CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    จ้าวสมุทร ตอนที่ 61 ประชุมลับ

    จ้าวสมุทร ตอนที่ 61 -ประชุมลับ-

    “ก่อนอื่น ข้าก็ต้องขอสวัสดีและขอบคุณทุก ๆ ท่านที่มาร่วมประชุมในวันนี้ แน่นอน.. ข้ามีธุระสำคัญที่ต้องการบอกให้ทุก ๆ ท่านได้รับรู้.. และร่วมกันแสดงความคิดเห็น..” เป็นเสียงของจ้าวสมุทรวาสุกรีที่พูดเปิดการประชุม

    และแล้วการประชุมลับตามทีมาลาตีเคยบอกเอาไว้ก็เกิดขึ้นจริง หลังจากที่เดินทางกลับจากโซมาลี จ้าวสมุทรวาสุกรีก็ทำหนังสือเชิญจ้าวสมุทรและราชเทวีที่ไว้ใจได้ให้มาเข้าร่วมประชุมในวันรุ่งขึ้นทันที

    “รีบเข้าเรื่องเถิดท่านวาสุกรี ข้าต้องการความมั่นใจในข่าวที่ข้าเพิ่งได้ยินโดยด่วน” จ้าวสมุทรไอกอร์ท้วงขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เจือปนไว้ด้วยความหวาดระแวง คนอื่น ๆ ที่ร่วมประชุมอยู่ต่างพยักหน้าเห็นด้วย

    ภายในห้องโถงใหญ่ของศูนย์การปกครองอ่าวไทย ถูกจัดเป็นสถานที่ประชุมขนาดเล็ก มีผู้เข้าประชุมเพียงสิบสี่คนเท่านั้น ได้แก่จ้าวสมุทรวาสุกรี ราชเทวีดาหวัน จ้าวสมุทรไอกอร์ จ้าวสมุทรอารยัน จ้าวสมุทรกู่หลง จ้าวสมุทรทาดาบุ จ้าวสมุทรมองต์ดิเอร์ ราชเทวีเชอวาเลีย อูวดล มาลาตี นาคิน กฤษณา ลีออนและเฟเดอลา

    ความจริงหนังสือเชิญถูกทำขึ้นและส่งออกไปทั้งหมดสิบสามฉบับ สิบสามดินแดน แต่มีผลตอบรับมาเพียงห้าดินแดนเท่านั้น เพราะจ้าวสมุทรแปดคนที่ได้รับหนังสือเชิญ ล้วนเห็นพ้องต้องกันว่า หัวข้อเรื่องที่จ้าวสมุทรวาสุกรีกำลังเรียกประชุมนั้น ดูยิ่งใหญ่และอันตรายเกินกว่าที่ตนจะร่วมรู้เห็นด้วยได้

    ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้ร่วมประชุมในครั้งนี้จะดูเบาบางกว่าที่คิด

    “ขออภัยท่านไอกอร์” จ้าวสมุทรวาสุกรีเอ่ยเสียงเรียบ แววตาของจ้าวสมุทรวาสุกรีดูหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด

    “ข่าวที่ทุก ๆ ท่านได้ยินไปนั้น ข้าเองก็ทราบดีว่ามันยากที่จะเชื่อ และยากที่จะทำใจให้รับรู้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราเองก็ไม่ควรปฏิเสธหลักฐานซึ่งเราเพิ่งจะได้รับมา” จ้าวสมุทรวาสุกรีเหล่สายตามองอูวดลและมาลาตีซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังเล็กน้อย แล้วพูดต่อ

