พอจะลองมือพิมพ์ความรู้สึกของผมตอนนี้
ผมก็รู้ตัวดีว่า ตอนนี้ผมรวบรวมความรู้สึกออกมาไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน
นานมาแล้ว ผมเคยรวบรวมความรู้สึกของผม มาเป็นกองใหญ่ๆเหมือนกับคนเก็บตัวไหม ตัวเล็กๆ หลายๆตัวมารวมกัน
จากนั้นผมจะใช้เวลาอีกสักหน่อย ในการทำให้ความรู้สึกเหล่านั้น อิ่มตัว
คล้ายๆ การต้มตัวไหมตัวเล็กๆ หลายๆตัวในหม้อใบใหญ่ รอให้สุก
เวลาต่อจากนี้ ผมจะดึงเอาความรู้สึกต่างๆของผมออกมาเป็นเส้นอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มาม้วนๆ ไว้ คล้ายใยไหม
เมื่อได้ความรู้สึกที่เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ผมจะลงมือ เรียงความรู้สึกนั้นออกมาใหม่ ให้กลายเป็นเรื่องสั้นสักเรื่อง
เหมือนกลายเป็นผ้าไหมสักผืน
ผ้าไหมที่ผมแต่งขึ้นมา อาจจะสีไม่จัดจ้าน แต่ว่า ก็คงสวยในระดับที่ผมพอใจ
แต่ตอนนี้ ความรู้สึกกระจัดกระจายไปหมด ไม่รู้ว่า ยิ่งโตขึ้น ความรู้สึกต่างๆ ก็มากมายขึ้น
อย่างเช่น ความเหงา จากปรกติ จะกลายเป็นความเหงาปนเศร้าแสนหวาน แย่เข้าไปใหญ่ ผมไม่เพียงแต่
ไม่สามารถแยกแยะความรู้สึกตัวเองได้ แต่ยังเรียกความรู้สึกของตัวเองไม่ถูก เฮ้อ
ผมเหงาเวลาที่ไม่ได้คุยกับคุณ แต่ในความเหงา ผมก็ยังได้คิดถึงคุณ ในตอนที่ผมคิดถึงคุณ ในใจก็มีความหวานเกิดขึ้น
จากความหวาน ก็จะกลายเป็นความขม เมื่อรู้ว่า ยังไง เธอก็คงไม่เคยจะคิดถึงผม ผมก็จะเศร้าลงในทันที
คล้ายๆกิน ว๊อดก้าแก้วใหญ่ให้ไปร้อนในท้อง ความร้อนวิ่งขึ้นหัว แทบร้องไห้ จนบางครั้งผมร้องไห้ออกมาจริงๆ
เวลาได้คุยกับคุณ ผมมีความสุขอย่างล้นเหลือ คล้ายกับว่าผมเป็นชายที่มีความสุขที่สุดในโลก
ถ้าใครเคยคุยกับคนที่รักที่จากกันไปนาน น่าจะมีความรู้สึกแบบนี้
ต่อมาจะกลายเป็นความเจ็บปวด เจ็บปวดที่ว่า ไม่ว่าคุณจะทำอย่างไรก็ตาม ความคิดถึงของคุณ
ก็ไม่มีวันที่จะเข้าไปถึงโลกของเธอ ชั้นบรรยากาศของโลกเธอ กั้นเอาไว้หมด เหมือนรังสี ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง
ความคิดถึงของผม ถ้าไปถึงตัวเธอ อาจจะทำให้เธอเป็นมะเร็งได้
ความหวานปนเศร้า วิ่งกระทบไปมา กลายเป็นความเจ็บปวด
ผมหาคำตอบ คำเรียก คำอธิบาย ความรู้สึกนี้ไม่ออก สมองผม รอยหยักคงน้อยลง เพราะ
แอลกอฮอร์จากเหล้าหลากหลายชนิดที่ ผมเทลงไปถม ความว่างกลวงเปล่าในอก คล้ายว่า ไม่ได้ช่วยอะไร
ในระยะยาว มากกว่า 24 ชั่วโมง
สภาพการตื่นขึ้นมาหลังจากเมามาย ปวดหัวแทบตาย ความรู้สึกนี้คล้าย ฝังอยู่ในหัว ชั่วนิรันด์
แต่ก็พอหายปวดหัว ผมก็กลับไปกินมันอีกครั้ง คนเรานี้ไม่มีทางออกที่ดีกว่านี้แล้วหรอไง
ผมก็ตอบไม่ได้ สันดานคนเราชอบความสบายหละมั้ง เหล้าจึงเป็นทางออกที่เปิดกว้างที่สุด
ทั้งๆที่ว่า ไม่ว่าตัวผมเองจะเมาสักกี่ครั้ง แต่สุดท้าย ความรู้สึกแบบเดิมๆ ที่ผมเรียกชื่อไม่ออก
ก็จะกลับมา โจมตีผมทันที ราวกับฝูงบินทิ้งระเบิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
แต่ครั้งนี้ ไม่มีเสียงหวูด เตือนก่อนการโจมตี
ผมโทษความอ่อนแอของผม ผมโทษความใจง่ายของผม
ผมโทษความเหงาของผม ผมโทษทุกอย่างที่รวมตัวขึ้นมาเป็นตัวผม
ผมเป็นคนผิด ผมผิดเองที่ไปรักคุณ
จากคุณ :
คนผิดชื่อก้อง
- [
17 ธ.ค. 47 18:49:48
]