CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    =เดเมี่ยน แผนป่วนสลับร่าง= บทที่ 3 คำขอของพี่ชาย

    บทที่ 3  คำขอของพี่ชาย

    เดเมี่ยนและเฟเรียสเดินออกจากโรงเก็บม้าไปตามทางพื้นอิฐสีน้ำตาลอ่อนอันตัดผ่านสวนกว้างของเขตพระราชฐานชั้นนอกก่อนก้าวเท้าขึ้นสู่ระเบียงยาวหินอ่อน  ที่ซึ่งชายสองคนได้หยุดยืนคุยกันฆ่าเวลาเพื่อรอพบพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว....

    "เล่นเกมจ้องตากันนานกว่าที่คิดนะ  เดเมี่ยน  เฟเรียส"  คำเย้าแรกจากปากชายหนุ่มร่างสูงผมสีน้ำตาลเข้ม  นัยน์ตาสีน้ำเงินเป็นประกายลึกล้ำราวน้ำทะเลเฉกเช่นเดียวกับน้องสาวของเขาถือเป็นเครื่องประดับชิ้นเยี่ยมบนใบหน้าที่คงเรียกได้ว่างามสง่าสมความเป็นชายชาติอาชา

    "ใครเล่นเกมจ้องตากันพี่เอลริค"  เจ้าหญิงพระองค์น้องท้วงกลับเสียงสูง  เรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากชายหนุ่มขี้เล่นอีกผู้ที่ยืนอยู่  ก่อนจะต้องปิดปากหยุดกึกกะทันหันเพราะคำเย็นๆจากเจ้าเพื่อนรวมอาชีพอีกคน  

    "ถ้ามันน่าสนุกมากขนาดนั้น.....คราวหน้าคงต้องขอให้นายทำหน้าที่ของตนเองแทนที่จะไปลากชั้นมาทำ....ไรเจล  องครักษ์ในเจ้าหญิงเดเมี่ยน"  

    เมื่อตำแหน่งมันมาเสียเต็มยศ  คนถูกย้ำหน้าที่ก็ยิ้มแหยๆ  พลางว่า  "ถ้าทำได้เองก็คงไม่ต้องขอให้นายช่วยหรอกน่า....กว่าฉันจะจัดการไอ้เอกสารกองภูเขานั่นได้ก็แทบกระอัก  แล้วนายก็รู้ว่าคนปรามองค์หญิงได้มีแต่นาย"  นัยน์ตาสีเทาพราวระริกและเฟเรียสเองก็ไวพอที่จะได้เห็นมันขยิบให้เขา.....

    "พูดเหมือนชั้นเป็นเด็กดื้อนักแหละ  ไรเจล"  คนนิ่งฟังอยู่นานพอเห็นชื่อตัวเองมาโผล่ก็เริ่มจะมีปฏิกริยาตอบสนองทันควัน   ให้เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกระลอก  หากแต่คราวนี้มาจากผู้เป็นพี่ชายพร้อมคำสำทับ

    "ก็ดื้อจริง"  

    "ไม่ดื้อ"  คนโดนหาว่าดื้อเถียงหัวชนฝา

    "ดื้อ"  คนว่าก็ยังย้ำคำเดิม

    "ไม่ดื้อ" คนจะเถียงก็ยังคงเถียงกลับไม่ลดละ

    "ก็นี่แหละ  ถึงบอกว่าดื้อไง  ไม่เชื่อก็ถามไรเจลกับเฟเรียสมันดู"   สรุปจบประเด็นแถมโยนปัญหามาต่อให้กันเสียดื้อๆจนองครักษ์ทั้งสองตั้งตัวแทบไม่ทัน  แต่คนอย่างเฟเรียสก็ยังคงมีความสามารถในการตีมาดนิ่งเนี้ยบด้วยภูมิต้านทานสูงกับสายตาคะยั้นคะยอ   ส่วนไรเจล....