    “หลังจากที่เราได้เข้าไปช่วยเหลือนักรบรัชทายาทอูวดลและองค์หญิงมาลาตี ณ ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ไอราซาร์ สิ่งหนึ่งที่เราคาดหวังหลังจากการแตกสลายของกลุ่มโจรทะเลเลือด นั่นก็คือ การนำเพชรมหาสมุทรกลับคืน แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเราหาเพชรมหาสมุทรไม่พบ แน่นอน ในตอนแรกข้าก็เชื่อเช่นนั้น แต่หลังจากที่องค์หญิงมาลาตีได้บอกความจริงทั้งหมดกับข้า ข้าก็เลยอยากจะบอกกับพวกท่านอีกต่อหนึ่งว่า เรื่องราวเกี่ยวกับเพชรมหาสมุทรที่พวกเราได้รับรู้หลังจากเหตุการณ์ปะทะกับกลุ่มโจรทะเลเลือดนั้น.. มันไม่ใช่เรื่องจริง”

    จ้าวสมุทรวาสุกรี หันหลังไปหยิบอะไรบางอย่างด้านหลัง แล้วชูมันขึ้นมา ชั่วขณะนั้น นัยน์ตาของจ้าวสมุทรที่มาร่วมประชุมต่างก็เบิกกว้างดวยความตื่นตระหนก

    “ใช่แล้ว.. เพชรมหาสมุทรที่กลุ่มโจรทะเลเลือดใช้ในการปลุกซิลซาอยู่ที่นี่ ภายในมือของข้า” จ้าวสมุทรวาสุกรีพูดพร้อมกับชูเพชรมหาสมุทรปลอมขึ้นเหนือศีรษะ

    “นี่มันเรื่องอะไรกัน” จ้าวสมุทรทาดาบุ ซึ่งเป็นจ้าวสมุทรที่อายุน้อยที่สุดในห้องประชุมร้องขึ้น “เพชรมหาสมุทรมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง.. นี่หมายความว่าเรื่องที่องค์หญิงมาลาตีบอกในห้องประชุมที่เอเธียร์เป็นเรื่องโกหกหรอกหรือ”

    “นี่ท่านกำลังจะบอกอะไรกับเรา ท่านวาสุกรี” จ้าวสมุทรอารยันพูดอย่างไม่เข้าใจ

    “ใจเย็น ๆ ก่อน ท่านจ้าวสมุทรอารยัน ท่านจ้าวสมุทรทาดาบุและทุก ๆ คน” จ้าวสมุทรวาสุกรีอธิบาย “จริงอยู่.. เพชรมหาสมุทรที่กลุ่มโจรทะเลเลือดใช้ในการปลุกซิลซาอยู่ที่นี่.. แต่ถึงกระนั้น เพชรมหาสมุทรอันนี้ ก็ได้ผ่านการพิสูจน์บางอย่างที่พอจะฟันธงได้แน่นอนแล้วว่า เพชรมหาสมุทรอันนี้.. เป็นของปลอม”

    ทุก ๆ คนในห้องประชุมยกเว้นคนของอ่าวไทยหกคนต่างมีสีหน้าตกตะลึงระคนกับพิศวงสงสัยอย่างเห็นได้ชัด

    “อะไรนะ” จ้าวสมุทรกู่หลงร้อง “ของปลอมอย่างนั้นหรือ”

    “แล้วอะไรที่ทำให้ท่านมั่นใจว่ามันเป็นของปลอมล่ะ ท่านวาสุกรี” จ้าวสมุทรมองต์ดิเอร์ถาม

    “สิ่งเดียวที่ทำให้ข้ามั่นใจก็คือคำพูดขององค์หญิงมาลาตีที่ได้บอกไว้กับข้าหลังออกจากห้องประชุมในเอเธียร์” จ้าวสมุทรวาสุกรีพูดอย่างหน้าตาเฉย แต่แววตาก็ยังแฝงความหม่นหมองไม่เสื่อมคลาย

    “แต่ถ้าพวกท่านอยากฟัง ข้าจะให้เธอพูดให้ฟังอีกสักรอบ”

