะบอก ช้องนางคิดว่าบางทีนี่อาจจะถึงเวลาที่เธอจะไม่เหงาอีกต่อไป
อาทิตย์หน้าผมต้องไปประจำที่อังกฤษ คือคำพูดที่เขาบอกเธอในมื้อค่ำวันนั้น
แล้วทุกอย่างก็กลับไปจุดเริ่มต้นของมัน บ้านเหงา ๆ ในเทศกาลแห่งความสุข ช้องนางก็ยังคงเขียนคำอวยพรความสุขให้กับทุกคน โดยที่เธอไม่เคยได้รับคำอวยพรจากใคร แต่เธอจะเรียกร้องอะไรอีกก็ในเมื่อเธอได้เงินเดือนแล้วนี่ มันก็น่าจะเพียงพอแล้ว
สมัยที่ช้องนางเป็นเด็กเธอเคยเร่งวันเร่งคืนให้ถึงวันปีใหม่เร็ว ๆ เหตุผลเดียวที่เธอทำอย่างนั้นก็เพราะ ช่วงเวลานั้นมันคือเทศกาลแห่งความสุข
ความสุขจะลอยอยู่ในทุกอณูของอากาศ ความสุขอยู่บนถนน ความสุขอยู่ในห้างสรรพสินค้า ความสุขอยู่ในที่ทำงาน ความสุขมีอยู่ ทุกหนทุกแห่ง ช้องนางได้แต่ปรารถนาให้ความสุขได้แวะจิบน้ำชาที่บ้านของเธอบ้าง
คืนวันสิ้นปีเสียงพลุกลายเป็นเสียงน่ารำคาญสำหรับช้องนาง รายการพิเศษก็มีแต่เรื่องเดิม ๆ เหมือนปีก่อนไม่ได้มีอะไรพิเศษสมชื่อ คืนนั้นไม่มีอะไรพิเศษสำหรับเธอเลยสักนิดเดียว
คนบางคนรอเวลาให้ถึงวันปีใหม่มาตลอดทั้งปี แต่เมื่อมันล่วงเข้าวันที่สี่ที่ห้า ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนจากเดิมไปสักเท่าไหร่ ที่ทำงานที่เดิม โต๊ะทำงานตัวเดิม บ้านหลังเดิม ชีวิตแบบเดิม ๆ
กาแฟหมดแก้วแล้ว ช้องนางชายตาไปยังการ์ดใบแรกที่เธอเขียนอีกครั้ง ข้อความต่าง ๆ มันก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ม่วงงามยามเห็นเด่นดอก
บ่งบอกเลอโฉมโลมหล้า
หลากล้วนเบ่งบางละลานตา
พราวผกาเกี่ยวกอล้อลม
พุ่มใบไกวยอดออดอ้อน
เอนอ่อนราวสนุกสุขสม
หลงเสน่ห์น้อมนำขำคม
ชื่นชมนิ่มน้องช้องนาง
ข้อความต่าง ๆ ยังคงเป็นของเธอ เพียงแต่การ์ดใบนี้ มีรอยปากกาหมึกซึมซึ่งเซ็นชื่อของเขาไว้ตรงมุมกระดาษ มันเดินทางจากประเทศอังกฤษพร้อมข้อความอันสุดแสนธรรมดาแต่สร้างความอบอุ่นให้เกิดขึ้นในหัวใจของเธอ
สวัสดีปีใหม่
แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 47 14:55:51
แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 47 00:58:43
จากคุณ :
CU.
- [
15 ธ.ค. 47 00:55:03
]