    "ท่านเอลริคมีเรื่องสำคัญจะคุยไม่ใช่เหรอ...."  ลิ้นของคนถูกส่งสายตาอาฆาตก็รีบพาหัวข้อสนทนาเบี่ยงประเด็นเอาตัวรอดอย่างรวดเร็วสมฉายาอารักษ์ปากเอกแห่งซาทาเรีย   เรียกรอยยิ้มขันจากเอลริค   ก่อนจะกล่าวด้วยอารมณ์ดี

    "เห็นแก่ไรเจล  งั้นเราไปคุยกันที่ห้องทำงานของพี่แล้วกัน"

    และด้วยเหตุนั้นคนทั้งสี่จึงได้พากันเดินตามทางระเบียงขาวที่ทอดยาวไปยังฝั่งปีกตะวันออก   เสียงฝีเท้าดังย่ำสะท้อนรวมกับเสียงพูดคุยไปตลอดทาง   เป็นเวลาไม่นานนักก่อนที่ทั้งหมดจะก้าวเท้าเข้าสู่ 'ห้องทำงาน' ที่คงเรียกได้ว่าหรูหราอย่างเรียบง่าย  เนื่องจากคนที่เป็นเจ้าของห้องนั้นไม่นิยมชมชอบเครื่องประดับประดาอันมีราคามากไปกว่าเครื่องเรือนชุดสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำเช่นเดียวกับพื้นห้อง   ผนังทั้งสี่ด้านทาสีควันบุหรี่  ทำให้บรรยากาศดูค่อนข้างเป็นการเป็นงานผิดวิสัย   เตาผิงที่มุมด้านหนึ่งยังคงดับสนิทไร้เปลวไฟเนื่องจากอากาศในยามนี้ไม่อาจเรียกได้ว่าหนาวเพียงพอที่ใครๆจะต้องการความอบอุ่นจากเตาผิง....
    เอลริคส่งสัญญาณมือแก่นางกำนัลสองคนที่ทำความสะอาดอยู่เป็นเชิงให้ออกไปข้างนอก  ทั้งคู่ก้มศีรษะลงเล็กน้อยอย่างนอบน้อมก่อนจะพากันจากไปเงียบๆอย่างคนที่ได้รับการฝึกมาดี

    ประตูห้องถูกปิดลงให้เหลือแต่สองพี่น้องและสององครักษ์คนสนิท....และข้อตกลงของทั้งสี่ในยามที่อยู่ในสถานที่สบายๆเช่นนี้ก็คือโยนมารยาทราชสำนักทิ้งไปเสีย....

    เจ้าหญิงเดเมี่ยนทิ้งตัวลงกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเก้าอี้ยาวพลางคว้าหมอนสีสวยหลายใบมากองไว้รอบตัว  ให้เจ้าชายเอลริคต้องไปจับจองเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ไม่ไกลกันนัก    ส่วนคนประหลาดอีกสองคนที่ไม่รู้ถูกสอนมายังไงนั้นกลับเห็นเก้าอี้เป็นเครื่องประดับห้องเสียเฉย  และทั้งคู่ก็แสดงเจตนาให้เห็นว่าไม่เคยมีความคิดที่จะนั่งบนเครื่องประดับด้วยการจับจองพื้นที่ว่างทางด้านหนึ่ง...  ไรเจลนั้นทรุดตัวลงนั่งกับพื้น...หลังพิงผนังห้องอย่างสบายใจขณะที่เฟเรียสก็ยังคงยืนกอดอกพิงข้างฝาอย่างเคยชิน

    "พี่อยากจะบ้า"  คำพูดเปิดประเด็นแรกจากพี่ชายหลังจากที่แต่ละคนได้สร้างอาณาเขตของตนได้เรียบร้อยแล้ว

    "ไม่ต้องอยากพี่ก็บ้าพอแล้ว"  คำย้อนจากน้องสาวตัวแสบที่พี่ชายบรรจงประทานมะเหงกให้เป็นรางวัลด้วยความซาบซึ้งใจอย่างที่สุด  