    ทันทีที่จ้าวสมุทรวาสุกรีพูดจบ สายตาของทุก ๆ คนก็จับจ้องมาที่มาลาตีเป็นจุดเดียว และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องเล่าเรื่องราวที่ได้ประสบมาในเมื่อวานซืนอีกครั้ง เธอเล่าออกไปทั้งหมด ตั้งแต่เรื่องแผนการที่ล้มเหลวของกลุ่มโจรทะเลเลือดจนถึงคำสั่งเสียของคีตกาลก่อนตาย

    และทันทีที่มาลาตีเล่าจบ สีหน้าของผู้ที่รับฟังก็แสดงออกถึงความรู้สึกบางอย่าง ราชเทวีเชอวาเลีย กลืนน้ำลายลงคออย่างหวาด ๆ ในขณะที่จ้าวสมุทรบางคนยกมือขึ้นกุมขมับ บางคนก็ใช้มือจับพนักวางแขนอย่างหมดแรง หากแต่นัยน์ตาของจ้าวสมุทรวาสุกรียังคงเรียบเฉย หากแต่แฝงไว้ด้วยความหวาดระแวงอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่แน่ ๆ อากัปกิริยาทั้งหมดนี้ ล้วนสร้างความสงสัยให้กับอูวดลเป็นอย่างยิ่ง

    “ทุกคนเป็นอะไรไป” อูวดลกระซิบถามมาลาตี

    “ไม่รู้สิ” มาลาตีกระซิบตอบ “เหมือนกับกังวลอะไรก็ไม่รู้”

    “ท่านวาสุกรี” จ้าวสมุทรมองต์ดิเอร์พูดขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า “อย่าบอกนะ ว่าที่ท่านเรียกพวกเรามาในวันนี้ก็เพื่อที่จะพูดเรื่อง..”

    จ้าวสมุทรมองต์ดิเอร์หยุดพูดแค่นั้น มิได้พูดต่อ ราวกับมีอะไรมาจุกอยู่บนลำคอจนพูดไม่ออก

    ในที่สุดความสงสัยก็เกิดขึ้นในหัวสมองของอูวดล กิริยาท่าทางของบรรดาจ้าวสมุทรเหมือนกับแฝงอะไรบางอย่างไว้ภายใน ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่อูวดลคนเดียวที่เกิดความสงสัย เพราะมาลาตี นาคิน กฤษณา ลีออนและเฟเดอลาก็มีท่าทางไม่ต่างอะไรไปจากอูวดลเหมือนกัน

    “ใช่..” จ้าวสมุทรวาสุกรีพยักหน้ารับหลังจากที่จ้าวสมุทรมองต์ดิเอร์พูดจบไปสี่ห้าวินาที “หวังว่าพวกท่านยังคงจำข้อสันนิษฐานลับ ๆ ของเราตอนเหตุการณ์เมื่อสิบสี่ปีก่อนได้”

    ทันทีที่จ้าวสมุทรวาสุกรีพูดจบ อูวดลก็รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ เหตุการณ์เมื่อสิบสี่ปีก่อน.. ไม่ต้องย้ำก็รู้ว่าต้องมีตัวเขาเข้าเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน

    “โอ.. ข้าจำได้แม่นยำ” จ้าวสมุทรกู่หลงพูด บุคลิกท่าทางยังแฝงไว้ด้วยความหวาดระแวง

    “ไม่มีวันลืมเลยล่ะ” จ้าวสมุทรไอกอร์เสริม พร้อมกับใช้มือลูบคางที่ซีดเซียว

    “ถึงแม้ว่าตอนนั้นข้าจะยังเป็นนักรบรัชทายาทอยู่ แต่ข้าก็พอรู้เรื่องอยู่บ้าง ทำไมหรือ.. ท่านจ้าวสมุทรวาสุกรีคิดว่ามันจะเกี่ยวข้องกันอย่างนั้นหรือ” จ้าวสมุทรทาดาบุเอ่ยถาม

    จากคุณ : Waasuthep - [ 19 ธ.ค. 47 16:21:10 A:203.113.81.9 X:203.150.217.112 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป