สิ้นปีต่อด้วยปีใหม่ หยุดยาวชดเชยไปจนถึงวันที่สองมกรา
ชาวบ้านชาวช่องลูกไทยหลานไทย ต่างก็กลับบ้านกลับช่องไปเยี่ยมญาติ พี่น้องเพื่อนฝูงในถิ่นฐานเดิม
รถราติดแน่นบนท้องถนน รถทัวร์ไม่มีที่นั่ง รถไฟไม่มีที่นั่ง ได้ห้อยโหนกันไปก็ยังดี
เสียงเพลงก้องดังกันไปทั่วว่า "วันนี้วันดีปีใหม่ พวกเราแจ่มใส ไชโย ๆ.......
ไม่ว่าไทย จีน แขก ลาว เขมร ญวน ฯลฯ
ต่างฉลองปีใหม่กันตามแต่บุคคลและฐานะ
ทั้งดนตรี ทั้งพลุ ทั้งอะไรต่อมิอะไรก็ประเคนกันสนุกรื่นเริงเข้าไป
สองหนุ่มสาววัยฉะ-กัน ก็ฉลองปีใหม่ ภายในบ้านกันเพียงสองคน
เสียงกลองจากข้างบ้านตีให้จังหวะกันดังโจ๊ะ พรึม พรึม....
ฝัดก็สาดน้ำรดซันแจ๋วขวัญใจ โจ๊ะ พรึม พรึม ตามจังหวะกลอง กันทั้งกลางวันและกลางคืน
เปียกมะล่อกมะแล่ก กันไปทั้งสองคน
ถึงไม่ใช่ปีใหม่ไทย มันก็ขึ้นชื่อว่าปีใหม่เหมือนกันแหละว้า
เสียงรถมาจอดพรืดหน้าบ้าน ฝัดโผล่หน้ามามองจากหน้าต่างชั้นบน ปากก็ร้องบอกขวัญใจว่า
"เร็วคุณแจ๋ว แต่งตัวให้เรียบร้อย คุณพ่อคุณแม่คุณมายืนรออยู่หน้าบ้านผมแล้ว" ฝัดคว้ากางเกงมาสวม คว้าเสื้อยืดใส่สวมหัวพรวดลงไป เอามือเสย ๆ ผมลวก ๆ วิ่งลงบันไดกึก ๆ ลงไปเปิดประตูบ้าน และ วิ่งไปเปิดประตูรั้วบ้านที่ล็อคไว้ให้ท่านทั้งสองทันที
"ยายแจ๋วล่ะ" คุณไมตรีถามคำแรกหนวดกระดิก
"อยู่นี่ค่ะคุณพ่อ" เสียงคุณแจ๋วตะโกนมาก่อนที่ตัวจะปรากฏ
"นี่คิดจะไม่กลับบ้านกลับช่องเลยเหรอ ? มันเรื่องอะไรกันที่แกต้องมานอนค้างบ้านนายนี่หา?" คุณไมตรีแสดงบทพ่อหวงลูกสาว
"ยายแจ๋ว ทำไมแกทำอย่างนี้ไม่ไว้หน้าพ่อแม่บ้างเลยนะนี่" คุณปรานีต่อว่าลูกสาว
"เอ้อ ผมว่า เข้ามานั่งคุยกันในบ้านกันก่อน ไม่ดีกว่าหรือครับ" ฝัดชักชวน ก่อนที่ชาวบ้านจะโผล่กันออกมาดูมากกว่านี้
คุณไมตรี คุณปรานีเดินตามกันเข้ามาในบ้านกันเป็นงูกินหาง
"เอ้อ คุณพ่อคุณแม่กลับมาเร็วนะคะ" คุณแจ๋วชวนคุย
"ใช่สิยะ ก็ยังดีนะที่แกเขียนจดหมายทิ้งเอาไว้บนโต๊ะกินข้าว" แม่ปรานีบอกลูกสาว "ตกใจเรื่องคุณอัมพรยังไม่พอ กลับมาบ้านยังมาเจอเรื่องแกอีก" คุณปรานีเล่าต่อ
"ทำไมล่ะคะคุณแม่ มีอะไรเกิดขึ้นหรือ?" คุณสรรค์ถามระหว่างที่ฝัดไปเอาน้ำจากในครัวมาให้ท่านทั้งสอง
"เส้นเลือดในสมองแตกนะสิ นี่ยังพักฟื้นดูผลอยู่ที่เชียงใหม่เลย พวกเราสี่ห้าคน โทรตามลูกสาวลูกชายเธอให้วุ่นไป นี่คงบินกันไปแล้วเมื่อเช้านี้แล้วมั้ง พวกเราเลยบินกลับกันมาก่อนล่วงหน้า มันเที่ยวไม่สนุกแล้วนะสิ" คุณไมตรีเสริมภรรยา
"นี่คุณพ่อคุณแม่ตกใจที่หนูมาอยู่นี่ด้วยหรือเปล่าคะ หนูอธิบายได้ค่ะ" คุณสรรค์ห่วงใยความคิดของพ่อแม่อยู่
"แม่น่ะไม่หรอก เพราะรู้ว่าแกต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างแน่ แม่เชื่อใจแกนะ ไหนเล่ามาสิ มีอะไรกัน?" คุณปรานีถามลูกสาว ฝัดนั่งร่วมวงฟังอย่างเงียบ ๆ
"หนูก็ไม่ทราบค่ะ แต่คืนที่คุณพ่อคุณแม่และพี่จุ้นไปจากบ้าน
คืนนั้นหนูนอนอยู่คนเดียว มีรถกระบะในรถมีผู้ชายสองสามคนน่ะค่ะ
มาจอดรถใต้ต้นไม้บังเงามืด ๆ ซุ่มอยู่ หนูไม่ทราบว่าเขาต้องการอะไร โทรเรียกตำรวจสายตรวจให้เข้ามาดู
และวันรุ่งขึ้นพี่รักเขาแวะมาหลังจากไปส่งแม่เขาที่อยุธยา หนูเลยเล่าให้เขาฟัง เรื่องคืนก่อน
เขาเลยบอกให้หนูเก็บเสื้อผ้ามาค้างที่นี่จะปลอดภัยกว่า เพราะไม่แน่ใจว่าจะเป็นคนของทางโน้นหรือเปล่าค่ะ" คุณสรรค์เล่าเหตุการณ์ให้พ่อและแม่ที่นั่งพยักหน้าหงึก ๆ ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ
"แล้วทำไมแกไม่โทรไปบอกพ่อล่ะ พ่อจะกลับมาจัดการกับไอ้บ้านั่นให้มันหายซ่าสักหน่อย" คุณไมตรีทหารเก่าเลือดร้อน
"โอ๊ย อย่าต้องให้ถึงฆ่าแกงกันเลยค่ะคุณพี่" คุณปรานีปรามสามี
"ครับ ผมก็ว่าอย่างนั้น" นายฝัดเสริมครูปรานี
"นี่ แกหยุดเลย ไม่ต้องมาช่วยกันห้าม ตัวแกก็ยังมีคดีติดหลังอยู่นะ จะว่ายังไงเรื่องลูกสาวฉันน่ะ" คุณไมตรีหันมาเล่นงานฝัดทันควัน
"ครับ คุณพ่อจะเอายังไงได้ทั้งนั้นครับ ว่าไงคุณแจ๋ว บอกท่านสิ" ฝัดตอบคุณไมตรีด้วยคำตอบใจกว้างนักเลงพอตัว และหันไปถามขวัญใจพร้อมกัน
"เออ คืองี้ค่ะคุณพ่อคุณแม่ อาม่าของนายโมเขาโทรมา เขาบอกให้หนูไปหาท่านให้ได้ ถ้าหนูว่าง
หนูว่า รอให้พี่จุ้นกลับมาก่อน แล้วเราจะไปหาอาม่าด้วยกัน
คือหนูอยากจะหย่ากับพี่โมเขาให้เรียบร้อยไปก่อนค่ะ
เอางี้ หนูว่า ระยะเวลามันกระชั้นชิดสำหรับพี่รักเขาด้วย เขาต้องเดินทางไกล
และหนูคิดว่าหมั้นไว้ก่อนดีไหมคะ" คุณสรรค์เออออและพูดเข้าข้างสามีไม่ตีทะเบียนหมาด ๆ
"งั้นก็ได้ แล้วมาอยู่กันตั้งหลายวัน เกิดมันมีอะไรไม่ชอบมาพากลขึ้นมาล่ะ แกจะทำอย่างไร" คุณปรานีถามเพราะห่วงใยลูกสาว
"ผมรับผิดชอบทุกอย่างครับ ไม่ว่าเด็กในท้องจะเป็นของผมหรือของใคร" นายฝัดรับคำหนักแน่น
"เฮ้ย พูดยังงี้ได้ไงว่ะนายฝัด" คุณสรรค์เปลี่ยนนามเรียกพี่ฝัดเป็นนายฝัดทันทีทันใด
"เออ นั่นสิ พูดแบบนี้แปลว่ายายแจ๋วสำส่อนหรือไงหา" คุณไมตรีมีอารมณ์
"ไม่ใช่ครับ ๆ คือว่าผมอยากบอกว่า ผมรักคุณแจ๋วทุกกรณี ไม่มีอะไรมาขัดขวางให้ผมเลิกรักเธอได้" นายฝัดแสดงความจริงใจออกมาเป็นคำพูด เขาเอื้อมมือไปจับมือเธอมากุมบีบเบา ๆ อย่างย้ำความตั้งใจ
คุณไมตรีและคุณปรานี ยิ้มแย้มให้กัน คุณปรานีพูดออกมาเบา ๆ ว่า " อืม มันต้องอย่างนี้สิ ลูกรัก"
แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 47 02:49:19
จากคุณ :
NATTI นัทตี้
- [
16 ธ.ค. 47 02:45:40
]