    "เจ็บนะ" เดเมี่ยนบ่นอุบพลางคลำหัวตัวเองป้อยๆ  ส่งสายตาเคืองๆไปยังพี่ชายที่หัวเราะชอบใจกับผลงานของตัวเอง  ก่อนจะหันไปส่งสายตาแค้นๆอีกระลอกให้กับสององครักษ์ที่คนหนึ่งกำลังพยายามกลั้นยิ้มและอีกคนก็หัวเราะจะเป็นจะตายอยู่ข้างๆ  พลางบ่นอย่างดุเดือดอยู่ในใจ

    อย่าให้เป็นทีของเธอมั่งก็แล้วกัน....

    "รู้ใช่ไหมเรื่องงานเชื่อมสัมพันธไมตรี"

    "รู้สิ"  นัยน์ตาคนฟังเริ่มวาวระริกอย่างเห็นเรื่องสนุก

    "งานนี้....."

    "มันงานดูตัวหลวงชัดๆ"  เสียงของสาวน้อยเริงร่าบ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวกำลังถูกใจหนักหนา  ให้อีกฝ่ายพยายามข่มอารมณ์ก่อนที่มือมันจะไพล่ไปประทานมะเหงกลูกที่สองให้น้องสาวแล้วทำให้เสียเรื่อง

    "พี่ถึงอยากให้เธอไปแทนพี่"
    "หา!!!"  คนถูกคาดหวังให้รับงานแทนสะดุ้งโหยง   "พี่ก็รู้ว่างานนี้ไอ้เรื่องเชื่อมๆอะไรนั้นมันข้ออ้าง....ที่พ่ออยากได้น่ะไม่ใช่ไมตรีแต่เป็นลูกสะใภ้"

    "พ่ออยากได้....พี่ไม่อยาก..."  คราวนี้คนเป็นพี่ชายก็เริ่มงอแงให้น้องสาวต้องหาทางตะล่อม....

    "เจ้าหญิงเรซารันด์แห่งนีลด์..."  

    "มีคำล่ำลือไกลในความเป็นสาวงามหายาก....บริสุทธิ์อ่อนหวาน..."  ไรเจลที่ยืนอยู่อีกด้านช่วยเสริมด้วยนึกสนุกเสียอีกคน  ให้เดเมี่ยนหันมายิ้มให้อย่างรู้กันก่อนจะต่ออย่างเริงร่า   "เทสต์สาวที่พี่ชอบเลยไม่ใช่รึไง"

    "ถ้าพูดถึงจีบน่ะใช่....แต่ชั้นไม่อยากได้ภรรยาไร้เดียงสา"  คนเป็นพี่พูดอย่างเป็นการเป็นงานอย่างที่หาดูได้ยากยิ่งถ้าไม่ใช่เวลาที่ต้องปั้นหน้าต่อสภาขุนนาง  และเมื่อเห็นคนฟังทำเครื่องหมายคำถามไว้บนหน้าเขาจึงอธิบายต่อ  

    "ภรรยาของพี่....ย่อมมีความเป็นไปได้สูงที่จะต้องขึ้นเป็นควีน  ดำรงตำแหน่งคีย์แห่งสภาสูง  หนึ่งในสามปราการของอาณาจักร  คีย์คือกุญแจ  เป็นปราการที่ต้องปกป้องแผ่นดิน  ไม่ใช่ให้แผ่นดินปกป้อง"  คำพูดหนักแน่นมั่นคงด้วยความรู้สึกที่แน่วแน่ฉายชัดในแววตา...

    เจ้าชายเอลริค...กำลังมองหนทางที่ดีที่สุดให้กับบัลลังค์และอาณาจักร.....
    ความรู้สึกที่เต็มตื้นขึ้นในใจของผู้ฟังอีกสองในสามคนเมื่อได้ฟังคำของคนที่นานๆจะมีสาระ....  

    "แล้วที่สำคัญ  จากประสบการณ์ของพี่....ผู้หญิงไร้เดียงสาก็ไม่น่าสนใจเท่าไหร่"  คำพูดแฝงความนัยที่ทำให้เธอแทบจะหงายหลังล้มตึง...เฟเรียสกุมขมับเครียด  ขณะที่ไรเจลหัวเราะอย่างรู้ดีว่าสุดท้ายมันก็ต้องมาลงอีหรอบนี้จนได้

    ไอ้ที่พูดปาวๆเอาเมื่อกี้น่ะก็คงจะล้อเล่นอีกตามเคย....เหตุผลจริงๆน่ะมันอยู่ที่คำพูดข้างหลังนี่ต่างหาก.......

    "แล้วในเมื่อพ่อบอกเองว่าเป็นงานเชื่อมสัมพันธ์....ส่งใครไปก็เหมือนกัน"  

    "พี่ก็รู้ว่าพ่อไม่มีทางยอม...."   ทัดทานด้วยความจริงเสียมากกว่าจะขู่  เป็นที่รู้กันว่าพ่อผู้ดำรงตำแหน่งคิงผู้เด็ดเดี่ยวและหาญกล้าของซาทาเรียจะไม่มีทางที่จะทรงเปลี่ยนความคิดของตนที่ได้ตัดสินใจไปแล้ว

    "ไม่ต้องห่วง...ก็พี่ไม่ได้บอกว่าจะไม่ไปนี่"  คำพูดพลางรอยยิ้มและแววตาเจ้าเล่ห์ที่เรียกความสนใจจากน้องสาวและองครักษ์อีกสองคนที่กำลังตั้งอกตั้งใจฟังอย่างเงียบๆ

    "แล้วพี่จะทำยังไง"  คำถามถูกโยนให้คนรับที่เตรียมพร้อมรับอยู่เต็มที่ยิ้มกริ่มก่อนเปรยอย่างมั่นใจ

    "เธอจะปลอมเป็นพี่"

    + + + + + + + + +
    สอบSum ฮือ....ๆ ไม่อยากสอบเลยอ่า  แงงงงง
    (เครียด)
    เอามาลงให้อีกบทก่อนไปลงสมรภูมิค่ะ   บทหน้าคงเป็นวันพฤหัสหรือศุกร์ค่ะ (หลังสอบ)
    ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยอ่าน  ทั้งที่เมนท์บ้างไม่เมนท์บ้าง  แต่แค่อ่านเราก็ดีใจ ^^ (แต่เมนท์ก็ดีน้า)

    ตอบเมนท์ :
    นันทนีย์ - ขอบคุณที่ช่วยมาติดตามค่า
    scottie - นั่นสิเนอะ (เริ่มหน้าซีด) จะพยายามให้มันไม่ค่อยโผล่มาน่ะค่ะ >o<
    jiw - หลังจากนี้คิดว่าส่วนต่างๆในประสาทจะโผล่ให้ดูกันพอรู้เรื่องมากขึ้นค่ะ ^^;
    โอเลี้ยงแก่ๆ - กะลังบ้าผู้ชายหล่อๆที่ชอบดุน่ะ  หุหุ  ส่วนที่เป็นม้าดีดกระโหลกนี่....คงเป็นนิสัยส่วนตัวมากกว่าโดนบังคับน่ะ...
    ++rene++ - ขอบใจที่ช่วยแก้คำผิดจ้า (ต้นฉบับมันถูกแล้วอ่า  มามีปัญหาตอนลงไม่ดีนี่แหละ....>o<  X
    เรื่อเงฟเรียส...ถูกต้องแล้วเอิ้ก ^^
    มัดหมี่  - เดเมี่ยนเป็นชื่อผู้ชายอับพี่สาว (ดูจากดิคฯ)  แต่อยากให้ชื่อเจ้าหญิงมันออกแนวผู้ชายหน่อยก็เลยเลือกชื่อนี้อ่ะ....:p

    จากคุณ : A.A the wolf - [ 17 ธ.ค. 47 11:33:04 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป